ความคิดเห็นที่ 1 โบรกไหนครับ ช่วยบอกหน่อยครับ จากคุณ : สักวันเราคงจะรู้จักกัน - [ 12 พ.ย. 48 15:45:58 ]

ความคิดเห็นที่ 2 โบรกกิมเอ็งครับผม จากคุณ : samsam - [ 12 พ.ย. 48 15:47:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ดีครับ จะได้ยกเลิกของผมไปซะ จากคุณ : TeeYai - [ 12 พ.ย. 48 16:11:02 A:210.86.156.205 X: TicketID:104600 ]

ความคิดเห็นที่ 4 กิมเอ็ง = กินเอ็ง  ทำไปได้  หุ หุ จากคุณ : ZORO_007 - [ 12 พ.ย. 48 16:12:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 -*- จากคุณ : Qoo ซัง - [ 12 พ.ย. 48 16:17:40 ]

ความคิดเห็นที่ 6 โบร๊กใหญ่ทำแบบนี้ คนจะค่อยๆหนีจากโบร๊กใหญ่ไปหาโบร๊กเล็ก อีกหน่อยโบร๊กเล็กก็จะค่อยๆ ใหญ่ โบร๊กใหญ่ก็จะค่อยๆเล็ก จนเหลือแต่โบร๊กกลางๆ อิอิ จากคุณ : Livestock - [ 12 พ.ย. 48 16:26:34 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คือว่า มีนักลงทุนอยู่ 3 พวก ที่ทางโบรกน่าจะส่งจดหมายไปแจ้ง ขออนุญาติปิดบัญชีไปเลยแทนบอกว่าจะเก็บเงิน 1  แรกๆก็ซื้อขายอยู่ แต่ต่อมา ติดหุ้นจนเงินหมด ไม่มีปัญญาหาเงินมาเล่นต่อแล้ว  ก็เลยหายตัวไปเฉยๆเกิน 1 ปี  ปล่อยหุ้นเน่าๆไว้คาพอร์ตให้โบรกดูแล   2  เพื่อเอาใบหุ้นที่ไปเข้าแถวจองมาไปเก็บไว้ในบัญชี  พอขายได้แล้ว ก็หายจ้อย  นานเกิน 1 ปี  รอจนกว่าจะจองหุ้นได้ใหม่ เช่น ตอนนี้รอ กฟผ  แล้วค่อยโผล่มาขายอีกที 3  เพื่อนหรือฝ่ายขายมาชวนเปิด เปิดแล้วไม่เคยสั่งซื้อขาย จากคุณ : prettypetite - [ 12 พ.ย. 48 17:08:55 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ปกติแล้วถ้าไม่มีหุ้นคงเหลือในบัญชี จะไม่เก็บค่ารักษาฯ อยู่แล้วค่ะ   แต่ในกรณีทีมีหุ้นคงเหลือ Broker จะมีต้นทุนในการฝากใบหุ้นลูกค้าที่ ศูนย์ และต้อง ส่ง statement ให้ลูกค้าตลอด จึงมีต้นทุนการดำเนินการ และการส่งจดหมายค่ะ จากคุณ : coffee cake - [ 12 พ.ย. 48 17:13:29 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อืมมม  คุณ # 8 เป็นมาร์รึเปล่าครับ   ใครเป็นมาร์ก็ออกมาชี้แจงหน่อย ว่าจริงอย่างคุณ 8 ว่ารึเปล่า ถ้าทิ้งไว้ มาร์เราเอาไปทำประโยชน์อะไรได้มั่ง  ควรปิด หรือ ปล่อยทิ้งไว้ต่อไป   เคยได้ยินว่า กินเอ็ง มีบัญชี ทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ แบบนี้เยอะ   แบบว่า มีแต่คนชอบโปรแกรม  แต่เกลียดมาร์ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ย. 48 17:57:10 จากคุณ : สักวันเราคงจะรู้จักกัน - [ 12 พ.ย. 48 17:56:18 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอ๋ ถ้าแบบนั้น ขอถามเพิ่มเติมนิดหน่อย ถ้ากรณีที่ ซื้อหุ้นไว้แล้วไม่ได้เทรดเลย เล่นแบบเดียวกับบัฟเฟตเล่น แบบนั้นถ้าเขาปิดเรา อะไรจะเกิดขึ้นอ่ะ อีกอย่างใช้คำว่าลงทุน ไม่ได้ใช้ว่าเล่นหุ้น ถ้าลงทุน บ้างคน ลงทุนเป็นระยะยาวมาก ซื้อแล้วติดดอย รอมันขึ้นมา เป็นสิบปี ยี่สิบปี ถ้าบริษัทนั้นยังอยู่ในตลาด เขาจะทำไงล่ะ คิดให้มันดีๆๆ หลายๆๆด้านล่ะกัน จากคุณ : Myth&Miracle - [ 12 พ.ย. 48 20:04:57 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 12 พ.ย. 48 22:22:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เอ....ผมสงสัยกรณีที่ โบรกเกอร์มีรูมที่จำกัด แล้วลูกค้าบางคนเอาหุ้นไปวางไว้ แต่ไม่เล่น มันก็ทำให้ port เต็ม ไม่สามารถให้คนอื่นๆ เข้าไปเล่นหุ้นตัวนั้นได้ แบบนี้นอกจาก broker จะเสียโอกาส แถมยังต้องมีภาระอีกหรือเปล่า เลยทำให้ต้องมาเก็บเงิน เพื่อที่คนที่ไม่คิดจะเล่น แต่เอามาวางไว้ จะได้ถอนไปเพื่อให้คนอื่นๆ เข้ามาเล่น หุ้นตัวนั้นๆ ได้ หรือเปล่า ? จากคุณ : แมวหลงทาง - [ 12 พ.ย. 48 23:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 13 มาเติมข้อมูลให้ต่อ ว่าตลาดหลักทรัพย์นั้น เน้นเรื่องบัญชีพวกนี้มากนักหรือเปล่า เห็นว่า เป็นพวกบัญชีเคลื่อนไหวเท่าไร ไม่เคลื่อนไหวเท่าไร แต่ ไม่เห็นบอกว่าจะเรียกร้องเก็บค่าดูและ เหมือนกรณีธนาคาร ซึ่ง ถ้าผลประโยชน์แก่นักลงทุน คือไม่ต้องพลักภาระให้มากเกินไป คือ ไม่ต้องเก็บค่าดูแลสำหรับคนที่มีหุ้นในport ซึ่งเป็นพวกที่ซื้อขายน้อยครั้ง พวกนี้ก็เป็นพวกนี้marketingไม่ค่อยดูแลอยู่แล้ว ยังจะต้องไปเก็บเงินกับพวกเขาอีกหรือ คิดดูให้ดีล่ะ จะได้ไม่คุ้มเสีย จากคุณ : Myth&Miracle - [ 13 พ.ย. 48 01:36:49 ]

