ความคิดเห็นที่ 1 คือว่าน้องสาวเรียนอยู่ ม.5 ที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งได้แอบมีแฟนเป็นเด็กมหาลัยอยู่ที่มหาลัยมหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง แรกๆก็คิดว่าคงไม่มีอะไรมากแค่คบหากันตามประสาวัยรุ่น หลังๆน้องสาวเราขอไปนอนบ้านเพื่อนบ่อยๆอ้างว่าไปทำงานบ้างไปติวหนังสือบ้างโดยให้เพื่อนที่เป็นผู้หญิงมารับออกจากบ้าน แต่คุณพ่อเริ่มไม่ไว้ใจเลยแอบจ้างแท๊กซี่หน้าปากซอยสะกดรอยตามค่ะ คุณพ่อคุณแม่แทบช๊อคเลยค่ะพอทราบว่าน้องสาวเราแอบหนีมานอนค้างที่หอแฟนค่ะ คุณพ่อก็ตามเข้าไปราวีเลยค่ะ ไอ้ผู้ชายคนนั้นก็รับปากว่าจะไม่ติดต่อกับน้องสาวเราอีกก็คิดว่าเรื่องคงจบไปแล้ว แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้รับจดหมายจากโรงเรียนของน้องสาวบอกว่าน้องเราขาดเรียนบ่อยให้ผู้ปกครองมาพบ จึงรู้ว่าน้องสาวแอบโดดเรียนไปหาผู้ชายคนนั้นอีกและผู้ชายคนนั้นก็ย้ายหอใหม่ถามเท่าไหรน้องสาวก็ไม่ยอมบอก คุณพ่อเคยไปแจ้งที่มหาลัยของผู้ชายคนนี้ซึ่งเป็นมหาลัยเอกชนแต่เค้าก็บอกว่าเป็นพฤติกรรมส่วนตัวที่อยู่นอกมหาลัยเค้าคงดูแลไม่ได้และพ่อเราก็ไม่รู้ชื่อจริงของผู้ชายคนนี้ด้วยมหาลัยจึงทำอะไรไม่ได้ คุณพ่อกลับมาทะเลาะกับน้องสาวรุนแรงจนน้องสาวเตลิดหนีออกจากบ้านไปเลยค่ะ แต่ก็ยังติดต่อมาขอยืมเงินกับแม่เราอยู่ เรากับแม่ก็พยายามพูดดีกับน้องนะเพราะไม่อยากให้น้องเราเตลิดไปไกลกว่านี้ รอว่ารู้ที่อยู่แน่ชัดเมื่อไหร่จะเอาตำรวจไปลากคอไอ้ผู้ชายเข้าคุกไปเลยเพราะมันทำให้ครอบครัวเราบอกช้ำมาก ตอนนี้เรื่องที่โรงเรียนก็ต้องบอกทางโรงเรียนไปว่าน้องสาวป่วยขอดร็อบเรียนไปก่อน อยากถามว่าเราควรทำอย่างไรดีแล้วถ้าจะเอาผิดผู้ชายคนนี้จะเอาผิดได้มั้ยเพราะน้องสาวเราไปอยู่กับเค้าเอง ที่บ้านเครียดมากค่ะช่วยชี้แนะด้วย จากคุณ : เปิ้ล - [ 22 ส.ค. 50 11:37:16 A:203.113.57.102 X: TicketID:153375 ]

ความคิดเห็นที่ 2 พรากผู้เยาว์ น่าจะได้ รอผู้มีความรู้มาตอบค่ จากคุณ : มะปราง (inn_jaa) - [ 22 ส.ค. 50 11:52:21 ]

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นใจเจ้าของกระทู้มากๆครับ เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อ คนเป็นแม่ เพราะถ้าเป็นผม คงชอคเหมือนกัน ถ้าเด็กหายไปเกิน 24 ชม. แล้ว ก็แจ้งหายเลยครับ แล้วพอเค้าหาเจอ ก็แจ้งจับผู้ชายคนนั้นฐานพรากผู้เยาว์ด้วยเลย คิดว่าน่าจะเป็นไปได้นะครับ พอดีไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายเท่าไหร่ รอผู้รู้มายืนยันอีกที ยังไงๆ เอาใจช่วยนะครับ ให้เรื่องร้ายๆผ่านไป ให้เด็กกลับตัวกลับใจเป็นคนดี จากคุณ : ปลาวาฬลงพุง - [ 22 ส.ค. 50 12:01:58 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณพ่อก็จะแจ้งความคนหายอยู่ค่ะแต่น้องสาวเราเค้าก็ติดต่อมาของตังค์อยู่เหมือนกันแต่ไม่ยอมบอกว่าเค้าอยู่ไหน ถ้าเราโทรไปเค้าถึงจะรับแต่ถ้าเป็นเบอร์แปลกๆน้องสาวจะไม่รับเลย แล้วกรณีนี้ผู้ชายคนนั้นจะผิดฐานพรากผู้เยาว์หรือค่ะเพราะน้องสาวหนีไปอยู่กับเค้าเอง แล้วต้องทำยังไงต้องไปแจ้งความมั้ยค่ะ คืออายชาวบ้านอยู่เหมือนกัน ที่บ้านเราก็มีฐานะดีเลยกลัวว่าผู้ชายเค้าจะมาหลอกปลอกลอกน้องสาวค่ะ แต่ถึงอย่างไรคุณพ่อคุณแม่ก็คงไม่ยอมรับผู้ชายคนนี้แน่ๆเพราะตอนที่คุณพ่อตามเข้าไปราวีแทนที่เค้าจะสำนึกแต่กลับพาน้องสาวเราไปอยู่ที่อื่นอีก สงสารคุณแม่มากค่ะนอนร้องไห้ทุกคืนเพราะที่บ้านเราก็มีกันแค่สี่คนพ่อแม่เราและน้องไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 22 ส.ค. 50 12:17:23 A:203.113.57.102 X: TicketID:153375 ]

ความคิดเห็นที่ 5 อ่อ มีอีกข้อหาที่เพิ่งนึกได้ กักขังหน่วงเหนี่ยว ผมคิดว่าข้อหาพรากผู้เยาว์นี่น่าจะแจ้งได้นะครับ ทั้งหมดนี่ก็ต้องไปแจ้งความก่อนครับ ว่าลูกสาวหาย หรือแจ้งว่าโดนผู้ชายหลอกไป หรือไม่ลองไปปรึกษาที่สถานีตำรวจดูก่อนก็ได้ครับ จากคุณ : ปลาวาฬลงพุง - [ 22 ส.ค. 50 12:27:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 แจ้งพรากได้ครับ แต่ถ้าไม่อยากมีเรื่องมากกว่านี้ (น่าเห็นใจ) ก็ไปตกลงกับผู้ชายเขาดีๆ ว่าถ้ามีอีก เราจะทำแบบนี้ ผู้ชาย ชื่ออะไร นามสกุลอะไร เอาหมาย บันทึกประจำวันไป ขอเอกสาร จากผู้ให้เช่าที่หอเก่าดูครับ เนื่องจากบางที คนเปิดหอพัก (ถ้าเป็นหอพัก ) การทำแบบนี้ก็ผิดกฏหมายนะครับ ขู่ๆ เขาไปเบาะๆ ละกันไม่งั้น ทำมากไปกลายเป็นข่มขู่ อีกจะแย่ แล้วบอกเลยว่า เป็นคำขาด จากนั้น เรื่องในบ้านคุณ ๆ ควรจัดการน้องสาวตัวดีให้ได้ด้วยไม่อย่างนั้น จะกลายเป็น "เด็กใจแตก" เลิกคนนี้ได้ เดี๋ยวมีคนใหม่ ก็แย่อีก จากคุณ : กองปราบ - [ 22 ส.ค. 50 13:02:48 A:58.9.84.48 X: TicketID:103401 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เห็นใจมากๆค่ะ  ในเรื่องของกฎหมายเรื่องนี้มีกระทู้เดือดประจำเดือนตามนี้ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U5705946/U5705946.html เป็นกำลังใจให้จขกท.นะค่ะ จากคุณ : พุดเดิ้ลเล่ - [ 22 ส.ค. 50 13:58:12 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าค่อยๆพูดกันดีกว่ามั่ง อย่าดำเนินคดีกฎหมง-กฎหมายอะไรเลย ชีวิตในวัยเด็ก ก็แบบนี้แหละ   ผมว่าเรียกผู้ชายคนนั้นมาคุยที่บ้าน พร้อมผู้ปกครองของเขา อนุญาติให้เขา คบกันไปเถอะ นิสัยวัยรุ่นเป็นวัยที่ไม่ชอบให้ใครมาตีกรอบให้เขาหรอก   พอโตขึ้นมาเขาก็จะปรับตัวไปเอง   ให้ทั้งสองฝ่ายไปมาหากันได้ ถึงแม้มันจะยากที่ต้องทำใจ  แต่มันย่อมเป็นทางออกที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ ดีกว่าหลบๆซ่อนๆวันดีคืนดีลูกเราไปทำอะไร?ที่ผิดกฎหมายเข้า มันก็ไม่พ้นที่ผู้ปกครองต้องมารับผิดชอบอยู่ดี  ความรักกับวัยรุ่นอย่าตีกรอบให้มากนักเลย  รักได้สักวันเขาก็อาจเลิกกันได้/// จากคุณ : ข้าวก่ำ - [ 22 ส.ค. 50 14:16:38 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณคุณพุดเดิ้ลเล่ที่ทำลิ้งให้ค่ะยังอ่านไม่จบเลยมีตั้งร้อยกว่าความเห็น ด้ความรู้มากค่ะ แต่เรื่องคบกันเปิดเผยนั้นคงเป็นไปได้ยากค่ะ ไม่ใช่เพราะเรื่องฐานะความเหมาะสมแต่เป็นเรื่องที่ผู้ชายคนนี้มีเจตนามาหลอกน้องสาวเราค่ะ น้องสาวเราเคยเล่าให้ฟังว่าผู้ชายคนนี้ชอบเล่นพนันบอลและชอบมาขอยืมเงินน้องสาวเราแต่ยังไม่เคยเห็นคืนให้สักที เงินที่คุณแม่ฝากไว้ให้ตอนวันเกิดทุกปีก็ถอนออกมาใช้หมด แต่ยอมรับว่าผู้ชายคนนี้หน้าตาดีมากเหมือนนายแบบเลยเคยเห็นรูปในกระเป๋าตังค์น้องสาวอยู่ แต่ถ้านิสัยแบบนี้ทางบ้านคงรับไม่ได้ค่ะ อีกอย่างน้องสาวเราก็ยังอายุน้อยไม่น่าต้องมาผูกพันธ์กับคนแบบนี้ไปชั่วชีวิต ยิ่งรู้ว่าบ้านเรามีฐานะคงไม่ยอมปล่อยน้องสาวเราแน่ๆ ถ้าได้ตัวน้องสาวมาที่บ้านวางแผนจะส่งไปเรียนต่อที่อื่น แต่กับผู้ชายแบบนี้อยากจะเอาผิดให้ได้ค่ะ เค้าไม่แคร์อนาคตน้องสาวเราไม่แคร์ความรู้สึกของครอบครัวเรา เราก็ไม่แคร์อนาคตของเค้าเหมือนกันอยากให้ได้ติดคุกติดตะรางเสียอนาคตเหมือนกันค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 22 ส.ค. 50 14:41:53 A:125.26.114.152 X: TicketID:153375 ]

ความคิดเห็นที่ 10 อุ้ยตาย...เป็นตุ๊ดก็ไม่บอกนะยะหล่อน... .. จากคุณ : I_วชิรวิทย์ - [ 22 ส.ค. 50 14:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ อ๊ะๆ  ยังทำตัวเกรียนไม่เลิกนะเรา  เป็นผีหัวขาดไปแล้วไม่ใช่หรือ  เดี๋ยวจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้นะ เอาไปเผื่อแมวที่บ้านด้วยหละ คริๆ จากคุณ : พุดเดิ้ลเล่ - [ 22 ส.ค. 50 15:16:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เด็กเดินผิดทาง ต้องค่อยๆดึงกลับ เข้ามาในแนวทางที่เหมาะสม/สมควร เวลาผ่านไปเด็กจะเข้าใจเอง ขณะนี้เด็กอาจคิดหลงผิดได้  กฎหมายจึงให้อำนาจผู้ปกครองไว้ครับ...แจ้ง ตร. ได้เลยถ้าคุณรู้แล้วว่าเด็กไปอยู่กับใคร และให้ ตร. +พ่อแม่เอาตัวเกกลับมาในที่ปลอดภัย(คุยให้เด็กเข้าใจเหตุผลการกระทำ) จากนั้นก็ดำเนินคดีกับชาย( พรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร,กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ ก็แล้วแต่การสอบปากคำเด็กว่าพฤติการณ์ จะเป็นความผิดฐานใด) ผมไม่แนะนำให้คุยกัน/ยอมความ...เพราะเห็นว่าการตัดสินใจตามความต้องการของเด็ก ไม่ได้เป็นประโยชน์กับตัวเด็กเลย...ในอนาคต  และ ชายไม่อยู่ในวิสัยที่จะดูแลเลี้ยงดูเด็กได้อย่างมีมาตรฐานที่ดี  แถมจะเป็นการหาประโยชน์กับเด็กด้วยนะครับ.....ถ้าปล่อยเลยตามเลย เด็กต้องไปทำหน้าที่ภรรยา การเรียนชะงัก ชายเบื่อทิ้งไปจะทำอย่างไร...ฯลฯ (การประณีประนอมยอมความก็อาจทำได้ในชั้นพิจารณาของศาล  ข้อดีคือผู้เสียหายจะอยู่ในสถานะที่ดีกว่า การคุยกันเอง/ยอมความกันเอง เพราะฝ่ายผู้เสียหายจะต้องบากหน้าไปขอพูดคุยตกลงกับอีกฝ่าย  บางครั้งถูกพูดดูถูก/ถ้าทายให้เจ็บช้ำมากขึ้น) ปัจจุบันเด็กถูกทิ้งเป็นหม้าย/ลูกติด/พ่อแม่ตัดขาดเพราะโกรธฯ พบมากขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : แมกไม้สายน้ำ - [ 22 ส.ค. 50 15:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 13 วายตายแล้ว...มี "ดอก" อะไรไม่รู้มาโผล่แถวนี้  เสียวด้านหลัง...วุ้ย ผีๆๆๆๆๆ มาแล้ววววว..มาหักคอนังชะนี ที่ชอบออกมาร้องหา "ผัวๆๆๆๆๆ..." ไม่รู้อกอีแป้นแตกไปหรือยัง..หล่อน .. ก๊ากกกกกก แก้ไขเมื่อ 22 ส.ค. 50 16:14:29 จากคุณ : I_วชิรวิทย์ - [ 22 ส.ค. 50 16:09:37 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เจ้าของกระทู้กลับมาอ่านอีกครั้งคงเครียดน่าดูเลยมีทั้งชะนี มีทั้งผีหัวขาด มีทั้งคนเสียจริต จากคุณ : อ่านแล้วเครียด - [ 22 ส.ค. 50 16:55:07 A:125.26.114.152 X: TicketID:149649 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ช่วงนี้นักกฎหมายก็เพี้ยนๆ อย่างนี้แหละ อย่าถือสากันเลย เดี๋ยวจะหาว่านักกฎหมายไม่ให้เกียรติกัน ผมเองตอนจะสอบทั้งหลายแหล่ ก็อ่านหนังสือกันจนเรียกว่าเพี้ยน แต่จะไม่ออกแนวติงต๊องแบบนี้ มันออกแนวตาขวางหางตก เข้าเรื่องดีกว่า ข้อเท็จจริงที่ จขกท เล่า จะให้ผิดอาญาก็ได้ แต่ข้อหาไม่ว่าจะพรากผู้เยาว์ อนาจารเด็ก (ม. 5 คะเนอายุไม่ถูกแล้ว ผ่านวัยนั้นมานานแล้ว) หรือกระทั่งข่มขืนเด็ก ถ้าดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ถอยหลังกลับลำบาก สุดท้ายก็คุกตารางกันอย่างเดียว ตามประสบการณ์เรื่องพวกนี้มันมีที่มาของมัน เด็กอยากลอง ครอบครัวไม่เข้มแข็ง เด็กไม่รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่บ้าน พ่อแม่วางหลักการดำรงค์ชีวิตให้ลูกไม่สอดคล้องกับความเป็นไปของสังคม เป็นอาทิ สังคมภายนอกรวมทั้งตัวผู้ชายอาจคิดว่า ก็เด็กมันสิบเอ็ด รด เอง แต่สำหรับญาติพี่น้องพ่อแม่เด็กคงปวดใจไม่น้อย คำถามคือเด็กรับรู้ถึงความปวดใจดังกล่าวหรือไม่ ไม่ว่าคำตอบคือรับรู้หรือไม่รับรู้ก็ตาม คำถามต่อไปคงจะมีว่าทำไมถึงไม่ยอมรับรู้ หรือ รับรู้แล้วทำไมถึงทำ และนั่นเป็นคำถามที่ครอบครัว จขกท ต้องตอบ และคำตอบนั้นจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน เรื่องนี้กฎหมายไม่ใช่ทางแก้ที่ถูกต้องครับ ขอยืนยัน เพราะปัญหามันไม่ใช่ว่าใครถูกใครผิด แต่ปัญหามันอยู่ว่า "ทำไม" ขอให้เรื่องร้ายๆ ของครอบครัว จขกท ผ่านไปด้วยดี และขอให้มีความสุขกับการใช้ชีวิตต่อไปนะครับ จากคุณ : สมมติ - [ 22 ส.