ความคิดเห็นที่ 1 ลุงอยากเหล้า   ฉบับ ปรับปรุง ใหม่ (เรียบเรียงเพื่อให้อ่านง่าย) กระทู้นี้  ได้ตั้งกระทู้เมื่อ   30 มกราคม  2545   เวลา 13.42  น.   ขอนำกระทู้ประวัติเก่า ตามประสาคนชอบเก็บ มาเล่าสู่กันฟัง  เผื่อท่านที่เพิ่งเป็นนักลงทุนใหม่ จะได้รับทราบด้วย จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 15 พ.ย. 48 21:15:37 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนที่ 1 .. หัวข้อกระทู้ ”ลุงอยากเหล้า......เฮ้ย..!! อยากเล่า อยากเล่า...เพราะมันอยากเล่า” เอ้ออออ....(ยักแย่ยักยัน งก ๆ เงิ้น สั่นนิด ๆ) คนแก่นะขยับทีมันก็ลำบากโว้ย.. . คนแก่แล้วก็อยากจะเล่าโน้นเล่านี้ให้คนรุ่นใหม่ได้ฟัง ได้รู้ โดยเฉพาะเรื่องในอดีต และเป็นอดีตที่เกี่ยวกับหุ้นด้วย ฮ่ะๆๆมันเล่าได้รื่นหูว่ะ...... ลุงย้อนอดีตพอจำได้ ตั้งแต่ลาดหุ้นเริ่มก่อตั้ง เมื่อ วันที่ 30 เมษายน 2518 โน่นแน่ะ. .มีหุ้นจดทะเบียน 16 ตัว ดัชนีอยู่ที่ 100 จุด ปี 2519 เป็นปีที่ดัชนีต่ำสุด เหลือแค่ 76.44 จุดว่ะ..... ตลาดหุ้นมันมาบูมยุคแรกก็ตอนปี 2520-2521 เพราะเศรษฐกิจขยายตัว ถึง 10.4% ดัชนีเลยพุ่งขึ้นถึง 257.73 จุดเลยว่ะ:-)เอ่ย.....แต่ไม่นานก็ตกม้าตาย เพราะปี 2522 เกิดความไม่สงบขึ้นตามชายแดนไทยแถบอินโดจีน จีนก็ทำสงครามกับ เวียตนาม หลานเอ๋ย คนเล่นหุ้นยุคนั้นก็ตกใจเป็นเหมือนกันขายหุ้นกันจ้าล่ะหวั่นว่ะ.. . จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 15 พ.ย. 48 21:16:53 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ทำให้ บง.ราชาเงินทุน ที่เป็นหุ้นยอดฮิตโดนพักการซื้อขายไปเลย ..... แล้วต่อมา ราชาเงินทุนก็ถูกเพิกถอนใบอนุญาต. . หุ้นเลยหล่นระเนระนาด คนเล่นหุ้นสมัยนั้นถึงกับเข้าโรงพยาบาลบ้าไปหลายคนทีเดียวล่ะ... . ตลาดหุ้นบ้านเราก็เลยเกิดอาการซึมกระทือตั้งแต่ปี 2522 เป็นต้นมา .. จนถึงปี 2525 ตลาดหุ้นของเราก็เริ่มฟื้นตัวได้อีกรอบหนึ่ง . เพราะเศรษฐกิจโลกมันดีขึ้น น้ำมันถูกลง ดอกเบี้ยต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม ..ประเทศไทยเรายังเกิดความหวาดหวั่นวิตก เรื่อง ดุลการค้า จึงเป็นเหตุให้ลดค่าเงินบาท และมีปัญหาเกี่ยวกับเงินทุน 3 แห่งขาดสภาพคล่อง .. แต่พอมาปี 2527 นี่ซิ หลานเอ้ย ....แนวโน้มตลาดหุ้นดีขึ้นเรื่อย ๆ ว่ะ เพราะมีเม็ดเงินต่างชาติมันเข้า เนื่องจากพวกต่างชาติมันมั่นใจว่ะ เรามี พ.ร.บ ตลาดหลักทรัพย์ฉบับที่ 2 เอื้อแก่ต่างชาติมากขึ้น ดัชนีตลาดเล่นกันอยู่แถว 142. จุด... . จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 15 พ.