CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGangTorakhongGameRoom


    ยังสู่ช่วงการเก็งกำไร การลงทุนระยะยาวยังเสี่ยง

    สัปดาห์นี้ได้ประเมินผลตนเองแล้ว พอ set ขยับขึ้น Portfolio ผมก็ขยับตาม NAV ของ Portfolio ผมก็ขยับขึ้นดีขึ้นกว่า 1.47% ประเมินการลงทุนแล้วมีจุดที่ทำได้ดีและต้องปรับปรุง Portfolio ในสัปดาห์ต่อไปดังนี้

    1. หุ้นที่ทำกำไรให้กับผมในสัปดาห์นี้ เป็นหุ้น Warrant โดยเฉพาะครับ ลงทุนไม่กี่วันโดยอาศัยการเล่นรอบ คือ หุ้น ASP-w1 ตัวนี้ Sideway 3 รอบแล้วครับ ผมทดลองถือยาวตอนรอบที่ 2 เอาไม่อยู่เกือบขาดทุน แล้วรอเด้งขึ้นรอบที่ 3 ในสัปดาห์นี้จึงทำกำไรได้ครับ อีกตัวหนึ่งคือ CK-w1 ตัวนี้ผมอาศัยจังหวะหุ้นแม่มีราคาแพงกว่าหุ้นลูกเมื่อมีการแปลงสภาพ จึงเข้าไปซื้อตอนราคาต่ำ แล้วขายไปในช่วงราคาสูง ใช้เทคนิคการเทียบราคาดูแล้วเห็น Gap จึงเข้าซื้อทันทีแล้วขายออกไปแล้วครับ อีกตัวหนึ่งคือหุ้น TPI อาศัยจังหวะการปรับลดราคา Sell สุด ๆ เหลือ 6.75 บาท ผมก็ซื้อและขายไปตอนช่วง 7 บาทกว่า ๆ ครับ
    2. หุ้นลงทุนในกลุ่มของผมหลาย ๆ ตัว ย้งไม่ค่อยขยับราคาเท่าที่ควร สัปดาห์นี้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินโดยเฉพาะกลุ่มธนาคารแล้วครับ เพราะเข้าไปศึกษาปัจจัยพื้นฐานหุ้นแล้วเห็นว่ามีจุดเด่นต่อจากนี้ไปหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเติบโตของของรายได้ที่มีความสม่ำเสมอมั่นคงขึ้น โครงสร้างธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้นตาม Financial Master Plan ที่จะไปเน้น ธุรกรรมด้าน Fee Base และธุรกิจด้านอื่น ๆ เช่น กองทุน เช่าซื้อ ประกัน ธุรกรรมด้าน ATM และอื่น ๆ รวมถึงโครงสร้างรายได้จากธุรกิจหลักการให้สินเชื่อที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องตาม GDP Growth โดย Bank ใหญ่ จะเน้นการเติบโตของ Retail มากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงต่อเรื่องการใช้เงินทุนสำรองเพื่อขยายงานและการตั้งสำรองในระยะยาวลดลง นำระบบงาน IT มาใช้มากขึ้นเพื่อสร้างระบบความสัมพันธ์กับลูกค้าและขยายธุรกิจในรูป Cross Selling ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประกัน ธุรกิจหลักทรัพย์ด้าน Equity หลายแห่งเดิมจะเน้นเฉพาะด้าน Debt รวมถึงการตั้งสำรองที่เข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากผลการดำเนินงานดีต่อเนื่องกัน 3 ปีติดต่อกันแล้ว และที่เห็นเด่นชัดคือ Bank ขนาดใหญ่เกือบทุกแห่งมีการจ่ายปันผลแล้ว ไม่ว่าจะเป็น BBL KBANK SCB BAY เป็นต้นนอกจากนี้ได้ดูความเพียงพอของเงินทุน ทุกแห่งแข็งแรงขึ้นมาก ๆ ครับ มีเงินกองทุนเพื่อขยายงานได้อีกหลายปี และที่พิเศษสำหรับปีหน้าสำหรับ BBL ก็คือจะสามารถลดการตั้งสำรองของ TPI ลงไปได้มาก ทำให้ NPL จากเดิม 16% กว่า ๆ จะเหลือ 13% ครับ ก็จะทำให้เงินทุนสำรองส่วนเกินของ BBL ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมาอีก หรือ KBANK พยายามทำระบบบัญชีให้ Clean ขึ้น โดยเน้นการ Write off หนี้เสียออกไปจากระบบบัญชี ทำให้สามารถสะท้อนผลการดำเนินงานในอนาคตได้เห็นเด่นชัด แถมโครงสร้างดอกเบี้ยส่วนใหญ่เป็นดอกเบี้ยออมทรัพย์ ทำให้สามารถเพิ่มกำไรจากส่วนต่างดอกเบี้ยได้ดีที่สุดในระบบธนาคารครับ เป็นต้น สำหรับ SCB ทำในเรื่องธุรกรรมที่ไม่ใช่สินเชื่อได้ดีที่สุดโดยใช้ประโยชน์จาก Financial Master Plan ซึ่งสัดส่วนรายได้เริ่มปรับเปลี่ยนจากกำไรที่มาจากสินเชื่อมาเป็นรายได้ประเภทอื่นมากยิ่งขึ้นแล้วครับ

    3. หุ้นลงทุนที่ผมลงทุนส่วนใหญ่ Nav จะยังไม่ขยับ ขึ้น ๆ ลง ๆ ตลอดเวลา แต่ยังไงผมก็มีเงินปันผลรองรับกับความเสี่ยงพอควร และ PE ส่วนใหญ่จะต่ำกว่า 10 ทั้งนั้น ไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ ต้องดูในสัปดาห์ต่อ ๆ ไปครับ

    สุดสัปดาห์นี้เมื่อประเมินแล้ว หุ้นประเภทยอดนิยมในสัปดาห์นี้มีส่วนช่วยให้ NAV ผมดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Set ครับ เพราะได้กำไรสั้น ๆ หลายรอบจริง ๆ ครับ หุ้นประเภทนี้ห้ามถือยาว ต้องเล่นเป็นรอบ ๆ เท่านั้นนะครับโดยเฉพาะในช่วงนี้
    ในการแบ่งเงินเพื่อการลงทุน ช่วงนี้ผมจะใช้เงินลงทุนเพียงบางส่วนประมาณ 50-60% ของ Portfolio เท่านั้นและเก็บเงินสดสำรองเพื่อรอซื้อเพิ่มเติม หรือรอซื้อหุ้นที่จะเล่นรอบตัวใหม่ ๆ ที่คุ้นกับนิสัยของมันครับเป็นระยะเท่านั้น บอกตรงๆ จริง ๆ ไม่ชอบซื้อเข้าและขายออกเร็วเกินไป แต่ไม่ทำทีไร หุ้นของผมถูกทำร้ายทุกทีครับ

    สัปดาห์หน้าดูหุ้นพื้นฐานดี ๆ นะครับ ผมคาดว่าจะมีการซื้อลงทุนเพิ่มขึ้น และเป็นสัปดาห์การทำ Window Dressing อีกด้วย ดูจังหวะกันให้ดีครับ

    จากคุณ : ยิ่งสูงยิ่งหนาว - [ 24 ธ.ค. 48 11:28:54 A:203.156.27.43 X:203.130.159.3 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป