กระทู้ของคุณ Serenity เรื่องระบบนิเวศน์ของตลาดหุ้น เป็นความคิดที่น่าสนใจ แต่เมื่อดูความเห็นของคุณหมูทุบ ก็เป็นความเห็นที่มองจากความจริงคนละด้าน แต่เป็นเรื่องเดียวกัน
คำว่า ...เก็งกำไร...โดยเนื้อแท้จะมี2เรื่องแฝง คือเรื่องปริมาณกำไรมาก กับเรื่องของระยะเวลาแฝงอยู่เสมอ ระยะเวลาที่สั้น เราทั้งหลายมักให้น้ำหนักของกำไรที่ได้มาว่า เป็นการเก็งกำไร แต่ถ้าใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน เรามักเรียกว่า คือการลงทุน ความจริงคือเรื่องเดียวกันแตกต่างที่เวลาและผลรับ การเก็งกำไร มีขาดทุนและกำไร มากและน้อย เฉกเช่นการลงทุน มีกำไรและขาดทุนเช่นกัน มากและน้อยเหมือนกัน
คราวนี้ลองมาพิจารณาเรื่อง ...เวลา...
อะไรก็ตามที่ใช้เวลาสั้น จนถึงขั้นสั้นมาก ๆ สิ่งนั้น เรื่องนั้นมักเป็นเรื่องมีผลรุนแรง ชัดเจน ตัดสินเด็ดขาด และมีผลกระทบรอบข้างได้ง่าย เช่น การแข่งขันทุกชนิด ที่เกี่ยวกับการทำสถิติเวลา แต่ถ้าเป็นธุระกรรมที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ การได้กำไรมาก ๆ ก็ต้องมีความเสี่ยงสูง(ทั้งระยะเวลาสั้น ๆ หรือยาว ๆก็ตาม) บางธุระกรรมก็มีผลอันตรายได้ เราไม่เปรียบเรื่องผิดกฎหมาย เอาเรื่องถูกกฎหมายก็พอ เช่น การพนัน(ที่ถูกกฎหมาย)ทุกชนิดเมื่อใช้เวลาสั้นก็อาจมีการตัดสินผิดพลาด มีโอกาสเกิดความเบี่ยงเบนสูง กรรมการดูไม่ทัน คนเล่นใจใหญ่ชั่ววูบ ฯลฯ ดังนั้นจึงต้องมีกติการัดกุม และตรวจสอบเข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนวุ่นวาย
การเล่นหุ้น ก็คือแบบที่คุณ Serenity ว่า คือ การลงทุนโดยเอาการเก็งกำไร เป็นแรงจูงใจ ผมจะลองยกตัวอย่างเรื่องที่เปรียบเทียบกันได้ เช่น เมื่อ 40 ปีก่อน ใครซื้อทองคำ ราคาบาทละ 400 แล้วเก็บไว้ จนเมื่อ20 ปีก่อน ราคามาที่ บาทละ 3000 เราจะบอกได้ว่านั่นคือลงทุน แต่ถ้าใครซื้อเมื่อ 2 ปีก่อน ราคามาที่ บาทละ 6 7000 บาท และถือมา 2 3 ปี ณวันนี้ 9520 บาท อย่างงี้ตอนนั้นก็ต้องบอกว่าซื้อเพื่อเก็งกำไร ยิ่งใครมาซื้อที่ราคาปัจจุบัน ก็ต้องชัดเจนเลย ...ซื้อเก็งกำไร.แน่นอน จะสังเกตุว่า เวลาที่สั้น ๆและได้กำไรที่มากๆ จะถูกมองเรียกว่า เก็งกำไรทั้งสิ้น ตลาดหุ้นก็เช่นเดียวกัน แต่เนื่องจากระบบตลาดหุ้นเป็นสากลที่มีธุระกรรมทุกวัน กระแสเงินหมุนเวียนมากและรวดเร็ว ตลาดจึงปิดกั้นการส่งเสริมหลักคิดหลักทำแบบเก็งกำไร แต่ความจริงคือการลงทุนต้องเอาการเก็งกำไรเป็นแรงจูงใจ (ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ที่มีนิสัยชอบการท้าทายคือความเสี่ยงเพื่อการอยู่รอด การเล็งผลเลิศจึงเกิดการเก็งกำไร) แต่คนที่เข้าสู่ระบบตลาดกลับไม่รู้ไม่เข้าใจ กลยุทธการเก็งกำไร สุดท้ายคนส่วนใหญ่ก็ถูกคนอื่นหลอกโดยไม่รู้ตัว แต่ที่เลวร้ายมากที่สุดคือการ .....หลอกตัวเอง......ทุกวี่วัน
หลายคนที่ฟังนักวิเคราะห์ ดูข่าวทีวี เรื่องการออกมาแสดงหลักคิดทางปัจจัยพื้นฐานแล้วรู้ว่า ....เขาหลอกนี่...แต่ก็คลำหาทางเล่นที่ดังใจคิดไม่ได้ สุดท้ายก็หลอกตัวเองตามที่ตัวเองสร้างฝันว่าต้องเป็นงั้นเป็นงี้ เสมอ ๆ แล้วก็ขาดทุนไป
มันมีคำถามข้อหนึ่งที่ว่า รายย่อยเล่นเก็งกำไร ทุกวันน่าจะมีแต่รายงานยอดเงินซื้อขายเฉพาะรายย่อย แต่นี่มีทั้งกองทุนไทย และกองทุนต่างชาติหมุนเวียนทุก ๆ วัน ในเบื้องหลังนั้นคืออะไร ถ้าพวกเขาไม่ใช้วีธีเก็งกำไรพ่วงเอาการลงทุนบังหน้า ??
การเล่นหุ้นเป็นเรื่องซับซ้อนมาก ขณะที่ถือหุ้นติดดอยกลับตอบหน้าตาเฉยว่า ลงทุนแท้ ๆ ในขณะที่ตอบว่าใช้หลักปัจจัยพื้นฐานวิเคราะห์ลงทุนแต่กลับมาซื้อ ๆ ขาย ๆทุกวัน ไม่มีใครกล้าบอกว่า ข้าพเจ้ากำลังเก็งกำไรเพื่อการลงทุน ดังนั้นผมจึงเปิดกลยุทธ VIS ขึ้นมา เป็นหลักผสมผสาน (ตอนนี้รับศิษย์เต็มแล้ว) แต่จะค่อย ๆมาแจมเมื่อ ศิษย์ทั้งหลายใช้หลัก vis (นักลงทุนคุณค่าผสานนักเก็งกำไรคุณค่า) ได้ผลก่อน
ตอนนี้เพียงแต่จะบอกว่า การเก็งกำไรเป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตมนุษย์ ถ้าทุกคนศึกษาให้ลึก ๆของ ผู้ที่ประสพความสำเร็จ ในภาวะเบื้องต้นต้องผ่านกรรมวีธีการเก็งกำไรทั้งสิ้น เพียงแต่วัฒนธรรมบ้านเราปิดกั้นการรู้เรื่องเก็งกำไร แถมยังถูกเสี่ยมสอนให้ดูถูกดูแคลนว่าเป็น แมงเม่า เป็นความชั่วร้าย แต่จำไว้นะว่า นักเก็งกำไรไม่ใช่นักการพนัน มีโอกาสต้องมาคุยเรื่องพนันต่างและเหมือนกับเก็งกำไรอย่างไร ตรงไหน (รายย่อยก็เสียเปรียบเช่นนี้แหละ) ในขณะที่ผู้คนระดับสูงขึ้นไป เขาเก็งกำไรกันเป็นว่าเล่น จนรวยล้นกันหมด
การเก็งกำไรไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ๆนะครับ นึกจะทำก็ทำได้ทันที(นั่นมันการพนัน) ...โน... ต้องมีคุณสมบัติ ต้องรู้แท้ รู้ลึก และสิ่งสำคัญต้องฝึกประสบการณ์ด้วย
ความเห็นจากกระทู้ ระบบนิเวศน์ฯ เป็นการมองเหรียญคนละด้าน แต่ผมจะบอกว่าให้มองที่สันเหรียญว่าหนา หรือบาง จะรู้ว่าดีดได้สูงหรือกลึ้งนอนนิ่งเร็วกว่ากัน
ขอให้โชคดีมีสุข
จากคุณ :
อ.ย.nowya
- [
1 ธ.ค. 48 10:26:32
A:61.90.96.136 X: TicketID:112031
]
เก็งกำไรเพื่อลงทุน ไม่ใช่ลงทุนเพื่อเก็งกำไร
