ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาช่วยให้ข้อมูลเท่าที่พอจะรู้นะครับ - ตอนที่แปรรูป ปตท รัฐบาลสัญญา(ที่มีปรากฎเป็นหลักฐานตัวหนังสือในหนังสือชี้ชวน) ว่ากระทรวงการคลังจะยังคงถือหุ้นใน ปตท ไว้ไม่ต่ำกว่า 50% - หลังการขาย IPO ครั้งแรก กระทรวงการคลังยังคงถือหุ้นใน ปตท ประมาณ 69.3% (ขายไปใน IPO และ ESOP ประมาณ 30%) - ต่อมาประมาณปี 46 มีการจัดตั้งกองทุน วายุภักษ์ และกระทรวงการคลังได้โอนหุ้น ปตท ประมาณ 15% ไปให้กองทุนวายุภักษ์ (ส่วนเป็นเพราะเหตุผลอันใดจำไม่ได้จริงๆว่า เป็นเพราะต้องกระทรวงการคลังต้องการระดมเงิน หรือ เป็นเพราะต้องการไม่ให้ ปตท เป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อจะได้ไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกฎหมายของรัฐวิสาหกิจ .... อันนี้จำไม่ได้จริงๆ รอท่านอื่นมาช่วยเพิ่มเติมข้อมูลให้ดีกว่า) โดยสรุป หุ้นส่วนของรัฐบาล (ถือในนามกระทรวงการคลัง) มีการโอนออกเพียงครั้งเดียวหลังการ IPO ซึ่งก็คือการโอนไปให้กองทุน วายุภักษ์ ครับ (ซึ่งอันนี้ก็ไม่รู้จะนับเป็นของประชาชนหรือของรัฐดี ... ถ้าจำไม่ผิดตอนจบของกองทุนนี้ต้องโอนหุ้นคือกระทรวงการคลัง...ไม่แน่ใจนะ) ส่วนข่าวลือที่ว่า ปตท เป็นของ นาย ก ไปหมดแล้วก็สรุปได้ว่าไม่จริง และยังเป็นของรัฐบาลอยู่ครับ ..... สุดท้าย เรื่อง % ที่อาจทำให้ผิดเพี้ยนไปบ้างเกิดจากการออก ESOP ตอนหลังหนะครับ ไม่เยอะหรอก แต่เลยทำให้เหมือน%การถือโดยกระทรวงการคลังลดลงนิดนึง.... ผมก็พอจะจำได้งูงูปลาปลาเท่านี้หละครับ .... ถ้ามีส่วนใดที่คิดว่าไม่ถูกต้องก็ช่วยแนะนำด้วยนะครับ .... วันนี้ดึกมากแล้วไปนอนดีกว่า ง่วงแล้ว.....  :) จากคุณ : c-sar-salad - [ 6 พ.ย. 48 02:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องเงื่อนไขการรับซื้อคืนนะครับ  เอามาจาก http://www.mof.go.th/vayupak/vayupak.pdf ปตท. น่าจะอยู่ในวายุภักษ์ 1 นะ จากคุณ : sunsetbeach - [ 6 พ.ย. 48 09:12:55 ]

ความคิดเห็นที่ 3 คุณMyth&Miracle คงดูรายการคุณสนธิแน่ๆ เขาด่ารัฐบาลก็ต้องเอาข้อมูลมาเพียงด้านเดียวมาบอกคนฟัง ไอ้เรื่องหุ้นปตท ใครเล่นหุ้นก็คงรู้ว่าเป็นไปยังไง แต่ประชาชนอีกหลายสิบล้าน ไม่ได้เล่นหุ้นก็จะเชื่อคุณสนธิ บัญชีหุ้นมีไม่กี่แสนบัญชี คิดดูละกันว่าคนจำนวนน้อยนิดที่รู้เรื่องนี้ จากคุณ : ptt - [ 6 พ.ย. 48 10:59:16 A:203.114.126.75 X: TicketID:107886 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณ คุณ sunsetbeach ด้วยครับที่เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม และผมก็เห็นด้วยกับคุณ ptt ว่า รายการบางรายการพิธีกรมีความน่าเชื่อถือมากสำหรับคนส่วนใหญ่ ข้อมูลบางอย่างที่นำมาเสนอแก่ประชาชนในวงกว้างหากมีบางส่วนที่ผิดเพี้ยนไปก็อาจส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง เพราะความเชื่อถือในตัวพิธีกร จากผลงานดีดีที่ผ่านมาของเขา ซึ่งในความเห็นผมนั้น ยิ่งพิธีกรที่ได้รับการยอมรับนับถือในวงกว้างนั้นยิ่งควรเสนอข้อมูลที่ชัดเจน ไม่ผิดเพี้ยนหรือบิดประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่มีความคลุมเคลือและมีการคาดเดาของพิธีกรยิ่งต้องระวังอย่างยิ่งครับ เมื่อวานไม่ได้ตอบความเห็นคุณ Myth&Miracle เท่าไร เลยขอเสอนความเห็นเพิ่มเติมนะครับ ส่วนแรกเรื่องการมี nominee จากต่างประเทศมาถือหุ้นนั้น ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติที่นักลงทุนต่างชาติ (ซึ่งอาจมีนักลงทุนไทยผสมโรงบ้าง) ลงทุนดดยผ่านทาง nominee เพราะเป็นกลไกปกติของการลงทุนของเขาที่จะมีคนดูแลให้และไม่ได้ลงทุนชื่อบุคคล อีกทั้ง ปตท ก็เป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีผลการดำเนินงานที่ดีมาก ก็ย่อมน่าจะต้องมีนักลงทุนต่างประเทศสนใจเป็นธรรมดา  จริงๆแล้วสัดส่วนก็ยังไม่ได้เยอะอะไรเท่าไหร่หรอกครับ ส่วนเรื่องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น ความเห็นส่วนตัวผมมองว่า กิจการใดที่มีการแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ก็อาจแปรรูปได้ แต่หากกิจการใดที่มีผลต่อความมั่นคงต่อระบบโดยรวมของประเทศ และกิจการประเภทที่ไม่น่าจะเกิดการแข่งขันได้นั้น ควรอยู่ภายใต้รัฐวิสาหกิจจะดีกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่มีประสิทธิภาพบ้างแต่ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นก็ยังน้อยกว่าการให้กิจการผูกขาดเหล่านั้นไปอยู่ในมือของบุคคลใดบุคคลหนึ่งครับ จากคุณ : c-sar-salad - [ 6 พ.ย. 48 12:34:07 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผลงานปตท. นิตยสาร Fortune Global 500 ได้จัดอันดับให้ ปตท. เป็นบริษัทไทยรายเดียวที่ติดอันดับในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ 500 อันดับแรกของโลก ในลำดับที่ 373 ดีขึ้นจากลำดับ 456 ในปีก่อน มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับเพิ่มเครดิตเรทติ้งของ ปตท. เป็นระดับ A2 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งด้านการเงินและธุรกิจเป็นอย่างดี รวมทั้ง นิตยสาร Forbes ฉบับเดือนเมษายนปีนี้ ได้จัดอันดับให้ ปตท.เป็นบริษัทจดทะเบียนในลำดับที่ 425 จาก 2000 บริษัทจดทะเบียนใหญ่สุดของโลก นอกจากนี้ ปตท.ยังได้รับรางวัลด้านความโปร่งใสและการบริหารจัดการ อาทิ ได้รับการจัดอันดับจาก Finance Asia ให้ เป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลดีที่สุด “Best Corporate Governance” และเป็นบริษัทที่มีการบริหารจัดการดีที่สุด “Best Managed Company” ล่าสุด ปตท. ยังได้รับรางวัลจากงาน SET Awards 2005 ถึง 4 รางวัล คือ 1. รางวัลสุดยอดซีอีโอแห่งปี “Best CEO of the Year” 2. รางวัลผู้นำธุรกิจไทยแห่งปี 2005 “Thailand Business Leader Awards 2005” 3. รางวัลบริษัทจดทะเบียนที่มีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานดีเด่น “Best Performance Awards” 4. รางวัลบริษัทจดทะเบียนดีเด่นในด้านการรายงานการปฏิบัติตามหลักการ กำกับดูแลกิจการที่ดี “Best Corporate Governance Report Awards” น่าภูมิใจที่ประเทศไทยมีบริษัทข้ามชาติแบบปตท.ที่สามารถแข่งขันกับบริษัทต่างชาติในเวทีโลกอย่างสมศักดิ์ศรีประเทศไทยในเวทีโลก หวังว่า กฟผ.จะสามารถบริหารงานขยายงานข้ามชาติอย่างมีประสิทธิภาพก้าวกระโดดได้แบบปตท. เมื่อพันธนาการด้วยกฏระเบียบหยุมหยิมถุกปลดออกด้วยการแปรรูปเข้าตลาดหลักทรัพย์แบบปตท. คนมีกึ๋นทำงานจริงย่อมมีผลงานอวดได้ คนไม่มีกึ๋นเอาแต่ด่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะหาผลงานดีๆที่ไหนมาอวดเล่า จากคุณ : ทำดีได้ดี - [ 6 พ.ย. 48 14:14:36 A:58.9.3.176 X: TicketID:001768 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าไม่แปรรูปดักดานอยู่ในกะลาคงไม่มีโอกาสสร้างผลงานดีๆให้ประเทศชาติแบบนี้ .......................................................................... PTTเพิ่มทุนท่อส่งปิโตรเลียม8พันล. ล่าสุดโพลชี้ครองอันดับ1ของเอเชีย โดย กระแสหุ้น บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) (ปตท) เปิดเผยว่า นิตยสาร BusinessWeek ซึ่งเป็นนิตยสารชั้นนำด้านธุรกิจและการเงิน ได้ประกาศผลการจัดอันดับ The Asian BusinessWeek 50 หรือสุดยอด 50 บริษัทชั้นนำในเอเชีย โดยคัดเลือกบริษัทจดทะเบียนในเอเชียที่ผ่านเกณฑ์จำนวนทั้งสิ้น 625 บริษัท มาจัดอันดับ 50 บริษัทที่ดีที่สุด และผลปรากฏว่า ปตท ได้รับการคัดเลือกให้เป็นอันดับ 1 ของเอเชียประจำปี 2548 ทั้งนี้ นิตยสาร BusinessWeek ได้ใช้ฐานข้อมูลจาก Standard&Poor's Citigroup Pan-Asia Index ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค โดยใช้เกณฑ์การพิจารณาจากข้อมูลซึ่งเป็นมาตราวัดด้านการเงินที่สำคัญต่างๆ ใน 8 หมวด เช่น ผลตอบแทนของหุ้น (stock performance) ผลตอบแทนต่อทุน (return on equity) อัตราเฉลี่ยการเจริญเติบโตของกำไรและยอดขายใน 1 ปี และ 3 ปี รวมถึงผลต่างกำไรสุทธิ (net profit margin) อย่างไรก็ตาม นิตยสาร BusinessWeek ระบุว่าเกณฑ์การจัดอันดับครั้งนี้ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อขนาดขององค์กรมากเท่ากับการประเมินอัตราการเติบโตของผลผลิต (productivity) กำไร (profit growth) และผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ (return on assets) ขณะที่นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้สะท้อนถึงศักยภาพการบริหารงานและความโปร่งใสในการจัดการธุรกิจของ ปตท โดยมุ่งเน้นการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งจะเป็นการสร้างความสามารถในการแข่งขัน นำไปสู่ความเจริญเติบโตและเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว จากคุณ : ทำดีได้ดี - [ 6 พ.ย. 48 14:25:23 A:58.9.3.176 X: TicketID:001768 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ตอบพี่ c-sar-salad ที่ หมู่เฮา กลัวนั้นคือ ไม่ใช่ต่างชาติแต่เป็นคนไทย ซึ่งเป็นระดับbigๆๆ เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าnomineeอันนี้เป็นของใคร ซึ่งยากแก่การตรวจสอบมากๆๆ แต่ถ้าคิดในแง่ของพี่ก็okล่ะ ที่กลัวเพราะว่าถ้าเป็นต่างชาติซื้อ (แบบบุคคลธรรม) นั้นNRDอะไรซักตัว ที่มีให้ติ้กตอนที่จะซื้อหุ้นนั้น มีแล้วไม่ใช่หรือ แต่นี้มันมาเป็นรูปของบริษัทอ่ะ หรือรูปกองทุน ถ้าเป็นรูปกองทุนหาได้ แต่อันนี้ขึ้นว่าnomineeไม่ใช่กองทุน มันทำให้เป็นสิ่งที่น่าคิดใช่ไหมอ่ะ ว่ามันคือของใคร ส่วนvayu1ไม่ค่อยติดใจอะไรอยู่แล้ว แต่ที่สงสัยอ่ะ (เราก็ซื้ออยู่เหมือนกัน) จุดหลักๆๆมันคือการโอนถ่ายหุ้นไปให้บุคคลถือด้วย แบ่งกันรวย แต่ไม่รู้ว่าตอนนี้กองทุนใครถือเท่าไร เพราะมันอยู่ในตลาด ไม่เปิดตัวว่าใครถือบ้างอ่ะ ซึ่งคลังก็มีส่วนคลังถือด้วย กองทุนนี้เหมือนจะเป็นตัวพยุงราคาในตลาดเลยอ่ะ :) จากคุณ : Myth&Miracle - [ 6 พ.ย. 48 16:24:26 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มาตอบคุณทำดีได้ดี ขออ้างอิงคำสอนของพระพุทธองค์ ในกาลามสูตร ซึ่งว่าด้วยความเชื่อทั้งสิบประการ ซึ่งอาจจะเราทำให้หลงผิดได้ แต่ทางแก้ไข พระพุทธองค์ คือ ต้องพิสูจน์หาที่มาที่ไปว่า เหตุ คืออะไร ถึงจะได้ผลแบบนี้ไม่ใช่ไหรือ ตอนนี้กาลเวลามันได้พิสูจน์ความจริงใจของPTTมาแล้วช่วงระยะเวลาหนึ่ง การลดราคาน้ำมันครั้งที่ผ่านมา ตามข่าวPTTไม่ได้เป็นผู้นำตลาดในการลดราคาใช่ไหม แต่ครั้งที่แล้วๆๆมาเป็นผู้นำทางการขึ้นราคาที่ช้ากว่าใช่ไหม แล้วทำไม ถึงได้ลดช้ากว่าชาวบ้าน ไปหาข้อมูลมาหน่อยจะได้ไหมอ่ะ ถ้ามีข้อมูลตัวนี้แล้ว จะเห็นว่า ราคาน้ำมันที่สิงคโปร์มันลดมานานแล้ว (ตอนนี้เห็นจะขึ้นอีกแล้ว ตามน้ำมันโลก อยู่แถว 62 เหรียญ) แล้วเงินมันไปไหนอ่ะ เข้ากระเป๋าใครอ่ะ ตอบมาหน่อยได้ไหม แล้วเงินที่ไหลเข้ากองทุนน้ำมันนั้น สามารถตรวจสอบได้ไหมว่า มันไหลเข้าที่ส่วนของการพยุงน้ำมันหรือ ส่วนของการพยุงราคาก๊าซล่ะ น่าคิดไหมอ่ะ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 48 21:35:51 จากคุณ : Myth&Miracle - [ 6 พ.ย. 48 16:35:03 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฮั่นแน่...ร้ายจริงคุณMyth&Miracle จะมาหลอกใช้งานข้อย อยากรู้ข้อมูลก็ไปหาเองซิจ้ะสูเจ้า สงสัยกะลังตัดสินใจจะซื้อ PTT ดีหรือป่าว สิท่า? อนาคตตัวนี้ยังไปอีกไกลนะจ๊า อ้อ...กามาสูตร ที่ท่านเขียนไว้ในคห.8 น่าจะเป็นสูตรเกี่ยวกับเรื่อง SEX นะ...แปลตามตัวหนังสือจ๊ะ ถ้าจะหมายถึงที่พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้เชื่อถืองมงายไร้เหตุผล ตามหลัก ๑๐ ข้อ นั่นเขาเรียก"กาลามสูตร"จ๊ะ เอ้าแถมให้..... _________________________________________________________ พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ปปัญจะ, ปปัญจธรรม 3 (กิเลสเครื่องเนิ่นช้า, กิเลสที่เป็นตัวการทำให้คิดปรุงแต่งยืดเยื้อพิสดาร ทำให้เขวห่างออกไปจากความเป็นจริงที่ง่ายๆ เปิดเผย ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ และขัดขวางไม่ให้เข้าถึงความจริงหรือทำให้ไม่อาจแก้ปัญหาอย่างถูกทางตรงไปตรงมา — diversification; diffuseness; mental diffusion) 1. ตัณหา (ความทะยานอยาก, ความปรารถนาที่จะบำรุงบำเรอปรนเปรอตน, ความอยากได้อยากเอา — craving; selfish desire) 2. ทิฏฐิ (ความคิดเห็น ความเชื่อถือ ลัทธิ ทฤษฎี อุดมการณ์ต่างๆ ที่ยึดถือไว้โดยงมงายหรือโดยอาการเชิดชูว่าอย่างนี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นเท็จทั้งนั้น เป็นต้น ทำให้ปิดตัวแคบ ไม่ยอมรับฟังใคร ตัดโอกาสที่จะเจริญปัญญา หรือคิดเตลิดไปข้างเดียว ตลอดจนเป็นเหตุแห่งการเบียดเบียนบีบคั้นผู้อื่นที่ไม่ถืออย่างตน, ความยึดติดในทฤษฎี ฯลฯ ถือความคิดเห็นเป็นความจริง — view; dogma; speculation) 3. มานะ (ความถือตัว, ความสำคัญตนว่าเป็นนั่นเป็นนี่ ถือสูงถือต่ำ ยิ่งใหญ่เท่าเทียมหรือด้อยกว่าผู้อื่น, ความอยากเด่นอยากยกชูตนให้ยิ่งใหญ่ — conceit) ในคัมภีร์วิภังค์ เรียกปปัญจะ 3 นี้เป็น ฉันทะ (คือตัณหา) มานะ ทิฏฐิ Ndi 280; Vbh.393; Nett. 37-38 ขุ.ม. 29/505/337; อภิ.วิ. 35/1034/530; เนตฺติ. 56-57 + จากคุณ : ทำดีได้ดีจ๊ะ - [ 6 พ.ย. 48 20:43:30 A:58.9.8.5 X: TicketID:001768 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ตอบคุณ ทำดีได้ดี แค่มาบอกว่า เราไม่ได้เชื่อคุณสนธิ เรามาหาข้อมูลว่า มันเป็นจริงขนาดไหนและไม่จริงขนาดไหน เพราะว่ากาลเวลามันจะพิสูจน์อ่ะ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 6 พ.ย. 48 21:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 6 พ.ย. 48 21:56:43 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาดูด้วยครับ จากคุณ : obkung - [ 6 พ.ย. 48 22:08:36 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอโทษนะครับ ขอถามนิดนึงครับ การที่ ปตท.กำไรมากๆๆๆ อย่างนี้ เขาเอากำไรมาจากใครครับ แล้วการที่ปตท.ได้รับคำชมเชยจากสถาบันการเงิน หรือสถาบันจัดอันดับทั้งหลาย มันมีผลดีต่อประชาชน(ส่วนใหญ่ที่ไม่มีหุ้น ปตท.)ตรงไหนอ่ะครับ ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ คงเหมือนกับชาวบ้านอีกหลายล้านคนน่ะครับ จากคุณ : Ontjung - [ 7 พ.ย. 48 08:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เงินในการก่อตั้งรัฐวิสาหกิจ มาจากเงินภาษีของประชาชน ถึงวันหนึ่ง ก้อถูกแปรรูป เพื่อการทำกำไร โดยผลักภาระมาที่ประชาชนอีก ในรัสเซีย การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ มาเป็นของเอกชน สร้างมหาเศรษฐีมากมาย เพราะเงินก่อตั้งมันมหาศาล ก้อเป็นเงินของรัฐ และทรัพยากรของคนทั้งชาติ ก้อถูกยึดเป็นของคนกลุ่มเดียว มันเป็นการผูกขาดจากรัฐ มายังเอกชน หรือคอรัปชั่น เชิงนโยบาย ที่ซับซ้อนและลุ่มลึก แปรเปลี่ยนการขาดทุน จากการคอร์รัปชั่นภายในและการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพ มาเป็นการทำกำไรโดยเอาประชาชนทั้งประเทศ เป็นเหยื่อ จากคุณ : . - [ 7 พ.ย. 48 09:05:49 A:58.8.26.195 X: TicketID:066940 ]

ความคิดเห็นที่ 15 เอาใจช่วยคุณ Myth&Miracle อยากดูข้อมูลจริงๆ มากกว่ามานั่งพูดลอยๆ เหมือนตอนคุณ j_abac คุยกับคุณ tai ข้อมูลดีมากๆ เลยคับ สำหรับผม การที่บริษัทหนึ่งๆ ได้รับคำชมจากต่างชาติก็แค่เพราะเขามีผลประกอบการดีขึ้น ( อย่างผิดหูผิดตา มันจะไม่ได้รางวัลได้ไง ดูผลประกอบการท่านสิ ) แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าเขามีจริยธรรมในการบริหารเป็นอย่างไรนี่คับ รอดูเหมือนกันคับ ว่าช่วงที่น้ำมันราคาจะขึ้นนี้ ปตท. จะทำตัวอย่างไร จากคุณ : หนุ่มน้อย ณ บาบิโลน (หนุ่มน้อย ณ บาบิโลน) - [ 7 พ.ย. 48 11:19:55 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ++++ เข้ามาดู และเอาใจช่วยน้อง2M ++++ เมื่อมีหลาย คห.อ้างถึงคำสอนของท่านพระพุทธองค์ฯ ก็ขอมีส่วนร่วมจากความรู้และความคิดเท่าหางอึ่ง... "ทุกข์ สุขอยู่ที่ใจ หาใช่ปริมาณของวัตถุก็หาไม่"   "โกหกคนอื่นได้ แต่โกหกใจตนเองไม่ได้==> กรรมอยู่ที่เจตนา" "ทรัพย์สินเงินทอง(เป็นของสมมติอย่างหนึ่งในบรรดาสมมติทั้งหลายทั้งปวง)สามารถซื้อหรือแลกเปลี่ยนวัตถุได้ แต่จะไปซื้อหรือแลกปัญญาให้กับลูกหลานก็หาไม่"........ ++++ จาก คุณOntjung (คห.13) 1.  "การที่ ปตท.กำไรมากๆๆๆ อย่างนี้ เขาเอากำไรมาจากใครครับ " ตอบ.. เท่าที่ทราบมา(เจ้าหน้าที่ของ ปตท. อธิบายตอน ตลาดหลักทรัพย์สัญจรที่ขอนแก่น) กำไรจากการขายน้ำมันเพียงส่วนน้อยส่วนใหญมาจากก๊าซ ขอวิจารณ์หน่อย.. จะไม่กำไรได้อย่างไร เมื่อสินทรัพย์ของแผ่นดิน(จ้างคนอื่นขุด)รับซื้อราคาต้นทุนที่ปากหลุม แล้วเอามาขายให้กับประชาชนในราคาอิงที่ต่างประเทศ ลองมาคิดดูเล่นๆ 5ปีที่ผ่านมา ราคาก๊าซหุงต้น(ถังละ15กก.)ขึ้นจาก175 ราคาปัจจุบันเท่าไรแล้ว ขึ้นมากี่ %   เมื่อ บ. ในรูปรัฐวิสาฯ แทบไม่มีคู่แข่งเลย กำหนดราคาตามใจคณะรัฐบาล ประชาชนก็ต้องจำทนบริโภคต่อไป  สงสัยเป็นกรรมของใครหนอ 2. "แล้วการที่ปตท.ได้รับคำชมเชยจากสถาบันการเงิน หรือสถาบันจัดอันดับทั้งหลาย มันมีผลดีต่อประชาชน(ส่วนใหญ่ที่ไม่มีหุ้น ปตท.)ตรงไหนอ่ะครับ"  ตอบ.. คือผู้บริหารหน้าบาน(ปล้นประชาชนได้สำเร็จ) ประชาชนอย่างพวกเราก็หน้าเขียวไง ++++ สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ระยะเวลาผ่านไปนานๆเข้า ผลกรรมทั้งหลายทั้งปวงจะตกอยู่กับลูกๆหลานๆของพวกเราทั้งหมด(ทั้งฝ่ายเห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย) ก็เพียงคาดหวังว่า "บุพกรรม" จะส่งผลให้กับคนรุ่นต่อไปก็แล้วกัน จากคุณ : ลุค - [ 7 พ.ย. 48 11:40:22 ]

ความคิดเห็นที่ 17 >> เมื่อสินทรัพย์ของแผ่นดิน(จ้างคนอื่นขุด)รับซื้อราคาต้นทุนที่ปากหลุม แล้วเอามาขายให้กับประชาชนในราคาอิงที่ต่างประเทศ  ลองมาคิดดูเล่นๆ 5ปีที่ผ่านมา ราคาก๊าซหุงต้น(ถังละ15กก.)ขึ้นจาก175 ราคาปัจจุบันเท่าไรแล้ว ขึ้นมากี่ % - มีทั้งส่วนถูก  และไม่ถูกนะครับ ก๊าซ  มีทั้งที่ ปตทสผ. ดำเนินการขุดเจาะเอง  และส่วนนึง  ที่ ปตท. รับซื้อจากผู้รับสัมปทานขุดเจาะรายอื่นๆ อีก  แต่ ปตท.  เป็นผู้ลงทุนในการวางเครือข่ายท่อส่งก๊าซ  ส่วนในกรณีที่ปตทสผ. ไป สำรวจ และขุดเจาะเองนั้น  ก็มีทั้งในประเทศ  และต่างประเทศ   ถ้าเอาเฉพาะแค่เงินลงทุนที่มาจากภาษี  ของประชาชนอย่างเดียวนั้น   ปตท. มาไม่ถึงวันนี้หรอกครับ  เพราะธุรกิจพลังงานใช้เงินลงทุนสูงมาก   และถ้ายังเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่   รัฐเองก็ไม่สามารถหาเงินทุนมาให้ได้เพียงพอ  เพราะการกู้ยืม  ก็จะกลายเป็นหนี้สาธารณะ  ซึ่งรัฐบาลเองก็มีภาระมากพออยู่แล้ว    ถ้ามองโดยรวม   เงินผลกำไร ณ วันนี้  เมื่อเทียบกับก่อนแปรรูปแล้วเทียบกันไม่ติด   แต่กระนั้นถ้า ปตท. ยังไม่ได้แปรรูป  ผมก็คิดว่า  ปตท.  คงไม่มีความสามารถในการทำกำไรได้เท่าปัจจุบันเช่นกัน     ดังนั้น  ถ้ากลับไปมอง   ณ จุดเริ่มต้น   มีทางเลือกอยู่สองทาง  อยู่เป็นรัฐวิสาหกิจเช่นเดิม  มีรายได้เข้ารัฐ  1 ใน 10 ของปัจจุบัน  หรือ  ยอมแปรรูป  โดยรัฐยังถือหุ้นใหญ่   มีรายได้เพิ่มขึ้น  มีกำไรเพิ่มขึ้นเท่าปัจจุบัน  แต่เงินปันผลอาจจะได้ไม่ 100% เท่าเดิม   อันไหนเป็นผลประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่ากัน   อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละท่านแล้วล่ะ จากคุณ : sunsetbeach - [ 7 พ.ย. 48 11:59:56 ]

ความคิดเห็นที่ 18 มาอ่านก่อน เดี๋ยวจะมาตอบต่อ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 7 พ.ย. 48 13:00:16 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า การที่ ปตท.กำไรมหาศาลบานเบิกอย่างนี้ เป็นผลดี หรือผลเสียต่อประชาชนตาดำๆเมื่อเทียบกับกำไรน้อยกว่า แต่ บ.ยังอยู่ในสภาพก่อนแปรรูป คือผมอาจจะมองในแง่ลบไปหน่อย เนื่องจากความไม่รู้นะครับ ได้อ่าน คคห.ของคุณ sunsetbeach แล้ว ก็เปิดโลกทัศน์ผมขึ้นอีกมากครับ ขอบพระคุณครับ จากคุณ : Ontjung - [ 7 พ.ย. 48 13:33:43 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา เรียกว่าช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว จับหุ้นอะไรก็ขึ้นหมด หุ้นร้อยเด้งก็มีให้เห็นหลายตัว แล้วคุณจะเรียกได้อย่างไรว่าการที่หุ้นขึ้นในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัวเป็นเพราะการแปรรูปหรือเพราะผู้บริหารเค้าเจ๋งจิงๆ ประเด็นที่สองคือ ถ้าแปรรูปแล้วมันเจ๋งจิงๆ ทำไมไม่แปรรูป ขสมก ซะที เห็นว่าขาดทุนทุกปี จิงๆแล้วการแปรรูปมันไม่ได้ดีไปซะทุกบริษัทหรอก ในทางตรงกันข้ามถ้าธุรกิจนั้นดีจิงๆอย่าง ปตท ทุกคนต้องใช้น้ำมัน ถ้าไม่แปรรูปมันก็กำไรมหาศาลเหมือนกันแหละ ประเด็นสุดท้าย ปตท กำไรมหาศาลขนาดนี้ อย่าบอกเลยว่าต้องไปกู้เงินมาลงทุน, ต้องเป็นหนี้สาธารณะ etc. แค่ลำพังกำไรของบริษัทก็ยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้รัฐช่วยลงทุนหรือขาย ipo แต่อย่างใด จากคุณ : redvdox - [ 7 พ.ย. 48 17:48:33 ]

ความคิดเห็นที่ 21 และ กฟผ ก็จะเป็นข้อพิสูจน์นึงที่ว่า การแปรรูปในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัว(อย่าง ปตท) กับภาวะปกติ(กฟผ) มันต่างกันอย่างไร จะได้เลิกพูดกันซักทีว่า ถ้าไม่แปรรูปคงไม่ทำกำไรได้เท่าวันนี้ จากคุณ : redvdox - [ 7 พ.ย. 48 17:54:52 ]

ความคิดเห็นที่ 22 การแปรรูป  ไม่ได้เป็นยาวิเศษนะครับ   การที่กิจการจะมีกำไรได้  มันประกอบไปด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ลักษณะธุรกิจ,  ความสามารถของผู้บริหาร  และสิ่งที่สำคัญสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ก็คือ "ทุน"   ตัวอย่างที่เปรียบเทียบให้เห็นกันได้ง่ายๆ ก็คือ การบินไทย ที่แปรรูปไปก่อนหน้า  กับ ปตท.    จะเห็นได้ว่าความสามารถในการทำกำไรแตกต่างกันเยอะ  แม้ว่าการบินไทยจะแปรรูปไปก่อนปตท. นานพอควรก็ตาม แล้วถ้าการแปรรูปไม่ได้การันตีถึงความสำเร็จของกิจการ  ทำไมถึงต้องแปรรูป ..... คำตอบก็คือ "ทุน" นั่นเอง   การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ  ในแบบที่ไทยกำลังทำ  ซึ่งก็คือ  การเปลี่ยนลักษณะจากกิจการที่รัฐถือหุ้น 100%  ให้เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่รัฐยังถือหุ้นใหญ่อยู่นั้น  (อันนี้แตกต่างจากหลายๆ ประเทศที่บางท่านชอบหยิบยกมาโจมตี   เพราะหลายๆ ที่ใช้การขายกิจการให้กับเอกชน 100% โดยรัฐไม่มีหุ้นอยู่เหลือเลย)  จะมีข้อดีคือ  ทำให้กิจการสามารถระดมทุนมาใช้ในการดำเนินงานได้ง่ายขึ้น  โดยไม่ต้องรอการสนับสนุนจากรัฐ  ซึ่งผมได้กล่าวไว้ใน คห. ข้างต้นว่า  มีข้อจำกัดเยอะ     ซึ่ง  ถ้ามองง่ายๆ ว่า  ถ้ามีบริษัทสองบริษัทที่ต่างก็มีผู้บริหารที่มีความสามารถพอๆ กัน  อยู่ในธุรกิจลักษณะเดียวกัน  ปัจจัยอื่นๆ เหมือนๆ กัน  แต่ธุรกิจนึง  มีความสามารถในการจัดหา "ทุน" มาใช้ในการดำเนินการได้มากกว่าอีกบริษัท  ตรงนี้  หลายๆ ท่านที่เคยเป็นผู้บริหารกิจการคงตอบได้ชัดเจนว่า  บริษัทใด  มีโอกาสในการเจริญเติบโตมากกว่ากัน นอกจากนี้  การเปลี่ยนรูปแบบจากรัฐวิสาหกิจ  มาเป็นบริษัท  ก็ยังช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานขึ้นอีกเยอะ  ไม่ต้องไปผูกพันกับระเบียบราชการ  ระเบียบการบริหารงานบุคคล  ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่า  ไม่เอื้ออำนวยในการดำเนินธุรกิจ   การตัดสินใจที่ชักช้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง  หลายๆ ท่านคงทราบว่า  ก่อให้เกิดความได้เปรียบ เสียเปรียบ ในธุรกิจเยอะแล้ว    และในขณะเดียวกัน   ถ้ายังอยู่ในระบบรัฐวิสาหกิจ  คุณคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าใดล่ะ   จะลงทุนใดๆ  ต้องขอเป็นมติคณะรัฐมนตรีโน่น   แล้วกว่าจะได้บรรจุเข้าระเบียบวาระ  ต้องรอนานแค่ไหน สุดท้าย   อยากจะบอกว่า  การแปรรูปที่เรากำลังทำอยู่นั้น  ไม่ได้เป็นยาวิเศษ  ที่จะเปลี่ยนจากบริษัทที่ขาดทุน  ให้กลายเป็นกำไรได้   แต่มันเป็นตัวเพิ่ม "โอกาศ"  ในการบริหารกิจการให้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น   จะกำไร หรือไม่กำไร  ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายๆ อย่างประกอบกัน จากคุณ : sunsetbeach - [ 7 พ.ย. 48 19:50:51 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ++++ 5555 ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้า ปตท.ขุดเองได้ราคาต้นทุนน่าจะถูกกว่ารับซื้อมา(รวมกันแล้วต้นน่าจะลดลง) แล้วราคาขายทำไมต้องไปอิงเช้าบ้านเขา? ++++ เท่าที่ทราบมา การกู้เงินลงทนของทุกรัฐวิสาฯ รัฐบาลบาลเป็นผู้ค้ำประกัน แล้วรัฐบาลเป็นใคร รัฐบาลเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทยซึ่งก็คือของทุกๆคน แล้วคนไทย(คนกลุ่มน้อย)ก็มาปล้นไทย(คนส่วนใหญ่)กันเองใช่หรือเปล่า? ++++ ตอนที่ ปตท.ตั้งขึ้นมา ใช้การโฆษณาแบบ ปลุกจิตสำนึกให้คนไทยหันเข้ามาอุดหนุนของไทย ยามที่คนไทยทั้งชาติต้องแบกภาระในด้านพลังงาน กลับมาปล้นซ้ำเติมเพื่อโชว์ว่าตนเองมีศักยภาพทำกำไร(เพราะระบบผูกขาด) นี่คืออะไรกัน? ด้วยปัญญาอันน้อยนิดของข้าน้อยยากที่จะเข้าใจจริงๆ จากคุณ : ลุค - [ 7 พ.ย. 48 20:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ในมุมมองของผม ผมเข้าใจตามคุณ sunsetbeach นะ และรู้สึกดีที่การแปรรูปทำให้รัฐวิสาหกิจหนึ่งพัฒนาตัวเองมาได้ขนาดนี้โดยที่รัฐยังถือหุ้นใหญ่ แต่ถ้าคิดว่าปตท.ควรจะกำไรน้อย ๆ เพื่อประชาชน ผมว่าเป็นการทำลายระบบการตลาดและทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง และคนก็จะต่อว่าเหมือนต่อว่ากองทุนน้ำมัน คนที่ไม่ชอบการแปรรูปก็จะบอกว่าแปรรูปแล้วไม่เห็นมีกำไรเพิ่มเลย คือคนไม่ชอบก็ไม่ชอบตลอดกาลนั่นแหละ รัฐและกองทุนต่าง ๆ ของประชาชนถือหุ้นรวมประมาณ 70% กำไรส่วนใหญ่ก็ยังตกกับส่วนรวม ถ้าคิดเป็นเม็ดเงินก็มากกว่าแต่ก่อนแปรรูปด้วย ต่างชาติมาร่วมทุนเค้าก็ได้กำไรในส่วนที่ควรจะได้ไป ถ้าเราจะเอาเงินต่างชาติโดยไม่ตอบแทนเขาตามกลไกที่ยุติธรรมในระบบทุนนิยม แล้วเราจะมีเครดิตในสังคมโลกได้อย่างไร? จากคุณ : ขุนอิน - [ 7 พ.ย. 48 20:27:26 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาตอบแล้ว มีหลากหลายประเด็นมากตอนนี้ ไล่ประเด็นกันก่อนล่ะกัน 1. แปรรูปดีหรือไม่ 2. ประโยชน์ของการแปรรูป 3. ผลประโยชน์ที่ได้ก่อนและหลังแปรรูป แปรรูปนั้น ถ้าเป็นกิจการที่สามารถแข่งขันกันได้ เปิดให้เอกชนเข้ามาแข่งขันนั้น แปรรูปไปเถอะ ไม่มีใครเข้าว่า เพราะประโยชน์มันเกิดกับประชาชน ไม่มีใครฮั้วราคากันได้ แต่ถ้าเป็นกิจการที่ผูกขาดแล้วนำมาแปรรูป มันก็ผูกขาดต่อไป ขึ้นราคาไม่เป็นไปตามตลาด แสวงหาแต่กำไรให้มากที่สุด ให้แกผู้ถือหุ้น ใช่ไหม การที่กู้ยืมเงินแล้วเป็นหนี้สาธารณะนั้น ของถามหน่อยว่า การที่PTTกู้เอาเงินมาทำท่อส่งก๊าซนั้น ไม่เห็นออกมาเป็นรูปหุ้นกู้ด้อยสิทธิหรือหุ้นกู้ประเภทอื่นเลย ยังกู้แบบเดิมอยู่ ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ค้ำประกันมูลหนี้ให้ ใช่ไหมอ่ะ แล้วต่อด้วยเรื่องที่ ทำไมต้องสร้างท่อส่งก๊าซท่อที่สามเสร็จก่อนถึงจะลดราคาก๊าซได้ โดนทั่วไปยิ่งใช้มากต้องยิ่งถูก ยิ่งมีกำลังซื้อมาเท่าไร จะกดราคาขายได้มากเท่านั้นไม่ใช่หรือ ยิ่งตอนนี้ ผู้ใช้ท่อก๊าซรายใหญ่คือใครล่ะ หาดูกันได้เลย สุดท้าย ผลประโยชน์ที่ได้รับคือเงินปันผล แต่เงินปันผลหลังจากแปรรูปนั้นได้เข้ากระเป๋าคนอื่นด้วย ซึ่งต่างชาติหรือคนไทยก็ได้ แต่ถ้าไม่แปรรูปเอาเงินเข้าคลังอย่างเดียว อะไรจะดีกว่ากันอ่ะ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 7 พ.ย. 48 22:55:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 เอ  ผมก็เห็น ปตท.  ออกหุ้นกู้มาหลายครั้งแล้วนะครับ นี่เอามาจาก http://www.thaibond.com/MarketNewsDetail.aspx?headline=2487 Headlines : หุ้นกู้ PTTC125A, PTTC165A และ PTTC195A จะขึ้นทะเบียนกับศูนย์ซื้อขายฯ     Date : 07/06/04 11:02   หุ้นกู้ PTTC125A, PTTC165A และ PTTC195A จะขึ้นทะเบียนกับศูนย์ซื้อขายฯ ในวันที่ 9 มิ.ย. 47 นี้: หุ้นกู้ PTTC125A, PTTC165A และ PTTC195A ออกโดยบมจ. ปตท. เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 47 โดยจะถูกนำมาขึ้นทะเบียนกับศูนย์ซื้อขายฯ ในวันที่ 9 มิ.