| เห็นด้วย (1 คน) |
| ไม่เห็นด้วย (2 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 3 คน |
บันทึกหลักการและเหตุผล
ประกอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. ....
หลักการ
แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดบทนิยามคำว่า เจ้าพนักงาน (เพิ่มมาตรา ๑ (๑๖))
(๒) ปรับปรุงบทบัญญัติความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต โดยกำหนดให้การฟ้องคดีในความผิดฐานดังกล่าวเป็นอำนาจของพนักงานอัยการโดยเฉพาะแต่ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายในการเป็นโจทก์ร่วม (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๕๗)
(๓) กำหนดความผิดเกี่ยวกับศพ (เพิ่มลักษณะ ๑๓ ความผิดเกี่ยวกับศพ
ในภาค ๒ ความผิด มาตรา ๓๖๖/๑ มาตรา ๓๖๖/๒ มาตรา ๓๖๖/๓ มาตรา ๓๖๖/๔ และมาตรา ๓๖๖/๕)
(๔) กำหนดความผิดเกี่ยวกับการคุกคาม (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๓๙๗)
เหตุผล
โดยที่มาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติรับรองและคุ้มครองสิทธิของบุคคลในกระบวนการยุติธรรม โดยบุคคลมีสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง นอกจากนี้ บุคคลมีสิทธิที่จะให้คดีของตนได้รับการพิจารณาอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม และมาตรา ๓๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติรับรองและคุ้มครองสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่ส่วนตัวไว้ด้วย แต่ปัจจุบันข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความหมายของคำว่า เจ้าพนักงาน ในการพิจารณาคดีมีมาก เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้กระบวนการพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความล่าช้า และมีการกลั่นแกล้งฟ้องร้องเจ้าพนักงานในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ทำให้เจ้าพนักงานไม่กล้าตัดสินใจในการปฏิบัติหน้าที่เป็นผลให้บุคคลไม่ได้รับความสะดวกรวดเร็วในการดำเนินกระบวนการยุติธรรมของ
เจ้าพนักงานดังกล่าว สมควรกำหนดบทนิยามคำว่า เจ้าพนักงาน ไว้ให้ชัดเจน เพื่อลดข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความหมายของคำว่า เจ้าพนักงาน และแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติความผิดฐานเป็น
เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเพื่อคุ้มครองเจ้าพนักงานโดยให้พนักงานอัยการเท่านั้นเป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีในข้อหาดังกล่าว แต่ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายในการเป็นโจทก์ร่วม ประกอบกับยังไม่มีกฎหมายกำหนดความผิดเกี่ยวกับศพ อันเป็นการละเมิดต่อสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ และชื่อเสียงตามรัฐธรรมนูญหลายประการ ได้แก่ การกระทำชำเราศพ การกระทำอนาจารศพ การกระทำ
ให้ศพเสียหาย และการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ สมควรให้มีบทบัญญัติความผิดดังกล่าว
เพื่อคุ้มครองสิทธิของบุคคลในครอบครัว เกียรติยศ และชื่อเสียงตามรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้น เพื่อคุ้มครองสิทธิของบุคคลในความเป็นอยู่ส่วนตัว ตามมาตรา ๓๕ ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย การกระทำต่อผู้อื่นอันเป็นการรังแก ข่มเหง รบกวน รบเร้า คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ไม่ว่าจะกระทำในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ หรือเป็นการกระทำโดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทำมีอำนาจเหนือผู้ถูกกระทำ อันเนื่องจากความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา นายจ้าง หรือผู้มีอำนาจเหนือประการอื่น อันเป็นการกระทำซึ่งละเมิดต่อสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวซึ่งรัฐธรรมนูญบัญญัติคุ้มครองไว้ สมควรกำหนดให้เป็นความผิด
จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ร่าง
พระราชบัญญัติ
แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..)
พ.ศ. ....
.................................
.................................
.................................
.......................................................................................................................................
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา
.......................................................................................................................................
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๑๖) ของมาตรา ๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
(๑๖) เจ้าพนักงาน หมายความว่า บุคคลซึ่งกฎหมายบัญญัติว่าเป็น
เจ้าพนักงานหรือได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ไม่ว่าเป็นประจำหรือครั้งคราว และไม่ว่าจะได้รับค่าตอบแทนหรือไม่
มาตรา ๔ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๑๕๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๐๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
มาตรา ๑๕๗ ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
การฟ้องคดีตามมาตรานี้ให้เป็นอำนาจของพนักงานอัยการโดยเฉพาะ
แต่ไม่ตัดสิทธิผู้เสียหายที่จะเข้าร่วมเป็นโจทก์
มาตรา ๕ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา ๓๖๖/๑ มาตรา ๓๖๖/๒
มาตรา ๓๖๖/๓ มาตรา ๓๖๖/๔ และมาตรา ๓๖๖/๕ ของลักษณะ ๑๓ ความผิดเกี่ยวกับศพ
ในภาค ๒ ความผิด แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ลักษณะ ๑๓
ความผิดเกี่ยวกับศพ
มาตรา ๓๖๖/๑ ผู้ใดกระทำชำเราศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของศพ หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของศพ
มาตรา ๓๖๖/๒ ผู้ใดกระทำอนาจารแก่ศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี
หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๓๖๖/๓ ผู้ใดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งศพหรือส่วนของศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๓๖๖/๔ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามศพ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินห้าพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๓๖๖/๕ ความผิดในหมวดนี้ นอกจากความผิดตามมาตรา ๓๖๖/๔
เป็นความผิดอันยอมความได้
มาตรา ๖ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๙๗ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
มาตรา ๓๙๗ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง รบกวน รบเร้า คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าพันบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำในที่สาธารณสถาน
หรือต่อหน้าธารกำนัล หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคสองเป็นการกระทำโดยอาศัยเหตุที่ผู้กระทำ
มีอำนาจเหนือผู้ถูกกระทำ อันเนื่องจากความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา นายจ้าง
หรือผู้มีอำนาจเหนือประการอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกิน
หนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
....................................
นายกรัฐมนตรี
ที่มาhttp://www.krisdika.go.th/comment_x_01.jsp?head=5&item=1&billCode=11
สำหรับผมนะครับ
ข้อดีคือ เป็นการป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อาจจะถูกกลั่นแก้ลง โดยการให้นักกฎหมายของรัฐช่วยพิจารณาอีกชั้นหนึ่ง
ข้อเสีย อาจเป็นช่องทางให้ข้าราชการช่วยเหลือพวกพ้อง และหาประโยชน์ในทางไม่ชอบ(เช่นตำรวจแกล้งทำสำนวนอ่อนจน อัยการสั่งไม่ฟ้อง หรือ อัยการอาจโดนติดสินบนจนสั่งไม่ฟองผู้เสียหายก็หมดสทธิแล้ว)
จากคุณ :
อี้จับสี่
- [
13 ก.ค. 51 22:22:38
]