ความคิดเห็นที่ 14 Kimeng.....ผมเองไม่มีหุ้นค้างไว้ เช่นกันครับ แต่เขาก็ ยังส่งจดหมาย มาให้  และ ไม่มี หมายเหตุ พิเศษ แต่อย่างไร  เลยครับ ตอนแรก ที่เปิดไว้ เมื่อ ห้าปีก่อน  ก็ มี เทรด กับ เขา  สัก ห้ารายการเองครับ แล้วก็ ไม่ได้เทรดอีกเลย  พอร์ท ไม่มีหุ้น เหลือเลยครับ จากคุณ : samsam - [ 13 พ.ย. 48 09:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอสรุปรวมๆ ดังนี้ค่ะ ข้อเท็จจริงก็คือ Broker มีต้นทุนในการเก็บรักษาใบหุ้นของลูกค้า  แต่การที่ Broker จะเรียกเก็บจากลูกค้าหรือไม่นั้น ก็แล้วแต่นโยบาย ในกรณีที่ลูกค้ามีหุ้นค้างอยู่ในบัญชี ไม่ว่าในกรณีใด Broker ไม่สามารถปิดบัญชีนั้นได้ และกฎเกณฑ์ ก็กำหนดให้ Broker ต้อง ส่ง statement ให้ลูกค้าทุกสิ้นเดือน แนะนำว่า ถ้ามีหุ้น แต่ไม่มีรายการซื้อขาย ก็ควรดู statement ทุกเดือน  เพื่อให้แน่ใจว่า หุ้นยังอยู่ครบ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง  หากเกิดผิดพลาด ก็ต้องแจ้ง back office ทันทีค่ะ สำหรับบัญชีลูกค้าที่ไม่มีหุ้นอยู่นั้น Broker บางแห่ง ก็จะส่งข่าวสารให้ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับการกลับมาซื้อขายใหม่  ในกรณีนี้จะไม่ส่ง statement เพราะไม่มีรายการซื้อขาย และ ไม่มีหุ้น  ลูกค้าก็ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาบัญชี  แต่ Broker อาจพิจารณาปิดก็ได้ แล้วแต่นโยบายเช่นกัน การปิดบัญชีก็ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์ ให้กับลูกค้าทราบ ทางไปรษณีย์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 12:11:33 จากคุณ : coffee cake - [ 13 พ.ย. 48 12:10:09 ]

