ความคิดเห็นที่ 1 และผมขอเน้นเลยนะครับ ธุรกิจผูกขาดยังไงก็มีกำไร egat บอกจะมีเงินปันผลขั้นต่ำ 30% ของกำไร ยังไงก็ต้องจ่ายเงินปันผลเมื่อมีกำไร ดูได้จาก ptt ยังไงก็มีกำไรจากการผูกขาดธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โดยรวม ทำไม pttยังขาย ก๊าซให้ egatราคาถูกอยู่เป็นเหตุเพราะสัญญาที่ทำไว้ ลอง ptt ให้ทำสัญญาซื้อขายน้ำมัน กับบริษัทเอกชนทั่วไปสิครับ ptt ขาดทุนน้ำมันปีนี้แน่นอน เหตุผลเพราะต้นทุนน้ำมัน กับก๊าซต่างกัน อีกประการ ptt มีช่วยเหลือด้านภาษีด้วยครับ ดูได้จากงบการเงิน จะมีช่วยเหลือไม่เก็บภาษีร้อยละ 25 จนถึงปีหน้าสุดท้ายครับ โดยรวมอันนี้ต้องช่วยเหลือรัฐวิสาหกิจของไทยเรา แต่ที่ผมบอกไม่แฟร์คือ รัฐได้เงินจากการ ipo น้อยมาก ทั่งที่ถ้าธุรกิจแข็งแกร่งตามกลไกตลาด รัฐจะได้เงินมากกว่านี้แน่นอน ผมเคยบอกไปแล้ว egat อ่ะแปรรูปไปแล้วครับ การจะเข้าตลาดนี่ เป็นการจัดหาเงิน โดยรวมได้เงินจากการจัดหาครั้งนี้ แค่ 3หมื่นกว่าล้านบาท ทั้งที่ egat มีขีดความสามารถกำไรปีละ 3หมื่นกว่าล้านบาทเช่นกัน รวมไปถึง กำไรยังไม่ได้จัดสรร (ทางบัญชี หมายถึงกำไรสะสมเพื่อเติบโตในอนาคต egat มีส่วนนี้มากถึง 8หมื่นกว่าล้านบาท แต่ในทางสินทรัพย์ไม่ได้อยู่ในรูปเงินสด แต่ยังอยู่ในส่วน สินทรัพย์หมุนเวียน) egat มีD/E น้อยกว่า ptt ด้วยซ้ำ แค่1.2 ptt มีD/E ที่ 1.37 แต่ ptt ยังจะมีแผน ออกพันธบัตรระดมทุนปีหน้า แสนล้านบาท ผมเน้นตรงนี้ให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น และอยากบอกว่า ตอนนี้ egat เป็นบริษัทมหาชนแล้ว งบการเงินถ้าคุณจะตรวจสอบ คุณก็ตรวจสอบได้ การบริหารงาน ของ egat ต่อไปนี้ก็จะดำเนินงานแบบเอกชน ต้องมีการวัดเกณฑ์ประเมินผลอย่างแน่นอน โดยรวม ราคา egat ก็ต้องเป็นไปตามกลไก ตลาด ยังไงเมื่อต้นทุนพลังงานสูงขึ้น ราคาก๊าซสูงขึ้น ทุกคนควรยอมรับจุดนี้ เมื่อการบริหารงานดีขึ้น ราคาตามกลไกตลาดมากขึ้น ก็จะมีกำไรเพิ่มขึ้น เงินก็จะกลับเข้ารัฐได้มากยิ่งขึ้น โดยรวม egat มีเงินส่งให้รัฐมาตลอดปีหนึ่ง ตกเฉลี่ยที่ 1หมื่นล้านบาท โดยประมาณ โดยรวมออกหุ้นสามัญจะทำก็ทำได้ แต่อยากให้ egat เติบโตกว่านี้ก่อน เพื่อได้ ipo ที่มีราคาดีกว่านี้ และรัฐจะได้รับเงินจาก ipo มากกว่านี้ และตอนนั้นอยากให้เปิดเสรีอย่างชัดเจน คุณลองคิดดู คุณจะให้สิทธิคนอื่นๆ ได้สิทธิในส่วนที่ผูกขาดด้วยหรอครับ สิทธิผูกขาดควรตกอยู่กับรัฐ ถ้ารัฐจะให้สิทธิคนอื่นมาร่วมเป็นเจ้าของ รัฐควรปลดสิ่งที่ผูกขาดไว้ เพราะต่อไปเชื่อผมเหอะครับ ปัญหาผูกขาดจะย้อนกลับมาเป็นปัญหาในระยะ ยาว เชื่อผมเลยครับ อีก 10-20 ปี ปัญหาผูกขาดอันนี้จะทำให้ธุรกิจไฟฟ้าเราไม่พัฒนา เพราะไม่มีเอกชนรายไหนจะทำ และธุรกิจผูกขาดก็จะดำเนินงานแค่ฝ่ายเดียวไม่ต้องแข่งขัน การพัฒนาจะไม่เต็มประสิทธิภาพ ถ้าบอกว่าจะมาปลดการผูกขาดตอนหลัง ทำได้ยากแล้วครับ ตอนนั้นจะเกิดปัญหา หลายคนจะพูดว่ารัฐแทรกแซงบริษัทในตลาด ตอนนั้นจะเกิด panic อย่างใหญ่หลวงกับตลาดครับ ขอให้คิดตรงนี้ด้วยครับ จะระดมทุนออกหุ้นสามัญคิดระยะยาวในอนาคตด้วยครับ ลองดูได้ครับ ถ้ารัฐบอกจะปลดสิทธิผูกขาด ของ ptt ที่ptt อ้างว่าท่อก๊าซต้องเป็นของ ptt เพราะรัฐไม่ได้เปิดเสรี ไฟฟ้า ถ้ารัฐบีบ ptt ปลดท่อก๊าซ ดูได้เลย ตลาด panic แน่นอน ถ้าผมพูดไรผิดก็ขอโทษด้วยละกัน โดยรวมทุกอย่างมันเป็นไปตามกลไกตลาดหมดแล้ว ยังไงทุกคนก็ต้องปรับตัวครับ ยิ่งสมัยนี้ การปรับตัวจะต้องเร็วขึ้น ไม่เหมือนสมัยก่อน ดูอย่างทองคำก็ได้ หลายคนบ่นกันเลย วันก่อนยังมีกำไร วันนี้ขาดทุนหลาย เพราะทองคำลง 4วันนี่ เกือบ 600บาท ใครซื้อทองแท่ง 10 บาทไปก็ขาดทุน 6พัน ถ้าใครซื้อ 100 บาทก็ 6หมื่น ใครมือเติบ ก็ขาดทุนเพียบครับ จากคุณ : j_abac@hotmail.com - [ 18 ธ.ค. 48 00:47:56 A:203.118.80.63 X: TicketID:109916 ]

ความคิดเห็นที่ 2 มาดู ว่าทำไม เอกชนไม่อยากลงทุน ถ้าเอกชนลงทุนผลิตไฟฟ้าแล้ว ถ้าทำแบบโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่แบบ egat นะครับ ทำไปก็ต้องขายให้ egat เนื่องด้วย ไม่มีทางที่จะส่งไฟฟ้าขายให้ประชาชนโดยตรงได้ เนื่องด้วย egat ถือระบบสายส่งไว้ เมื่อต้องขายให้ egat ก็จะโดน egat บีบราคาได้ ถามตรงๆ egat ยังไงก็ทราบ คุณต้องขายให้ผมเจ้าเดียว คุณผลิตแล้วขายเจ้าอื่นไม่ได้หรอก ยังไงก็ต้องขายผม ในทางกลับกัน ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า จะซื้อไฟฟ้าก็ต้องซื้อจาก egat เพราะ egat มีสายส่ง คุณจะไปซื้อไฟฟ้าเจ้าอื่น คงมีบริษัทไหน ยอมเดินสายส่งไฟฟ้าใหม่หมดเลย ผมว่าบริษัทนั้นคงหาจุดคุ้มทุนได้กี่ปีกันแน่ โดยรวมนี่คือการผูกขาดทางอ้อมครับ ถ้า egat พูด เหมือน ptt มาใช้สายส่งผ่าน egat ก็ได้ แต่ต้องจ่ายค่าใช้จ่าย ยังไง ก็สู้ต้นทุนของ egat มีไม่ได้เลย เพราะยังไง egat ก็มี margin ตรงนี้เข้าไปอีกเยอะ เหมือน ptt พูดอ่ะ บริษัทอื่นจะส่งก๊าซ ก็ผ่านท่อก๊าซได้ แต่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายให้ ptt ทั้งที่ ptt ก็เหมือนเงินกระเป๋าซ้าย เข้ากระเป๋าขวา นี่เลยเกิดการผูกขาด และในอนาคต ก็มีการคาดการณ์แล้วว่า ก๊าซจะผลิตออกมาจากอ่าวไทยได้ไม่พอเพียง ก๊าซ LNG มีโอกาสที่จะต้องนำเข้าสูงมาก ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ในตลาด future ปีหน้าคาดว่าราคาจะสูงมากครับ เนื่องด้วยโรงผลิตก๊าซ LNG ของ royal dutch shellในประเทศไนจีเรีย ต้องเลื่อนออกไป จากการคาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้แต่ต้นปีหน้า ทำให้ supply ที่ shell คาดว่าจะมีน้อยลงไป จากคุณ : j_abac@hotmail.com - [ 18 ธ.ค. 48 01:50:52 A:203.118.80.63 X: TicketID:109916 ]

ความคิดเห็นที่ 3     จากคุณ : pisoran - [ 18 ธ.ค. 48 03:20:12 ]

ความคิดเห็นที่ 4 บางส่วนจาก : http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P3960641/P3960641.html ---------------------------------------------------------- พิจารณาจาก งบกำไรขาดทุน กฟผ. สามารถทำกำไรในแต่ละปีได้ดังนี้ - ปี 2545 กำไรจากการดำเนินงาน 40,187 ล้านบาท กำไรสุทธิ  27,382 ล้านบาท - ปี 2546 กำไรจากการดำเนินงาน 42,326 ล้านบาท กำไรสุทธิ  30,001 ล้านบาท - ปี 2547 กำไรจากการดำเนินงาน 38,621 ล้านบาท กำไรสุทธิ  28,199 ล้านบาท ในขณะเดียวกันพิจารณาจากงบดุล กฟผ. มีหนี้สินลดลงอย่างต่อเนื่อง - 30 กย.45 มีหนี้สิน 269,758 ล้านบาท - 30 กย.46 มีหนี้สิน 245,783 ล้านบาท ลดลง 31,639 ล้านบาท - 30 กย.47 มีหนี้สิน 226,415 ล้านบาท ลดลง 19,368 ล้านบาท - 30 กย.48 มีหนี้สิน 194,776 ล้านลาท ลดลง 23,975 ล้านบาท และในรอบ 1 ปีข้างหน้ามีเงินกู้ระยะยาวที่ครบกำหนดชำระคืนอีก 17,768 ล้านบาท ทำให้ ณ 30 กย.2549 จะมีหนี้สินคงเหลือประมาณ 177,000 ล้านบาท สังเกตว่าเวลาแค่ 4 ปี กฟผ. สามารถชำระหนี้ได้ถึงเกือบ  ** 1 แสนล้านบาท ** องค์กรที่ทำกำไรมากขนาดนี้ สามารถชำระหนี้ในอัตราสูงขนาดนี้มีปัญหาอะไรกับการกู้เงินเพื่อขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะทำให้มีกำไรมากขึ้น และมีความสามารถในการชำระหนี้สูงขึ้น ? ---------------------------------------------------------- ทำไมต้องพยายามขายหุ้นให้ได้ในตอนนี้ทั้งที่ก็ได้เงินแค่ 3 หมื่นล้าน จากคุณ : jerasak - [ 18 ธ.