ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าขนาดศาลอุทรณ์เขาพิพากษายืน ให้จำคุกแล้วนี่อีกฝ่ายถึงสาหัสแล้วมังครับคุณพี่ สู้กันสองศาล ทั้งเบิกทั้งสืบพยาน คงต้องเอารายละเอียดมาว่ากันหละครับ ขนาดเป็นเด็กนักเรียนนี่ ทั้งสองศาลเขาไม่ปราณีบ้างหรือ จากคุณ : อยากรู้ - [ 4 ม.ค. 52 17:29:26 A:116.58.231.242 X: TicketID:008482 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อีกฝ่ายเหรอคะ....หุ หุ เอาเป็นว่าสบายดีพอจะไปก่อคดีอื่นที่ถูกตัดสินจำคุกด้วยน้า แต่...ทายซิว่าเค้ายังเดินปร๋ออยู่ข้างนอกได้ยังงัย ส่วนตัวดิฉันไม่อยากพาดพิงถึงใครหรืออะไรทั้งหมดทั้งสิ้น แค่ขอคำปรึกษาเพื่อให้น้องชายของดิฉัน (ซึ่งบาดเจ็บ ตาเขียว ปากแตก พอ ๆ กับคู่กรณีขณะเกิดเหตุ) ได้เรียนหนังสือต่อไปถึงแม้จะถูกตัดสินให้รอลงอาญา ไม่ต้องมาโต้แย้งกันในรายละเอียดอีก ครอบครัวเราก็พอใจแล้วค่ะ จากคุณ : WeloveOurFamily - [ 4 ม.ค. 52 21:05:00 A:124.120.227.41 X: TicketID:123889 ]

ความคิดเห็นที่ 3 น้องชายอายุเท่าไหร่ ในขณะถูกฟ้องต่อศาล ข้อเท็จจริงในคดี ผมไม่รู้ว่าเป้นยังไง แต่คนที่ทำคดีคงจะรู้ล่วงหน้า เดาเอาได้ว่าผลจะเป็นยังไง.... ไม่มีใครทราบคำพิพากษาล่วงหน้าหรอกครับ นอกจากจะเดาเอาเอง... เพราะแม้แต่ศาลท่านที่จะอ่าน ยังต้องตัดซองคำพิพากษาต่อหน้าจำเลยครับ ศาลสูง มักจะเมตตารอการลงโทษนะครับ จากคุณ : pteamb - [ 4 ม.ค. 52 21:17:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 อายุประมาณ 19 ปีขณะถูกฟ้องศาลแรกค่ะตอนนั้นเรียนศึกษาผู้ใหญ่ แต่ทางฝ่ายทนายเราส่งไปว่ามีอาชีพรับจ้าง (ตรงนี้เราไม่รู้ว่าทนายเราทำถูกรึเปล่าค่ะ) และตอนนี้น้องชายเราเรียนมหาลัยปี 2 แล้วอายุก็ประมาณ 21-22 ก็ไปรู้จักและปรึกษากับคนรู้จักท่านหนึ่งในมหาลัยแหละค่ะมาบอกน้องเราว่าเค้ารู็ผลคำตัดสินแล้วตามหัวข้อแต่เค้าสามารถทำให้เปลี่ยนเป็นรอลงอาญาได้นะ โดยต้องมีอะไรให้เค้านิดหน่อยอ่ะค่ะ(อันที่จริงก็ไม่นิดหน่อยหรอกนะสำหรับคนทำงานปากกัดตีนถีบอย่างเรา) เราอยากทราบจริง ๆ ค่ะว่าถ้าตัดสินจำคุกไปแล้ว ทางเราจะฏีกาขอให้เป็นรอลงอาญาได้มั๊ยคะ หรือหากศาลท่านเมตตาตัดสินเป็นรอลงอาญาไปแล้วทางคู่กรณีจะฏีกาอีกได้มั๊ย ขอบคุณล่วงหน้านะคะ จากคุณ : WeloveOurFamily - [ 4 ม.ค. 52 21:37:27 A:124.120.227.41 X: TicketID:123889 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ผมอยากเรียนว่า จริงๆ แล้วนักกฎหมาย ผู้พิพากษา อัยการ หรือทนายความก็คือคนธรรมดาคนหนึ่งมิใช่ผู้วิเศษอะไรเลยครับ ทนายความก็เป็นแค่นักกฏหมายคนหนึ่งที่รู้กฎหมาย เชียวชาญด้านกฎหมายมากกว่าคนอื่นๆ เขาถึงทำหน้าที่เป็นผู้ว่าต่าง แก้ต่างให้กับผู้อื่นได้ตามกฎหมายครับ บางครั้งต้องยอมรับจริงๆ ว่ากฎหมาย กับความรู้สึกของชาวบ้านทั่วๆ ไป อาจจะมีสวนทางกันบ้าง อาจจะคิดว่าทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมไม่เป็นแบบนั้น หากคุณเจอนักกฎหมาย หรือทนายความที่ดี มีจริยธรรมหรือคุณธรรมบ้าง คุณก็จะได้รับคำปรึกษาที่ดี ซึ่งคำปรึกษาที่ดีนั้นอาจจะถูกใจ หรือขัดใจคุณก็ได้ครับ คุณจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้อีกเช่นกันครับ  ส่วนนักกฎหมายหรือทนายความ ที่ขาดความเชียวชาญ ไม่มีจริยธรรม หรือคุณธรรมนั้น ก็เป็นเรื่องธรรมดาครับ ที่ทุกๆ อาชีพ วิชาชีพ อาจจะมีปะปนไปกันบ้าง ซึ่งก็ไม่มีใครอยากให้มีหรือเกิดเหตุเช่นกันหรอกครับ จากคุณ : www.mahisornlaw.com (attorney_law) - [ 4 ม.ค. 52 21:38:54 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ผมถามคำถามผิด จริงๆ ต้องถามว่า ในขณะที่กระทำความผิด อนุมานเอาว่า น่าจะเกินเยาวชนแล้ว...คงถูกฟ้องยังศาลจังหวัด... ศาลชั้นต้นส่วนใหญ่จะตัดสินจำคุกโดนไม่รอลงอาญานะครับ แต่ศาลสูง หากจำเลยอุทธรณ์ ฎีกาให้รอการลงโทษ ส่วนใหญ่หากคดีโทษที่ลงแค่ ๙ เดือน ศาลก็น่าจะให้โอกาสจำเลย อ้างถึง "คนรู้จักท่านหนึ่งในมหาลัยแหละค่ะมาบอกน้องเราว่าเค้ารู็ผลคำตัดสินแล้ว" ผมว่าเค้ารู้ครับ...รู้ว่าศาลจะรอลงอาญาแน่ๆ แต่มาหลอกจะเอาเงินจากคุณ ผมแนะนำให้อยู่เฉยๆ แล้วรอวันฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ครับ อย่าไปเสียเงินให้ใคร... ศาลอุทธรณ์เมตตาเสมอครับ.. จากคุณ : pteamb - [ 4 ม.ค. 52 21:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 7 แล้วศาลชั้นต้นตัดสินว่ายังไงหละเนี่ย.... ทำไมพูดถึงแต่ศาลอุทธรณ์จัง ขอชี้แจงข้อกฎหมายนิดนึงนะคะ ถ้าหากว่าศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษจำเลยไปแล้ว แต่อัยการไม่ได้อุทธรณ์ ไม่ว่าศาลอุทธรณ์จะเห็นว่าจำเลยผิดข้อหาเดิมหรือข้อหาใหม่ แต่ศาลอุทธรณ์จะไม่ลงโทษจำเลยมากเกินกว่าที่ศาลชั้นต้นตัดสินอย่างแน่นอน มีกฎหมายว่าไว้ สมมติว่าศาลชั้นต้นลงโทษต่ำกว่า 9 เดือน แต่อัยการไม่อุทธรณ์.... ศาลอุทธรณ์ก็ไม่อาจลงโทษให้หนักไปกว่านั้นได้....  ถ้ากรณีเป็นอย่างนี้ ฟันธงได้ว่าคนที่เอามาบอกนั้นหลอกคุณ แต่ถ้าอัยการอุทธรณ์ด้วย อันนี้ไม่แน่หละว่าจะลงเท่าไร และจะรอการลงโทษหรือเปล่า ซึ่งถ้าหากคนที่เอามาบอกพูดแค่ 9 เดือน ไม่บอกว่ารอหรือไม่รอ.... น่าสงสัยมากว่าเขาหลอกเอาเงินคุณหรือเปล่า เพราะเคยได้ยินคนทำงานศาลบ่นให้ฟังว่า เขาจะลองดูลักษณะคดี แล้วเดาเอา เช่น เดาเอาว่าคดีนี้ศาลน่าจะรอการลงโทษ และรู้จักญาติจำเลย เขาจะไปเรียกเงินก่อนโดยอ้างว่ารู้จักกับผู้พิพากษาเพื่อขอคดีให้ ฯลฯ ถ้าหากว่าศาลรอการลงโทษให้จริงเรื่องก็เงียบ คนเดาคดีได้เงิน ญาติจำเลยเข้าใจไปว่าเงินง้างศาลได้ แต่ผู้พิพากษาไม่รู้เรื่องเลย แต่คำพิพากษาศาลสูงนั้นเป็นความลับมาก ๆ ค่ะ ตอนส่งมาศาลชั้นต้นจะใส่ซองปิดผนึก ผู้พิพากษาท่านจะตัดซองบนบัลลังก์แล้วอ่านกันสด ๆ เดี๋ยวนั้น แล้วให้เราเซ็นชื่อที่ด้านหลังของคำพิพากษาใบสุดท้ายเพื่อยืนยันว่าอ่านคำพิพากษาฉบับนี้ให้เราฟัง คิดว่าการซิกแซกนั้นยากมากค่ะ จากคุณ : มานะฯ - [ 4 ม.