อ่านเจอจากเวบ เห็นว่าน่าสนใจ จึงนำมาฝากกันครับ
บทความโดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์
จาก มติชนรายวัน, 1 พฤศจิกายน 2546
"เงินทองเป็นมายา ข้าวปลาเป็นของจริง"
ม.จ.สิทธิพร กฤดากร
คำพูดเช่นนี้อาจใช้ไม่ได้กับภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันที่มีชนชั้นกลางหลายแสนคนกำลังหายใจเข้าออกเป็นราคาหุ้น จนแทบไม่เป็นอันทำมาหากิน
หลายเดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นมีโอกาสต้อนรับบรรดานักลงทุนรายใหม่ๆ ที่ติดปีกบินเข้าสู่ตลาดหุ้นรายแล้วรายเล่า
คนเหล่านี้ยอมถอนเงินออกที่เก็บมานานจากธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยต่ำติดดินหันมาลงทุนในตลาดหุ้นแทน ด้วยเหตุผลเดียวคือ หาเงินทองเข้ากระเป๋า ต้องการผลตอบแทนที่มากกว่าการฝากธนาคาร
มูลค่าการซื้อขายหุ้นจากวันละไม่กี่พันล้านบาท ถีบตัวสูงขึ้นถึงวันละสามหมื่นกว่าล้านบาท ผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นพุ่งจาก 300 กว่าๆ จุดขึ้นมา 600 จุดได้ในเวลาไม่ถึงครึ่งปี
กระทิงวิ่งรวดเดียวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
อาจารย์ตามสถาบันการศึกษาจำนวนมากเริ่มไม่มีสมาธิในการสอน มัวแต่ดูราคาหุ้นผ่านโน้ตบุ๊กคุณหมอหลายคนรีบๆ รักษาคนไข้ให้ทันก่อนเวลาสิบโมงเช้า อันเป็นเวลาตลาดหุ้นเปิดทำการ เพื่อมาเล่นหุ้นออนไลน์ในห้องพักส่วนตัว
"วันนี้ TPI เด้งดีจริง... ปิดตลาดเช้านี้ ZMICO เข้าวิน... ปิดตลาดตอนเย็น ITV แผ่วปลาย"
หุ้นซึ่งถือเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง กลับมีศัพท์แสงออกไปทางภาษาม้าแข่ง เข้าทุกที แม้ว่าจะมีนักวิชาการออกมายืนยันว่า หุ้นเป็นการลงทุน ไม่ใช่การพนัน
ที่ผ่านมาดูเหมือนจะมีคนเล่นหุ้นได้กำไรมากกว่าขาดทุน จนทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคนลาออกจากงานประจำมาเล่นหุ้นอย่างเดียว เพราะการหาเงินจากตลาดหุ้นช่วงขาขึ้นช่างง่ายดายเหลือเกิน
ไม่ต้องมีความรู้อะไรมาก ดูแค่ว่าวันนี้หุ้นตัวไหนเด้งดี ก็อัดเงินเข้าไปเต็มๆ แบบแทงหวย ไม่ต้องสนใจหาความรู้ว่าหุ้นที่ซื้อมาทำกิจการอะไร กำไรขาดทุนเท่าไหร่
"เชื่อผมเถอะ เล่นหุ้นขาขึ้น แทงตัวไหนก็ถูก หุ้นสีเขียวเกือบทั้งกระดาน" แมลงเม่าบางรายกล่าวด้วยความมั่นใจ โดยลืมไปว่า วันที่กระดานแดงเถือกมีมากกว่า
ขณะที่เซียนหุ้นคนหนึ่งกล่าวเตือนสติว่า
"ร้อยละ 90 ของคนเล่นหุ้น เล่นหุ้นเจ๊ง เพราะนักเล่นหุ้นส่วนใหญ่ถือคติว่า มาตลาดหุ้นเพื่อหาเงินแต่คาถาข้อแรกของการเล่นหุ้นคือ มาตลาดหุ้นต้องหาความรู้ก่อนมาหาเงิน"
แต่นักเล่นหุ้นไทยมาตลาดหุ้นเพื่อหาเงินก่อน ความรู้ไว้ทีหลัง
แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 48 10:18:02
จากคุณ :
Folio
- [
25 พ.ย. 48 10:15:13
]