ความคิดเห็นที่ 1 ....     o O! ....  " อยากรู้เหมือนกันครับ " .... จากคุณ : Mr.Swat_D - [ 7 มิ.ย. 50 03:55:50 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่จำเป็นครับต้องให้เงินครับ เพราะหลานชายพ่อเป็นตัวแทนของพ่อและแม่ จขกท ในทางกฎหมายถือว่า พ่อแม่ จขกท เป็นตัวการ และ หลายชายเป็นตัวแทนมีชื่ออยู่ในโฉนดเท่านั้น และ ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นเรื่องนี้มีทางออก 2 ทาง คือ 1. เอาเอกสารมอบอำนาจจากกรมที่ดินไปให้หลานชายพ่อ คุณเซ็นต์มอบอำนาจมา 2. โอนเป็นชื่อของ พ่อกับแม่คุณได้เลย โดยอาจต้องร้องต่อศาล ให้ทางธนาคารโอนมาเป็นชื่อพ่อแม่คุณ และ ทำคำแถลงว่า หลายชายกระทำการในนามของตัวแทนเท่านั้น และ ก็เอาคำสั่งศาลไปกรมที่ดินโอนมาเป้นชื่อพ่อแม่คุณได้เลย.. หมายเหตุ..ขั้นตอนในข้อ 2 ผมไม่ทราบว่าต้องดำเนินการอย่างไร แต่เรื่องนี้สามารถร้องต่อศาลได้ครับ ไม่ต้องกลัวครับอย่างไรที่ดินแปลงนี้ก็เป็นของ พ่อแม่ จขกท การมีชื่อในโฉนดเป้นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น สืบพยานหักล้างได้ครับ .. จากคุณ : I_วชิรวิทย์ - [ 7 มิ.ย. 50 08:52:29 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ^ ^ ถูกแล้วครับเป็นเรื่องตัวแทนกระทำการแทนตัวการ...เมื่อได้ที่ดินมาก็เท่ากับเป็นการถือครองทรัพย์นั้นแทนตัวการเช่นกัน...ไม่ใช่การครอบครองปรปักษ์...เพราะการครอบครองปรปักษ์จะเกิดขึ้นได้ด้วยการครอบครองทรัพย์ของผู้อื่นมิใช่ครอบครองทรัพย์ของตนเอง... การฟ้องร้องต้องฟ้องหลานชายตัวดีครับ...กรณีนี้ผู้ซื้อเป็นตัวการที่ไม่เปิดเผยย่อมไม่อาจเรียกร้องใดๆต่อบุคคลภายนอกได้  ประกอบกับไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆในอันที่จะเรียกร้องให้ธนาคารปฎิบัติการโอนให้...ต้องฟ้องให้หลานชายโอนที่ดินให้ในฐานะตัวแทนหากไม่โอนให้ถือคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หรือให้หลานชายใช้ราคาจำนวน...........บาท เรื่องตัวแทนถือครองทรัพย์แทนตัวการมีให้เห็นทั่วไปครับ...เช่นกรณีคนจีน ญวน ไม่มีสัญชาติไทยซื้อที่ดินโดยให้ญาติคนอื่นที่มีสัญชาติไทยถือครองแทน...พ่อแม่เป็นบุคคลล้มละลายซื้อบ้านโดยให้บุตรถือครองแทน...กรณีเช่นนี้ถือว่ากรรมสิทธิ์ไม่โอนไปยังตัวแทนนะครับ.... จากคุณ : อินทร์นิล - [ 7 มิ.ย. 50 09:41:16 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เย้ๆดีใจมากเลยค่ะ น้ำตาไหลเลย ขอบคุณพี่ๆมากนะคะที่เข้ามาตอบ ดีใจและสบายใจขึ้นมากเลยค่ะ หลังจากหวาดวิตกกันมา10กว่าปี แล้วก็เครียดกันมากใน2ปีหลังที่รู้ว่าเขาจะไม่โอนให้แน่ๆถ้าไม่ให้เงินเขา ขอถามต่อนะคะจากที่พี่วชิรวิทย์บอกว่า ให้เอาเอกสารมอบอำนาจจากกรมที่ดินไปให้หลานชายพ่อเซ็นต์มอบอำนาจมา อยากถามว่าการโอนที่ดินให้มอบอำนาจได้หรือคะ เห็นพ่อบอกว่าหลานพ่อต้องไปโอนที่กรมที่ดินเท่านั้น(พ่อเค้าไปถามกรมที่ดินมาค่ะ) ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าในความเป็นจริงมันเป็นยังงัยกันแน่ พี่ช่วยยืนยันหน่อยนะคะ *-* ถ้ามีทางเลือกให้2ทางคือระหว่างให้เขายินยอมโอนให้กับฟ้องร้อง เราว่าพ่อกับแม่เราคงไม่ฟ้องแน่เลย เพราะเค้าเป็นคนที่ชอบประนีประนอม แล้วยิ่งเป็นญาติกันเค้าไม่ทำแน่ๆ ขนาดคนอื่นที่ยืมเงินเค้าไปเป็นหมื่นๆ เค้ายังรอให้ลูกหนี้คืนมาเป็นหลายๆปี(บางคนก็เกือบ10ปี) ความอดทนสูงมากๆ ก็คงต้องเลือกทางเดียวคือพยายามทำให้หลานชายพ่อยินยอมโอนแต่โดยดี แต่เราจะพูดยังงัยให้เค้ายอมเซ็นดีคะ ขู่เค้าได้ใช่ไหมคะว่าถ้าไม่โอนให้จะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย แล้วถ้าฟ้องจริงเราคงชนะแน่ใช่ไหมคะ เพราะอย่างชื่อเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านก็คือพ่อเรา แล้วแม่ก็เก็บใบเสร็จที่ไปจ่ายค่างวดให้ธนาคารไว้เกือบทุกเดือนเลยค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 7 มิ.ย. 50 13:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ในการโอนที่ดินนั้นแบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจต้องเป็นแบบฟอร์มของที่ดินเท่านั้น...ไปขอรับได้ฟรีที่ สนง. ที่ดินใกล้บ้าน... เมื่อได้แบบฟอร์มมาแล้วนำไปให้หลานชายตัวดีเซ้นในช่องผู้มอบอำนาจ...(ถ้าไม่ทราบว่าตรงไหนบ้างให้ จพง.ที่ดินเค้าเอาดินสอกากบาทไว้ให้)...จากนั้นให้หลานตัวดีถ่ายสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน+ทะเบียนบ้าน และรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับแนบมาท้ายหนังสือมอบอำนาจ.... ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือ...จะกล่อมยังไงให้เค้าเซ้นให้เรา...ขู่หรือ...ถ้าเค้าไม่กลัวและท้าให้ฟ้องก็จะเรื่องยาว....ทางที่ดีควรประนอมเข้าไว้...อ้างว่าเรายังไม่มีเงินก็จะเอาที่ดินแปลงนี้แหละเข้าธนาคารและนำเงินมาให้เป็นค่าตอบแทนให้เค้า...เฉพาะค่าธรรมเนียมโอนก็หลายตังค์แล้ว...ตอนนี้ติดต่อแบงค์ไว้แล้ว...อ้างไปต่างๆนาๆครับ...แต่ถ้าเค้าไม่ยอมถึงขู่ว่าจะฟ้องเรียกที่ดินคืนและเรียกค่าเสียหาย.... หลักฐานใบเสร็จเก็บไว้ให้ดี...เพราะเป็นหลักฐานสำคัญในการนำสืบพยานในชั้นศาล...ถ้าให้ดีถ่ายสำเนาเก็บไว้ด้วยจะดีมากครับ... ขอให้โชคดีนะครับ จากคุณ : อินทร์นิล - [ 7 มิ.ย. 50 13:39:09 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การทำนิติกรรมเกี่ยวกับที่ดิน สามารถมอบอำนาจให้บุคคลที่บรรลุนิติภาวะแล้วทำการแทนได้ทุกอย่าง แบบฟอร์มใบมอบอำนาจโหลดได้จากเว็บไซท์กรมที่ดิน http://www.dol.go.th/variety/assign/form_load.php จากคุณ : นะครับ - [ 7 มิ.ย. 50 13:55:34 A:58.9.46.51 X: TicketID:008578 ]

ความคิดเห็นที่ 7 จขกท ทำตาม คุณอินทร์นิล บอกได้เลยครับ .. ถ้าเค้าไม่ยอมเซ็นต์ชื่อ ก็จับนิ้วมือปั้มเลยครับ แต่ว่าต้องมีพยานรับรองลายนิ้วมือ 2 คนนะครับ..จึงจะใช้ได้ตามกฎหมาย (คนเดียวไม่พอครับ ต้อง 2 คน ) .. จากคุณ : I_วชิรวิทย์ - [ 7 มิ.ย. 50 14:08:27 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากค่ะพี่อินทร์นิลที่เข้ามาตอบ ตอนกล่อมนี่คิดหนักเลยค่ะ ถ้าจะให้บอกว่าเดี๋ยวเอาเข้าแบงค์แล้วจะเอาเงินให้ เค้าคงทวงยิกๆแน่เลยค่ะ แล้วพ่อแม่เราก็เป็นที่นับถือของญาติๆด้วย ถ้าบอกว่าจะให้แล้วไม่ให้เนี่ย เค้าคงกลัวเสียผู้ใหญ่น่ะค่ะ และอาจจะมีปัญหาตามมาเช่น เค้าอาจจะข่มขู่พ่อแม่เราก็ได้ เพราะเค้าเป็นคนอารมค่อนข้างแรง และไม่ค่อยกตัญญูเสียด้วย อย่างตอนที่แม่เค้าเสีย พี่ชายเค้าเอารถไปรับถึงบ้านให้ไปเซ็นชื่อแบ่งมรดกกัน ยังไม่ยอมไปง่ายๆเลยค่ะ อ้างติดนู่นติดนี่ตลอด ก่อนเขาแต่งงานก็ไม่เป็นขนาดนี้นะคะ พอไปอยู่กับเมียยังกับเป็นคนละคนเลย ถ้าเค้าไม่ยอมจริงๆจะเอาเงิน2แสนให้ได้ แล้วเราตกลงใจที่จะฟ้อง จะใช้ค่าใช้จ่ายและเวลานานสักแค่ไหนคะ แล้วจะเรียกค่าเสียหายจากเขาได้สักเท่าไหร่ อยากรู้ไว้เผื่อจะต้องขู่เค้าค่ะ เพราะพ่อแม่คงไม่ต้องการไปเบียดเบียนเขามากนักหรอกค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 7 มิ.ย. 50 14:15:09 ]

ความคิดเห็นที่ 9 อ่า..พี่วชิรวิทย์คะ เค้าอายุ40แล้วนะคะ แถมเป็นคนอารมแรงด้วย คงไม่มีใครหาญกล้าจับปั้มมือแน่เลยค่ะ หนักใจจังเลยค่ะ ขนาดแม่เค้า(พี่สาวพ่อ)และพวกพี่สาวพี่ชายเค้าช่วยกล่อมแล้วยังไม่ยอมเลย แล้วนี่แม่เค้าก็เพิ่งเสียไป กล่อมยากขึ้นอีกมากโขเลยละค่ะ เพราะพอไม่มีแม่เค้า เค้าก็เหมือนจะเลิกเกรงใจคนอื่นไปหมดเลยค่ะ ไม่ค่อยนึกถึงญาติพี่น้องแล้วเพราะเค้าย้ายไปอยู่กับเมียที่จังหวัดอื่นหลายปีแล้ว ขอบคุณ คุณนะครับ นะคะที่เอาลิงค์มาแปะให้ เข้าไปดูแล้วค่ะ *-* จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 7 มิ.ย. 50 14:35:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าพูดยากนักอีกทั้งญาติพี่น้องรู้เห็นมากก็ฟ้องเลยครับ.... ถ้ามีพยานบุคคลที่เป็นญาติที่รู้เห็นเหตุการณ์ความเป็นมาเป็นไปเหตุผลความจำเป็น มานำสืบประกอบกับใบเสร็จที่ชำระเงิน...คงไม่ยากครับ...เพราะพฤติการณ์มันเจือสมทางนำสืบของบิดามารดามากกว่า...เอาเฉพาะที่มาของเงินว่าเป็นเงินใครที่ผ่อนชำระถ้าฟังว่าเป็นเงินบิดามารดา จขกท ก็ชนะแล้วครับ... จากคุณ : อินทร์นิล - [ 7 มิ.