CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ข้อมูล KCAR

    ช้าหน่อย เมื่อเช้าไม่ว่าง
    KCAR ได้ฤกษ์เข้าเทรด 1 ธ.ค.นี้ พร้อมเปิด IPO ที่ 4.4 บาท  
    Tuesday, 22 November 2005  
                      กรุงเทพฯ--22  พ.ย.--โอเอซิส  มีเดีย

                      “  KCAR  ”เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ  ในหมวด  Finance  เปิดขาย  IPO  เคาะราคาที่  4.4  บาทต่อหุ้น  ดีเดย์  24-25  พ.ย.นี้    พร้อมเทรด  1  ธ.ค.  48    มั่นใจจุดแข็งด้านการให้บริการรถยนต์ให้เช่าระยะยาว    ทั้งภาครัฐ  และเอกชน  พร้อมเล็งขยายฐานเพิ่มในอนาคต  เผยผลประกอบการไตรมาส  3  ยอดรายได้เพิ่มกว่า  35%  ขณะที่กำไรสุทธิโตอีก  21    %        
                      นายพิเทพ  จันทรเสรีกุล  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท  กรุงไทยคาร์เร้นท์  แอนด์  ลีส  จำกัด  (มหาชน)  หรือ  KCAR  เปิดเผยว่า  ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้วในหมวดสถาบันการเงิน  (Finance)  โดยมีแผนที่จะเข้าซื้อขายในวันที่  1  ธันวาคม  2548  มีบริษัทหลักทรัพย์  ซีมิโก้  จำกัด  (มหาชน)  เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น  Financial  Advisor  &  Lead  Underwriter)  สำหรับราคาหุ้นที่เสนอขาย    (Initial  Public  Offering  :  IPO)    ต่อนักลงทุนกำหนดไว้ที่ราคาหุ้นละ  4.4  บาทต่อหุ้น  โดยกำหนดวันเปิดจองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่  24-25  พ.ย.  2548  จำนวนทั้งหมด  50  ล้านหุ้น  หรือคิดเป็น  20%  ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด    โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นตัวแทนในการจัดจำหน่ายรวม  7  บริษัท  ประกอบด้วย    บริษัทหลักทรัพย์  ซีมิโก้  จำกัด  (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์  ฟาร์อีสท์  จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์  กิมเอ็ง  (ประเทศไทย)  จำกัด  (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์  โกลเบล็ก  จำกัด  บริษัทหลักทรัพย์  เคจีไอ  (ประเทศไทย)  จำกัด  (มหาชน)  บริษัทหลักทรัพย์  ฟินันซ่า  จำกัด  และบริษัทหลักทรัพย์  อินเทลวิชั่น  จำกัด  (มหาชน)                        
                      สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนครั้งนี้  บริษัทต้องการนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นมาขยายการลงทุนในการซื้อรถยนต์สำหรับให้เช่า  ชำระเงินกู้สถาบันการเงิน  ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน  และการขยายฐานทางธุรกิจรถยนต์ให้เช่าในอนาคต    ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน  250  ล้านบาท  มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ  1  บาทโดยเป็นทุนชำระแล้ว  200  ล้านบาท  มีกลุ่มตระกูลจันทรเสรีกุลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน  75  %  ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว
                      “เรายังมั่นใจว่าตลาดรถยนต์ให้เช่ายังมีศักยภาพในด้านการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ  15%  ซึ่งจุดเด่นของบริษัทฯ  จะเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพและครบวงจร  ซึ่งปัจจุบัน  KCAR  มีพอร์ตรถยนต์ให้เช่าถึง  3,200  คัน    ส่วนฐานลูกค้าใหญ่ของ  KCAR  จะเป็นบริษัทเอกชน  ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง  85  %  ของรายได้จากค่าเช่าในการดำเนินงาน  ซึ่งในอนาคตคาดว่าบริษัทต่าง  ๆ  จะหันมาใช้รถยนต์เช่ามากขึ้นตามกระแส  outsourcing  ที่ช่วยให้แต่ละบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนที่แน่นอน  ส่งผลให้สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานได้”  นายพิเทพ  กล่าว    
    นายพิเทพ  กล่าวต่อไปว่า  จุดเด่นของ  KCAR  ก็คือพอร์ตรถยนต์ที่ให้เช่าส่วนใหญ่เป็นลักษณะของการเช่าแบบ  Operating  Lease  ซึ่งเป็นการเช่าระยะเวลา  1-3  ปี    กว่า  90%  ที่เหลือเป็นการเช่าระยะสั้น  หรือ  Short  Term  Lease  ทำให้รายได้ค่อนข้างมั่นคง  เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นองค์กรขนาดใหญ่  และทำธุรกิจด้วยกันมานาน  อาทิ  บริษัท  TOT  จำกัด  (มหาชน)  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  (SME  Bank)  เป็นต้น  นอกจากนี้บริษัทฯ  ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการบริหารงานที่คล่องตัวและรวดเร็วตั้งแต่การจัดซื้อรถยนต์  การซ่อมบำรุง  และบริการด้านอื่น    ๆ    สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง    ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯมีการเติบโตสม่ำเสมอ  โดยผลการดำเนินงานล่าสุด  ณ  วันที่  31  ตุลาคม  2548  บริษัทฯ  มีรายได้รวม  527  ล้านบาท  เทียบกับช่วงเดียวกันปี  2547  ที่มีรายได้รวม  389  ล้านบาท  เพิ่มขึ้น  35.37%  ขณะที่มีกำไรสุทธิรวม  129  ล้านบาท  เทียบกับช่วงเดียวกันของปี  2547  ที่มีกำไรสุทธิ  106    ล้านบาท  เพิ่มขึ้น  21.63%  
                      นายเชาว์  อรัญวัฒน์  กรรมการผู้จัดการ  บริษัทหลักทรัพย์  ซีมิโก้  จำกัด  (มหาชน)  ในฐานะ  ที่ปรึกษาทางการเงิน  และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นของ  บริษัท  กรุงไทยคาร์เร้นท์  แอนด์  ลีส  จำกัด  (มหาชน)  หรือ  KCAR  เปิดเผยว่า  ซีมิโก้รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในครั้งนี้  โดย  KCAR  เป็นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  มีความสามารถในการทำกำไรในอัตราที่สูงถึง  25-26  %  ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันที่มีอัตราการทำกำไรเฉลี่ยประมาณ  18%  เท่านั้น  KCAR  มีสินทรัพย์รวมกว่า  1,700  ล้านบาท  มีรถยนต์ในพอร์ตกว่า  3,000  คัน  มีส่วนแบ่งตลาดติด  1  ใน  3  ของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในธุรกิจเดียวกัน  นอกจากนี้บริษัทยังมีรถยนต์ที่รอจำหน่ายอีกจำนวน  178  คัน  ที่พร้อมจะรับรู้กำไรทันทีเมื่อจำหน่ายออก  มีกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรสูงถึง  189  ล้านบาท  และที่สำคัญที่สุด  KCAR  มีทีมผู้บริหารงานคือกลุ่มตระกูลจันทรเสรีกุลที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจมานานกว่า  10  ปี  มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล  บริหารงานแบบเชิงรุก  ยึดมั่นในความโปร่งใสและหลักธรรมมาภิบาลที่ดี
    นอกจากนี้ราคาเสนอขายที่หุ้นละ  4.4  บาท  ยังเป็นราคาที่มีส่วนลดถึงร้อยละ  30-40  หากเทียบกับ  P/E  ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงกัน  ซีมิโก้  จึงมีความเชื่อมั่นว่า  KCAR  เป็นหุ้นที่มีจุดเด่นในการลงทุนในหลาย  ๆ  ประการตามที่กล่าวข้างต้น  การนำหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่สำคัญในการนำมาซึ่งความสำเร็จในอนาคตของบริษัทและถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชน  บุคคลทั่วไปได้มีโอกาสในการเป็นเจ้าของหลักทรัพย์และได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
                      สำหรับ  KCAR  เป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่ดี  และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง  โดยในช่วง  3  ปีที่ผ่านมา  KCAR  มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ  17%  ต่อปี  และเพิ่มขึ้นประมาณ  22%  ในงวด  9  เดือนปี  2548  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน  โดยมีกำไรสุทธิในปี  2547  และงวด  9  เดือนปี  2548  ประมาณ  138  ล้านบาท  และ  130  ล้านบาท  ตามลำดับ  คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิประมาณ  25%-26%  ของรายได้รวม  นอกจากนี้  KCAR  มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง  โดย  ณ  วันที่  30  กันยายน  2548  มีสินทรัพย์รวมประมาณ  1,734  ล้านบาท  ซึ่งมีรถยนต์เพื่อให้เช่าเป็นสินทรัพย์หลักคิดเป็นประมาณ  1,526  ล้านบาท  หรือ  88%  ของสินทรัพย์รวม  ทั้งนี้  บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นประมาณ  414  ล้านบาท  โดยมีกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรประมาณ  189  ล้านบาท  ซึ่งบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินกว่า  60%  ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตาม  กฎหมาย  
                      นอกจากนี้  KCAR  จัดเป็นบริษัทที่มีบรรษัทภิบาลที่ดี  มีระบบการทำงานที่โปร่งใส  ซึ่งบริหารงานโดยคณะกรรมการและทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มาไม่ต่ำกว่า  10  ปี  และเน้นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจสมัยใหม่เป็นหลัก  

                      ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ  
                      ชัชวาล  ตรีเนตร  /  ศรัญญรัตน์  สุวรรณคาม  /  ปิยะพร  จำเนียร
                      บริษัท  โอเอซิส  มีเดีย    จำกัด  โทร  :  0-2937-4735
                      e-mail  :   chatchaval@oasismedia.co.th  ;   saranyarat@oasismedia.co.th;   piyaporn@oasismedia.co.th

    จากคุณ : Jack Wealth - [ 1 ธ.ค. 48 12:40:45 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป