CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    SHIN ขายแน่ ?

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวว่าตระกูลชินวัตรจะขายหุ้นใน บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น (SHIN) ให้แก่พันธมิตรต่างประเทศตลอดช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าตระกูลชินวัตรมีความตั้งใจที่จะขายหุ้นที่ถืออยู่จริง โดยขณะนี้กำลังเจรจาเงื่อนไขการซื้อขายหุ้นกับบริษัทสิงคโปร์ เทเลคอม (SINTEL) ซึ่งปัจจุบันเป็นพันธมิตรที่ร่วมถือหุ้นในบริษัทชินคอร์ป รวมทั้งบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือ AIS ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเบอร์ 1 ในประเทศไทย อยู่แล้วด้วย

    ทั้งนี้ การขายหุ้นดังกล่าวเป็นไปตามเป้าประสงค์ของตระกูลชินวัตร ที่ต้องการล้างมือจากวงการธุรกิจเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน โดยจะเป็นการขายหุ้นทั้งหมดที่ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ถืออยู่ในชินคอร์ปรวมกัน 49.61% ซึ่งเท่ากับเป็นการขายหุ้นในเอไอเอสด้วย เพราะชินคอร์ปถือหุ้นอยู่ในเอไอเอส 42.86% ไม่นับรวมบริษัทลูกในเครืออื่นๆ

    เบื้องต้นยังมีการคาดหมายด้วยว่า หากการขายหุ้นครั้งนี้สำเร็จลง จะทำให้มีเงินเข้าสู่ประเทศราว 70,000-80,000 ล้านบาท โดยราคาซื้อขายเมื่อเริ่มต้นดีลอยู่ที่ 51 บาทต่อหุ้น แต่ตกลงราคากันไม่ได้จึงมีความพยายาม ที่จะดึงบริษัทไชน่าเทเลคอมแห่งประเทศจีน เข้ามาร่วมเจรจาเพื่อต่อรองเพิ่มราคาหุ้น อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ตกลงกันล่าสุดอยู่ที่หุ้นละ 45 บาท โดยส่วนหนึ่งจะเป็นการจ่ายเงินสด และอีกส่วนจะใช้วิธีการแลกหุ้น (สวอป) โดยตระกูลชินวัตรจะเข้าไปถือหุ้นสิงเทล ขณะที่สิงเทลจะเข้ามาถือหุ้นชินคอร์ปแทน

    ขณะที่ความเคลื่อนไหวของการซื้อขายหุ้นบริษัทยูไนเต็ด คอมมูนิเคชั่น หรือ ยูคอม ล่าสุดในที่ประชุมบอร์ดวันที่ 20 ธ.ค.นี้ มีความเป็นไปได้ว่า ที่ปรึกษาทางการเงินจะเสนอให้บอร์ดอนุมัติการขายธุรกิจอื่นๆ ให้แก่บริษัทเบญจจินดาของตระกูลเบญจรงคกุล อันได้แก่ ธุรกิจบรอดแบนด์ ธุรกิจรับติดตั้งเครือข่าย และธุรกิจจัดจำหน่ายระบบไอที ซึ่งจะทำ ให้ยูคอมเหลือธุรกิจหลักเพียงอย่างเดียวคือมือถือ อยู่ภายใต้บริษัทลูก คือโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเบอร์ 2 ของไทย ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายหุ้นใน ตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์อยู่แล้ว ทำให้ที่สุดยูคอมต้องถอนหุ้นออกจากตลาดหุ้นไทย โดยอาจต้องรับซื้อหุ้นคืน จากรายย่อย (เทนเดอร์ออฟเฟอร์) อีกรอบหนึ่ง

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ตระกูลเบญจรงคกุลผู้ก่อตั้งและถือหุ้นใหญ่บริษัทยูคอม บริษัทแม่ของดีแทค ได้ถอดใจเทขายหุ้นกว่า 40% ให้แก่บริษัทเทเลนอร์ ยักษ์สื่อสารแห่งนอร์เวย์ ด้วยมูลค่า 9,000 ล้านบาท เพื่อหันไปทำธุรกิจที่ถนัดกว่า และล่าสุดกลุ่มเทเลนอร์ได้ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ หุ้นยูคอมรอบแรกเสร็จสิ้นแล้ว ทำให้สัดส่วนหุ้นที่ถืออยู่เพิ่มเป็น 86%

    ทั้งนี้ บริษัทสิงคโปร์เทเลคอม นับเป็นบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ที่มีมาร์เกตแคปสูงที่สุด มีมูลค่าถึง 26,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1,040,000 ล้านบาท) เป็นบริษัทที่ให้บริการด้านโทรคมนาคมครบวงจร ระยะหลังเน้นขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ จนทำรายได้เป็นสัดส่วนสูง 74% ของรายได้รวมทั้งหมด โดยหนึ่งในการลงทุนต่างประเทศที่ฮือฮาที่สุดคือการเข้าซื้อกิจการบริษัท Optus ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในออสเตรเลีย เมื่อปี 2544 นอกจากนั้น ยังได้ลงทุนหลักในไทย ฮ่องกง อินเดีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน บังกลาเทศ อินโดนีเซีย มีลูกค้ารวม 74 ล้านราย โดยในส่วนของเมืองไทยนั้น สิงเทลได้เข้ามาถือหุ้นเอไอเอสในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ด้วยสัดส่วน 19.26% และถือในชินคอร์ป 1.08%.
    ที่มา ไทยรัฐ

    จากคุณ : Jack Wealth - [ 16 ธ.ค. 48 09:37:27 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป