ความคิดเห็นที่ 1 ฟิวเจอร์ นั้น เสี่ยง ไหม เริ่มต้นด้วยหัวข้อนี้ก่อน ---แน่นอนมีความเสี่ยงระดับนึง แต่ เราควรเข้าใจถึงเรื่องความเสี่ยงคืออะไร (ผมจะพยามไม่ใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษ เลยนะครับถ้าไม่ติดจริงๆ เพราะชื่นชมในความงดงามของภาษาไทย ) ความเสี่ยงหากศึกษาเจาะลึกลงไปนั่นคือ ความไม่รู้ รุ้เท่าไม่ถึงการณ์ การประมาท เป็นต้น จริงๆในชีวิตประจำวัน เราเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงอยู่แล้วอย่างไม่รู้ตัวเช่น การข้ามถนน ดูสัญญาณไฟจราจร ก่อน หรือแม้แต่ ข้ามสะพานลอย เป็นต้น เพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการโดนรถชน ผมพยามโยงเข้ามาในชีวิตประจำวัน มันอาจดูตลก แต่เพื่อให้เห็นภาพนะครับ ทำไมเราถึงกล้าข้ามถนน เพราะเรารู้ว่ามันเสี่ยงตรงไหนบ้าง เราป้องกันตรงไหนได้บ้าง แต่ก็ใช่ว่า เราจะไม่รอดจากรถชน เช่น รถฝ่าไฟแดง เบรคแตก ไรแบบนี้เป็นต้น ซึ่งก็คือเหตุการณ์นอกเหนือจากการควบคุมของเรานั่นเอง    ดังนั้น ประเด็นแรก ความเสี่ยงนั้น มีทั้งที่เราควบคุมได้ และ นอกเหนือจากที่เราควบคุมได้  นักบริหารความเสี่ยงเก่งๆจะ พยามลด อัตราเสี่ยงของเหตุการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ให้น้อยที่สุด เช่น เลือกข้ามสะพานลอย เพราะ โอกาสโดนรถชน น้อยมาก ดังนั้นเราจึงต้องรุ้จักสิ่งที่เราจะทำให้ดีเสียก่อน ถึงจะไม่เสี่ยง หากไม่รุ้ อนุพันธ์ คืออะไร ก็เหมือนการข้ามถนนโดยปิดตาครับ สรุปก็คือ สิ่งที่เราคิดว่ามันเสี่ยงก็คือสิ่งที่เราไม่มีความเข้าใจกับมันอย่างแท้จริงนั่นเอง ดังนั้นใครจะเทรดในตลาดนี้คงต้องศึกษาทำความเข้าใจอย่างหนักเลยนะครับ    ---การวางเงินเดิมพัน    ที่ต้องพูดหัวข้อนี้ก่อน เพราะเป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ตลาดพวกนี้มีสิ่งจูงใจที่มาก ผลตอบแทนที่สูง เพราะเทรดบนรากฐานของระบบมาร์จิ้น เราออกเงิน 1 ส่วน เทรดได้ 30 ส่วน ไรแบบนี้ ไม่มีคำแนะนำครับ แต่มีเรื่องราว ของ นักหมากรุกประจำหมู่บ้านคนหนึ่ง ชอบเล่นหมากรุกมาก สนใจเกี่ยวกับหมากรุก จนมาวันหนึ่งได้ยินข่าวมาว่าที่จังหวัดจะมีสนามประลองหมากรุกใหม่ โดยมีคนมาจากทั่วทุกอำเภอ นักหมากรุกคนนี้สนใจมาก รีบไปแข่ง โดยตัวเองวางเดิมพันกับคู่แข่งที่ตัวเองไม่เคยเจอหน้ามาก่อน กระดานล่ะ หลายหมื่น หลายแสน ถามว่าถ้าไม่ใช่โลกของหุ้น หรือการเทรดต่างๆ คุณกล้าวางเดิมพัน ขนาดนี้กับผู้เล่นคนนั้นมั้ย คิดหนักใช่มั้ยครับ อย่างน้อยเราก้ต้องดูก่อนว่าเค้าเป้นไงระดับไหน และประเมินกำลังของเราด้วย แต่ในโลกของวงการเทรด หลายๆคนมักลืมตัวไป :) จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 03:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 2 --- คำชี้ชวน จากนักทฤษฎีนิยม      สิ่งที่เราจะได้เจอในอนาคต แน่นอนคือคำเชิญชวนของนักทฤษฏีนิยม ซึ่งไม่มีประสบการณ์ในตลาดฟิวเจอร์ หรือมีก็น้อย แม้แต่ทำกำไรไม่ค่อยจะเป็น ซึ่งเป็นสิ่งที่สอนอยุ่ในตำราการเงิน นั่นคือการทำเฮดจิ้ง นั่นเอง คำเชิญชวนในการเข้าสู่ตลาดแบบนี้ของพวกเค้าเหล่านั้นคืออะไร นั่นคือการปกป้องความเสี่ยงนั่นเอง เช่น ถ้าคุณถือหุ้น แล้วไม่มั่นใจว่ามันจะขึ้นหรือปล่าว ก็มาถือฟิวเจอร์ โดยเล่นขาลงไว้ถ่วงดุลกับหุ้นเป้นต้น เข้าตำรา ดีเฟ้นซีฟ พอร์ตโฟลิโอแป๊ะ  ซึ่งหากขาดทุนหุ้นก็เอากำไรฟิวเจอร์มาโปะ ขาดทุนฟิวเจอร์ก็เอากำไรหุ้นมาโปะ ดูเหมือนแนวคิดนี้ดีนะครับ แต่เอาเข้าจริงแล้ว กำไร โปะขาดทุน ขาดทุน โปะกำไร เราจะได้สักเท่าไรกันแน่ :) เหนื่อยใจกับหุ้นอีกเช่นถ้าขาดทุน ฟิวเจอร์ไป แต่ไอ้หุ้นเจ้ากรรมมีคนกดไว้ไม่ยอมขึ้น  กลยุทธ์แบบนี้ใช้ได้ดีกับฐานเงินขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งเค้าต้องการผลตอบแทนเหมาะสมในระดับความเสี่ยงที่ไม่มากและป้องกันได้  --- ใครบ้างที่เหมาะ และไม่เหมาะ ตามความคิดของผมนะครับ        ลองดู     *พวกอยากลอง ได้เสียไม่ว่ากัน     *เทรดในตลาดหุ้น จนรุ้สึกว่าธรรมดาแล้ว เข้าใจสัจธรรมของมัน ว่าผลตอบแทนในตลาดหุ้นมีอยุ่แค่ระดับนึง เข้าใจว่าควรจะวางเงินเท่าไรในช่วงนี้ เลิกเมื่อไร เทรดโดยเฉลี่ยกำไรเสมอๆ ดังนั้นเพื่อให้ผลตอบแทนคุ้มกับความสามารถของพวกนี้ ก็ควรจะ turn pro เข้าสู่ฟิวเจอร์         อย่าลองเลยเน้อ หรือถ้าจะลองก้คิดหนักหน่อย    * มาเพื่อป้องกันความเสี่ยง ตามตำราเฮดจิ้ง การเข้ามาในตลาดนี้เสี่ยงมาก หากคาดการณ์ทิศทางไม่ออก หรือ อ่านเกม เค้าไม่ออก ก็ในเมื่อตัวเราเองยังไม่รุ้ทิศทางเลยว่ามันควรจะไปทางไหน ก็อย่าเพิ่งลองเลยครับ รอจนอ่านเกม ออกก่อนก้ยังไม่สาย    * cut loss ไม่เป็น ขนาดตลาดหุ้นยังนั่งดูราคาลดลงทุกวัน ในตลาดหุ้นเราสามารถทนถือได้จนถึงวันของมัน แต่ในตลาดฟิวเจอร์มีเรื่องของเวลา และมาจิ้นเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งถ้าเราขาดทุน " เราจะต้องจ่ายชดเชยในส่วนของมาร์จิ้น เพื่อยืนยันความคิดของเราหากจะรักษาสถานะต่อไป ซึ่งค่าใช้จ่ายในการยืนยันว่าความคิดตัวเองถูกต้องค่อนข้างสูงมาก" จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 03:57:13 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หากตอบแล้วว่าจะลองแน่ๆ พื้นฐานที่ควรรู้มีอะไรบ้าง  -- ความรู้ด้าน ทฤษฏีเกม หรือ game theory  -- เทคนิค การใช้กราฟ  -- 2 ตัวแรกเป้นหลัก หากแต่จะเหนือกว่าคนอื่นขึ้นมาอีกนิด ก็ต้องเรียนรุ้การคาดการณปริมาณเงินที่มีในเกมตอนนั้น เมื่อไรควรเล่น ไม่ควรเล่น  เป็นต้น หวังว่าพอเป็นพื้นฐานได้บ้างนะครับ   หากอ่านดูข้างต้นเหมือนผมจะมองว่ามันเลวร้าย แต่จริงๆในความคิดของผมผมว่าตลาดนี้ก้มีข้อดีเหมือนกัน และผมก็ชอบมากเสียด้วย ข้อดีของมันคือผลตอบแทนที่สูงมากเมื่อเทียบกับเงินลงทุน หากเราเป็นพวกอ่านเกมไม่ค่อยพลาดจะได้ประโยชน์มาก ดังนั้น จากกระแสว่าตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าบ้านเราโหด และมีการเอาเปรียบรายย่อย