ย. 50 17:23:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าฟ้องจริงๆคงยากเหมือนกันค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครกล้าเป็นพยานให้มั้ย เพราะดีชั่วยังงัยเค้าก็เป็นพี่น้องกันนี่ค่ะ ถ้าเค้ามาเป็นพยานให้คงมองหน้ากันไม่ติด เอาคนข้างบ้านได้มั้ยค่ะ คิดว่าเค้าคงเต็มใจช่วยมากกว่า เพราะพ่อแม่เราช่วยคนไว้เยอะ เค้านับถือพ่อแม่เรากันทั้งซอย แต่กับญาติฝ่ายพ่อที่มาพึ่งบ่อยๆเนี่ย หวังพึ่งพากันได้ยากจริงๆค่ะ แล้วถ้าฟ้องจริงๆค่าใช้จ่ายเยอะมั้ยคะ อีกอย่างที่อยากรู้คือตัวแทนถือครองทรัพย์แทนตัวการเนี่ยอยู่มาตราไหนคะ พยายามเสริชหาข้อมูลแล้ว ข้อมูลเยอะมากจนสับสนละค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 7 มิ.ย. 50 19:56:42 ]

ความคิดเห็นที่ 12 มาตรา810   เงินและทรัพย์สินอย่งอื่นที่ตัวแทนได้รับเกี่ยวกับการเป็นตัวแทน...ต้องส่งให้แก่ตัวการจนสิ้น การที่เจ้าของที่ดินยอมให้ผู้อื่นมีชื่อในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (นส. 3) หรือโฉนดที่ดิน ถือว่าเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ...เทียบเคียงนัยฎีกา 7079/40 304/38 1792/30 5665/33  ดังนั้นผู้มีชื่อในโฉนดย่อมเป็นตัวแทนถือครองทรัพย์นั้นแทนตัวการ... ฎีกา 1404-05/2510  ตัวการตั้งตัวแทนให้รับซื้อที่ดิน...ที่ดินแบะบ้านจึงเป้นทรัพย์ที่ตัวแทนได้รับไว้เกี่ยวกับการเป็นตัวแทน...ซึ่งตัวแทนต้องส่งคืนให้แก่ตัวการ  กรณีเช่นนี้เป็นเรื่องตัวการเรียกร้องเอาผลประดยชน์จากการที่ตัวแทนได้กระทำแทนตัวการ แม้การตั้งตัวแทนจะมิได้ทำเป็นหนังสือ ตัวแทนก็มีหน้าที่ต้องคืนแก่ตัวการ.. จากคุณ : อินทร์นิล - [ 7 มิ.ย. 50 20:32:46 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กรณีของ จขกท. บิดาเป็นตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อแต่งตั้งให้หลานชายเป็นตัวแทนไปทำนิติกรรมเช่าซื้อบ้านจากธนาคาร...เมื่อบิดาชำระราคาจนสิ้นธนาคารจึงโอนทางทะเบียนให้แก่หลานชายเพราะเป็นคู่สัญญา...ทรัพย์สินดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์ที่ได้รับเกี่ยวกับการเป็นตัวแทน  การที่หลานชายมีชื่อทางทะเบียนจึงเป็นการถือครองทรัพย์แทนตัวการเท่านั้น  หลายชายจึงต้องคืนทรัพย์ให้แก่บิดาซึ่งเป็นตัวการ.... แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 50 20:40:44 จากคุณ : อินทร์นิล - [ 7 มิ.ย. 50 20:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถามว่าถ้าฟ้องค่าใช้จ่ายแพงมั้ย...ตอบได้ว่าคงแพง..... แต่ถามว่าคุ้มมั้ย...มันก็คงคุ้ม.... เรื่องแบบนี้ถ้าเตรียมคดีดีๆแพ้ยากครับ...เพราะพฤติการณ์ในคดีย่อมจะเจือสมฝ่ายที่เป้นเจ้าของเงินมากกว่า...พยานบุคคลอย่าไปซีเรียดมากครับ...นำสืบการใช้เงินให้ได้ก็มีน้ำหนักน่าเชื่อถือแล้ว.... จากคุณ : อินทร์นิล - [ 7 มิ.ย. 50 20:45:37 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณมากค่ะพี่อินทร์นิล ที่ว่าแพงนี่จะถึง2แสนรึป่าวคะ แต่ทางเราคงพยายามประนีประนอมจนถึงที่สุดก่อนแหล่ะค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 7 มิ.ย. 50 23:36:46 ]

