PANTIP.COM : I3830280 แตกประเด็นย่อย{แตกประเด็นจาก I3826149} [CFA & CISA Forum]

ความคิดเห็นที่ 15

"ขนาดCFA ยังไม่ได้กำหนดเลยว่า คนคนนั้นต้องจบ ศศ หรือ สาขาที่เกี่ยวกับการเงิน
ตอบจุดนี้ก่อน"

ตอบ
CISA ก็ไม่ได้กำหนดเหมือนกันครับ ว่าผู้สอบต้องจบศศ หรือ สาขาที่เกี่ยวกับการเงิน

ขอเพียงแต่จบอย่างต่ำป.ตรี สาขาใดก็ได้ ก็สอบได้แล้ว หรือถ้าไม่จบตรี ก็ต้องมีประสบการณ์ทำงานในสายการเงิน 3 ปีขึ้นไป (ใช้กฎเดียวกับ CFA ทุกอย่าง)

ส่วนถ้าจบโทศศ หรือ MBA การเงิน หรือ Pure Finance มา บวกด้วย CFA1 หรือ CISA1 ไปสมัครงานเข้ากองทุน หรือหลักทรัพย์ ก็จะได้เปรียบกว่าจบโทสายอื่น

แต่ถ้าเรียกสัมภาษณ์แล้ว ไม่ได้เรื่อง วิเคราะห์ไม่เป็น มองตลาดไม่ออก

เทียบกับคนจบตรีวิศวะ บวก CFA1 หรือ CISA1 แต่วิเคราะห์ได้เยี่ยมอย่างที่ผมบอก เขาก็รับแทนคนจบโทก็ได้

ส่วนที่ว่า CFA1 หรือ CISA1 เป็นใบเบิกทาง ในวงการแล้วถือว่าจริงครับ

พี่เล่าประสบการณ์โดยตรงของพี่ก็ได้

ตอนจบโทใหม่ๆ พี่สัมภาษณ์งานกับ บลจ.แห่งหนึ่ง ซึ่งวันนั้นทาง MD และ CEO ลงมาสัมภาษณ์พี่ด้วยตัวเอง และ MD ก็สนใจในตัวของพี่มาก เนื่องจากได้เข้ามาอ่านในพันทิบ และได้อ่านบทความ "วางหมาก...กระดานหุ้น" ที่พี่เขียน และวันนั้นพี่ก็นำบทความต้นฉบับที่พี่เขียนไปให้ MD และ CEO พิจารณาด้วย

มีการตกลงเรื่องเงินเดือนกันเรียบร้อย เพียงแต่ว่าจะรอผลสอบ CFA1 ของพี่ซึ่งจะออกอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้าเท่านั้น ถึงจะเรียกเซ้นสัญญา ตอนนั้นพี่ก็คิดว่า ได้ทำงานที่ บลจ.ที่นี่แน่ๆ แล้วแหละ เพียงแต่ว่า ถ้า CFA1 ผ่าน ก็คงได้เรตเงินเดือนตามที่เรียกไป แต่ถ้าไม่ผ่านก็อาจจะให้น้อยลงมา

แต่ผลสอบปรากฎว่า สอบ CFA1 ไม่ผ่าน จึงติดต่อกลับไปที่ บลจ.นั้น ปรากฎว่า ทาง MD ยังยืนยันว่าอยากได้ตัวอยู่ แต่ทาง CEO ถอยซะ ไม่อยากได้ เนื่องจาก เขาอยากจะให้พี่เข้าไปทำในตำแหน่ง Assist Fund ซึ่งเขาต้องการคนมี CFA1 เท่านั้น (เนื่องจาก Assist Fund คนก่อน ไม่มี CFA1 และได้ตบปากรับคำว่าสอบผ่านแน่ ปรากฎ Assist Fund คนนั้นก็สอบไม่ผ่าน แถมลาออกอีก CEO เลยเข็ด)