ย. 48 21:17:48 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มาปี2530 ดัชนี เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม 2530 มาอยู่ที 472.86 จุด เฮ้อแต่ ...น่าเสียดายว่ะ .. เพราะพอวันจันทร์ที่ 19 ตุลา 2530 เราก็เจอ BLACK MONDAY เข้าจังเบ่อเร้อ . ดัชนีหล่นวูบต่ำสุดเหลือ 243.97 ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน(2530)....... แต่ที่สุดมันก็เงยหัวได้อย่างรวดเร็วว่ะ.. .. ปี 2532 ดัชนีพุ่งขึ้นไป 879 จุด โอ้โฮ ..โว้ย ..ช่วงนี้เศรษฐีใหม่เกิดขึ้นในตลาดอื้อเชียวล่ะ พอมาปี 2533 รัฐบาลไทยก็ประกาศยอมรับพันธะ ข้อ 8 ของ IMF เปิดเสรีทางการเงิน ทำให้เงินทุนหมุนเวียนเข้าออกได้เร็วขึ้น.... มาปี 2537 ดัชนีหุ้นพุ่งขึ้นไปถึง 1700 จุดโน่น....แน่ะ สุดท้าย ก้อ พองสบู่แตกว่ะ จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 15 พ.ย. 48 21:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 5 จนมาถึงปี 2545 นี่ล่ะโว้ยหลานเอ๋ย ดัชนีมันก็เหลือแค่เนี่ยะ 339.49 จุด ณ เวลา 13.42 ของวันที่ 30 มกราคม 2545 กาลจะเป็นเช่นใดดูกันต่อไปนะ.... ลุงขอตัวไปฉี่ก่อนโว้ย .. นั่งนานไปหน่อย ...เอิ้กๆๆๆๆ โอ้ย เหน็บกินเท้าให้อีกแล้ว. ..แง้ ช่วยลุงด้วยๆๆๆๆๆ จบ ตอนหนึ่ง   หมายเหตุ บางตอนผมแก้คำผิดและจัดบรรทัดใหม่เพื่อสะดวกในการอ่านครับ จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 15 พ.ย. 48 21:19:57 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเป็นเด็ก  ขอมานั่งฟังอย่างเดียว 555 จากคุณ : S-sung - [ 15 พ.ย. 48 21:30:08 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มาฟังอาจานเล่าประสบการณ์ จากคุณ : NoNgToMe - [ 15 พ.ย. 48 21:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 8 พี่หมอสูง เป็นเด็กดอยใจดีป่าว... จากคุณ : ม่ายสาว-พราวเสน่ห์ - [ 15 พ.ย. 48 21:46:43 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ฟังด้วยค่ะ  55 ตอนนั้นยังเป็นวุ้นอยู่เล้ยยย จากคุณ : iccue - [ 15 พ.ย. 48 21:51:55 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณ  ท่านอาจารย์ซู ครับ จากคุณ : aeaw - [ 15 พ.ย. 48 22:11:14 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ด้วยครับ ............อ่า.......อ่านจบขออนุญาติเก็บเข้าบล็อคนะครับ จากคุณ : สักวันเราคงจะรู้จักกัน - [ 15 พ.ย. 48 22:28:39 ]

ความคิดเห็นที่ 12 สาธุ ท่านยาจกซูเอาความหลังมาเล่าอีกแล้ว ขอบคุณอย่างสูง จากคุณ : Myth&Miracle - [ 15 พ.ย. 48 22:50:52 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ  ขอจองดูแถวหน้าเลยครับ จากคุณ : .. (Jeonathan) - [ 15 พ.ย. 48 22:59:19 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณมากมากค่ะ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีโอกาสได้อ่านกระทู้แบบนี้แน่แน่ค่ะ จากคุณ : mynameisopportunity - [ 15 พ.ย. 48 23:20:29 A:61.91.205.171 X: TicketID:071269 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะอาจารย์ซู นี่แค่จบตอนหนึ่งยังเห็นภาพได้ขนาดนี้แล้ว(ก็แล้วแต่ค่ะว่าใครจะเห็นภาพมุมไหน แต่ดิฉันเห็นในมุมที่ดิฉันเห็นแล้ว และมันยืนยันมากขึ้นเมื่อได้เข้ามาอ่าน) ขอบคุณจากใจ กระทู้นี้เป็นกระทู้เตือนสติ นลท.ได้เป็นอย่างดีทีเดียว จากคุณ : 007-s - [ 15 พ.ย. 48 23:24:40 ]

ความคิดเห็นที่ 16 มานั่งรอดูด้วยครับ จากคุณ : buglife - [ 15 พ.ย. 48 23:30:18 ]

ความคิดเห็นที่ 17 มานั่ง ปูเสื่อ รอดูด้วยครับ จากคุณ : adrenaline - [ 15 พ.ย. 48 23:44:23 ]

ความคิดเห็นที่ 18 รออ่านตอนต่อไปอยู่ครับ จากคุณ : ปู่ตี๋ (ปู่ตี๋) - [ 15 พ.ย. 48 23:45:59 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณท่านอาจารย์ซูเป็นอย่างยิ่งครับ ทำให้นึกถึงความหลังหลายปีที่แล้ว ตอนหุ้นขึ้นไปดัชนี 1700 ช่วงนั้นสุดยอดจริง ๆ หุ้น Ceiling เป็นว่าเล่นเกือบทุกวันเPE ก็สูงมาก เข้าใจว่าเกือบ 30 เท่า ตอนนั้นใครเตือนก็บอกว่า หุ้นน่าจะไปต่อได้อีก ไม่มีใครเชื่อเลยว่าหุ้นจะลงแบบดิ่งเหวในเวลาต่อมา เนื่องจากมั่นใจสุด ๆ ครับ ต่างกับตอนนี้ PE ตลาดเหลือประมาณ 9 เท่า ปันผลสูงเกือบ 5% แต่พอความมั่นใจไม่มี คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายช่วงอายุของหุ้นบอกว่าช่วงนี้น่าลงทุน หลายคนก็คิดว่าน่าล้าง Portfolio เพราะว่าราคาน่าจะตกลงไปอีก ทำให้ผมนึกถึงตอนช่วงก่อนขึ้นไป 1700 จุด ช่วงนั้นจำได้ว่าดัชนีอยู่ประมาณ 400 จุด PE ตลาดของเราก็ต่ำมากพอ ๆ กับตอนนี้ ช่วงนั้นก็มีนักลงทุนทะยอยเก็บหุ้นราคาถูก ๆ มากมาย ดัชนีก็ค่อย ๆ ปรับขึ้น แต่ตอนนั้นจำได้ปรับขึ้นเกือบทุกวัน เป็นช่วงที่ใครเล่นหุ้นมีความสุขมาก ๆ โอกาสขาดทุนแทบไม่มี วันเวลาดังกล่าวไม่รู้จะเกิดกับตลาดหุ้นไทยอีกหรือไม่ รอฟังภาคต่อไปของอาจาร์ยซูดีกว่าครับ จากคุณ : ยิ่งสูงยิ่งหนาว - [ 15 พ.ย. 48 23:50:48 A:203.156.27.26 X:203.130.159.3 ]

ความคิดเห็นที่ 20 จำได้ว่าโบรก บอกจะไป 2,200 จุด ในปี 2537 จากคุณ : TauRuZ_PaSSeRBy - [ 16 พ.ย. 48 00:09:23 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆ ครับ รออ่านตอนต่อไปครับ จากคุณ : นายสำเร็จ (Gigg) - [ 16 พ.ย. 48 01:15:24 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ......เข้ามาดู จากคุณ : endophine - [ 16 พ.ย. 48 08:57:59 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอน ที่ 2 คุณพ่อ เล่าให้ฟังว่า.......... วันนั้น คุณพ่อหลับตานิดหนึ่ง คล้าย ๆกับกำลังครุ่นคิดถึงความหลัง .. ในตลาดหุ้น...... พลันท่านก็ลืมตา เห็นใบหน้า.... ตะติโหน่งนั่งอยู่ตรงหน้าท่าน...... ท่านเอามือมาลูบที่หัวเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู แล้วท่านก็เริ่มเล่าเรื่องราวของตลาดหุ้น..... เป็นการรำลึกย้อนยุคคืนกลับสู่อดีต อีกครั้งหนึ่ง . จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 09:27:18 ]

ความคิดเห็นที่ 24 คุณพ่อเริ่มต้นเล่าตั้งแต่เริ่มต้น ปี 2518 .. ปีนั้น...คุณศุกรีย์ แก้วเจริญ ก้าวขึ้นเป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์คนแรก สมัยนั้นเป็น เพียงแค่การวางรากฐานของตลาดหุ้น ไม่มีค่อยจะมีอะไร....ที่มันตื่นเต้นหวือหวาและตื่นเต้นนัก.... ท่านเชื่อหรือไม่ว่า ช่วงแรกการซื้อขายหุ้นนั้นเขามี การเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่น กล่าวคือโบรกเกอร์ไหนจะคิดค่าคอมฯ ที่เท่าไหร่กับลูกค้าก็ได้ แต่ต่อมา กาลเวลา เมื่อวันที่ 27 มค. 2519 เหตุการณ์ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเพราะ.... ตลาดหลักทรัพย์.... ก็ได้กำหนดค่านายหน้าที่ ร้อยละ 0.5 ขั้นต่ำที่ 50 บาท ครั้นพอถึงวันที่ 1 ก.ค.2519 .”โว๊ยยย...เฮ้ยยย...” คุณณรงค์ จุลชาติ ก้าวเป็นผู้จัดการตลาดคนที่ 2 ในยุคนี้รัฐบาลได้เรียกเก็บภาษีกำไรจากหุ้นร้อยละ 10 ตอน นั้นคนเล่นหุ้นร้องจ๊าก.....โว๊ย...เฮ้ย...ฯลฯ... ในที่สุดก็ต้องยกเลิกกันไป  เพราะนักลงทุนตกใจ   เป็นปีที่ดัชนีต่ำสุด เหลือแค่ 76.44 จุดว่ะ..... (จากปี 2518 ดัชนี 100 จุด) แค่นี้ก๊อกสั่นขวัญกระเด้งกระดอนหายแล้ว...ในสมัยนั้น.. และต่อมาก็มีการออกกฎหมายให้มีการจัดเก็บภาษีการค้าจากการขายหลัก ทรัพย์อีกในอัตราร้อยละ 0.10 และเหตุการณ์ประวัติที่ต้องบันทึกไว้  เป็นหน้าใหม่...... ช่วงของผู้จัดการคนนี้ก็มีเรื่องที่ต้องจดจำกันคือ........ การซื้อขายหุ้นเริ่มมีการปั่นราคาโดย .เฉพาะหุ้นไฟแนนซ์ ถือว่าเป็นการปั่นหุ้น....ยุคแรกก็ว่าได้ เนื่องจากสาเหตุ... ตลาดหุ้นมันดันเกิดฮิทติดอันดับ...หุ้นมาบูมขึ้น..ยุคแรกของเมืองไทย ก็ราวตอนปี 2520-2521 เพราะเศรษฐกิจขยายตัว ถึง 10.4% เมืองไทยนักลงทุนเริ่มรู้ซึ้งถึงตัวเลข...เริ่มให้ความสำคัญ  ก็เริ่มที่จะวัดค่าหรือนำมาเป็นเครื่อง ประกอบการวิเคราะห์เจาะกำไรหุ้นกัน... ส่งผลให้ดัชนี มันก็เลยทะยาน ....พุ่ง...ขึ้นถึง 257.73 จุด เฮ้อ......แต่ไม่นาน.....ก็ตกม้าตายกันเป็นทิวแถว.... เข้าตำรา “ผีซ้ำ กรรมซัด....ซัดซะบักโกรกเลย...” จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 09:28:33 ]

ความคิดเห็นที่ 25 เพราะในปี 2522 นั้น   ดันเกิดการณ์ความไม่สงบขึ้นตามชายแดนไทยแถบอินโดจีน จีนก็ทำสงครามกับ เวียตนาม ตะติโหน่งเอ๋ย คนเล่นหุ้นยุคนั้นก็ตกใจเป็นเหมือนกันขายหุ้นกันจ้าล่ะหวั่นว่ะ.. . ไหนจะไฟแนนช์ พังพับ  บริษัทเงินทุนที่มีชื่อแปลความหมายยิ่งใหญ่ ยังล้มแบบนิ่มๆ  แล้วที่ชื่อฟ้าไม่สดใสอีก ก็ยิ่งเห็นตอที่โผล่ เฮ้อ......พ่อถอนหายใจ....แล้วก็หยิบถ้วยชาขึ้นดื่มซด... พ่อวางถ้วยแล้ว...ก็เอามือลูบหัว....ตะติโหน่ง ตะแคงเอียงคอมองด้วยความเอ็นดู แล้วก็พูดต่อ.......เฮ้อ....ผลที่สุดก็เกิดการล้มหายตายจากของคนเล่นหุ้น ในยุคปี 2522 กันอย่างมากมาย.....เฮ้อ...จุติ...จุตัง...อรหัง จุติ นักลงทุนก็เลยเข็ดขยาด  บาดเจ็บและตาย....ที่เหลือก็เลยหายซ่า... ตลาดก็เลยซึมกะทือ....นับแต่นั้นเป็นต้นมา กระทั่งถึงปี......(กรุณาติดตามอ่านตอนต่อไป) จบ ตอนที่ 2   หมายเหตุ  ผมได้นำประวัติ มาเรียบเรียง และได้สอดแทรกข้อความบางตอน เพื่อให้สัมพันธ์กับตอนแรก จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 09:29:29 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ... ขอบคุณครับ จากคุณ : GABLIEL - [ 16 พ.ย. 48 09:47:46 ]

ความคิดเห็นที่ 27 มานั่งหน้าจอ ดูหนังฉายรอบเช้าค่ะ จากคุณ : 007-s - [ 16 พ.ย. 48 09:59:51 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ต่อ.... ปี 2523 คุณไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม เป็นผู้จัดการตลาดคนที่ 3 ช่วงนี้นับว่าเป็นช่วงที่เงียบเหงาวังเวง....ที่สุดก็ว่าได้ ตลาดหลักทรัพย์ต้อง .ขยายช่วงราคาซื้อขายสูงสุดต่ำสุดประจำวัน จากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 10 ให้สร้างเงื่อนไขให้โบรกเกอร์...ต้องมีวอลลุ่มต่อวันไม่ต่ำกว่า 10 ลัานบาท พวกโบรกเกอร์เลยต้องมีการโยนหุ้นกัน คือ คุณซื้อฉันไป แล้วก็ขายคืนฉันมา เป็นเรื่องที่ตลกมาก  แปลกแต่จริง... ปี 2525 ประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นไทยต้องสมควรบันทึกไว้เพราะ...... เราได้ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย และเป็นคนเดียวเท่านั้น......... คือ  คุณ สิริลักษณ์ รัตนากร เป็นผู้จัดการคนที่ 4 ช่วงนี้มีการประกาศใช้ พรบ.ตลาดหลักทรัพย์ฉบับที่สอง ที่พยายามจะกอบกู้สถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติ   ในปี 2525 ตลาดหุ้นของเราก็เริ่มฟื้นตัวได้อีกรอบหนึ่ง . เพราะเศรษฐกิจโลกมันดีขึ้น เหตุการณ์ทางสนามรบไม่ค่อยปรากฏ ต่างก็มุ่งหวังเพื่อจะต่อสู้ในรูปแบบใหม่  ยุทธการสงครามการค้า ด้วยปัจจัยหลายประการที่เอื้ออำนวยให้ในช่วงขณะนั้นคือ เรื่องน้ำมัน.....ราคาก็ถูกลง เรื่องดอกเบี้ยต่ำ  ดอกเบี้ยก็ไม่ค่อยโหด แต่อย่างไรก็ตาม ..ประเทศไทยเรายังเกิดความหวาดหวั่นวิตก โดยเฉพาะเรื่อง ดุลการค้า จึงเป็นเหตุให้ลดค่าเงินบาท.... และมีปัญหาเกี่ยวกับเงินทุน 3 แห่งขาดสภาพคล่อง .. จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 10:01:39 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ติดตามครับ จากคุณ : d.hunt - [ 16 พ.ย. 48 12:01:45 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณครับ น้อมรับฟังอย่างตั้งใจ จากคุณ : ว่าวน้อยลอยชมสวน - [ 16 พ.ย. 48 12:05:43 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณค่ะ... จากคุณ : agalico (agalico) - [ 16 พ.ย. 48 13:01:00 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ....thanks krab..ท่านยาจกซู จากคุณ : samsam - [ 16 พ.ย. 48 13:25:06 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ++++ ขอบคุณครับท่านอาจารย์ซู  ++++ จากคุณ : ลุค - [ 16 พ.ย. 48 14:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 34 ต่อ..... จากดัชนี ที่ไหลรูดลงๆๆๆๆๆๆๆไป นับจาก พ.ศ.2522,2523,2524 กระทั่งถึงปี2525 ดัชนีที่หลุดจากร้อย  ก็เริ่มที่จะ .... ขับเคลื่อน สู่เป้าหมายที่ หลักร้อย  ใหม่... ปี พ.ศ. 2527 ช่วงนี้ก็เป็นอะไรที่เงียบ ๆ แต่สภาพตลาดก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว ดีขึ้นตามลำดับ แนวโน้มตลาดหุ้นดีขึ้นเรื่อย ๆ ...... เพราะมีเม็ดเงินต่างชาติมันไหลเข้ามา....... เนื่องจากพวกต่างชาติเขาอาจมั่นใจว่า..... ไทยเรามี พ.ร.บ ตลาดหลักทรัพย์ฉบับที่ 2 เป็นการเอื้อแก่ต่างชาติมากขึ้น ดัชนีตลาดเล่นกันอยู่แถว 142. จุด... . จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 15:22:00 ]

ความคิดเห็นที่ 35 ปี 2528 ยุคคุณมารวย ผดุงสิทธิ ผู้จัดการคนที่ 5 ซึ่งตรงกับยุคที่มีรัฐบาลซึ่ง ท่านชาติชาย ชุณหวัณ เป็น นายกรัฐมนตรี.....(ยุคน้าชาติมาดนักซิ่ง) ยุคนี้ถือว่า.....