มาแบบนี้ขอทดลองลองกับโมเดลเสียเลยว่าเป็นไง จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:10:27 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โดยมีข้อกำหนดเพื่อให้สนุกขึ้น เดือนนึงเข้าได้แค่1วัน และออกได้1 วันเท่านั้น เริ่มต้นเงินทดลอง โดยวางไว้ 5 หมื่น พอน้ำจิ้ม หากมันโหดจริง จะได้ไม่เสียดาย แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 04:17:15 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โห...มองยาก เหมือนกัน [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:19:10 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ทำตามกฏ เสียดาย มันมีโอกาสมากกว่านั้น [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 สรุปผลจริงๆอยากให้โมเดลนานกว่านี้ แต่ป่านนั้นคงไม่ได้มาเจอเพื่อนๆพอดี เลยเอามันจบตรงนี้แล้วกัน --ลงทุน 5 หมื่นมาคิดค่าเสียโอกาสแช่เงินเฉย ผลตอบแทน 37,782 บาท หรือราวๆ 75% -- แต่จริงแล้ว 5หมื่นไม่ได้ใช้เลย เพื่อนมันกลัวว่าเราจะพลาด เลยเทรดให้แค่ 1 หมื่นหน่อยๆ ต่อรอบ หรือผลตอบแทนราวๆ 300 %  การเทรดแค่เดือนล่ะครั้งสามารถทำกำไรได้ถึงแม้ไม่มาก แต่ก็ไม่น้อยเช่นกัน เมื่อเทียบ กับการวางเงินหลักล้านกินดอกเบี้ย [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:27:45 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณโปรแกรมสัญชาติเอเซียที่ช่วยในการมองภาพ ได้ดีไม่แพ้ฝรั่ง ท้ายสุดนี้   ตลาดฟิวเจอร์เป็นเกมสงคราวระหว่างสองฝ่ายคือฝ่าย long(เล่นขึ้น) และฝ่าย short (เล่นลง) แต่ล่ะฝ่ายผลัดการ ชนะ และพ่ายแพ้ ตลอด ดังนั้นหากจะเลือกเข้ามาแล้ว คุรต้องเลือกฝ่ายให้ถูกต้องแม่นยำ การเลือกฝ่ายผิดแต่ล่ะครั้งหมายถึงการเสียหายอย่างรุนแรง ฝ่ายชนะสวยหรูเพียงใด แต่ขณะเดียวกันไม่ต้องสงสัยเลยว่าฝ่ายแพ้จะมีจุดจบแบบไหน  ดังนั้นเมื่อคุณพร้อมแล้ว เราจะต้องสู้กันแน่ๆสักวันนึง และกับคนอื่นที่เก่งกว่าผมมากมาย มีอำนาจมากมาย มีเงินทุนที่หนา และมีการชี้นำที่ทรงพลัง ถ้าคุณพร้อมแล้ว เรามาวางเดิมพันกัน แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 04:38:50 [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:37:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่แน่ใจว่าบทความของผมจะโดนโจมตี จากฝ่ายเสียประโยชน์หรือปล่าว ถ้ายังไง ก็ฝากเก็บไว้ในใจเพื่อนๆทุกคนแล้วกันนะครับ ปล. ท้ายนี้สำหรับบทความนี้แด่ มัดเล่ หมาขี้เหล่ที่รักที่ผมรักที่สุด ครบรอบการจากไปเป็นปีที่ 3 พอดี แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 04:48:27 แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 04:45:41 จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:45:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มัดเล่ครับ จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 04:47:19 ]