ค. 50 17:44:56 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ไอ้นาย วชิรวิทย์ ตอนที่มันตอบกระทู้หนึ่ง มันเอาหัวเป็นประกัน แล้วตอนนี้มันก็ยอมแพ้ราบคาบแล้ว มันจะมาหยิง ยะโส โอหังอีกได้ยังไง ตาวชิรวิทย์ ผีหัวขาด แบบที่พุดเดิลว่า จากคุณ : คนข้างศาล - [ 22 ส.ค. 50 19:47:54 A:58.9.140.133 X: TicketID:153339 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อย่าให้เงินดิ <เลี้ยงมาไม่ดี ไม่เป็นไรตอนโตเดียวฉลาดขึ้นเอง> จากคุณ : ไม่ได้มีสิบมือ (ไม่ได้มีสิบมือ) - [ 22 ส.ค. 50 23:35:06 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับทุกคห.ที่เป็นประโยชน์นะค่ะ ตกลงพรากผู้เยาว์นี้แม้ผู้เยาว์มาหาเองก็ผิดด้วยใช่มั้ยค่ะ คุณ I_วชิรวิทย์ เป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะเหมือนคนเสียสติเลย ห้องกฎหมายก็มีคนแปลกๆเนอะ จากคุณ : จขกท - [ 23 ส.ค. 50 09:26:14 A:203.113.57.101 X: TicketID:153375 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ครอบครัวไม่เข้มแข็ง  พูดลำบากจริงๆ ในทางกฎหมาย เอาผิดได้ ตามกระทู้นั้น ผู้ปกครองไม่ยินยอมเช่นว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น  ผมว่า เมื่อจบกรณีของผู้ชายคนนี้ไป ครอบครัวต้องดูแลสมาชิกกันด้วยครับ จากคุณ : ลูกแม่โดม - [ 23 ส.ค. 50 09:46:00 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณคุณลูกแม่โดมค่ะ ได้คำแนะนำดีๆจากกระทู้นั้นมากเลยค่ะ เรื่องอย่างนี้ครอบครัวไหนไม่เกิดกับตัวไม่รู้เลยค่ะ ทุกคนพยายามทำดีที่สุดแล้วแต่มันเหมือนเป็นเวรเป็นกรรมเลย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลย แต่เวลาคนขาดสติใครพูดอะไรเค้าก็ไม่ฟังซึ่งคนที่เสียใจที่สุดก็คือพ่อแม่ค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 23 ส.ค. 50 10:21:30 A:203.113.57.100 X: TicketID:153375 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณเจ้าของกระทู้ครับ   ชีวิตคนเรา มันก็สุดแต่ใจจะไขว่คว้าครับ   ทุกสิ่งทุกอย่าง ล้วนแล้วแต่เลือกเองทั้งนั้น  ม.5 แล้ว เชื่อว่า อายุก็คงไม่น้อย  อนาคตตัวเอง ยังมองไม่ออก  เท่ากับไม่รักตัวเอง   ตอนนี้ พ่อแม่ คงได้แค่ประคองไปก่อน   ฝรั่ง อายุ 18 เขาต้องออกจากบ้านไปหางานทำ รับผิดชอบตัวเอง  มีไม่กี่บ้านที่ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย   เห็นใจครับ แต่คุณต้องปลอบพ่อแม่ เลี้ยงดูลูก เลี้ยงได้แต่ตัว  ใจเขาเราบังคับไม่ได้ จากคุณ : ลูกแม่โดม - [ 23 ส.ค. 50 13:27:48 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เห็นด้วยกับคุณลูกแม่โดมที่ว่า   ฝรั่ง อายุ 18 เขาต้องออกจากบ้านไปหางานทำ รับผิดชอบตัวเอง  มีไม่กี่บ้านที่ส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย   ซึ่งแตกต่างกับสังคมไทยที่เป็นสังคมแห่งจารีตประเพณี  ครอบครัวคนไทยเป็นครอบครัวใหญ่  หน้าที่ในการอุปการะและตอบแทนผู้มีพระคุณของไทยกับฝรั่งก็ค่อนข้างจะต่างกัน ผมมีลูกความที่มีสามีเป็นชาวต่างชาติเค้าจะถามแฟนคนไทยเสมอเลยว่าทำไม YOU ต้องส่งเงินให้พ่อแม่ YOU  ....พ่อแม่ YOU ไม่มีเงินสวัสดิการเลี้ยงชีพหรือ...คือเค้าไม่เข้าใจว่าคนไทยต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ยามแก่เฒ่าเพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณ.... ส่วนพวกลูกๆฝรั่งเค้าก็จะหางานการทำต้องแต่ชั้นไฮสคูล  ถึงพ่อแม่จะมีตังค์ส่งแต่เค้าก็อยากออกมาทำงานเพราะบันทัดฐานสังคมเค้าเป็นมาอย่างนั้น  และสวัสดิการในประเทศเค้าค่อนข้างจะดีมากๆ...เลยอยู่ได้ไม่ถึงกับลำบาก... แต่สังคมไทย 25 ปียังเป็นผู้เยาว์ในสายตาพ่อแม่อยู่เลย...ดังนั้น 16-17 นี้เป็นทารกเลยครับ....ปัญหาของสังคมไทยจึงอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมอื่นหรือเค้าอาจจะไม่เห็นเป็นปัญหาด้วยซ้ำ...ทั้งนี้เพราะจารีตประเพณี พื้นฐานความคิด ค่านิยม และบันทัดฐานทางสังคมไม่เหมือนกัน...ความเป็นเสรีชนของเค้าจึงสูงมาก...เด็กมีความคิดก้าวหน้ากล้าแสดงออกมีความเป็นตัวของตัวเองสูง....เรื่องนี้ถ้าเกิดอยู่ที่ต่างประเทศคำแนะนำอาจจะต่างกันออกไป...แต่อย่างไรผมก็ยังเห็นว่าไม่สมควรที่จะแก้ปัญหาด้วยการแต่งงานอยู่ดี... เป็นกำลังใจให้ จขกท. นะครับ.... แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 50 14:31:03 แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 50 14:28:09 จากคุณ : อินทร์นิล - [ 23 ส.ค. 50 14:22:22 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบตามความรู้สึกนะคะ..............เรื่องนี้ถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวเราแล้วถ้าเราเป็นพี่สาว  เราก็คงบอกให้เค้าพาพ่อแม่มาคุยกันแต่คง       ไม่แจ้งความเอาผิดอะไรให้วุ่นวาย(เพราะนอกจากจะเป็นคดีความแล้ว  ยังจะเสียชื่อเสียงอีก)  ก็อย่างที่หลาย ๆ ความเห็นบอกว่าสังคมมันเปลี่ยนไป  เลี้ยงกันได้แต่ตัวแต่หัวใจมันควบคุมกันยาก  แค่สอนให้เค้ารู้จักการป้องกัน  ค่อย ๆ พยุงให้เค้าเรียนให้จบ  และอย่าให้มีลูกก่อนวัยอันควรเถอะ  ถ้าอนาคตจะเป็นอย่างไรก็บอกว่ามันเป็นผลจากสิ่งที่เค้าทำ  จะโทษใครไม่ได้  พ่อแม่ก็ทำหน้าที่ของพ่อแม่คือให้การศึกษา   ฉะนั้นเรื่องอื่น ๆก็แล้วแต่เวรกรรมค่ะ               "ทำดีได้  ทำชั่วได้ชั่ว"   ตอนนี้ยิ่งบังคับ  ยิ่งห้ามก็ยิ่งเตลิด จากคุณ : Love_tonka - [ 23 ส.ค. 50 15:50:58 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องจะเอาความผู้ชาย ทางกฎหายน่าจะทำได้ แต่ก็ไม่ได้มาก อย่าหวังมากเลย ดูอย่างกรณีดาราชายคนนั้นสิ ก็ยังมีหน้า ไปทำเรื่องทำราวอื่นๆอีก น้องสาวคุณ จะไม่ให้เงินใช้เลย เราก็กลัว ว่าแฟนน้องคุณ จะจับน้องคุณไปขายก็ได้ เราว่าคนที่เค้ารักกัน คงไม่ทำอย่างนี้ แล้วถ้าลองทำแบบนี้(ที่เข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยวเนี่ย...)ก็คงกล้าทำอะรชั่วๆอย่างอื่นได้อีก ดังนั้นรีบจัดการเหอะ สรุป ปรึกษาตำรวจดีกว่า ขอชาร์ตแรงจากตำรวจ เงินถึง น่าจะจู่โจมถึงเหมือนกัน  ไม่ก็จ้างนักสืบอีกแรง พวกนี้รู้จักกับเหล่าทวงดอกโหดๆ(ตามที่เคยได้ข่าว) ให้จัดการกับฝ่ายชายซะ  (ยิ่งแนะ ยิ่งมั่ว -*-) เราว่าปัญหาจริงๆ อยู่ที่จิตใจน้องสาวคุณมากกว่า -..- จากคุณ : มินเอง - [ 23 ส.ค. 50 17:24:42 ]

ความคิดเห็นที่ 25 มาช้าไปหน่อย หวังว่าคุณเจ้าของกระทู้คงยังอยู่นะคะ เริ่มจากเราเล่าเรื่องของตัวเองเลยแล้วกันนะ จริงๆแล้วอ่านเรื่องน้องสาวคุณก็เหมือน ย้อนกลับไปดูตัวเองยังไงไม่รู้ ม. 5 เหมือนกันเสียด้วย ตอนนั้นเราก็เตลิดค่ะ แต่ด้วยความเป็นเด็ก ก็คิดว่า "นี่ชีวิตฉัน จะมายุ่งกันทำไมนักหนา" (แต่เรื่องเงินไม่นับนะ) ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุอ่ะค่ะ เราว่าเราเข้าใจน้องสาวคุณนะ เพราะเคยอยู่ในอารมณ์เดียวกัน ตอนนั้นเราก็ติดแฟนค่ะ เพราะรู้สึกว่าอยู่ใกล้ๆเค้าแล้วมีความสุข แล้วก็ไม่เข้าใจที่พ่อ แม่ พี่ น้อง ทำนั้นคือความรัก ตอนนั้นคิดเบื่อทางบ้านมาก ยิ่งตามยิ่งหนี จริงๆนะ เราบอกได้เลยว่าการห้ามเด็กสมัยนี้มันไม่ได้จริงๆ ทำได้ดีที่สุดคือ ให้คำปรึกษา หรือ เป็นเพื่อนให้เขา เมื่อเค้ารู้สึกไว้วางใจเราแล้วเค้าก็จะเข้ามาหาเราเอง เพราะยังไงน้องคุณก็ยังต้องพึ่งเรื่องเงินจากครอบครัวอยู่ดี ลองคุยกันดีๆ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ลองทำใจยอมรับเด็กผู้ชายคนนั้นดู เพราะเค้าก็เด็กด้วยกันทั้งคู่อ่ะค่ะ ถ้าน้องคุณรู้สึกปลอดภัยเค้าก็จะเปิดใจกับคุณเอง ลองคิดในทางกลับกันนะ ถ้าเราเป็นน้องสาวคุณเราก็คงไม่อยากให้คนที่เรารัก (หลง) โดนจับหรอกค่ะ เค้าถึงต้องหนีออกจากบ้าน ตอนนี้ทางที่ดีที่สุดคือ คุณนั่นแหล่ะ อายุห่างจากน้องสาวน้อยที่สุด ทำตัวเป็นเพื่อน เป็นที่ปรึกษาให้เค้า จินตนาการว่าน้องคือเพื่อนสาวคนนึง แล้วยิ่งเราช่วยเรื่องการเงินเค้าด้วย รับรองเค้าจะค่อยๆกลับมาค่ะ ยินดีคุยกับคุณเจ้าของกระทู้นะคะ ยังไงเมล์มาได้ที่ thitirat_gade@hotmail.com นะคะ จากคุณ : Anywhere But Here - [ 29 ส.ค. 50 15:26:11 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ^ ^ ^ เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากครับ...ความเข้าใจคือคำตอบของทุกปัญหา จากคุณ : อินทร์นิล - [ 31 ส.ค. 50 20:51:50 ]

ความคิดเห็นที่ 27 น่าจะควบคุมดูแลคนของเราด้วยนะ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง จากคุณ : คำฝอย - [ 18 ก.ย. 50 14:12:12 ]