ความคิดเห็นที่ 1 บริษัทอยู่ระหว่างรอผลการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตรา "อิมพีเรียล เทสท์" ซึ่งได้ขอจดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2547 มาตรฐานสินค้า และมาตรฐานความปลอดภัย         บริษัทได้พัฒนาคุณภาพการผลิตจนได้การรับรองมาตรฐานสินค้า และมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหารจาก หลายระบบทั้ง 2 โรงงาน อาทิเช่น HALAL, GMP, HACCP มาตรฐานระบบ ISO 9001:2000 ทั้งระบบจากสถาบัน SGS, THAILAND BRAND มาตรฐานกรมการค้าภายใน และมาตรฐานกรมการค้าต่างประเทศ รวมถึงเป็นบริษัทรายแรกที่ได้รับ รางวัลประกาศนียบัตรเกียรติคุณการควบคุมคุณภาพและการโฆษณาเป็นธรรมจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท           1. กลุ่มผลิตภัณฑ์พืชผลทางการเกษตรโดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ข้าวสารและผลิตภัณฑ์ธัญพืชประเภทถั่วชนิด ต่าง ๆบรรจุถุงผลิตภัณฑ์ข้าวสารของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ ดังต่อไปนี้            1.  กลุ่มข้าวขาวหอมมะลิ โดยข้าวขาวหอมมะลิบรรจุถุงของบริษัทมีขนาด 1 กิโลกรัม ขนาด 5 กิโลกรัม ขนาด 25 กิโลกรัมและขนาด 50 กิโลกรัม เพื่อความเหมาะสมในการบริโภคในแต่ละกลุ่มลูกค้า            2.  กลุ่มข้าวหอมผสมผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ประกอบด้วยข้าวหอมผสม 2 ชนิดคือ 1) ข้าวหอมผสมทุ่งกุลาตราเกษตร เป็นข้าวที่มีส่วนผสมข้าวขาวหอมมะลิ 55% และข้าวขาว 45% และ 2) ข้าวหอมผสมสุรินทร์ตราฉลาดชิม เป็นข้าวที่มี ส่วนผสมข้าวขาวหอมมะลิ 40% และข้าวขาว 60%            3.  กลุ่มข้าวขาว ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้คือ ข้าวขาวเสาไห้ 100%  ตราเกษตร เป็นข้าวขาวจากเขตภาคกลางที่มีคุณภาพสูง            4.  กลุ่มข้าวชนิดอื่น ๆ เป็นข้าวที่มีการบริโภคเฉพาะกลุ่ม ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่สูง เช่น ในกลุ่มสินค้า เพื่อสุขภาพ และอุตสาหกรรมขนม ได้แก่ ข้าวกล้องหอมมะลิ 100% และ ข้าวเหนียวเขี้ยวงู เป็นต้น            ผลิตภัณฑ์ถั่ว และธัญพืชอื่นๆ  ของบริษัทสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ ดังต่อไปนี้            (1)  ถั่วเขียว ถั่วแดงหลวง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเหลืองเม็ด และ งาดำ            (2)  ถั่วเขียวสุกเร็ว 10 นาที            (3)  ถั่วเขียวซีก และ ถั่วเหลืองซีก            (4)  งาขาว และข้าวเหนียวดำ         2. กลุ่มผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป คือผลิตภัณฑ์จากผลผลิตทางการเกษตร นำมาผ่านกระบวนการผลิต ให้เป็นผลิตภัณฑ์ ที่แปรรูป อันได้แก่ น้ำมันพืช วุ้นเส้นและน้ำส้มสายชู             บริษัทซื้อวัตถุดิบคือน้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลืองที่กลั่นแล้วจากผู้ผลิตในประเทศทั้งหมดมาทำการผลิต โดยการ นำวัตถุดิบดังกล่าวมา ปรุงสูตร แบ่งบรรจุในขนาดต่างๆและจัดจำหน่าย ขนาดบรรจุน้ำมันพืชจะเป็นขนาดใหญ่สำหรับตลาด อุตสาหกรรมคือ ขนาด 13.75 ลิตร 18 ลิตร และ 200 ลิตร             วุ้นเส้นของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 ตราสินค้า และสามารถแบ่งตามตลาดหลักได้เป็น 3 ส่วนดังนี้คือ             1) วุ้นเส้นถั่วเขียว 100% ตราเกษตร (ถุงสีเขียว) เป็นวุ้นเส้นที่อยู่ในเกรดคุณภาพดีที่สุด เพื่อจำหน่ายในตลาดพรีเมี่ยม             2) วุ้นเส้นถั่วเขียวเกรด A ตราเกษตร (ถุงสีฟ้า) เป็นวุ้นเส้นอยู่ในชั้นคุณภาพดี