Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom


    ชีวิตเปรียบดัง"ว"

    เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จัก พยัญชนะตัวนี้ "ว" คุณสังเกตุการเขียนของมันซิ มันจะหมุนหัวกลมๆแล้วก็เขียนเส้นขึ้นไปจากนั้นจะตีโค้งลงและก็ลง เหมือนอย่างที่เราเป็น
    เริ่มเลยนะ เรามาจากครอบครัวปานกลาง พ่อแม่ลำบาก แต่พอมีลูกก็ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตัวเอง พ่อแม่ขยันมาก เป็นที่นับหน้าถือตาในวงการทำงานที่พ่อทำอยู่ หากเอ่ยชื่อพ่อเรา เค้าจะซูฮกกันเลย ว่าเป็นคนทำจริง ไม่ยัดไส้ ไม่มีนอกมีใน ตงฉิน เพราะฉนั้นเครดิตจะดีมากๆ เราเป็นลูกคนโต เห็นมั้ยดูท่าทางว่าจะดีนะ แต่เราเลี้ยงยากมาก จนแม่ตั้งท้องน้องคนที่สอง แม่กลัวจนขนาดจะไปเอาออก เราไม่เข้าใจว่าเราเลี้ยงยากขนาดไหน ถึงขนาดแม่จะเอาน้องออก แล้วคุณจะได้รู้ แต่ยายและน้าๆคัดค้าน เราถึงได้มีน้องสาวตามมาอีกคน ซึ่งจะต่างกับเราราว ฟ้ากับเหวเลย น้องเราเรียบร้อย น่ารัก ส่วนเรามอมแมม แผลทั้งตัว กัดกับหมาแย่งขนมกัน งก ตะกละ อ้วน อะไรที่แย่ๆอยู่ที่เราหมด เราเคยน้อยใจนะ เวลาไปไหน ไปเที่ยว ไปงาน เสื้อผ้า จะหายากมาก เพราะขนาดกับวัยมันไม่สมดุลย์กัน น้องเราแต่งตัวเหมือนตุ๊กตา แต่เราเหมือนตุ๊กตาเสียกบาล แก่แรดเพราะขนาดไม่ได้ก็ต้องเอาของคนโตมาใส่ คิดดู มันตลกขนาดไหน แต่เราก็ไม่ถือเป็นสาระเท่าไหร่ เพราะงานก็แป็บเดียว เดี๋ยวก็กลับมาถอดแล้ว ชุดพวกนั้น ชั้นก็เป็นของชั้นแบบนี้ มีความสุข ดูไม่น่าเป็นปัญหาชีวิตเลยนะ
    แต่แล้วความทุกข์แรกก็มาเยือน เมื่อเราอายุได้แค่ขวบกว่า น้องสาวเราได้แค่ 10 เดือน เพิ่งหัดเดิน แม่ก็มาตายลงด้วย ไวรัสขึ้นสมอง หมอบอกว่าน่าจะมาจากเชื่อไวรัสจากสวนสัตว์ เพราะก่อนหน้านั้นพ่อแม่พาเราไปเขาดิน แต่ฝนตกแล้วไอจากดินที่มีมูลสัตว์มันจะระอุขึ้นมา ซึ่งช่วงนั้นแม่เราอาจจะไม่แข็งแรงก็ได้ แม่เข้ารับการรักษา เมื่อ เกือบ40ปีที่แล้ว ต้องฉีดยาฆ่าเชื่อเข็มละ 5000 บาทซึ่งทองสมัยนั้น บาทละ 400 คิดดูแถมไม่รับประกันด้วยนะ ภาพสุดท้ายที่เราพอจำได้คือ พ่อยืนอยู่หน้าเมรูอุ้มเรากับน้อง หน้ารูปแม่ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจำได้ โดยที่เรายังจำหน้าแม่ไม่ได้เลย นอกจากได้ดูจากหนังที่พ่อถ่ายไว้ เป็นเหมือนภาพยนต์ขาวดำ เอามาเปิดให้เราดูว่านี่คือแม่นะ แต่ตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว ยัง ยังไม่หมด พ่อเป็นผู้ชายจะทั้งทำงานแล้วเลี้ยงลูกได้ยังไง ยังไงก็ต้องมีคนดูแล น้าเราก็เข้ามาทั้งๆที่เค้ามีแฟนอยู่แล้วก็ต้องไปเลิกกับแฟน เพราะยายก็ยกให้มาแต่งกับพ่อเราเลย เพื่อจะได้ดูแลทั้งลูกเขย ทั้งหลานที่ยังเล็ก สังเกตมั้ยว่า มันเริ่มต้นที่ การวนของหัว"ว" วนจนงงไปหมด แต่จากนั้นมันจะเริ่มขึ้น หลังจากที่เราได้แม่น้ามาเป็นแม่ ไม่ได้เหมือนในนิทานที่แม่เลี้ยงจะใจร้ายเสมอไป แม่คนนี้ดีมากกกก รักเรา2คนพี่น้อง ดูแลเหมือนลูก เพราะนั่นก็หลานแท้ๆ แต่เราเสียอีก ด้วยความที่เคยปากเรียกอแต่น้า น้า น้า มาตลอด จนเข้าโรงเรียนแม่ก็จะให้เรียกแม่ ทำไงก็ไม่ได้ซักที จนมีกฎว่าถ้าเรียกน้า หัก 10 บาท สมัยนั้น ก๋วยเตี๋ยวชามละ 6 บาทนะ ก็เลยเรียกได้เลย ช่วงนั้นชีวิตขาขึ้นจริงๆนะ พ่อก็ทำมาค้าขายเจริญก้าวหน้า เราสองคนพี่น้องก็ได้เข้าเรียนโรงเรียนที่ดีที่สุด เป็นโรงเรียนผู้หญิงล้วน แถวฝั่งธน แต่บ้านเราอยู่ดอนเมือง เชื่อมั้ยว่าพ่อตื่นไปส่งเราทุกเช้า แต่เราไม่อยากไปโรงเรียนเลย เพราะโรงเรียนนั้นระเบียบเยอะมาก ทรงผม รองเท้า มันไม่ใช่เรา แถมเรามาเข้าตอนป2 ก่อนหน้าก็เรียนแถวบ้าน พอมาเข้าที่ใหม่ตั้งแต่การเรียนเลย
    ไม่รู้จักเลย งงเป็นไก่ตาแตก เค้าท่องสูตรคูณแบบถอยหลังกัน แม่เจ้า
    แค่ท่องเดินหน้าก็จะตายอยู่แล้ว วันแรกที่เปิดเรียนเราร้องไห้เลย เพราะเราท่องไม่ได้ เด็กที่เรียนมาตั้งแต่แรกเค้าก็ท่องได้ แต่เรามาจากโรงเรียนชานเมือง แล้วไงล่ะ ครูก็ไม่ให้กลับบ้านถ้าท่องไม่ได้ เราเลยเกลียดทั้งวิชาเลข เกลียดทั้งโรงเรียนนับแต่นั้น แต่ก็เรียนถูไถมาได้จนจบ สายวิทย์นะ แต่คะแนนไม่ถึงที่จะเรียนต่อเพราะตกเลข ถ้าเปลี่ยนสายละก็ได้ แต่อาจหาญมากเดินไปลาออกเองเลย ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเรียนที่ไหนต่อ บ้ามั้ยล่ะ แต่ก็ฟลุคสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาลที่เป็นสตรีล้วนได้ แต่ไม่ใช่ที่สาขา1 นะเป็นสาขา2 เป็นสหศึกษา โอ้...นอกจากเห็นขนหน้าแข้งของพ่อแล้วก็ไม่เคยเห็นของคนอื่นอีก แถมตัวเหม็นด้วย สุดยอด แต่ก็เหมือนฟ้าเข้าข้าง ให้ทั้งระดับ 16 ห้อง มีห้องเราห้องเดียวมีผู้หญิงล้วน เพราะมีผู้ชายเข้ามา 2 คน แต่ก็ทนไม่ได้ ขอย้ายออกไปอยู่ห้องที่มีผู้ชายมากกว่านี้หน่อย เราเรียนดีเลยทีเดียวเพราะเป็นสิ่งที่เราชอบ บอกแล้วไงว่า ตัว "ว"กำลังขึ้น แล้วก็เอ็นฯติด เรียนได้เกียรตินิยมด้วยนะ ปลาบปลื้ม จบมาก็จะมาช่วยที่บ้านทำงาน ช่วยพ่อ แม่