ค. 48 12:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 5 และผมก็เคยสรุปเรื่องราวไปทีหนึ่งแล้ว http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I3901278/I3901278.html สำหรับ IPO อ่ะยังไงก็ได้ราคาแค่ 28 บาทตอนนี้ เพราะตัวเลขต่างๆมันบอกมา เพราะถ้า ราคามากกว่านี้ก็ไม่สามารถดึงดูดคนมาลงทุนได้ เนื่องจากจะไม่มี upside ในอนาคตให้เล่น แต่ธุรกิจที่ปกติต้องดำรงอยู่ให้รัฐบริหาร แต่ต่อไปจะดำเนินงานอย่างเอกชนทำ บริหารอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตแน่นอนต้องเติบโตมากยิ่งขึ้นด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่ผูกขาด โดยรวม รอให้ บริหารได้อย่างแข็งแกร่งก่อน แล้วตอนนั้นถ้าคิดจะระดมทุนด้วยการออกหุ้นสามัญก็ทำได้ เพราะจะได้ IPO ที่ดีกว่านี้ และผมก็เคยพูด เงินจำนวน 3หมื่นกว่าล้านบาทอ่ะ egat เคยออกพันธบัตรมาแล้วเมื่อ 3ปีก่อน และเงินนี้ก็ไปลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม จนก่อให้เกิดรายได้มากขึ้น และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ไปดูได้จากงบการเงินได้เลยครับมันอธิบายไว้ ในช่องจัดหาเงิน ได้รับเงินจากการเพิ่มขึ้นของหนี้สินระยะยาว ส่วนมูลค่าสินทรัพย์พวกที่ดิน โรงไฟฟ้า มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และที่สำคัญถ้าจะระดมทุนออกหุ้นสามัญ ควรทำเฉพาะส่วนบริหาร อย่างที่บอกไว้นี่ครับ ต้องการสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ก็จัดหน่วยงานโรงไฟฟ้าออกมา ให้ egat ถือครอง 100% จากนั้น ก็ค่อยกระจายหุ้นออกมาก็ทำได้ เหมือน ptt ที่ตั่งแต่อดีต ที่แยก pttep ออกมา เพราะต้องการเงินระดมทุนสร้างแหล่งขุดเจาะ และสำรวจปิโตรเคมี ทำไมegat ไม่ทำตรงนี้ แยกเฉพาะส่วน ผลิตไฟฟ้าออกมา และจะแก้ปัญหาการผูกขาดได้อีกทางหนึ่ง จริงๆแล้ว อดีตก็ทำแบบนี้เรื่อยมา ไปดู สัดส่วนถือหุ้น ของ ratch egcomp ได้เลยว่า egat ถือหุ้นใหญ่อยู่ จากคุณ : j_abac@hotmail.com - [ 18 ธ.ค. 48 12:57:18 A:203.118.81.144 X: TicketID:109916 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ที่มาพูดซ้ำอีกครั้ง และคิดว่าคงจะไม่ต้องอธิบายอะไร มีคนบอกว่า egat ยังไม่แปรรูป ก็บอกแปรรูปไปแล้ว แยกคำว่าแปรรูป กับการจัดหาเงินออกมาให้ชัดเจน ได้เห็นมากขึ้น การจัดหาเงินก็มี3แหล่ง คือ 1 จากภายใน egat เองจัดสรรจาก เงินสดที่มีรวมไปถึงกำไรที่ยังไม่ได้จัดสรรยังมีสูง หรือ 2 จากการออกพันธบัตร หรือหุ้นกู้ ตอนนี้egat เป็นบริษัทแล้ว งบการเงินก็ต้องส่ง sec สามารถออกพันธบัตรได้ และไม่ว่ารัฐจะค้ำประกันหรือไม่ค้ำ ยังไงก็จัดเป็นหนี้สาธารณะ ลองคิดดูนะครับ ptt ถ้าเกิดล้มละลายขึ้นมาจริงๆ รัฐก็ต้องนำเงินงบประมาณไปใช้หนี้ทั้งหมด เพราะรัฐยังไงก็ไม่มีทางที่จะยอมสูญเสียรัฐวิสาหกิจของรัฐไป ดังนั้นไม่ว่ารัฐจะค้ำหรือไม่ค้ำประกัน ยังไงรัฐก็ต้องเกี่ยวโยงไว้ เพราะรัฐวิสาหกิจก็คือสมบัติของชาติ 3 คือการระดมทุนออกหุ้นสามัญ วิธีนี้จะให้ผู้อื่นมามีส่วนร่วม ในความเป็นเจ้าของ ซึ่งถ้ารัฐจะให้ผู้อื่นมามีส่วนร่วม รัฐก็ควรแยกสิทธิผูกขาดออกมา การผูกขาดอ่ะขึ้นกับรัฐไม่เสียหาย แต่ถ้าให้สิทธิผูกขาดแก่ผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุน ซึ่งก็คือเอกชนแล้วต่อไปจะมีปัญหาครับ มองไปยาวๆ ธุรกิจผูกขาด อัตราการพัฒนาช้า นอกจากจะพัฒนาด้วยตัวธุรกิจเอง ดูอย่างธุรกิจก๊าซได้ครับ อีกไม่นาน เราอาจจะมีก๊าซไม่พอใช้ก็ได้ในอนาคต เพราะความต้องการจะสูงขึ้นเรื่อยๆ และก็ไม่มีเงินลงทุนที่ไหนมาลงทุนทำ เพราะสิทธิมันอยู่กับ ptt เรื่องท่อก๊าซ ใครก็สู้ ptt ไม่ได้ เรื่องต้นทุน และเน้นอีกครั้ง แม้นแปรรูปไปแล้ว ก่อหนี้เพิ่มขึ้น ก็เป็นภาระของรัฐครับ ไม่ใช่ไม่เป็นภาระ ไปดูได้ ว่าพันธบัตรที่ ptt ออกเพิ่มขึ้น หนี้สาธารณะเมืองไทยก็เพิ่มขึ้นเรื่อยไป การระดมทุนด้วยการออกหุ้นสามัญ มันก็ดีสำหรับธุรกิจเน่าๆ เพราะต้นทุนทางการเงินไม่ได้มากอะไร ดูได้จาก picni ewc พวกนี้ เพราะแถบไม่ต้องจ่ายเงินปันผลอะไรเลย เพิ่มทุนมา ได้เงินนักลงทุน แล้วให้นักลงทุนใช้ความสามารถทำกำไรในตลาดเอง แต่สำหรับ egat แล้ว ก็เหมือน ptt เพราะยังไง ก็มีขีดความสามารถทำกำไรได้ ยังไงก็ต้องจ่ายเงินปันผล จากคุณ : j_abac@hotmail.com - [ 18 ธ.ค. 48 13:06:30 A:203.118.81.144 X: TicketID:109916 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ผมได้ยินมาว่า ทั้งการประปากับไปรษณีย์ แปรรูปเป็นเอกชนเรียบร้อยแล้วแหละ พยายามปิดเงียบๆ แต่ก็เห็นในใบเสร็จเขียนว่าบริษัท .. จำกัดด้วย ไม่เห็นรู้เรื่องเลย ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เท่าที่อ่านมาถ้าแปรเป็นเอกชนแต่รัฐถือหุ้นหมดก็ยังไม่เสียหายใช่เปล่าครับ จากคุณ : Calaglin - [ 19 ธ.ค. 48 09:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 8 นี่ก็คือการแปรรูปไงครับ แปรรูปให้ดำเนินงานแบบเอกชน ไม่เหมือนรัฐวิสาหกิจแบบเดิม และการบริหารงาน ก็จะขึ้นอยู่กับทีมบริหาร แต่เรื่องระดมทุนเข้าตลาดหลักทรัพย์คือการจัดหาเงิน ของบริษัท บริษัทต้องคิดถึงความจำเป็นในการเข้าตลาด จากคุณ : j_abac@hotmail.com (j_abac) - [ 19 ธ.ค. 48 10:54:53 ]