ข้อความข้างล่างเป็น e-mail ที่ผมส่งถึงผู้บริหารของโรงเรียน และเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่นด้วยครับ

------------------------------------------



ข้าพเจ้า ได้พาหลานไปสมัครเข้าเรียนที่ โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ เทคโนธุรกิจ ตรงซอยงามวงศ์วาน  23 ในวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551 เวลาประมาณ 10.10 น.ขณะไปถึงที่โรงเรียน ได้เข้าไปที่ตึกเพื่อให้หลานไปกรอกใบสมัคร ซึ่งมีคนนั่งกรอกใบสมัครก่อนอยู่ที่โต๊ะ 2 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงรับสมัครอยู่ที่โต๊ะ กับน้องผู้ชาย 1 คน พอถึงคิวหลานก็เข้าไปกรอกตามปกติ และให้ข้าพเจ้ากรอกในส่วนที่เป็นรายละเอียดของผู้ปกครอง ในส่วนของรายได้ การทำงาน เบอร์โทรติดต่อ ซึ่งก็ดำเนินการไปตามปกติ ในระหว่างนั้น ภรรยาข้าพเจ้าพาลูกสาวไปเข้าห้องน้ำในตึก ระหว่างนั้นสังเกตเห็นแม่บ้านของโรงเรียน มายืนด้อม ๆ มอง ๆ อยู่หน้าห้องน้ำผิดสังเกต แต่ภรรยาข้าพเจ้าไม่ได้เอะใจอะไร ก็รีบทำธุระให้เสร็จ โดยไม่ได้ ปิดประตูห้องน้ำใหญ่ (ห้องน้ำใหญ่มี 2 ห้องน้ำย่อยข้างใน) พอเดินออกมาจากห้องน้ำ แม่บ้านคนนี้ก็รีบเดินเข้าไปห้องน้ำทันที แต่ไม่ได้พูดอะไร ภรรยากับลูกกลับมาที่โต๊ะรับสมัครเพื่อรอให้หลานกรอกใบสมัครเสร็จ และ สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบจากเจ้าหน้าที่ สักพักหนึ่ง และ พวกเราทั้งหมดก็เดินไปขึ้นรถ มี ข้าพเจ้า ภรรยา ลูกข้าพเจ้า สองคน คุณแม่ข้าพเจ้าและหลานสาวที่ไปสมัครเรียน แล้วขับออกไปจากโรงเรียนเมื่อ เวลาประมาณ 10.35 น. เพื่อพาลูกชายไปเรียนพิเศษต่อ เมื่อไปถึงโรงเรียนลูกชายและพาลูกชายเข้าห้องเรียน เวลา ประมาณ 11.35 น. มีโทรศัพท์หมายเลข 02-9525626 โทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือแต่ข้าพเจ้าไม่ได้รับ สักพักมีโทรศัพท์หมายเลข 02-776336036 โทรเข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของข้าพเจ้า เสียงปลายทางเป็นผู้หญิงพูดเสียงละล่ำละลัก อ้างตัวว่าเป็นแม่บ้านของโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ พร้อมกล่าหาว่าภรรยาของข้าพเจ้าขโมยมือถือของเธอซึ่งเธอบอกว่ายี่ห้อ NOKIA จากในห้องน้ำออกไปด้วย ให้รีบเข้ามา clear กับเธอที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าเลยให้ภรรยาคุยสายด้วย ซึ่งภรรยาก็ชี้แจงว่าไม่ได้หยิบไป และไม่ได้เห็นโทรศัพท์อะไรในห้องน้ำ ผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นแม่บ้านของโรงเรียนก็ไม่ยอมฟัง บอกให้เข้าไป clear ที่โรงเรียนท่าเดิม ภรรยาข้าพเจ้าก็ชี้แจงว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องไปทำแบบนั้น และแจ้งให้ทราบว่าจะให้พ่อตาของข้าพเจ้าซึ่งเป็น พ.ต.ท ไปจัดการให้ ผู้ที่อ้างว่าเป็นแม่บ้าน ก็วางสายไป แต่สักพักก็โทรเข้ามาใหม่อ้างว่าเดือดร้อนมากที่โทรศัพท์หาย ให้รีบเข้าไป clear ที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าบอกให้ไปคุยที่โรงพักก็ไม่ไป แถมอ้างว่า มีภาพกล้องวงจรปิดถ่ายไว้ขณะที่รถข้าพเจ้าเข้าโรงเรียนมา และมีชื่อที่อยู่ หมายเลขทะเบียนรถข้าพเจ้าเก็บไว้หมด แถมพูดว่าเห็นหน้าตา ดี ๆ แถมขับรถป้ายแดงด้วยไม่น่ามาขโมยโทรศัพท์มือถือ ของเขาไป แล้วสายหลุดไป ข้าพเจ้าโมโหมากเลยโทรกลับไปที่หมายเลขดังกล่าวมีผู้ชายรับสายอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียน และ พูดเรื่องกล้องวงจรปิดเหมือนที่คนที่เป็นแม่บ้านพูด และขอให้เข้าไปตกลงที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้ ข้าพเจ้าเลยขอคุยกับเจ้าหน้าที่รับสมัคร สักพักมีเสียงผู้หญิงบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่รับสมัคร พูดว่าหนูก็ลำบากใจเหมือนกัน ข้าพเจ้าพยายามขอชื่อนามสกุลแม่บ้าน ก็ไม่ยอมให้สักพักสายก็ขาดไป ข้าพเจ้าโทรเข้าไปใหม่มีเสียงผู้หญิงอีกคนรับบอกว่าลงมาจากชั้นบนของตึก และพยายามพูดให้ข้าพเจ้าเข้าไปตกลงที่โรงเรียนอีก และพยามอัดเสียงข้าพเจ้า ข้าพเจ้าบอกให้ไปคุยกันที่โรงพักก็ไม่ไป สักพักสายก็ขาดไป และไม่ได้โทรมาอีก

จากเหตุการณ์ข้างบนข้าพเจ้าขอร้องเรียนให้ผู้บริหารช่วยทำการสอบสวนดังนี้



1.        สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานในวันอาทิตย์ ที่ 10 กุมภาพันธ์ในเวลาดังกล่าวให้กระจ่าง เนื่องจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเหมือนการ กรรโชกทรัพย์ โดยถ้าข้าพเจ้าไม่รู้อิโหน่อิเหน่ตกใจรีบกลับเข้าไปตกลง ( ตอนวันอาทิตย์ที่โรงเรียนแทบไม่มีคน) ก็น่าสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

2.        เหตูการณ์ที่เกิดดูเหมือนมีการทำเป็นขบวนการ มีการอ้างถึงเรื่องกล้องวงจรปิด และ ให้รีบเข้าไปตกลงทันทีไม่ทราบว่ามีคนอื่นตกเป็นเหยื่อมาก่อนหรือไม่

3.        จัดระเบียบเรื่องความปลอดภัยในโรงเรียนใหม่ หรือไม่ควรเปิดวันอาทิตย์เพราะแทบไม่มีคนเลยอาจเปิดโอกาสให้แก็งค์มิจฉาชีพได้

4.        การดูแลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ที่ไปกรอกใบสมัคร เพราะผู้ที่อ้างตัวเป็นแม่บ้านบอกว่ามีข้อมูลที่อยู่ที่บ้าน เบอร์โทรศัพท์ของข้าพเจ้าครบถ้วน ซึ่งน่าจะเอามาจากเอกสารการกรอกใบสมัครในส่วนของผู้ปกครองนั่นเอง