ความคิดเห็นที่ 11 หัวใจในการเทรดไม่ใช่อยู่ที่ต้องมีเงินเยอะแล้วได้ผลตอบแทนมากๆ หากแต่อยุ่ที่การวางเงินลงทุนให้เหมาะสมแล้วได้กำไรอย่างสม่ำเสมอครับ ไปจริงแระ ขอบคุณมากครับ ที่เสียเวลามานั่งอ่าน ผมรีบพิมพ์เช่นเคยตามสไตล์ผม ผิดตกอ่านยากอย่างไร อย่าถือสานะครับ แก้ไขเมื่อ 17 พ.ย. 48 05:06:43 จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 05:04:54 ]

ความคิดเห็นที่ 12 โหวตให้แล้วครับ ... จากคุณ : GABLIEL - [ 17 พ.ย. 48 05:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณครับ จากคุณ : 2024 - [ 17 พ.ย. 48 05:55:15 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณครับ ยอมรับว่าผมไม่กล้าเสี่ยงแทงไฮโล  เอ๊ยเล่นตราสารอนุพันธ์ ซึ่งเป็น เกมบวกศูนย์ยิ่งกว่าตลาดหุ้นหลายเท่า   ที่ไม่กล้าเข้าไปเล่น เพราะรู้ตัวดีว่า ไม่มีความรู้ ความสามารถเพียงพอ ส่วนเพื่อนผม  คิดว่าตัวเองมีความรู้ เลยเล่นผ่านสิงคโปร์ เนื่องจากค่าคอมถูกกว่าแทงเองที่อเมริกา ทุกวันนี้ โทรศัพท์คุยกันทีไร   เขาต้องพูดว่า  ไม่ค่อยว่าง  ไม่ค่อยได้ดูหุ้น   ต้องดูบูมบอร์ก  บูมเบิร์ก อะไรนี่แหละ แทบจะไม่มีเวลาหลับนอนที่แน่นอน พึ่งจะเทคโปรฟิทจากการแทงน้ำมัน   อ้าว เผลอแป๊บเดียว ต้องสต๊อปลอสกับการแทงอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราซะแล้ว สรุปก็คือ  ไม่ว่าลงทุนอะไร อย่าโลภมากเกินความรู้ ความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ จากคุณ : endophine - [ 17 พ.ย. 48 08:06:58 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อะไรที่เฮียเคลี่ไม่เล่น ผมยิ่งไม่ควรเล่น เข้ามาโหวต จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 17 พ.ย. 48 08:54:08 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ++++ เข้ามาโหวตด้วยครับ ++++ จากคุณ : ลุค - [ 17 พ.ย. 48 08:57:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณ คุณMudleyGroup เข้ามาโหวตด้วยคนครับ จากคุณ : teeranet - [ 17 พ.ย. 48 10:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 18 vote krab.... ไม่กล้าเล่นเช่นกัน รายใหญ่ เห็น โพย ก่อน นะ ผมว่า โอกาสได้ ของรายย่อย น่าจะน้อยๆๆๆ จากคุณ : samsam - [ 17 พ.ย. 48 12:57:45 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ผมเล่น options ที่เมกา ช่วงเล่นได้กำไรเท่าตัวในเวลาไม่ถึงเดือน พอช่วงเล่นเสีย ไม่ถึงเดือนเหมือนกันเอาไปหมดทั้งกำไร แถมยังพาลขาดทุนอีก ทีนี้จากที่คุณมัดเล่โพสต์มานี่ จะรู้ได้อย่างไรว่าฟิวเจอร์ที่คุณซื้อจะขึ้นได้ตลอด? แต่ผมเชื่อเรื่องที่คุณว่าให้คัทลอส จริงๆการซื้อ options มันก็ช่วยคัทลอสไปในตัวอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ใช้มาร์จิ้น แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมเคยถือเจ้า options นี่พร้อมๆกันเกือบยี่สิบตัว แล้วพอมันตกๆช่วงใกล้ expire นี่ทำอะไรไม่ถูกทีเดียว เลยเจ๊งเลยช่วงนั้น จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 17 พ.ย. 48 14:38:51 ]