ความคิดเห็นที่ 16 คนอื่นแนะนำกันไปหมดแล้ว   ผมก็เห็นด้วย เพียงแต่อยากจะแนะนำเพิ่มเติมนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องภาษีและค่าธรรมเนียมจดทะเบียนโอนที่สนง.ที่ดิน   คือเวลาไปจดทะเบียนโอนที่กรมที่ดิน  อย่าไปจดในประเภทโอนให้ เพราะอย่างนั้นจะเสียภาษีและค่าธรรมเนียมแพง  เช่นสมมุติว่าที่ดินแปลงนี้มีราคาประเมินทุนทรัพย์ = 2 ล้านบ.  ถ้าคุณไปจดทะเบียนในลักษณะโอนให้ ก็จะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย + ค่าธรรมเนียมโอน + อากรแสตมป์ ฯลฯ  รวมแล้วประมาณ 1 แสนบาท (ที่แพงก็เพราะว่าที่ดินแปลงนี้ถือครองมาเกิน 10 ปี  เลยหักค่าใช้จ่ายได้เต็มที่แค่ 50%) ทีนี้ ถ้าคุณจดทะเบียนในลักษณะตัวแทนโอนคืนให้ตัวการ  อย่างนี้ก็จะไม่เสียภาษี, ค่าธรรมเนียมโอน และอากรแสตมป์เลย  จะเสียเพียงแค่ค่าคำขอ 50 บาทเท่านั้น   แต่การจะจดทะเบียนในลักษณะนี้ได้  กรมที่ดินได้วางหลักเกณฑ์ไว้ว่า "จะต้องมีหลักฐานชัดแจ้งที่แสดงว่าเป็นตัวการและตัวแทนกัน" เพราะไม่อย่างนั้นจะเป็นช่องทางให้เลี่ยงค่าภาษีและค่าธรรมเนียมกันได้     ทีนี้ปัญหาก็คือคำว่าหลักฐานชัดแจ้งนี่หมายถึงแค่ไหน   ถ้ามีคำพิพากษาที่สั่งให้ตัวแทนจดทะเบียนคืนให้ตัวการ อย่างนี้ก็ชัดเจนว่าเป็นหลักฐานชัดแจ้งแน่ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 50 01:51:35 จากคุณ : ช่างเขาเถอะ - [ 8 มิ.ย. 50 01:50:34 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เราก็นึกไม่ออกเลยค่ะว่าจะมีหลักฐานอะไรแสดงว่าเป็นตัวการและตัวแทนกันได้ ไม่รู้ว่าใบเสร็จที่แม่ไปจ่ายค่างวดให้ธนาคารจะมีประโยชน์รึป่าว ถ้าท่านใดพอจะทราบช่วยให้รายละเอียดด้วยนะคะ ขอถามต่อว่าค่าโอนประเภทโอนให้กับมรดกต่างกันมากมั้ยคะ (ราคาประเมินบ้านประมาณ1ล้านบาทค่ะ) ถ้าไม่ต่างกันมากคงให้น้าชายโอนเป็นชื่อพี่ชายเราเลย เพราะบ้านหลังนี้พ่อแม่ตั้งใจยกให้พี่ชาย ส่วนเราจะได้อีกแปลงที่ต่างจังหวัดค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 8 มิ.ย. 50 02:14:35 ]

ความคิดเห็นที่ 18 อย่าให้น้าชายโอนตรงมาที่พี่ชายคุณ  แต่ให้โอนไปที่คุณพ่อน่ะถูกแล้ว เพราะการโอนในขั้นตอนนี้ไม่เสียภาษีและค่าธรรมเนียมฯ   และถ้าคุณพ่ออยากให้ที่ดินแปลงนี้เป็นของลูกชาย ก็ทำพินัยกรรมขึ้นมาซักฉบับแล้ว ระบุให้ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างแปลงนี้ตกทอดเป็นมรดกแก่ลูกชาย  ซึ่งการโอนกันทางมรดกนี้จะเสียเพียงแค่ค่าธรรมเนียมโอน 0.5% เท่านั้น  ถ้าราคาประเมิน 1 ล้าน ก็เสียแค่ 5 พันบาทเท่านั้น ส่วนหลักฐานชัดแจ้งนี่  ผมไม่แน่ใจว่ากรมที่ดินได้วางระเบียบหรือแนวปฏิบัติไว้หรือเปล่าว่ามีอะไรบ้าง    แต่ถ้าเป็นคำพิพากษาล่ะ ใช้ได้แน่นอน   แต่ถ้าไม่มี ก็อาจจะลองสอบถามที่ฝ่ายจดทะเบียนของสนง.