ความคิดเห็นที่ 16 K. coffee cake ขอบคุณสำหรับคำอธิบายครับ รรรรรร ทางกิมเอ็ง ไม่เคยส่งข่าวสารใดๆ  ให้ เลย แม้แต่ครั้งเดียวครับ ส่วน  statment ไม่มีการส่ง เพราะ ไม่มีหุ้นคงเหลือตามที่คุณกล่าวไว้ครับ ส่วนล่าสุด ก็ ส่งเอกสาร เรื่องจะเก็บ ค่ารักษาบัญชีตามข้างต้นครับ จากคุณ : samsam - [ 13 พ.ย. 48 12:59:48 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ครั้งแรกเมื่อเปิดจดหมายแทบจะอยากถอนหุ้นไปเข้า ACS  หนอยแน่ะตูเสียค่าคอม ฯ ไปหลายเงิน  หุ้นมันตกก็ เก็บแช่ไว้ ไม่ขายไม่ขาดทุน  ........อิ......อิ....เพราะขาย มาก็เข้าบัญชีธนาคาร ดอกเบี้ยได้ไม่มาก ทิ้งไว้อาจจะได้ มากกว่า  แต่มาดูก็ไม่ได้หยุดซื้อขายเกินหนึ่งปี  เขาคง แจ้งมันไปทั่วไม่ได้คัดแยก  จึงต้องเย็นไว้..... แหะ .......   แหะ..........นึกถึง UBC  ได้รับ บัตร PLATINUM มาเลยโทร.ไปแจ้ง Call Center  ขอเปลี่ยน บัตรมาใช้ Platinum เพราะเลิกใช้บัตรเก่า  เจ้าหน้าที่รับ เรื่องว่า ได้ส่งไปธนาคารแล้วแต่ไม่เป็นไร  เมื่อธนาคาร ตอบกลับมาไม่อนุมัติก็จะส่งไปให้ใหม่โดยให้หักจาก Platinum ไม่มีการปรับหรือระงับบริการ   ต่อมากลับได้รับ จดหมายแจ้งว่า บัตรเครดิตไม่ผ่าน (ซึ่งก็แน่นอนเพราะผม ระงับใช้แล้ว)  ให้ผมเอาเงินเข้าบัญชีภายใน  ๒๕ พย. ๔๘  มิฉะนั้นจะระงับบริการและจะต้องเสียเงินในการเปิด สัญญาณใหม่อีกด้วย  ผมสุดเซ็งชะมัด  โมโหพิมพ์ email ถึง UBC ยกเลิกเป็นสมาชิกมันเสียเลย ประหยัดไปปีละ 21,513.84 บาท  ผมนั้นแทบไม่ได้ดูเลย  หนังที่เอามา ฉายก็เก่า ๆ ฟุตบอลล์ผมก็ไม่ดู  ที่ยังรับอยู่เพราะที่บ้านมี อยู่ห้องหนึ่งมันรับช่องสามไม่ได้ (สำคัญคนในห้องนั้นดูช่องสาม) พิมพ์เสร็จส่งไม่ ได้เพราะที่ยูบีซี เซิฟเวอร์เสียรับ email ไม่ได้ เป็นเสียอย่างนั้น ผ่านไปหนึ่งวันก็เกิด positive thinking (เดาะภาษาอังกฤษตามท่านผู้นำซะ หน่อย)   ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ก็เพราะพนักงานของ UBC  "ชุ่ย" ทำงานไม่ ประสานกัน ผมไปโทษบริษัทก็คงจะไม่ถูกต้องทีเดียว  เล่ามาเสียยาว  ในกรณีกิม เอ็งก็คงเช่นกัน           อย่างไรก็ตามผมก็คงจะตั้งขายหุ้นลูกเดียวไม่ซื้อผ่านเขา  หุ้นหมดหรือ เหลือน้อยก็คงปิดบัญชี  แต่ก็ประหลาดมีอยู่  Broker หนึ่งไม่ได้ซื้อขายมาเป็น ปี ๆ และไม่มีหุ้นในบัญชีเลย  ขอปิด พนักงานบอก"ไม่เป็นไร เพ่ " แก้ไขเมื่อ 13 พ.ย. 48 13:24:15 จากคุณ : jinvet - [ 13 พ.ย. 48 13:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 18 K. jinvet จริงเช่นที่คุณกล่าวไว้ครับ หากบัญชีไหน ที่ เราไม่ได้ใช้ แล้ว เขาจะเก็บเงินจากเรา  เราก็ ต้องพิจารณาว่า จะปิดทิ้งหรือไม่ครับ ส่วนอีก หลายๆ โบรก  ก็ เช่นที่คุณว่า เช่นกัน จะปิด เขาก็ บอกว่า  อย่าปิดเลยครับ   ไม่มี ค่ารักษาบัญชีแต่อย่างใด ๕๕๕๕๕๕ จากคุณ : samsam - [ 13 พ.ย. 48 13:49:25 ]

