ความคิดเห็นที่ 4
ไปธุระกลับมาก็เปิดอ่าน ใจหายเหมือนกัน หากอยู่ต่างแดน วันๆ เปิดจอเจอแต่ภาษาหยุกหยิกต้องเดา ๆ กันเหนื่อยเพราะภาษาปลาดิบมีบางส่วนคลายจีน แต่ความหมายอาจคนละเรื่อง มาเห็น คห คุณ GS Mobile นักปัจจัย ก็ดีใจที่มีคนต่างความเห็นกัน ผมอ่านหนังสือทั้งไทยเทศ (เทศที่อ่านมากคือของฮ่องกง และไต้หวัน สองประเทศนี้มีกลยุทธการเล่นที่ไม่แพ้ฝารั่ง แม้ระบบหุ้นนั้น ฝารั่งจะมีมาก่อนก็ตาม แต่คนรวยจากการเล่นหุ้นของคนสองชาตินี้ รวยจากความสามารถไม่ใช่จากฉ้อฉลมา ในประเทศเขา มีเยอะนะครับ ) การเล่นหุ้นมีหลากหลายวิธี แต่ที่ผมพยายามสื่อมากที่สุด ชาวหุ้นสไตล์ vi อย่าได้เข้าใจผิดเลยว่าผมชอบ vs ในสันดาน ผมพยายามสื่อว่า ความไม่ธรรมาภิบาลของบ้านเรามีเยอะ กฎกติกาไม่แฟร์ยังมีมาก มาตรฐานทางจริยธรรมยังมีไม่มาก ระบบนี้ ยังไม่เหมาะที่จะวิเคราะห์วิจัยเจาะลึกๆในเชิงปัจจัยพื้นฐาน แล้วทุ่มสุด ๆ ในการลงทุนถือยาว ๆ มีไม่กี่บริษัทที่มีคุณภาพดี ๆ แต่ก็ถูกแย่งซื้อจนราคาไม่ยอมถูก ๆ อยากให้ใครที่ว่าวิเคราะห์ปัจจัยเก่ง ๆ แนะหุ้นลงทุนที่ถือยาว ทั้งเอาปันผลมาแล้วเข้าหุ้นซื้อคนละมากๆ แต่สุดท้ายก็เข้าสู่ประโยคเดียวกันคือ เล่นหุ้นมีความเสี่ยงทั้งสิ้น ตัวอย่าง ปูนใหญ่ บริษัทดีไหมครับ ราคา 220 ซื้อแพงไหม แล้วถ้าแพงไปต้องรอที่ราคาเท่าใด 120 หรือ หรือ 180 แล้วเมื่อไรจะตกลงมาล่ะ หากถึงวันนั้นมาจริง สภาพตลาดนั้นคนขายออกจำนวนมากขนาดนั้น จะชวนเพื่อนๆ ขายบ้านทุ่มซื้อเลยดีไหม จะอธิบายว่าอีก 2 ปี จะไปถึง 450 ไหม ตย เช่น ปตท ราคาจอง 30 กว่า เข้าตลาดมาเคยต่ำกว่า 30 ไหม ถ้าราคาต่ำ 30 คนขายน้อย ก็ต้องสูงกว่า 30, 40, 50 ตอนนั้นมีใครวิเคราะห์ว่า วันนี้จะ~ 230ล่ะ เมื่ออนาคตไม่มีใครรู้จริง ล้วนแต่คาดเดาทั้งสิ้น แล้วคุณมีคุณสมบัติ 3 ข้อหรือเปล่า ถ้ามีหรือตัวผมมี ผมขายบ้านซื้อจริงๆ แต่เนื่องจากทุกคนไม่มีทางรู้อนาคต การลงทุนที่ปลอดภัย ควรเอาจากเงินเย็น เงินคนอื่น เงินกำไร หรือเงินส่วนไม่ใช้จริงมาซื้อแช่ไว้ แต่ถ้ามีเงิน 10 ล้าน แต่ซื้อหุ้นที่เก็บยาว ๆเพียง หมื่นสองหมื่นบาท เรียกว่า เป็นการลงทุนจากการวิเคราะห์ปัจจัยชั่วร์ ได้ไหม จะตอบว่าเป็นการซื้อวัดดวงได้ไหม เมื่อทุกอย่างในอนาคตคาดเดาได้ยาก(แต่ก็ต้องคาดเดาตามหลักคิดของแต่ละคน