ที่ดินแห่งนั้นดูว่าถ้าจะโอนที่ดินในลักษณะตัวแทนโอนคืนให้ตัวการไม่เปิดเผยชื่อ  จะต้องการหลักฐานอะไรบ้าง (ผมไม่แน่ใจว่ากรมที่ดินจะยอมรับหนังสือแต่งตั้งตัวแทนที่ทำระหว่างกันเองหรือเปล่า  และคุณพ่อคุณก็ไม่มีด้วย  ถ้าจะทำก็ต้อง make ขึ้นมาอีก) จากคุณ : ช่างเขาเถอะ - [ 8 มิ.ย. 50 03:28:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะคุณช่างเขาเถอะ ไว้เดี๋ยวเราจะลองไปสอบถามที่กรมที่ดินดูค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 8 มิ.ย. 50 03:36:39 ]

ความคิดเห็นที่ 20 พี่ๆค่ะ แย่แล้วค่ะพอดีวันนี้เพิ่งกลับบ้าน เลยได้คุยกะแม่ ได้ถามแม่ว่าจะทำยังไงให้หลานชายพ่อยอมโอนให้ แม่บอกว่าต้องให้เงินเค้า2แสนเท่านั้นเค้าถึงจะยอม(เพราะเมียเค้าไม่ให้เซ็น) ขนาดพี่สาวเค้าบอกให้ไปเซ็นชื่อแบ่งมรดกเค้ายังไม่ไปเลย เค้าต้องการเงินค่าเซ็นชื่อจากพี่สาวเค้า7หมื่นค่ะ(เมียเค้าบอกไม่ให้เซ็นอีกแล้วค่ะ) ถึงขนาดบอกว่าพี่สาวเค้าจะเป็นจะตายยังงัยก็ไม่ให้เซ็นให้ ขนาดเป็นพี่สาวที่เลี้ยงเค้ามาแล้วก็ช่วยเหลือเค้ามาตลอดนะคะ เงินที่ได้ไปแต่งเมียคนนี้ ก็พี่สาวเค้านี่แหล่ะค่ะช่วยหา พี่ๆคิดว่าหนูจะทำยังงัยดีคะ แม่บอกว่าช่างเถอะปล่อยมันไปแบบนี้แหล่ะ หนูควรจะสู้(เพื่อให้แม่สมหวัง) หรือควรจะยอม(เพื่อให้แม่สบายใจ) ดีคะ แล้วหนูอยากถามพี่ๆอีกค่ะว่า 1.ถ้าพ่อหนูเสีย ที่ดินจะเป็นของหลานชายพ่อรึป่าวหรือจะตกเป็นของทายาทพ่อคะ 2.ถ้าหลานชายพ่อเสีย(เค้ามีโรคประจำตัว) ที่ดินจะตกไปเป็นของใคร สองคำถามนี้ที่ถามไปไม่ได้แช่งนะคะ แต่คิดว่าคงใช้เวลากันอีกหลายปีกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง 3.ถ้าจะฟ้องเสียค่าใช้จ่ายซักเท่าไหร่คะ ที่พี่อินทร์นิลว่าแพงนั้น แพงจากค่าอะไรเป็นหลักคะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 9 มิ.ย. 50 13:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 21 ...อื่ม... โดยส่วนตัวผม(ผู้พอมีความรู้ทางกฎหมายอยู่บ้าง) ถ้าผมเป็นเจ้าของที่ดินผมไม่ซีเรียสว่าโฉนดจะยังเป็นชื่อเค้า...เพราะอย่างไรหลานชายคนนั้นก็ไม่อาจมาขับไล่หรือครอบครองแทนผมได้...ลองฟ้องดูสิโดนสวนกลับแน่.... แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ...เค้าจะเอาไป โอนขาย/จำนอง นะสิ...ไอ้อย่างนี้เสร็จเลยนะครับ...เราจะไปต่อสู้กับบุคคลภายนอกไม่ได้เลยเพราะเราเป็นเพียงตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อ....โดนเฉพาะบุคคลภายนอกที่รับโอนโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ดังนั้น 1.