ความคิดเห็นที่ 9
โฟกัสตลาด "หลังคา-ไม้ฝา" เน้นแข่งสีสันขยายตลาดส่งออก ปัจจัยลบทางเศรษฐกิจทำให้ทิศทางของตลาดวัสดุก่อสร้าง รวมถึง "กระเบื้องหลังคา" ในปีนี้ส่อแววว่าจะทรงตัวหรือมีอัตราเติบโตขึ้นเพียงเล็กน้อย เมื่อสอบถามผู้ผลิตในตลาดหลายๆ ราย เกือบทุกรายต่างส่ายหน้า ยอมรับตรงกันว่า "เหนื่อย" มากขึ้น และถือเป็นช่วงเวลาแห่งการอดทนและรอคอย ล่าสุด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาดกระเบื้องหลังคาเป็นอันดับ 3 โดยมีแชร์ประมาณ 15% รองจากกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย และกลุ่มมหพันธ์ ที่ครองส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 50% และ 20% ตามลำดับ ได้สรุปถึงแนวโน้มและภาวะการแข่งขันในตลาดกระเบื้องหลังคาไว้อย่างน่าสนใจ ข้อมูลจากการสำรวจและการประเมินสถาน การณ์ตลาดกระเบื้องหลังคาของค่ายกระเบื้องตราเพชรระบุว่า นับจากในปี 2541-2544 วิกฤตเศรษฐกิจทำให้ความต้องการใช้ "กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์" และ "กระเบื้องคอนกรีต" ลดลงมาอยู่ที่ 38.51% จากกำลังผลิตรวม 189 ล้านตารางเมตร และ 14.5% จากกำลังผลิตรวม 57 ล้านตารางเมตร ตามลำดับ จากนั้นในปี 2547 ที่ผ่านมา กำลังการผลิต "กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต" และ "กระเบื้องคอนกรีต" ได้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 51.8% และ 36.8% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จากกำลังผลิตที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบัน อาจส่งผลให้การแข่งขันด้าน "ราคา" รุนแรงมากขึ้น เห็นได้จากราคาขายเฉลี่ยกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ในปี 2546-2547 ที่ลดลงจาก 88 บาทต่อตารางเมตร มาอยู่ที่ 81 บาทต่อตารางเมตร เช่นเดียวกับราคาเฉลี่ยกระเบื้องคอนกรีตที่ลดลงจาก 116 บาทต่อตารางเมตร มาอยู่ที่ 107 บาทต่อตารางเมตร ด้านมูลค่าตลาดรวมกระเบื้องหลังคาในปี 2545-2547 หรือในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีอัตราเติบโตแบบชะลอตัว โดยกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ มีอัตราเติบโต 15.3% 1.3% และ 4.2% ตามลำดับ และปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวม 7,920 ล้านบาท ส่วนกระเบื้องคอนกรีตก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน คือมีอัตราเติบโต 34.6% 20% และ 7.1% ตามลำดับ โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดรวม 2,250 ล้านบาท ส่วนตลาด "ไม้ฝา" แม้ว่าปัจจุบันจะมีมูลค่าตลาดรวมไม่มากนักประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ก็มีอัตราเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยปัจจุบันกลุ่ม มหพันธ์ครองส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดประมาณ 50% กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย (ไม้ฝาตราช้าง) 20% กลุ่มกระเบื้องหลังคาตราเพชร (ไม้ฝาตราเพชร) เกือบ 20% ส่วนที่เหลือของกลุ่มศรีกรุงธนบุรี (ไม้ฝาโอฬาร) ในแง่ของส่วนแบ่งการตลาดพบว่าปัจจุบันยังคงมีผู้ผลิตรายใหญ่เพียง 5 รายเท่านั้น จากข้อมูลในปี 2546 พบว่า กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย มีส่วนแบ่งในตลาด 52.5% กลุ่มมหพันธ์ (กระเบื้องห้าห่วง) 20.8% กระเบื้องตราเพชร 12.25% กลุ่มกฤษณ์ (กระเบื้องโอฬาร) 8.6% กระเบื้องหลังคาเซรามิคไทย 3.2% นอกจากนี้ก็ยังมีกลุ่มศรีกรุงธนบุรี (กระเบื้องวีคอน) ที่มีส่วนแบ่ง 2% และคอนวูด ที่มีส่วนแบ่ง 0.5% จากมูลค่าตลาดรวมเกือบ 14,700 หมื่นล้านบาท ด้านภาวะการแข่งขันในตลาดต่างประเทศพบว่า ที่ผ่านมาการส่งออกกระเบื้องหลังคายังมีมูลค่าไม่มากนัก ในปี 2547 มีมูลค่าส่งออกรวมเพียง 368.4 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบเพื่อนบ้าน เนื่องจากเป็นสินค้าที่โอกาสเสียหายมากและมีต้นทุนค่าขนส่งสูงกว่าเนื่องจากมีน้ำหนักมาก ในจำนวนนี้ 74.6% เป็นการส่งออกกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ ขณะที่การส่งออกกระเบื้องคอนกรีตเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยในปี 2545-2547 มีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 26.1% ตลาดส่งออกหลักของกระเบื้องหลังคายังคงครอบคลุมอยู่ใน 4 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และพม่า คิดเป็นสัดส่วน 94% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ส่วนตลาดต่างประเทศในแถบตะวันตก มีแนวโน้มความต้องการใช้กระเบื้องคอนกรีตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความสวยงามกว่ากระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ บวกกับมีความกังวลว่าเมื่อใช้งานไปนานๆ อาจมีสาร "ใยหิน" ระเหิดออกมา ซึ่งอาจทำอันตรายกับปอดและระบบทางเดินหายใจได้ เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วในแถบเอเชีย ที่เริ่มมีความต้องการกระเบื้องหลังคาที่ไม่มีส่วนผสมของสารใยหินเพิ่มขึ้น โดยตลาดหลักในอนาคตคือ "ไต้หวัน" และ "ญี่ปุ่น" บมจ.หลังคาตราเพชร ยังได้สรุปถึงแนวโน้มในธุรกิจ "กระเบื้องหลังคา-ไม้ฝา" ในอนาคตว่า จะยังคงมีความต้องการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการที่อยู่อาศัย และภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงมีการเติบโตอยู่ โดยแนวโน้มของตลาดกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์จะมีการพัฒนาให้ไปสู่สินค้าที่มี "สีสัน" มากขึ้น จากเดิมที่เป็นสีขาวอมเทา ขณะเดียวกันมีแนวโน้มว่ากระเบื้องคอนกรีตจะค่อยๆ เข้ามาทดแทนตลาดกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ในอนาคต ส่วนตลาดไม้ฝาจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด โดยคาดว่ารูปแบบการแข่งขันจะเป็นไปในเชิงการตลาดมากขึ้น อาทิ การปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ไม้ฝา ที่ปราศจากส่วนผสมของใยหิน (non asbestos) ออกสู่ตลาดมาก ขึ้น เพื่ออาศัยจุดขายเรื่องการเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2548
จากคุณ :
Jack Wealth
- [
28 พ.ย. 48 17:46:49
]
|
|
|