ใครจะใช้ตำราอะไรก็ช่างแม้ตำราหมอดูก็ตามถ้ายังอยากเล่นหุ้นอยู่) ทำไมเราไม่เอาเงินที่จำกัดเล่นเชิงเก็งกำไร เอากำไรมาถือยาว แต่การเก็งกำไรมีความเสี่ยง การคิดอัตราเสี่ยงก็พอๆ กับการถือยาวๆ (สำหรับประเทศเรา บางประเทศอัตราเสี่ยงถือยาวอาจน้อยกว่าถือสั้นเก็งกำไร) ผมดีใจที่มีหลากหลายความคิด เป็นการแลกเปลี่ยนที่ดีมากๆ พูดตรงไปตรงมา ผู้ใหญ่บ้านเราเขาออกกฎไม่ให้เราพูด ไม่ให้เวทีเราพูดในเชิงเก็งกำไร เพราะกลัวจะไม่มีคนมาเล่นหุ้น แต่ความจริงกฎเกณท์กติกายังเอื้อให้รายใหญ่กินเล็ก ,บจ ฉ้อได้ง่าย ทั้งที่ความจริงของการมีตลาดหุ้นทั่วโลกคือการลงทุนโดยมีเก็งกำไรเป็นแรงจูงใจ แต่ต้องให้คนที่นำเงินลงทุนยาว ๆ ไม่ผิดหวังคุ้มค่าลงทุนยาวด้วยอัตราส่วนมากกว่า คุณก็ไม่ได้สำรวจ ผมเองก้ไม่รู้ว่าคนถือยาวได้กำไรจำนวน มากกว่าคนถือสั้นได้กำไร สักกี่เปอร์ ถ้าทุกคนคิดถือยาว หุ้นดีบางตัวอาจแพงมาก หรือไม่มีสภาพคล่องกลายเป็นหุ้นไม่ดี โบรกเกอร์คงเจ้งหมด ค่าคอมฯไม่คุ้มค่าดำเนินกิจการ เชื่อว่าเถ้าแก่เกือบทุกโบรกอยากให้ลูกค้าเล่นแบบการพนันด้วยซ้ำ ถ้าเล่นแบบที่ ดร นิเวศน์แนะ โบรกเจ้งหมด ท่านแนะ ปีหนึ่งซื้อสัก 1 -3 ครั้ง เก็บจนถึงลูก หากได้ผลสุด ๆ 5 แสนบัญชีคงทำตามหมด ความแตกต่างของการเล่นหุ้นมันมีองค์ประกอบมากครับ เช่น เงินร้อนเงินเย็น เงินมากเงินน้อยเชื่อมากเชื่อน้อย เห็นตัวอย่างแบบไหนมากกว่า ทุกคนเห็นคนเล่นสั้นแล้วขาดทุน ทำไมยังโง่เล่นอยู่ได้ ต้องมีเหตุผล แมงเม่าเข้ามาแล้วจากไป มันมีทั้งแมงเม่าถือสั้นและถือยาว คนประสพความสำเร็จแบบถือยาว สังคมเขาให้ดูเป็นตัวอย่าง แต่มิได้หมายว่าคนเล่นสั้นไม่ประสพความสำเร็จ เพียงแต่ผู้ใหญ่บ้านเราเขาไม่ยอมรับ และมักใช้คำว่า เสี่ยงมาขู่จนเกิดภาพว่า การถือยาวปลอดภัยกว่า ซึ่งความจริงคนถือยาวที่อ้างเหตุจากการวิเคราะห์ตามหลักปัจจัยก็คือนักเก็งกำไรตัวยง ที่พนันด้วยเวลามากกว่า ใครรับประกันว่าการเล่นถือยาวตามหลักคิดทางปัจจัยพื้นฐานต้อง ...ย้ำว่า.. ต้อง กำไรแน่นอน ในเวลากี่ปีได้กี่เท่า ถ้าจริงบรรดาเครื่องมือทางเทคนิคที่ฝารั่งเจ้าตำรามันคงไม่เกิดขึ้น ไม่มาทดแทนความคิดทางปัจจัยแน่ๆ คุณ GS Mobile เล่นหุ้น 5 ปี ต้องถาม ดร หลายๆ คนที่เล่นมา 20 ปีบ้างว่าเขาขาดทุนจากการถือหุ้นตามปัจจัยบ้างไหม ทำไมไม่เก่งกาจเฉกเช่น ดร นิเวศน์หนอ ผมเชื่อว่ามีคนขายก๋วยเตี๋ยวที่ทำอัตรากำไรจากการเล่นหุ้นเทียบกับ ดร ชนะขาดลอย เทียบขนาดทุนและปริมาณเวลาที่เงินหมุนออกไปแล้วหมุนกลับมา แต่คนเหล่านี้เขียนหนังสือออกมาไม่ได้ ไม่มีเครดิตให้คนอยากอ่าน คนที่มีเครดิตเป็น ดร ที่เล่นเชิงเก็งกำไร ก็ไม่กล้าเขียนตำราออกมา เพราะกลัวคนประนามว่าพวกนักพนัน ยกเว้น ดร ก้องเกียรติ เขียน นักเก็งกำไรชาวสวิส ผมอยากให้คนเล่นเชิงทางสายกลางมากกว่า มันเสี่ยงที่จะบอกว่า แบบไหนดีที่สุด จึงแนะนำกลยุทธแบบผสมผสานตามแนวคิดของอาจารย์ผม วิธีนี้ผมใช้อยู่ได้ผลดี คิดว่าไม่ยุ่งยาก ใช้ความสามารถของตนเอง ใช้ความเชื่อมั่นของตนเอง มีกุสโลบายบางอย่างซ่อนอยู่ให้เป็นแรงจูงใจบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายว่าได้ผลดีที่สุด เพราะผลงานเทียบออกมา ผมยังชนะอาจารย์ผม แต่ก็มีข้อเปรียบเทียบที่แตกต่าง ข้อคิดเหล่านี้ผมสื่อมานานแล้ว ผมไม่เคยชอบมาเดาว่าดัชนีรอบนี้จะไปไหน (ไม่เชื่อดัชนี) แต่ก็เอาดัชนีที่คนทั้งหลายเชื่อและรับรู้ มาใช้ประโยชน์บ้าง ไม่ถึงขั้นรอดัชนีต้องถึงประมาณนั้น ประมาณนี้ค่อยซื้อค่อยขาย เรื่องต่างๆ ต้องคุยกับคนมีประสบการณ์ เพราะมันจะต่อเนื่องผูกพันโยงไปเกาะเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆทีละเล็กละน้อย พอคุณรู้จากประสบการณ์ คุณจะค่อย ๆ เห็นชัด สุดท้ายก็เข้าสู่หลักคิดหลักทำ แล้วก็มาถึงการตัดสินใจ แล้วก็เข้ามาถึงการบังคับจิตใจเข้าสู่ความกล้าความกลัว บางคนคิดมากก็จะเป็นโรคจิตอ่อนๆ น่าเศร้า ต้องให้คุณ GS Mobile พบกับคนเหล่านี้ บางคนเป็น ดร เป็นหมอ เป็นวิศว เป็นนักบัญชี คุณว่าคนพวกนี้สมองโง่หรือเปล่า 55 55 55 ผมคงยังอาจต้องส่งความคิดเห็นเข้ามาในห้องสินธร แม้จากไปไกล เพราะผมชอบ คุณ GS Mobile ที่ออกความเห็นหลากหลาย จะได้แลกความคิด แล้วเราก็จะมีกำไรเพิ่มขึ้นอีกไงล่ะ 55 55 55 คุณ buglife คงเดาผิด ผมไม่ไปเล่นหุ้นที่นั่นแน่ คงไปนั่งขายผัดไทยมากกว่า อิมพรอทเส้นหมี่ไทยเข้าไป(แพงภาษีน่าดู) 55 55 55 ขอบคุณเพื่อน ๆ ปีใหม่ผมกลับมาอีกครั้ง ฃอให้โชคดี
จากคุณ :
อยากเชือก
- [
5 พ.ย. 48 23:42:36
A:202.57.172.252 X: TicketID:104470
]
|
|
|