ถ้าพ่อเสียที่ดินจะตกเป็นมรดกของทายาทของพ่อแต่ต้องไปเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเสียก่อน...ซึ่งผู้จัดการมรดกจะต้องฟ้องให้หลานชายโอนให้...ปัญหาจะมีในตอนสืบพยานเพราะบิดาซึ่งเป็นตัวการได้เสียชิวิตไปแล้ว...หนังสือแต่งตั้งตัวแทนก็ไม่มี 2.ถ้าหลานชายพ่อเสีย....ทายาทของเค้าอันได้แก่ภริยาหรือบุตรอาจดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนโดยรับโอนมาเป็นชื่อของตน....แต่ผู้รับโอนย่อมไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน....เมื่อหลานถือครองทรัพย์แทนตัวการในฐานะตัวแทน...ผู้รับโอนก็ถือครองแทนต่อเท่านั้น  โดยผู้รับโอนมีหน้าที่ต้องโอนคืนให้แก่ตัวการต่อไป 3.เค้าคิดจากราคาที่ดินและความยากง่ายในการนำสืบ....แต่โดยจรรยาบรรณแล้วผมไม่อาจเปิดเผยได้....ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจความสมัครใจของผู้จ้างและรับจ้างตามแต่จะตกลงกันเองครับ.... จะทำสิ่งใดควรดำเนินการให้แล้วเสร็จเสียตั้งแต่บุคคลที่รู้เห็นเหตุการณ์ยังไม่เสียชีวิต...เพราะจะเป็นประโยชน์ในการสืบพยาน.... จากคุณ : อินทร์นิล - [ 9 มิ.ย. 50 15:38:18 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะพี่อินทร์นิล พ่อแม่หนูยืนยันว่ายังไงก็ไม่ฟ้องค่ะ ก็คงได้แต่ปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป อย่างน้อยโฉนดก็อยู่กับพ่อแม่ เค้าคงเอาไปขายหรือโอนให้ใครไม่ได้ใช่มั้ยคะ จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 9 มิ.ย. 50 22:38:52 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แจ้งหายแล้วไปออกโฉนดใหม่ได้ครับ....ด้วยวิธีนี้จะทำให้หลานชายเค้าได้โฉนดใบใหม่มาครอบครอง...ส่วนใบที่คุณถือนั้นก็จะโดนยกเลิก....เมื่อได้โฉนดใบใหม่เค้าก็สามารถ จำหน่าย จ่าย โอน ได้หมดครับ.... ผมไม่แน่ใจว่าจะทำได้มั้ยนะครับคือไปแจ้ง สนง.ที่ดิน ในท้องที่ที่ๆที่ดินตั้งอยู่โดยแจ้งว่าโฉนดอยู่กับเราเนื่องจาก...บรรยายไปตามข้อเท็จจริง....จากนั้นให้เค้าสลักไว้หลังโฉนดเพื่อเวลาวันหน้าหลานชายจะแอบมาขอออกโฉนดใบใหม่เค้าจะได้แจ้งให้เราทราบเพื่อมาร้องคัดค้าน.....ถึงต้อนนั้นก็แสดงว่าหลานชายมีเจตนาทุจริตแล้วครับ.... ปล.โฉนดที่ดินจะมีตัวจริง 2 ฉบับครับ ฉบับหนึ่งเก็บไว้ที่ สนง.ที่ดิน ส่วนอีกฉบับเป็บฉบับผู้ถือครับ... (แก้ไขคำผิด) แก้ไขเมื่อ 09 มิ.ย. 50 23:36:28 จากคุณ : อินทร์นิล - [ 9 มิ.ย. 50 23:29:16 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณมากค่ะพี่อินทร์นิลที่แนะนำ ถ้าพี่ไม่บอกหนูก็ลืมคิดไปเลยนะคะว่า แจ้งหายแล้วออกโฉนดใหม่ได้ ช่วงนี้เบลอจัดค่ะ หลายๆปัญหารุมเร้า พยายามลืมเรื่องร้ายๆมันไปบ้างน่ะค่ะ แต่ปรากฎว่าลืมอะไรๆไปเกือบหมด กลายเป็นคนขี้ลืมไปซะงั้น จากคุณ : ข้าวเหนียวเปียกลำไย - [ 10 มิ.ย. 50 10:36:41 ]