สำหรับตลาดระดับมาตรฐาน             3) วุ้นเส้นตราฉลาดชิมเป็นวุ้นเส้นราคาประหยัดคุณภาพปานกลาง             วุ้นเส้นทุกประเภทมีขนาด 500 กรัม ขนาด 200 กรัม ขนาด 80 กรัมและขนาด 40 กรัม เพื่อความเหมาะสมในการ บริโภคในแต่ละกลุ่มลูกค้า             บริษัทมีผลิตภัณฑ์น้ำส้มสายชูกลั่น 5% ตราเกษตร โดยการจ้างผลิตตามสูตรการผลิตของบริษัท โดยเป็นน้ำส้ม สายชูซึ่งอยู่ในตลาดพรีเมี่ยม และมีขนาดสำหรับจัดจำหน่ายอยู่ 2 ขนาด คือ ขนาด 700 ซีซี และ 300 ซีซี ลักษณะการดำเนินธุรกิจการผลิต การแบ่งบรรจุถุง หรือการจ้างผลิตสามารถสรุปได้ดังนี้คือ         1)  บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจการผลิตและจำหน่ายข้าวบรรจุถุง และวุ้นเส้นบรรจุถุง         2)  บริษัทนำธัญพืชต่างๆมาผ่านกระบวนการคัดแยก ทำความสะอาด และบรรจุถุงเพื่อจัดจำหน่าย         3)  บริษัทเป็นผู้นำน้ำมันพืชมาปรุงสูตรและจัดจำหน่าย         4) บริษัทจ้างผู้ผลิตน้ำส้มสายชูเพื่อนำมาบรรจุขวดและจัดจำหน่าย         กำลังการผลิตและการใช้กำลังการผลิต (หน่วย:ตัน) ในปี 2547 ถึงงวด 9 เดือนแรกของปี 2548 สรุปได้ดังนี้ จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 08:49:54 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ผลิตภัณฑ์           ปี 2547                               งวด 9 เดือนแรกของปี 2548               กำลังการผลิต     การใช้ปริมาณ    ร้อยละ     กำลังการผลิต  การใช้ปริมาณ     ร้อยละ                 เฉลี่ย/ปี      การผลิตเฉลี่ย/ปี                            (ตัน)      การผลิตเฉลี่ย                  (ตัน)        (ตัน)                                                                  (ตัน) วุ้นเส้น            1,000          836         83.60       1,200        884          73.67 ข้าวสาร          135,000     110,300         81.70      150,000     117,129       78.08 น้ำมันพืช           3,500        2,145         61.29       3,500       2,174         62.11 ธัญพืช              5,000       2,350         47.00       5,000       2,408         48.16 โครงสร้างรายได้ (ล้านบาท)                  2545                       2546                        2547                   งวด 9 เดือนแรกของ                                                                                                                ปี 2548            จำนวน     ร้อยละ     จำนวน      ร้อยละ     จำนวน   ร้อยละ    จำนวน     ร้อยละ ข้าว         439.14     73.90    812.05    84.47      972.55   78.98    610.30   69.77 วุ้นเส้น      42.90        7.22    47.01      4.89      59.55     4.83    49.24     5.63 อื่น ๆ1       112.19     18.88   102.31     10.64      98.35     7.99    69.31     7.92 สินค้าTrading2  -         -          -        -       100.94     8.20    145.84   16.67 รวม         594.23    100.00     961.37  100.00   1,231.39    100.00   874.70  100.00 หมายเหตุ:   1)  สินค้าอื่นในที่นี่ได้แก่ ธัญพืช น้ำมันพืช และน้ำส้มสายชู           2)  สินค้าที่ซื้อมาเพื่อขายต่อหลักๆโดยบริษัทย่อย (หลังหักรายการระหว่างกันกับบริษัทแล้ว) เช่น น้ำมันปี๊บตราองุ่น               นมผงตรา Mission และ น้ำตาลทรายตรามิตรผล อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เป็นต้นไป บริษัทย่อย               ได้ยกเลิกการขายนมผงตรา Mission