    และแล้ว ฟ้าที่ใสๆก็เริ่มตั้งเค้าพายุมาแล้ว ที่บ้านเราทุกปี แม่บ้านที่บ้านอยากไปเที่ยวไหน แม่เราจะให้ไป ซื้อตั๋วให้ ไปเหนือ ไปใต้ ขอให้บอก ซื้อทัวร์ไปเลย ปีนั้นแม่บ้านเรา2คนเป็นคนเก่าแก่อยู่กันมาเป็นสิบปี อยากไปเที่ยวเหนือ เอา..ไปก็ไปซื้อทัวร์เลย เราเป็นคนไปเป็นเพื่อนก็ชวนเพื่อนที่เรียนมหาลัยไปด้วยกัน จะได้ครบ 4 คน จะได้ครบคู่ แต่ก่อนเดินทาง แม่ช่วงหลัง ปฎิบัติธรรมมาก แม่จะต้องลากพวกลูกๆซึ่งตอนนั้นแม่มีลูกของตัวเองอีก3 คนแต่แม่ไม่ได้รักเราสองพี่น้องน้อยลงเลย มีแต่จะมากขึ้น กลัวเราคิดมาก ประเสริฐจริงๆ แม่ไม่ค่อยได้นอน เห็นแม่นั่งสมาธิตลอด สมัยนั้นเราทั้งบ้าน 7 ชีวิต จะนอนด้วยกันในห้องใหญ่ ไว้นอนอย่างเดียว ตื่นมาไม่รู้ไหนหน้า ไหนเท้า หมุนเป็นกังหัน แต่ก็มีความสุขนะ ตอนนั้นพ่อก็เริ่มมีหนี้ที่กู้มาทำธุรกิจเป็น 10 ล้าน แม่นอนไม่ได้หลายวันเข้า ก็เลยไปหาหมอๆบอกว่า เป็นภูมิแพ้อย่างแรง เอายามากินแล้วกัน แม่ก็ทน นอนไม่ได้ก็ไม่นอน ก็ลุกมานั่งสมาธิ บังเอิญข้างบ้านลูกชายเพิ่งกลับจากอเมริกา เป็นหมอเฉพาะทางโรคปอด เค้าเดินมาเยี่ยมว่าเห็นไม่สบาย ก็เลยลองตรวจดู เท่านั้นแหละ สังเข้าโรงพยาบาลด่วน รู้ว่าไม่น้อยแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เราจะไม่ไปเที่ยวแล้วนะ ห่วงแม่ แต่แม่บอกว่า ไปเหอะเดี๋ยวพวกแม่บ้านจะเสียใจ อุตส่าห์ตั้งตารอแล้ว เราก็ไปแบบไม่สบายใจ เพราะยังไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไร แต่แม่เรานั้นเป็นยอดนักสู้เลย สุดทน ไม่ปริปากว่าเจ็บปวดแค่ไหน ไม่แสดงสีหน้าเลย ก็นอนไม่ได้มาเป็นเดือนก็เฉยๆ แม่บอกว่า นอนไม่ได้ก็นั่งสมาธิเอาซิ เพราะเห็นมั้ยพระธุดงค์ท่านยังนั่งสมาธิในกลดได้เลย เวลานอนมีอีกถมไป เวลาตายไงก็ต้องนอน แม่เข้มแข็งมาก เอาแค่นี้ก่อนใครสนใจอยากอ่านต่อ เม้นต์มา รับรองสุกยอด นี่กำลังแค่จะโค้งของตัว"ว"นะ ยังมีอีก

    จากคุณ : น้ำครึ่งแก้ว - [ 23 เม.ย. 51 15:15:09 A:124.121.172.215 X: ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com | Torakhong.org | GameRoom