ความคิดเห็นที่ 19 เล่นตั้งยาว บอกกันไม่หมด แต่จะว่าไป เมื่อมีผู้นำมันต้องมีผู้ตามอยู่แล้ว เดี๋ยวจะมีโบรกอื่นๆๆทำตาม งานนี้บ่นกันล่ะกัน จากคุณ : Myth&Miracle - [ 13 พ.ย. 48 15:31:13 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ Poems เขามีวิธีเก็บเงินคือ ครั้งแรก  ต้องเอาเงินสดไปเข้าบัญชีเขาไว้ ตามมูลค่าหุ้นที่เราจะซื้อ เขาให้ดอกเบี้ยนิดเดียว เวลาซื้อจ่ายต่างหากนะ   ถ้ามีการซื้อขายตามกฎเกณฑ์  ก็ดูบทวิเคราะห์ได้ฟรี  ถ้าไม่ซื้อขาย ก็ต้องจ่ายเงินค่าดู  เลยไม่เก็บเงินค่ารักษา จากคุณ : prettypetite - [ 13 พ.ย. 48 17:55:17 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนที่อื่นๆ อย่าง กิมเอ็ง เวลาเราเปิดบัญชีแล้ว เราก็ดูทุกๆอย่างได้ฟรีไม่จำกัด  เราขอรับข่าวสารบทวิเคราะห์ onlineได้ เขาจะส่งมาให้ที่ตู้เมล์เราทุกวัน   คนที่ไปเปิดบัญชีไว้เฉยๆ ไม่ซื้อไม่ขาย โบรกเขาก็มีค่าใช้จ่ายอยู่ดี  ถ้าไม่มีหุ้น พอครบครึ่งปี ต้องส่ง statement มาแจ้งอยู่ดี   แต่สำหรับคนที่วางมัดจำ 10% ไว้ เท่ากับให้เงินโบรกไปหมุนดอกเบี้ยต่ำ อย่างนี้ ไม่น่าไปเก็บเขา หลายคน ทั้งใช้โปรแกรม ดูบทวิเคราะห์เขา แต่สั่งซื้อขายที่อื่น เท่านี้ไม่เป็นไร แต่บางคน ไปนั่งประจำในห้องค้า ยึดเครื่องคอมไว้ดูส่วนตัว แล้วยังจะหวงคนที่ซื้อขายประจำ นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าที่นานมากๆจะซื้อขายที มานั่งเล่น คุยกับเพื่อน ดื่มกาแฟฟรี ใช้โทรศัพท์ฟรี   เพราะฉะนั้น ค่าใช้จ่ายโบรก จึงไม่ได้อยู่ที่แค่ ดูแลบัญชีเพียงอย่างเดียว แต่เขาไม่รู้ว่าจะใช้คำว่าอะไรดีกว่านี้ จากคุณ : prettypetite - [ 13 พ.ย. 48 18:48:30 ]

ความคิดเห็นที่ 22 P. Pretty ขอบคุณสำหรับข้อมูล ครับ จากคุณ : samsam - [ 14 พ.ย. 48 11:20:15 ]