และได้จัดหาสินค้าอื่นคือสินค้าแป้งมันมาทดแทนสินค้าดังกล่าวเพื่อชดเชย               รายได้ที่เสียไป นโยบายราคา         มีแนวโน้มหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีกำไรต่อหน่วยต่ำ และราคาวัตถุดิบมีการเปลี่ยนแปลง ตามฤดูกาล แต่จะใช้ราคาอ้างอิง ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยขึ้นลงปกติทั่วไปที่สามารถคำนวณได้จากราคาเบื้องต้นที่ถูกกำหนดโดยหอการค้าไทย สำหรับแต่ละชั้นของคุณภาพไว้อย่างชัดเจน กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย         ( 1 ) กลุ่มผู้บริโภคคนสุดท้าย           ( 2 )  กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม โดยลูกค้าดังกล่าวส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการนำไปเพื่อผลิตหรือนำไปใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งจะขายผ่านฝ่ายขายของบริษัท เชียร์ เทรดดิ้ง จำกัด ตั้งแต่เดือนกันยายน 2547 เป็นต้นไป         ( 3 )  กลุ่มผู้บริโภคชาวเอเชียที่อาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก  ที่จะนิยมรับประทานข้าวขาวหอมมะลิของไทยที่มี รสชาติอร่อย แตกต่างจากข้าวชนิดอื่น ช่องทางการจัดจำหน่าย  ปัจจุบันบริษัทจำหน่ายสินค้าผ่าน 3 ช่องทาง คือ         1) การขายผ่านบริษัทย่อยของบริษัท คือ บริษัทเชียร์ เทรดดิ้ง จำกัด เมื่อเดือนกันยายน 2547 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบริษัท จัดจำหน่ายสินค้าบริโภคชั้นนำในการกระจายสินค้าเข้าในช่องทางค้าส่งและค้าปลีกทั้งแบบโมเดิร์นเทรดและแบบดั้งเดิม   และลูกค้าประเภท Catering อันได้แก่ โรงแรม ภัตตาคาร และร้านอาหาร และ ลูกค้าอุตสาหกรรมต่อเนื่อง         2) บริษัทมีฝ่ายขายในประเทศเพื่อรองรับลูกค้าเอเย่นต์ และ ลูกค้ารายใหญ่         3) บริษัทมีฝ่ายขายต่างประเทศ รายละเอียดโรงงาน         บริษัทมีโรงงานอยู่ที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีกำลังการผลิตข้าวเทียบเท่า 150,000 ตันข้าวเปลือกต่อปี หลังจากที่เมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 บริษัทได้ดำเนินการขยายพื้นที่โรงงานที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และสร้าง คลังสินค้าเพิ่มเติม 1 หลังเพื่อรองรับกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 30 จากเดิม เทียบเท่า 120,000 ตันข้าวเปลือกต่อปีเป็นที่ เรียบร้อย และได้ทยอยติดตั้งเครื่องจักรพร้อมเพิ่มกำลังการผลิตวุ้นเส้นอีก 100% จากปัจจุบัน 1,200 ตันเป็น 2,400 ตันต่อปี ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2548 โดยการซื้อเครื่องจักรเพิ่มเติมที่ทันสมัยสำหรับโรงงานวุ้นเส้นดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอ ตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อสามารถรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นที่มีคุณภาพสูงของผู้บริโภคในประเทศ วัตถุดิบและผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบ         บริษัทซื้อข้าวสารโดยตรงจากโรงสีข้าวและนายหน้า และซื้อถั่วเขียวซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับวุ้นเส้นจากนายหน้าเท่านั้น นอกจากนี้ บริษัทซื้อธัญพืช เช่น ข้าวเหนียวดำ ถั่วดำ งาขาว และ งาดำ ข้างต้น จากโรงสี นายหน้าของสหกรณ์ และนายหน้า ของเกษตรกร จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 08:50:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 นโยบายการจ่ายเงินปันผล             บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ในแต่ละปี ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลให้นำปัจจัยต่างๆ ต่อไปนี้มาพิจารณาประกอบ เช่นผลการดำเนินงานและฐานะทางการเงิน ของบริษัท  สภาพคล่องของบริษัท การขยายธุรกิจ และปัจจัยอื่นๆ  ที่เกี่ยวข้องในการบริหารงานของบริษัท ซึ่งการจ่าย เงินปันผลดังกล่าวข้างต้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามความเหมาะสม และความเห็นชอบของ คณะกรรมการของบริษัท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่                                                                30 /มิ.ย./47      15/ก.ย./47        1 /ธ.ค./ 48 (หลัง IPO)                      ชื่อ                                     จำนวนหุ้น        จำนวนหุ้น        จำนวนหุ้น     ร้อยละของ                                                                                                                                      ทุนชำระแล้ว 1.  บริษัท เชียร์ (ประเทศไทย) จำกัด (1)   43,124,940     99,124,950          99,124,950            50.06 2.  นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม              10,637,510     10,637,510         11,235,510              5.67                             3.  นางสาวปรินดา  ตั้งพิรุฬห์ธรรม        10,350,010     10,350,000         10,850,010              5.48 4.  นายวรวิทย์  ตั้งพิรุฬห์ธรรม               10,350,010     10,350,010         10,850,010              5.48 5.  นายวรวุฒิ  ตั้งพิรุฬห์ธรรม                 10,350,010    10,350,010         10,850,010              5.48 6. บริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท แมนเนจเม้นท์   23,000,010                  -                         -                    - 7.  กลุ่มนายวิสุทธิ วิทยฐานกรณ์             7,187,510      7,187,510            9,827,510              4.96 8.  กลุ่มออศิริวิกรณ์                                            -                      -             3,900,000              1.97 9.  กลุ่มเหมะกุล                                                  -                     -             3,750,000              1.89 10.  กลุ่มจิรัฐพิกาลพงศ์                                       -                    -              3,100,000              1.57 11.  นายสุรพันธ์ พัฒนพิฑูรย์                               -                   -               1,462,000              0.74                  รวม                                          115,000,000   148,000,000        164,950,000         83.31   (1) หมายเหตุ:  - เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2547 บริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับกลุ่มตั้งพิรุฬห์ธรรม ประกอบด้วย นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม  นางสาวปรินดา  ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายวรวิทย์  ตั้งพิรุฬห์ธรรม และ นายวรวุฒิ  ตั้งพิรุฬห์ธรรม   ได้ทำการขายหุ้นออกทั้งหมดจำนวน 23,000,010 หุ้น ให้กับบริษัท เชียร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผลทำให้เชียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นในบมจ. ไทยฮา อยู่จำนวน 66,124,950 หุ้น ก่อนได่รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จากบริษัทอีก จำนวน 33 