เป็นยุคที่มันสุด ๆ เพราะผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ท่านนี้.... เป็นผู้ที่ทันเกมตลาด เริ่มใช้สื่อมวลชนให้เป็นประโยชน์ หุ้น ถือเป็นยุคที่ตลาดหุ้นไทยคึกคักมาก.......... มีการให้โบรกเกอร์เปิดสาขาต่างจังหวัดได้ มีนักลงทุนจากต่างประเทศก้าวเข้าลงทุนในตลาดฯ อย่างต่อเนื่อง และ . แบงก์ชาติก็ผ่อนปรนให้นักลงทุนต่างชาติ..... สามารถส่งเงินออกนอกประเทศได้และส่งหลักฐาน ตรวจสอบภายหลัง เป็นการส่งเสริมการลงทุนอีกทางหนึ่ง ช่วงนี้มีการเพิ่มทุนของบริษัทจดทะเบียนมาก......... ในช่วงของ..... ท่านมารวย เจอมรสุมแรง ๆ ที่ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติตลาดหุ้นไทยเช่นกัน หลังจากที่ท่านมารวย  อยู่ในตำแหน่งได้ 2 ปี คือปี พ.ศ.2530 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น เรียกว่า “วันจันทร์ทมิฬ” คือ เรื่อง วันจันทร์ทมิฬ เกิดเมื่อ19 ต.ค ปี 2530 หุ้นมันไหลรูด โหดทมิฬจริงๆ ......เฮ้อ....ตลาดเต็มไปด้วยสีแดงเถือก.... เชียวหละ จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 15:34:04 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไหนจะต้องสนอง นโยบาย.......ทำสนามรบ   ให้เป็น สนามการค้า...... เพื่อต่อสู้กับตลาดต่างประเทศ   เม็ดเงินก็เริ่มไหลเข้ามาสู่ ไทยเพิ่มขึ้น ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เริ่มจะเพิ่มขึ้นๆๆๆๆ...... จะเพิ่มขึ้นเพราะซื้อๆขายๆ.....หรืออะไรก็สุดแท้แต่ จะคิด.... แต่เริ่มทำให้สื่อหนังสือพิมพ์เอย,วิทยุเอย,โทรทัศน์เอย เริ่มนำเสนอ เกี่ยวกับหุ้น  ทั้งๆที่ชนระดับล่างๆแบบตาอินตานา   ไม่รู้หรอกว่า อะไรคือหุ้น หรือหุ้นคืออะไร.... และก็เริ่มเป็นที่สนใจ เพราะตลาดเหมือนกับอุปมามีกลิ่น ที่หอมหวน  ชวนให้น่าลิ้มชิมรสยิ่งนัก   และชื่อ “ท่านมารวย” ก็เหมือนกับถูกหวย หรือต้องโฉลก โชคช่วยด้วย...นะ... แต่........เฮ้อ.....มันอาถรรพ์ยิ่งนัก..... เหมือนกับคำ”ความดังไม่คงที่ ความดีไม่คงทน” พ่อ....พูดแล้วก็...หันไปรินน้ำชาที่อยู่ในกระติกน้ำร้อน ขึ้นมาซดต่อ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้แบบปรับเอนนอนได้.... เหลือบสายตา  มองท้องฟ้าตาลอยๆ .... เพื่อย้อนระลึกถึงอดีต เพื่อนำมาเล่าต่อ.......หวังให้เจ้าตะติโหน่ง....ได้ซึมซับ และรับเอาสาระ ให้อยู่ในความทรงจำเช่นเดียวกับพ่อ........ จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 15:52:30 ]

ความคิดเห็นที่ 37 ถัดมาอีก3ปี .พ.ศ.2533 เกิดเหตุการณ์สงครามอ่าวเปอร์เชีย เมื่อวันที่ 2 ส.ค 2533 ตลาดหุ้นทุนไทยก็เริ่มหวั่นไหว  พร้อมๆกับตลาดต่างประเทศ เกรงว่าจะกลายเป็นมูลเหตุให้เกิดสงครามโลก  ตลาดหุ้นจึงเริ่ม แผ่ว....แต่ก็เพียงช่วงระยะสั้นๆไม่กี่เดือนเท่านั้น และเพื่อให้สมเป็นยุคโลกาภิวัฒน์  ตลาดไทยเราจึงเริ่มเปลี่ยนแปลง จะระบบการเทรด...ใหม่คือ.... เปลี่ยนเทรดจากระบบเคาะกระดานมาใช้คอมฯเมื่อ 27 มิย 2534 จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 16:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 38 ตอนจบภาค 2.....มีดังนี้.... และปี 2535 ก็เกิดความไม่สงบทางการเมือง หรือ รสช.ขึ้น ช่วงสมัยนี้มีการเปลี่ยนแปลงมาก ไม่ว่าจะเป็นยุคที่มีการ พรบตลาดหลักทรัพย์ ปี 2535 ก็เกิดขึ้น และ พรบ. ปี 2535 นี้ ก็เล่นงาน เสี่ยสอง และ เจ้าของบริษัทจดทะเบียนอีกหลายแห่ง จนเดี้ยงไปตาม ๆ กัน 1 กค 2535 คุณเสรี จนตนเสรีเป็นผู้จัดการคนที่ 6 ภาพของตลาดหุ้นก็เริ่มหกคะเมนตีลังกา ถึงขนาดมีคนคิดฆ่าตัวตาย เอาปืนจ่อคอหอยตัวเองที่หน้าตลาด ยุคนี้มีการชุมนุมของเหล่านักเล่นหุ้นมากที่สุด 1 กค 2539 คุณสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ ขึ้นเป็นผู้จัดการตลาดคนที่ 7 ถือว่าเป็นยุคการตกต่ำสุด ๆ ของดัชนีหุ้น 27มิย.2540 แบงก์ชาติประกาศรายชื่อ 16 สถาบันการเงินที่มีปัญหาสภาพคล่อง และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ 2540-2542 วิกฤติการณ์ เศรษฐกิจเข้าขั้นรุนแรง หุ้นตกระเนระนาด 15กย.2542 คุณวิชรัตน์ วิจิรวาทการ คุณพ่อผมหยุดนิดหนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อว่า ผู้จัดการตลาดคนที่ 8 ก่อนออกจากตำแหน่งได้สร้างวีระกรรมไว้คือ ให้มีการ เปลี่ยนแปลงช่วงขึ้นลงให้แคบลง ที่สุดก็ถึงยุค คุณ กิติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการคนที่ 9 คิดว่า เลข 9 นี่ล่ะจะเป็นตัวนำพาให้ตลาดหุ้นเจริญ ก้าวหน้าต่อไป สุดท้ายคุณพ่อผมก็หลับตาอีกครู่ใหญ่ ๆ ก่อนจะลืมขึ้นแล้วเอ่ยขึ้นว่า ที่พ่อเล่ามาทั้งหมดนี้ เพื่อให้เอ็งได้รู้ว่ะว่าในแต่ละยุค ของผู้จัดการตลาดแต่ละคนเป็นอย่างไร มันก็เท่านั้นเอง เรื่องนี้ก็จบลงเพียงเท่านี้ล่ะครับ สวัสดี. ครับนี่คือเรื่องเก่าที่นำมารีไซเคิลใหม่   หากเป็นประโยชน์ต่อท่านนักลงทุน ความดีนี้ต้องขอยกให้คุณ "ลุงอยากเหล้า" นะครับ และตอน3  ยังมีอีก  แต่ขอพักก่อน  ครับ จากคุณ : (ยาจกซู>> - [ 16 พ.ย. 48 16:09:47 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ...   จากคุณ : ToMaNaTa - [ 16 พ.ย. 48 16:13:11 ]

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณค่ะ มาตามอ่านอีกหน่อย จากคุณ : 007-s - [ 16 พ.ย. 48 16:58:05 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณครับอาจารย์ซู จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 16 พ.ย. 48 20:45:40 ]