ย. 47 นี้   หุ้นกู้ PTTC125A เป็นหุ้นกู้ชนิดชำระคืนเงินต้นครั้งเดียว ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน มูลค่า 15,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2012 ด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบตายตัว ร้อยละ 4.25 ต่อปี สำหรับ 4 ปีแรก และที่อัตราร้อยละ 5.75 ต่อปี สำหรับปีที่เหลือ โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน (20/5,20/11).   หุ้นกู้ PTTC165A เป็นหุ้นกู้ชนิดชำระคืนเงินต้นครั้งเดียว ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน มูลค่า  3,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2016 ด้วยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.00 ต่อปี สำหรับ 6 ปีแรก และที่อัตราร้อยละ 5.95 ต่อปี สำหรับปีที่เหลือ โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน (20/5,20/11).   หุ้นกู้ PTTC125A เป็นหุ้นกู้ชนิดชำระคืนเงินต้นครั้งเดียว ณ วันครบกำหนดไถ่ถอน มูลค่า 15,000 ล้านบาท ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2019 ที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5.90 ต่อปี โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน (20/5,20/11).   มีธ. ไทยพาณิชย์ จก. (มหาชน), ธ. กรุงเทพ จก. (มหาชน) และ ธ. กสิกรไทย จก. (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และนายทะเบียนหุ้นกู้คือ ไทยพาณิชย์ จก. (มหาชน) จากคุณ : sunsetbeach - [ 8 พ.ย. 48 00:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 27 คุณ sunsetbeach แต่ละความเห็นแสดงได้เยี่ยมมากครับ ขอคารวะในวุฒิภาวะ ความรอบรู้ และวิสัยทัศน์เยี่ยงนักบริหารที่ดี มีคนอย่างนี้ในองค์กรไหนองค์กรนั้นโชคดีครับ สุดท้ายแฮ่มมม...กระบวนการคิดแบบคุณsunsetbeachที่เอาข้อมูลข้อเท็จจริงเป็นเกณฑ์ในการวิเคราะห์ ไม่เอนเอียงด้วยอคติรักชอบชังแบบนี้เล่นหุ้นโอกาสกำไรมากกว่าขาดทุนนะครับ ผมว่านะ : ) + จากคุณ : ทำดีได้ดี - [ 8 พ.ย. 48 01:45:51 A:58.10.215.114 X: TicketID:001768 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เข้ามาขอบคุณทุกๆความเห็นครับ ทุกๆท่านได้ช่วยกันให้ข้อมูลและแนวความคิดเห็นแบบไม่ลำเอียงหรือใช้อารมณ์ ทำให้กระทู้นี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่นๆที่เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : c-sar-salad - [ 8 พ.ย. 48 12:25:11 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ข้อมูลมายืนยัน แต่สงสัยต่อหุ้นกู้แต่ละชุดหารายละเอียดได้จากไหนอ่ะ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 8 พ.ย. 48 16:05:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 อันนี้เอามาจาก Form 56-1 สิ้นปี 47 นะครับ มีแต่ยอดรวม จากคุณ : sunsetbeach - [ 8 พ.ย. 48 16:50:10 ]

ความคิดเห็นที่ 31 อันนี้เป็นรายชื่อตราสารหนี้ทั้งหมด เลื่อไปตรง PTT นะครับ http://www.thaibond.com/retailinvest/thaiBondList.aspx?sabbr=P โดยสมัยที่ยังเป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย  จะออกเป็นพันธบัตร แต่หลังจากแปรรูปแล้วจะเป็นหุ้นกู้แทน รายละเอียดเท่าที่มีบอกไว้แต่อัตราดอกเบี้ย พันธบัตร  สมัยเป็น การปิโตรเลียม http://www.thaibond.com/bond_info/Searchbond.aspx?bondtype=<>&sector=Energy&instid=128 หุ้นกู้  หลังจากแปรรูปแล้ว http://www.thaibond.com/bond_info/Searchbond.aspx?bondtype==&sector=Energy&instid=301 แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 48 17:02:46 จากคุณ : sunsetbeach - [ 8 พ.ย. 48 17:02:13 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นของผมนะ - คนไทยนี่ แปลก เห็นบริษัทเติบโต กำไรมาก แล้ว ด่า แทนที่อยากเห็นบริษัทเหล่านั้น เติบโต ไปสู้กับ Shell, ExxonMobil, BP ได้ ผมไม่เข้าใจ - คนไทย แปลกเช่นกัน ถ้า Nominee เป็นของต่างชาติแล้วไป ถ้าเป็นของคนไทย กลับคิดว่า ขี้โกง อย่างนั้นอย่างนี้ - คนไทย คิดว่า มีแต่กลุ่มทุนทางการเมืองเท่านั้นที่สามารถซื้อหุ้น ปตท ได้ ถ้าไม่มีอำนาจ ไม่ได้แตะหรอก ขอโทษทีครับ ปตทนี่ ราคา IPO หลุดจองลงมากี่เดือน วนเวียนแถวๆ 29-40 อยู่นานเป็นปี มีใครติดป้ายห้ามซื้อเหรอครับ ผลดีของการแปรรูปที่สำคัญที่สุด - การที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ไม่ต้องค้ำประกันให้ ปตท เวลารัฐค้ำประกัน ต้องกันงบประมาณออกมา จากคุณ : -tai- - [ 8 พ.ย. 48 20:15:06 ]

ความคิดเห็นที่ 33 คนไทย แปลกเช่นกัน ถ้า Nominee เป็นของต่างชาติแล้วไป ถ้าเป็นของคนไทย กลับคิดว่า ขี้โกง อย่างนั้นอย่างนี้ <--- คิดหน่อยว่า ทำไมเขาถึงไม่เปิดเผยล่ะ กลัวอะไรหรือเปล่า logicหน่อย คนไทยนี่ แปลก เห็นบริษัทเติบโต กำไรมาก แล้ว ด่า แทนที่อยากเห็นบริษัทเหล่านั้น เติบโต ไปสู้กับ Shell, ExxonMobil, BP ได้ ผมไม่เข้าใจ<---ขอประทานโทษ บริษัทมันแสวงหากำไรสูงสุดใช่ไหม แล้วบริษัทพวกนั้นของต่างชาติ ทำไมเราไม่เอารัฐวิสาหกิจเป็นผู้นำในการลงราคาน้ำมันลง ทำไมต้องรอคนอื่นลดราคาก่อนแล้วลดตามล่ะ logicหน่อย ถ้าช่วยเหลือประชาชนจริงมันต้องประกาศมาตั้งนานแล้ว เพราะราคามันลงไปไหนต่อไหน เพิ่งจะมาประกาศกัน จริงไหม การที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง ไม่ต้องค้ำประกันให้ ปตท เวลารัฐค้ำประกัน ต้องกันงบประมาณออกมา <--อันนี้ไม่เถียง แต่ตอนเกิดวิกฤติเขาดูโดนรวมว่า หนี้พวกนี้เกิดจากใคร แล้วทั้งประเทศมีหนี้อยู่เท่าไรใช่ไหมอ่ะ ถ้าหากไม่มีเงินหนุนหลัง แล้วก็เป็นมหากาพย์แบบTPIใช่หรือเปล่า คนไทย คิดว่า มีแต่กลุ่มทุนทางการเมืองเท่านั้นที่สามารถซื้อหุ้น ปตท ได้ ถ้าไม่มีอำนาจ ไม่ได้แตะหรอก ขอโทษทีครับ ปตทนี่ ราคา IPO หลุดจองลงมากี่เดือน วนเวียนแถวๆ 29-40 อยู่นานเป็นปี มีใครติดป้ายห้ามซื้อเหรอครับ <---เอ๋ไม่ทราบว่าช่วงนั้นมีข่าวเรื่องน้ำมัน  ออกมาบอกว่า ราคามันไปจะไปไม่ถึง 10 เหรียญใช่หรือเปล่า เปิดดูได้เลย ช่วงนั้นจำได้ว่าราคาน้ำมันในเมืองไทย ไม่เกิน 8 บาท ใช่ไหม แล้วธุรกิจของPTTเริ่มต้นนั้นเป็น ธุรกิจน้ำมันอย่างเดียว ยังไม่มีปลายน้ำเหมือนปัจจุบัน ณ ตอนนี้(ยังไม่เอาTPIมาคุยด้วย) ยังเป็นรอ SCCที่ไม่มีโรงกลั่นใช่หรือไม่ ปล เห็นคุณtaiออกมาหลายรอบแล้ว งงจังเลย เข้าข้างแต่PTT เปิดใจคิดอีกด้านด้วยซิ ถึงขนาดเราไม่มีหุ้น แต่PTTทำแบบนี้ มันทำให้เป็นการเร่งให้เกิดเงินเฟ้อมากขึ้น ใช่ไหมอ่ะ มันต้องเอาPTTมาใช้ในการลดราคาน้ำมันถ้าราคามันลงใช่ไหม จะได้ไม่มีปัญหาค่าสินค้าขึ้น ทำให้ค่าครองชีพเพิ่ม นำไปสู่การเพิ่มค่าแรง ซึ่งเป็นต้นทุนสินค้าอีก สินค้าเพิ่มอีก เป็นแบบนี้หมุนไม่หยุดเลย มองดีๆๆซิ จากคุณ : Myth&Miracle - [ 10 พ.ย. 48 00:03:31 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาตอบคุณ tai ไม่ได้หาเรื่องนะแค่เล่าประสบการณ์ให้ฟัง ผมมีรุ่นพี่คนหนึ่งด่าเรื่องปตท.อย่างรุนแรงให้ผมฟังจนเบื่อ เค้าเป็นคนเล่นหุ้นมานาน ได้หุ้นจองปตท.ที่ 35 บาท เค้าด่าเรื่องปตท.กำไรมากนี่แหละ สุดท้ายก็พูดมาว่า "เจ็บใจนักโดนทักษิณหลอก ขายหุ้นทิ้งไปตอน 40 บาท ดูราคาตอนนี้สิ ไอ้พวกนักการเมืองที่รู้ข้อมูลวงในรวยกันเละ" ผมก็เลยถึงบางอ้อว่าเค้าเกลียดเพราะอะไร จากคุณ : ขุนอิน - [ 10 พ.ย. 48 20:21:42 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณ ข้อมูลดีๆ ของทุกท่านนะครับ ที่มาช่วยประกอบเป็นองค์ความคิดได้อย่างดีเหรียญมันมี สองด้านเสมอครับ จากคุณ : คนเดินถนน - [ 12 พ.ย. 48 18:23:08 A:61.91.81.231 X: TicketID:111057 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณด้วยครับ อยากถามเรื่องกำไรด้วยว่า อย่างไหนจะนำเงินเข้ารัฐมากกว่ากันระหว่างก่อนแปรรูปกับหลังแปรรูป น่าจะมีข้อมูลมาคุยกันมากกว่าสมมุติฐานที่ผมอยากจะพูดข้างล่าง ส่วนตัวยังไงก็คิดว่าก่อนแปรรูปเงินที่เข้ารัฐมันไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะมีญาติทำงานรัฐวิสาหกิจหลายคน เลยพอจะเข้าใจธรรมชาติตรงนี้ แต่คิดว่าหลังแปรรูปมันน่าจะเป็นจำนวนเงินที่เป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 09:31:36 จากคุณ : รักหวานในวันวาน - [ 13 พ.ย. 48 09:30:57 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ผมมองอีกมุมนะครับ ซึ่งคนส่วนใหญ่มองข้าม การทำกำไร   ทำจากต้นทุนคือ   ธรรมชาติ  ไม่ว่าจะเป็น  ก๊าซธรรมชาติ   พลังงานน้ำ   ถ่านหิน  ใช้แล้วหมด  ต้นทุนสิ่งแวดล้อมที่กำลังเน่าเข้าทุกที ไม่พอต้องไปเอาจากต่างประเทศมาใช้อีกมาสนอง        บริโภคนิยม   สงสารลูกหลานในอนาคตจริงๆ   ปู่ ย่า ตายาย บริโภคทรัพยากรจนเกลี้ยง  แถมถุยสิ่งโสโครกไว้ให้อีกต่างหาก ดูจากประมุขของพววกเรา   อายุกว่า 80  แล้ว ท่านคงมองเห็นอะไรบางอย่าง    จึงแนะนำเศรษฐกิจพอเพียง  เป็นคำตอบ เพื่อโลก   เพื่อลูกหลาน  และเพื่อเราทุกคน กระแสทุนนิยมอันเชี่ยวกราก  ทุนนิยมเป็นพลังขับเคลื่อน เรือลำน้อยๆ พายต้านยากจะทานไหว นึกถึงตอนเลี้ยงแมลงหวี่กับกล้วยหอมในสิ่งแวดล้อมแบบปิดทุกทีเลย จากคุณ : คนเมล่อ - [ 13 พ.ย. 48 17:04:34 ]

ความคิดเห็นที่ 38 โหวตกระทู้นี้ครับ ชื่นชมคุณ sunsetbeach ด้วยครับ จากคุณ : NiceBenz - [ 16 พ.ย. 48 15:51:57 ]

ความคิดเห็นที่ 39 คนไทยได้หน้า ฝรั่งมังค่าได้เงิน จากคุณ : ศุกร์ที่3 - [ 16 พ.ย. 48 18:56:38 ]