สวัสดีทุกท่านครับ

เนื่องจากกระผมเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการคุกคามทางโทรศัพท์ของบุคคลผู้หนึ่งที่เป็นข้าราชการ โดยโทรคุกคามอย่างต่อเนื่องอยู่หลายเดือนแล้ว พอมีผู้รับสายก็ด่าอย่างหยาบคาย แต่ช่วงแรกที่ยังไม่ได้กระทำอะไรเพราะเห็นใจว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช
เมื่อเห็นว่าบุพการีและหลานกระผมรวมทั้งเพื่อนร่วมงานต้องเดือดร้อน กระผมจึงตัดสินใจโทรไปร้องเรียนยังผู้บังคับบัญชาของบุคคลผู้นี้ แต่เค้าก็ยังไม่หยุดคุกคาม 2 วันต่อมากระผมโทรติดต่อหาผู้บังคับบัญชาของเขาอีกหน แต่ไม่พบ กระผมจึงทำบันทึกและ Fax ไปฝากเรื่องไว้ให้ผู้บังคับบัญชาเขา โดยกำชับกับผู้รับ Fax ว่าให้ปิดเป็นความลับ เนื้อหาของบันทึกจะเล่าถึงความเดือดร้อนจากการกระทำของบุคคลนี้ คือโทรมาก่อกวนด่าหยาบคายทั้งที่บ้านและที่ทำงานวันละหลายครั้ง ครั้งละหลายหน โดยเฉพาะในเวลาวิกาล และลงรายการ SMS ข้อความหยาบคายที่ถูกส่งมาทางโทรศัพท์มือถือไว้ และ ข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนต่อท้ายในบันทึกคือ

"รวมทั้งในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ฝ่าย ญ. ยังเคยละเมิดนำหมายเลขโทรศัพท์มือถือของข้าพเจ้า แอบอ้างลงประกาศร่วมกับข้อความโฆษณาอันเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าต้องเดือดร้อนรำคาญ ใน Web www.nisitgirl.com, www.dekbaba.com, และยังพยายามใช้ email ของข้าพเจ้าลงประกาศอีกใน www.torakhong.com เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2550 ดังเอกสารประกอบ
และในช่วงเวลาที่ผ่านมา ข้าพเจ้ายังทราบจากบัญชี MSN ทางอินเตอร์เน็ตของฝ่ายหญิง และเพื่อนข้าพเจ้าที่ได้พูดคุยกับฝ่าย ญ. ว่าฝ่าย ญ. มีความพยายามจัดหาอาวุธปืนจากอินเตอร์เน็ต เพื่อฆ่าข้าพเจ้าและคนรอบข้าง และมีแผนจะจ้างวานมือปืนหากจัดหาอาวุธเองไม่ได้ ซึ่งถือเป็นมโนทุจริตและความไร้คุณธรรมจริยธรรมของฝ่าย ญ. อย่างต่อเนื่องมาแต่อดีต เพราะข้าพเจ้าทราบว่าเคยเกิดเหตุการณ์วุ่นวายลักษณะเดียวกันนี้กับตัวฝ่าย ญ. เองก่อนหน้านี้มาแล้วหลายครั้งหลายครา การขาดความละอายและเกรงกลัวผลของการกระทำ และขาดความรู้สึกผิดชอบชั่วดีนั้น ฝ่าย ญ. เคยกล่าวเสมอว่าตนเองไม่เคยศรัทธาคำสอนในพุทธศาสนา จะไม่มีใครกล้าทำอะไรเพราะตนเป็นนายทหาร และหากกระทำผิด ในฐานะที่ตนป่วยทางจิต จะไม่ต้องรับโทษจากสิ่งที่กระทำลงไป
และแม้ว่าข้าพเจ้าจะได้เรียนแจ้งพฤติกรรมดังกล่าวไปยังผู้บังคับบัญชาของฝ่าย ญ. ทางโทรศัพท์แล้วเมื่อวันพฤหัสที่ 20 กันยายน 2550 ที่ผ่านมา แต่ฝ่าย ญ. ก็มิได้หยุดการกระทำดังกล่าว ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจจัดทำบันทึกฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นหลักฐานอ้างอิงในกรณีเกิดภัยร้ายแรงต่อตัวข้าพเจ้าและคนรอบข้าง โดยให้ใช้ข้อมูลในเอกสารฉบับนี้ได้ทันที และหากฝ่าย ญ. ยังไม่หยุดพฤติกรรมข้างต้น ข้าพเจ้าคงต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป
ด้วยความเคารพอย่างสูง
"
โดยข้อความทั้งหมดที่ข้าพเจ้าบันทึกเป็นความจริง เพราะมีทั้งหลักฐานและพยาน รวมทั้งข้าพเจ้าเห็นว่าการลงบันทึกไว้อาจช่วยป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้นต่อตัวข้าพเจ้าและผู้คนรอบข้างได้ดังที่ฝ่ายคุกคามเคยขู่ไว้หลายครั้ง กระผมจึงอยากทราบว่ากรณีนี้ถ้าฝ่าย ที่คุกคามได้รับเอกสารจากผู้บังคับบัญชา โดยวิธีการให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่าซึ่งเป็นเพศตรงข้ามที่ผู้คุกคามสนิทสนม บีบผู้บังคับบัญชาให้เปิดเผยข้อมูลให้

1) ทางผู้คุกคามจะสามารถฟ้องร้องข้าพเจ้าคดีหมิ่นประมาทได้หรือไม่
2) การทำบันทึกดังกล่าวของกระผมเข้าข่าย
'เป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียของตนตามคลองธรรม'
หรือไม่
3) การที่กระผม Fax ตรงถึงผู้บังคับบัญชา แล้วผู้คุกคามให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงกว่า บีบบังคับให้ผู้บังคับบัญชาที่รับเรื่องส่งมอบเรื่องให้ผู้คุกคาม ลักษณะนี้ เข้าข่าย 'ทำให้ตัวอักษรปรากฏ' ในมาตรา 328 หรือไม่
4) การดำเนินคดีกับนายทหาร สามารถดำเนินการโดยการแจ้งความเหมือนบุคคลทั่วไปหรือไม่

รบกวนทุกท่านด้วยครับ เพราะตอนนี้กำลังร้อนใจมาก ที่ต้องเรียนถามเพราะกระผมไม่มีความรู้ทางกฏหมาย และตั้งแต่เกิดมาเกิดมาก็ไม่เคยมีเรื่องวุ่นวายหรือคดีความมาก่อน
และเนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ ตร. ยศ รตท. ที่จะรับแจ้ง โทรมาปรึกษาจะให้ตกลงกันก่อน เนื่องจากเค้าคิดว่าเป็นคดีที่ยอมความไม่ได้ และการที่รตท.ท่านนี้ยังไม่รับแจ้งความ จึงทำให้ฝ่าย ญ. โทรรบเร้าทาง จนท.ตร. อยู่ตลอด และจนท.ตร.ท่านนี้ก็ดูจากภายนอกได้ว่า ผู้ที่มาแจ้งความมีอาการทางจิตเวช (มีอาการโรคซึมเศร้าเหมือนกับหมูแฮมที่ขับเบนซ์ทับคน)
และอยากทราบว่าเมื่อคนไข้จิตเวชแจ้งความจะมีน้ำหนักมากน้อยขนาดไหน
และผมควรจะทำอย่างไรต่อไปครับ ควรจะไปแจ้งความไว้ก่อนหรือไม่ เพราะเค้าเคยบุกรุกที่บ้าน บุกมาที่ทำงานกระผมและพูดใส่ความกระผมจากเรื่องที่เค้าระแวงแล้วเข้าใจผิด และบุกมาทำลายทรัพย์สินในสถานที่ราชการ และยังเคยมาแกล้งกินยาเกินขนาดที่โต๊ะทำงานของกระผม ที่ยังไม่แจ้งความก่อนเพราะเห็นว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช หลังจากช่วงนั้นก็โทรมาคุกคามตลอด 4 เดือนจึงเหลือทนอยู่เหมือนกัน เพราะผู้ได้รับผลกระทบเป็นคนแก่ๆ กะหลานเล็กๆ ที่บ้านครับ

ลืมอีกนิดครับ ฝ่าย ญ. เป็นหมอฟันรักษาเด็กด้วยครับ

ท้ายนี้ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านจากใจครับ
: ผู้ได้รับความเดือดร้อน