ล้านหุ้น รวม จำนวน 99,124,950 หุ้น  - จำนวนหุ้นที่บริษัท เชียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ถืออยู่ดังกล่าวรวมหุ้นที่ให้ยืมเพื่อจัดสรรหุ้น ส่วนเกิน 5 ล้านหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้  - รายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัท เชียร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีรายละเอียดดังต่อไปนี้     รายชื่อผู้ถือหุ้น                                         จำนวนที่ถือ (หุ้น)           ร้อยละ 1. กลุ่มตั้งพิรุฬห์ธรรม                                          18,088,505             60.30 2. กลุ่มวิทยฐานกรณ์                                             6,020,732             20.07 3. บริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด1         5,000,000             16.67 4. นางรัตนา จันทรพิทักษ์                                           532,909              1.78 5. นางวิไล ตั้งสิน                                                         213,545              0.71 6. นายธงชัย ตันสุทัตต์                                                 31,400               0.10 7. น.ส. สุภรัตน์ ศักดิ์วรารัตน์                                       85,636               0.28 8. น.ส. ฐิติมา ออศิริวิกรณ์                                           27,273               0.09 รวม                                                                         30,000,000             100.00 หมายเหตุ: 1)  ผู้ถือหุ้นบริษัท ฉมา แอ็สเซ็ท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ทั้งหมดได้แก่ กลุ่มตั้งพิรุฬห์ธรรม                 สถิติ                                            บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน)                          |-----ล้านบาท ----|---บาท ----|----------บาท/หุ้น* ----------|       ปี                   รายได้จาก   กำไร    กำไร         เงินปันผล       มูลค่าหุ้น        เงินปันผล                           การขาย    สุทธิ       สุทธิ                       ตามบัญชี        ต่อกำไร (%) 2545                       594.23     (5.44)   (0.05)        0.00          1.03         0.00 2546                       961.37     21.28     0.18         0.00          1.21         0.00 2547                     1,110.03    35.18      0.28         0.21**        1.26        75.00 งวด 9 เดือนแรกของ           713.87    12.51     0.08         0.12**        1.22         150.00 ปี 2548  (สอบทานแล้ว) *   ปรับมูลค่าที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 1.00 บาท เพื่อการเปรียบเทียบ ** เงินปันผลมาจากกำไรสะสม                                     บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย                        |-----ล้านบาท ------|---บาท ----|-------บาท/หุ้น* ---------|       ปี                 รายได้จาก   กำไร      กำไร       เงินปันผล       มูลค่าหุ้น      เงินปันผล                          การขาย    สุทธิ       สุทธิ                      ตามบัญชี      ต่อกำไร (%) 2545                      594.23     (5.44)  (0.05)        0.00         1.03         0.00 2546                      961.37     21.28    0.18         0.00         1.21         0.00 2547                    1,231.39     35.18    0.28         0.21**       1.26        75.00 งวด 9 เดือนแรกของปี        874.70     12.51     0.08         0.12**       1.22       150.00 2548  (สอบทานแล้ว) *   ปรับมูลค่าที่ตราไว้เป็นหุ้นละ 1.00 บาท เพื่อการเปรียบเทียบ **เงินปันผลมาจากกำไรสะสม จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 08:52:22 ]

ความคิดเห็นที่ 4 การซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินของหลักทรัพย์ KASET ตามที่บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) (KASET) ได้มีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน จำนวน 5,000,000 หุ้น โดยยืมหุ้นทั้งจำนวนจาก บริษัท เชียร์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อส่งมอบหุ้นให้แก่ผู้ได้รับการจัดสรรโดยผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over Allotment Agent) ซึ่งได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการ จัดหาหุ้นเพื่อส่งคืนให้แก่ผู้ให้ยืม โดยการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (Stabilization) ตามรายละเอียดดังนี้ ระยะเวลาซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน : 9 ธันวาคม 2548 ถึง 4 มกราคม 2549 เงื่อนไขราคา : ราคาในการซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินต้องไม่สูงกว่าราคา จองซื้อหลักทรัพย์ (1.20 บาท) หรือ ไม่สูงกว่าราคาเสนอซื้อสูงสุดในขณะนั้น หรือ ไม่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายในขณะนั้น ทั้งนี้แล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่ากัน การขึ้นเครื่องหมาย : ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย "ST" บนกระดาน ของหลักทรัพย์ที่มีการซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกินเพื่อแจ้งให้นักลงทุนทราบ ตลอดช่วงเวลาที่มีการซื้อเพื่อส่งมอบหุ้นที่จัดสรรเกิน     อย่างไรก็ตามระยะเวลาในการจัดหาหุ้นดังกล่าว อาจสิ้นสุดก่อนช่วงเวลาดังกล่าว ข้างต้น หากผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ครบจำนวนแล้ว และ/หรือใช้สิทธิซื้อหุ้น (Exercise Greenshoe Option) จากนายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายวรวิทย์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นางสาวปรินดา ตั้งพิรุฬห์ธรรม และนายวรวุฒิ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ตามสัดส่วน เป็นจำนวนรายละไม่เกิน 1,250,000 หุ้น คิดเป็นจำนวนรวมกันทั้งสิ้น 5,000,000 หุ้น จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 08:53:24 ]

ความคิดเห็นที่ 5 thanks krab จากคุณ : samsam - [ 9 ธ.ค. 48 08:53:25 ]

ความคิดเห็นที่ 6 http://www.kasetbrand.com/th/a_about.html จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 08:55:04 ]

ความคิดเห็นที่ 7 -_-" ...ชื่อ คาSET ขอบคุณครับ ... แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 48 08:55:59 จากคุณ : GABLIEL - [ 9 ธ.ค. 48 08:55:42 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากครับ คุณ Jack Wealth ดูหัวกระทู้แล้วคิดว่าวันนี้หุ้นไทยได้ฮา!! ซะอีก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า จากคุณ : ~เฮ้อ... - [ 9 ธ.ค. 48 09:05:46 A:203.188.25.193 X: TicketID:075991 ]

ความคิดเห็นที่ 9 วันนี้อย่าหลงกล นะครับ ตั้งสติ ๆๆๆ วันนี้ วันศุกร์ เกษตร สีเขียว แต่เช้า [คลิกเพื่อชมภาพขนาดจริง] จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 09:12:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว - [ 9 ธ.ค. 48 09:18:28 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ไทย ฮา คา set รึเปล่าครับ ^^ จากคุณ : Thai Crystal - [ 9 ธ.ค. 48 09:32:54 A:24.63.179.214 X: TicketID:001471 ]

ความคิดเห็นที่ 12 HA HA HA HA HA .....55555555555555555555................ จากคุณ : สุดโจ๋ว - [ 9 ธ.ค. 48 09:35:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ตามอ่านมาพักนึงแล้ว มี IPO ใหม่มาก็มาอ่านข้อมูลจากพี่ Jack Wealth นี่แหละครับ ขอบคุณมากครับ จากคุณ : -eaid- - [ 9 ธ.ค. 48 09:42:07 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อีกตัวหนึ่ง  ไทย  น๊อค  =  THAI  KNOCK บริษัทได้ตั้งเป้ากำลังการผลิตสแตนเลสในปีนี้ จากเดิม 2 แสนตัน ลดลง เหลือ 1.7 ตัน และในปี48 คาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็นเ 1.9 แสนตันต่อปี ซึ่งสาเหตุ ที่บริษัทผลิตสแตนเลสได้ลดลงนั้นเนื่องจาก ผู้งส่งวัตถุดิบให้กับบริษัทไม่สามารถส่งได้ตรงตาม กำหนด โดยหลังจากนำบริษัทนำบริษัทเข้าการซื้อขายในตลาดแล้วบริษัทคาดว่าจะสามารถเพิ่ม กำลังการผลิต เป็น 3 แสนตันต่อปี ซึ่งเงินลงทุนจำนวนดังกล่าวจะนำมาจากการกู้ธนาคารและเงิน ดำเนินงานบริษัทเองสำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บรัทจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุน เวียนในการขยายกิจการ โดยปัจจุบันบริษัทไม่มีหนี้สิน โดยบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (DE) 0.5 เท่าซึ่งถือเป็นอัตราส่วนที่ต่ำมากสำหรับธุรกิจ สแตนเลส ทั้งนี้บริษัทมีสัดส่วนการจำหน่ายสแตนเลสปีนี้ในประเทศ 65% และต่างประเทศ 35% โดยในปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นอีก 10% เนื่องจากราคาสินค้า ที่จำหน่ายในประเทศสูงกว่าการจำหน่ายต่างประเทศประมาณ 5% สำหรับปริมาณการใช้สแตนเลสนั้นทั่วโลกอยู่ที่ 22 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ประเทศมี ปริมาณการใช้สแตนเลส 2 แสนตันต่อปี ซึ่งคิดเป็นเพียง 1% ของความต้องการการใช้ทั่วโลก จึงมองว่าอุตสาหกรรมสแตนเลสจะมีอัตราการเติบโต ที่ดีจึงมองว่าอนาคตอุตสาหกรรม สแตนเลสจะมีอัตราเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้ขายสแตนเลสได้ขายสแตนเสล 100 บาทเป็นหรือคิดเป็น 85% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 09:44:11 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อีกตัวนะ  ทุ่ง HA หุ้น THL พุ่งแรงเพราะปัจจัยพื้นฐาน ไม่ใช่แรงเก็งกำไร นี่ข้อมูลเก่า ๆ นะครับ โดย บีสิเนสไทย [19-9-2003]   ผู้บริหาร “ทุ่งคาฮาเบอร์” แจงเหตุหุ้น “THL” ขึ้นไม่ได้มาจากการเก็งกำไร แต่เป็นเพราะปัจจัยพื้นฐาน หลังได้รับการยืนยันทำเหมืองแร่ทองคำ พร้อมย้ำทิศทางธุรกิจหลักยังเป็นการขุดเหมืองแร่ทองคำ ขณะที่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นรอง การเพิ่มขึ้นของราคาหลักทรัพย์ THL ในช่วงที่ผ่านมา นายโรนัลด์ อึ้ง วาย ซอย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไม่ได้ขึ้นเพราะการเก็งกำไร หากแต่มาจากปัจจัยพื้นฐาน จากโครงการเหมืองทองคำ โดยในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมามีทั้งโบรกเกอร์และกองทุนจากไทยและต่างประเทศ เข้ามา Visit แทบทุกวัน นายโรนัสด์ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ เพราะ third party หรือ Edward Brennan, ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐศาสตร์ธรณีวิทยา ชาวออสเตรเลีย ผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านธรณีวิทยาเป็นอย่างดี และเป็นสมาชิกของ Australasian Institute of Mining and Metallurgy (AIMM) ได้ยืนยันเกี่ยวกับปริมาณสินแร่ทองคำ แต่ดำเนินการจัดทำโดย COMO Engineers Pty. Ltd.ว่ามีปริมาณที่มากพอ ขอบเขตของรายงาน Information Memorandum นั้น จัดทำขึ้นเพื่อยืนยันความเพียงพอของปริมาณสินแร่รวมทั้งระบุว่าการดำเนินโครงการเหมืองทองคำใน ระยะเริ่มต้น 4 ปี สามารถให้ผลตอบแทนเพื่อชำระคืนเงินกู้และคืนเงินลงทุนได้อย่างแน่นอนเดิมที่ล่าช้าแค่ process เริ่มขึ้นแค่นั้นแต่งานสาธารณูปโภคพื้นฐานเราเริ่มไปแล้ว “จากจุดนี้ทำให้แบงก์มีความมั่นใจ มากขึ้น ขั้นตอนกู้เงินก็จะเดินหน้า แต่ในส่วนของงานที่เรารับผิดชอบมีความคืบหน้าไปมาก โดยจะใช้เงินกู้ประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คาดว่าจะคืนทุนได้ภายใน 10 ปี ในกระบวนการผลิตหลังจากได้เงินกู้แล้วประมาณไตรมาส 2 ของปี 2547” นายโรนัลด์ กล่าวว่า ตามปริมาณที่ สำรวจพบ คาดว่าจะมีกำไรไม่น้อยกว่า 1 บาท/หุ้น/ปี โดยปีแรกจะเยอะหน่อย แต่ให้ตัวเลขรวมๆ ดีกว่า โปรเจ็กต์นี้ 4 ปีแรก จะมี revenue ประมาณ 60 ล้านเหรียญ และเป็น net cash margin ประมาณ 35 ล้านเหรียญ แต่ปีแรกจะมีรายได้สูง เพราะเราจะขุดตรงที่ปริมาณทองมากๆ “ราคาทองคำ 4 ปี แรกคิดที่ระดับ ราคาทอง 350 เหรียญ ปัจจุบันอยู่ที่ 375 เหรียญ แต่เรายังไม่ได้นับรวมถึงพื้นที่โดยรอบ เรายังประทานบัตรที่รอการอนุมัติอีก 114 แปลง ซึ่งขณะนี้เพิ่งได้อนุมัติ 6 แปลง ประมาณ 600,000 ออนซ์ พื้นที่ยังสามารถที่จะพัฒนาได้อีก” ด้านผลประกอบการนั้นนายโรนัลด์ กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ก็ยังขาดทุน แต่คงดีขึ้นจากไตรมาส 1-2 เพราะเพิ่งได้ส่งมอบหินล็อตสุดท้ายให้การรถไฟ แต่ขอให้เข้าใจ THL ไม่ได้ขาดทุนจากการดำเนินงาน แต่เราขาดทุนเพราะ hold ทุ่งคำเอาไว้ซึ่งยังไม่มีรายได้ และเป็นเงิน investment ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ย แต่ถ้าเหมืองทุ่งคาเกิดทำกำไรให้ได้ 20-30 เท่า ขาดทุนตรงนี้ไม่มีผลเพราะมัน Cover ได้หมด ฉะนั้นขาดทุนไตรมาสละ 9 ล้านบาทไม่มีผลต่อราคาหุ้น ในส่วนของธุรกิจหลักของทุ่งคาฮาเบอร์นั้น นายโรนัลด์ ยืนยันว่า ยังเน้นธุรกิจทองคำเป็นหลัก ขณะที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่มีความเชี่ยวชาญมากนัก โดยด้านงาน อสังหาริมทรัพย์นั้นมีแผนสร้างตึก 28 ชั้นบนพื้นที่แถวรัชดาฯ โดยตัวตึกอยู่ระหว่างทำ deal diligent กับพาร์ทเนอร์ อาจจะออกมาในรูปคอนโดมิเนียมหรือเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ จุดขายคือใกล้สถานีรถใต้ดินอยู่ในโซนที่มีชาวต่างชาติอยู่เยอะพอสมควรและคิดว่าน่าจะรองรับได้เพราะตลาดพวกนี้เริ่มบูม สังเกตดูตึกที่มีพื้นที่บริเวณที่มีขนส่งมวลชน ปรากฎว่ามียอดจองซื้อที่สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว ที่ดินตรงนี้ศักยภาพสูงและมีข้อได้เปรียบอีกอย่างคือใบอนุญาตที่ขอไว้ทำให้มีสิทธิทำตึกสูงขณะที่กฎใหม่ทำไม่ได้แล้วจะทำได้แค่ 8 ชั้น จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 09:51:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ทุ่ง ฮา นี่โดน SP แล้วนี่ จากคุณ : Jack Wealth - [ 9 ธ.ค. 48 09:56:23 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เปิดมาใหม่น่าจะโดดไปที่ 4.10 เลยตามราคาทองตอนนี้ ... จากคุณ : หลังเขา - [ 9 ธ.ค. 48 13:31:23 A:203.156.45.26 X: TicketID:051024 ]