พี่ก็ถาม MD ว่า "อยากให้ผมร่วมงานด้วยอยู่หรือเปล่า" เขาก็ตอบว่า "อยากได้" พี่ก็เลยบอกว่า "งั้นไม่เป็นไร ถ้าทาง CEO ต้องการใบอะไรซักใบ เพื่อรับประกันความรู้ความสามารถทางการเงิน ผมไปสอบ CISA1 ไว้ก่อนก็ได้ (ทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะสอบเลย เนื่องจากกะจะสอบ CFA อยู่แล้ว)

หลังจากนั้นพี่ก็สอบ CISA1 ผ่าน และกลับไปที่ บลจ.นั้นอีกที แต่ปรากฎว่า ตำแหน่งที่จะรับพี่เข้าไป ทางนั้นรอไม่ไหว ได้รับคนที่สอบ CFA1 ผ่านเข้าไปทำแล้ว เป็นอันว่าพี่ก็ไม่ได้ร่วมงานกับทาง บลจ.แห่งนี้

ถ้าตอนนั้น CFA1 พี่ผ่าน ก็คงจะได้เซ้นสัญญาทำงานกับ บลจ.แห่งนี้ไปแล้ว

นี่คือตัวอย่างใบเบิกทางอย่างหนึ่ง ถามว่ายุติธรรมไหม พี่ก็ต้องตอบว่า ก็ยุติธรรมดี ในเมื่อมีคนพร้อมกว่าเรา ก็ให้ตำแหน่งเขาไป ส่วนเขาจะเก่งกว่าพี่ไหม คงต้องให้อนาคตเป็นเรื่องตัดสิน

และพี่ก็ไม่ได้มานั่งผิดหวังอะไร แต่กลับเป็นพลังให้ฮึดสู้ขึ้นมา ไล่เก็บใบ License ต่างๆ ที่ยังไม่มีเพิ่มขึ้นไปอีก

เพราะถ้ามัวแต่มานั่งด่า นั่งแอนตี้ มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร สู้เอาเวลาไปหางานที่ บลจ.อื่น หรือเตรียมตัวสอบใบอื่นๆ ให้ผ่านตามลำดับจะดีกว่า

เท่าที่ได้เคยคุยกับน้อง MM ในงานมีตติ้งเมื่อต้นปี และทางหลังไมค์ น้องก็มีความรู้ในหุ้นประมาณหนึ่ง ส่วนจะถึงขั้นระดับที่มีองค์ความรู้ทางการเงินที่มากพอในการทำงานหรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับการใฝ่รู้ของน้องเอง

ถ้าไม่คิดจะต่อโททางสายนี้ ก็ต้องเรียนรู้เอาว่า RM คืออะไร แนวคิดทางทฤษฎีในการบริหารพอร์ทคืออะไร ตลาดแต่ละประเภททั้งพวก Equity, Bond, Derivative มันเป็นอย่างไร ต่างกันอย่างไร มีตราสารอะไรให้เล่นบ้าง จะกระจายความเสี่ยงอย่างไร จะวัด performance อย่างไร อ่านงบการเงินอย่างไร ดูตัวเลขเรโชอย่างไร จะหา Red flag ในงบการเงินอย่างไร งบมีอะไรที่ผิดสังเหตุไหม หา fair value อย่างไร ฯลฯ

ถ้าคำตอบพวกนี้น้องตอบได้ และทำให้ผู้บริหารที่สัมภาษณ์เขาเชื่อมั่นในตัวน้อง MM ได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการเข้าทำงานครับ

ยิ่งน้องเขียนโปรแกรมเป็นอยู่แล้วด้วย ยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะน่าจะสร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับทาง บลจ.ได้มาก

พี่คิดว่าตอบได้ละเอียดพอสมควรแล้ว ถ้ามีประเด็นอะไรกังวลใจ ก็ถามอีกได้ครับ

อย่าละความฝัน และความพยายาม ถ้ารู้แล้วว่าตัวเองชอบอะไร ก็มุ่งไปไขว่ขว้าฝันนั้นให้จงได้

ขอให้โชคดี
แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 48 22:41:23

จากคุณ : หมากเขียว - [ 26 ต.ค. 48 22:27:29 ]