ความคิดเห็นที่ 20 บลูมส์เบิร์กเป็นชื่อนสพ เจ้าของรู้สึกจะเป็นผู้ว่าของนครนิวยอร์กด้วย จากคุณ : พ่อน้องไอซ์ - [ 17 พ.ย. 48 14:39:47 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณครับ จากคุณ : แมงเม่ามือใหม่ - [ 17 พ.ย. 48 14:58:48 A:58.136.69.190 X: TicketID:080268 ]

ความคิดเห็นที่ 22 โหวตครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : พ่อ@LLถุง - [ 17 พ.ย. 48 15:16:09 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แวะมาตอบคุณพ่อน้องไอซ์ ครับ ผมก็เล่น ออฟชั่นที่อเมริกาเหมือนกัน จากการค้นคว้า และ ฝึกฝน การเล่นฟิวเจอร์นั่นมีหลักเกณฑ์ที่ว่า คนที่เข้ามาเล่น จำเป้นต้องมี trader skill อย่างต่ำ 80 % วิธีการทำตาราง trader skill นั้น ทำง่ายๆโดยใช้เวลาเพียง 6 เดือน ถึง 1ปี แล้วทดสอบการซื้อขาย ตามจัวหวะการตัดสินใจของคุณ แล้วดุว่าชนะกี่ครั้งแพ้กี่ครั้ง โดยถ้าปริมาณขาดทุนต้องไม่เกินปริมาณกำไรที่เคยทำได้ ถ้าเกินที่ว่าฟาวด ต้องรีบ cut loss ถ้าได้ถึง 80 % ก็จะตอบได้เองหล่ะครับ ว่าฟิวเจอร์ นั้นมันจะขึ้น หรือ ลง เราควรอยู่ฝ่ายไหน ควรเล่น long หรือ short ถ้า trader skill ไม่ถึง 80% โดนเค้ากินแน่ครับ จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 15:34:17 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ได้อ่านพิมพ์ผิดเยอะเลย แก้ไม่ทันแระ ต้องทำงานก่อน ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ จากคุณ : MudleyGroup - [ 17 พ.ย. 48 15:54:43 ]

ความคิดเห็นที่ 25 โหวตด้วยครับ จากงานเลย แหะๆ ไม่กล้าเล่นด้วยคนค้าบ จากคุณ : buglife - [ 17 พ.ย. 48 19:08:50 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณมากเลย จากคุณ : pisoran - [ 18 พ.ย. 48 00:06:51 ]

ความคิดเห็นที่ 27 1.  ตามที่เข้าใจ  แต่เดิมเตรียมเปิดเทรด เดือน มกราคม 49 แต่ได้ข่าวว่าเลื่อนไม่มีกำหนด  จริงไหมครับ 2.   มีโบรกไหนให้บริการมั่งครับ 3.  คิดค่าคอมยังไงครับ จากคุณ : สไรินนื - [ 18 พ.ย. 48 13:37:27 ]

ความคิดเห็นที่ 28 ผมโหวตให้ครับ... ขอบคุณที่กล่าวถึงครับน้องมัดเล่ย์ ดู performanane ของน้องที่ลงให้ดูแล้ว ฝีมือพัฒนาขึ้นอีกแล้วนะครับเนี่ย สุดยอดๆ ในเมืองไทย TFEX และกฎก.ล.ต. กำหนดว่าต้องเป็นนักลงทุนที่ค่อนข้างเงินหนาพอสมควร คือ ในแต่ละสัญญา (Contract) จะต้องตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป และให้วาง Initial margin 5% ในวันแรกที่ซื้อขาย กรณีรายย่อย คือพอร์ทต่ำกว่า 10 ล้าน หรือวางในวัน T+1 ในกรณีรายใหญ่ คือพอร์ทตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไป ดังนั้นในค.คิดของผม พวกนี้น่าจะพร้อมกว่ารายย่อย เงินน้อย มานานแล้วล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 48 22:10:11 จากคุณ : หมากเขียว - [ 18 พ.ย. 48 17:40:25 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วย กับคุณ : endophine ที่ว่า  ไม่ว่าลงทุนอะไร อย่าโลภมากเกินความรู้ ความสามารถที่ตัวเองมีอยู่     ส่วน  ที่ คุณ : หมากเขียว ว่า  Tfex . กำหนดว่าต้องเป็นนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น คือเทรดแต่ละครั้งต้องตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป  อันนี้ไม่น่าใช้(ถ้าจำไม่ผิด) แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 48 21:03:05 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 48 21:02:21 จากคุณ : keeta2 - [ 19 พ.ย. 48 20:48:12 ]

ความคิดเห็นที่ 30 เอาใจช่วยคุณ : MudleyGroup ที่เผยแพร่ความรู้ จากคุณ : keeta2 - [ 19 พ.ย. 48 21:01:08 ]

ความคิดเห็นที่ 31 พึ่งได้ไปอบรมมาค่ะ....น่าสนใจดี ขอบคุณที่เอามาให้อ่านค่ะ ตอบ คห 27  รู้สึกว่าจะโบรกที่ได้รับอนุญาติ จะมี 20 โบรกค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 48 11:41:28 จากคุณ : อย่ามาทำหน้าเขียวใส่นะยะ - [ 22 พ.ย. 48 11:39:02 ]