ชี้อุตฯเหล็กจีนเสี่ยงฮาร์ดแลนดิ้ง มิตทัลบรรลุซื้อหุ้นบ.เหล็กมังกร
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 ตุลาคม 2548 19:13 น.
ฟีนิกซ์ทีวีเน็ต/ เอเอฟพี 24/10/05 ซิติ้กรุ๊ปชี้อุตสาหกรรมเหล็กจีนอาจฮาร์ดแลนดิ้ง เนื่องจากราคาเหล็กที่ตกลงฮวบฮวบ เชื่อปีหน้าปริมาณเหล็กที่ผลิตในประเทศจะสูงเกินความต้องการถึง 50 ล้านตัน แต่ยักษ์ใหญ่เหล็กโลกเดินหน้าซื้อหุ้นบริษัทเหล็กแดนมังกร
ซิตี้กรุ๊ป ( Citi Group) ที่ปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนชื่อดัง รายงานว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมเหล็กของจีนกำลังเผชิญกับภาวะเสี่ยงต่อการฮาร์ดแลนด์ดิ้ง โดยคาดการณ์ว่า ในปี 2005 อุปทานเหล็กในจีนจะมากกว่าอุปสงค์ถึง 24.3 ล้านตัน และในปี 2006 จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 50 ล้านตัน นอกจากนี้ ราคาเหล็กจีนยังมีแนวโน้มร่วงลงอีก
และหากราคาเหล็กในช่วงครึ่งปีหลังลดลงเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก 13.6% ขณะที่ราคาต้นทุนไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะทำให้กำไรสุทธิของอุตสาหกรรมเหล็กโดยรวมดิ่งลงถึงศูนย์และขาดทุนในที่สุด ซิติ้กรุ๊ป ระบุ
สำหรับข้อมูลของศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาประจำคณะรัฐมนตรีจีน คาดว่าในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซัปพลายเหล็กในจีนมีปริมาณสูงกว่าความต้องการ 43 ล้านตัน
นายถูจวิ้น นักวิเคราะห์ภาคอุตสาหกรรมเหล็กจากบริษัทซื่อหัวไฟแนนเชี่ยล อินฟอร์เมชั่น ผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงิน กล่าวว่า การที่รัฐบาลยกเลิกการจำกัดปริมาณการผลิตและความต้องการเหล็กที่ลดลง เป็นสาเหตุหลักของการที่ราคาเหล็กในจีนลดลงอย่างฮวบฮาบ
เมื่อพิจารณาจากตัวเลขของเดือนสิงหาคม พบว่าในจีนปริมาณการผลิตเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต สูง 606.17 ตัน เพิ่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนเหล็กเส้นมีจำนวน 531.7 ตัน เพิ่มขึ้น 23.7% และตั้งแต่เดือนมกราคมถึงสิงหาคมปีนี้ ปริมาณการผลิตเหล็กทั่วประเทศสูงถึง 236,211,100 ตัน และจีนกำลังจะกลายเป็นประเทศแรกของโลกที่มีปริมาณการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าทะลุ 300 ล้านตันต่อปี
เนื่องจากเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลยังคงควบคุมเศรษฐกิจระดับมหภาค ส่งผลให้ราคาเหล็กลดลงเรื่อยๆ โดยตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นมา ราคาเหล็กรีดร้อน เหล็กรีดเย็นลดลงระหว่าง 200- 600 หยวน นอกจากนี้ คาดว่าราคาสินค้าเหล็กยังมีโอกาสอาจลดลงอีก 10 %
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันนี้ (24 ต.ค. ) หนังสือพิมพ์ ไชน่า ซิเคียวริตี้ เจอร์นัล ของจีน รายงานว่าผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของจีนตกลงที่จะลดการผลิตเหล็กทรงแบนไฮ-เอน ลง 5 % ในช่วงไตรมาส 4 เพื่อรักษาระดับราคาเหล็ก ที่กำลังตกฮวบฮาบในขณะนี้
กลุ่มผู้ผลิตเหล็กบรรลุข้อตกลงดังกล่าวในการประชุมระหว่างผู้ผลิตเหล็ก 48 รายในจีน รวมทั้ง เป่าสตีล กรุ๊ป ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของประเทศและเป็นบริษัทแม่ของเป่าซัน ไอรอน แอนด์สตีล และโสวกัง โดยเป่าสตีล ระบุว่า จะลดการผลิตเหล็กทรงแบนไฮ-เอน 280,000 ตัน รวมทั้งผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นอีกราว 100,000 ตัน
นอกจากนี้เป่าสตีลแล้ว ไท่หย่วนไอรอน แอนด์ สตีล กรุ๊ป ก็ตกลงที่จะระงับการผลิตเหล็กบางส่วน เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่สถานการณ์ราคาเหล็กในจีนยังไม่กระเตื้อง ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของโลก เช่น มิตทัล (Mittal) จากเนเธอร์แลนด์ และ อัลซีลอร์ (Arcelor) จากลักแซมเบิร์ก กลับมองการณ์ไกลถึงการวางรากฐานในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ มิตทัล ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก ได้ประกาศถึงการเสร็จสิ้นกระบวนการซื้อหุ้น 36.67% ของบริษัทไชน่า หูหนัน หัวหลิง สตีล ทิวป์ แอนด์ ไวร์ ในมูลค่า 338 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่อัลซีลอร์ ยักษ์เหล็กอันดับ 2 ของโลก กำลังเจรจากับบริษัท ไหลอู๋ ไอรอน แอนด์ สตีล เพื่อซื้อหุ้นจำนวน 38%
หลี่ซินสวง รองประธาน สถาบันวิจัยและวางแผนอุตสาหกรรมโลหะจีนได้กล่าวถึงเหตุผลดีที่สุดที่ยักษ์เหล็กโลกต้องการบุกเบิกตลาดจีน น่าจะมาจากการคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า ความต้องการเหล็กของจีนจะสูงขึ้นเกิน 400 ล้านตันต่อปี ซึ่งขณะนี้อยู่ที่ราว 340 ล้านตันต่อปี.
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9480000146676
จากคุณ :
กก
- [
24 ต.ค. 48 22:28:12
A:202.57.158.110 X: TicketID:078064
]