ค. 52 22:24:24 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราว่าแล้วว่าเพื่อนใน pantip มีน้ำใจเสมอ ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาค่ะ เรื่องนี้เราก็คิดไปในทางเดียวกับคุณ pteamb และคุณ มานะฯ ค่ะ ว่าคนรู้จักเค้าเดามาถูกทาง ทั้งนี้ศาลชั้นต้นเคยตัดสินให้น้องชายเราจำคุก 9 เดือนและคุณทนายเราก็ทำเรื่องอุทธรณ์เข้าไปค่ะ อย่างนี้ถือว่าอัยการอุทธรณ์ด้วยใช่มั๊ยคะ คุณ มานะฯ (อันนี้เราไม่ทราบจริง ๆ ค่ะ ต้องขอความกระจ่างเพิ่ม) ตอนแรกคนรู้จักที่เรากล่าวถึงขอค่าใช้จ่ายหกหลักค่ะ แต่เราไม่ไหวจริง ๆ เค้าเลยลดให้ และที่ได้ยินมาว่าคู่กรณีก็ยอมทุ่มเงินเพื่อให้ได้ตามความต้องการทุกอย่างด้วย เราไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่หรือดูถูกสถาบันใด ๆ นะคะ แต่บอกตรง ๆ ว่ากลัวจับใจ ทำยังงัยถึงจะให้ศาลท่านทราบว่าน้องเราเรียนอยู่คะ เพราะเราหวังว่าจะช่วยให้ท่านลดโทษเหลือเป็นรอลงอาญาได้ ขอบคุณคุณ pteamb และ คุณมานะฯ อีกครั้งนะคะ ได้คำปรึกษาบ้างอย่างนี้ดิฉันคงพอหลับตาลงได้บ้างคืนนี้ จากคุณ : WeloveOurFamily - [ 4 ม.ค. 52 23:28:08 A:124.120.227.41 X: TicketID:123889 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โดนหลอกครับ จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 - [ 5 ม.ค. 52 00:41:20 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่าคุณรอฟังผลการติดสินดีกว่า  และเชื่อมั่นในตัวทนายความที่คุณจ้างอย่าฟังทแนะที่รู้กฎหมายงูๆปลาๆดีกว่า และจะบอกให้ในคดีความที่พิจารณาต่อศาลการจบแค่กฎหมายอย่างเดียวก็ไม่สามารถคาดเดาได้เท่ากับคนที่ว่าความเป็นทนายความจริงๆซึ่งปฎิบัติทำงานอยู่ได้หรอกครับและการทำงานจริงไม่ใช่ทฤษฎี    เดากันเรื่อยไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอก จริงๆแล้วที่ตรงนี้เหมาะแก่การเพียงสอบถามกฎหมายกันเบื้องต้นเท่านั้นเพราะแต่ล่ะคนที่มาตอบก็ไม่อาจเชื่อถือได้มากที่สุดแต่อย่างใด เมื่อมีทนายความแล้วควรเชื่อตามแนวทางของทนายความของคุณ คดีของคุณเท่าที่อ่านมาไม่ทราบว่าถูกฟ้องข้อหาอะไร?  หนักเบาขนาดไหน? เพราะแต่ล่ะข้อหาจะมีแนวทางในการดำเนินคดีต่างๆกันไปซึ่งในขณะที่คุณติดต่อทนายความของคุณเขาจะต้องชี้ให้เห็นโอกาสของคดีต่อไปว่าความจะเป็นอย่างไร  ไม่มีทนายคนไหนสามารถบอกได้หรอกว่าคดีของคุณจะหลุด  100 %  ซึ่งตรงนี้ทนายความที่ทำคดีของคุณจะต้องใช้ความรู้ที่มีอยู่และประสบการณ์ในการคาดถึงความน่าจะเป็นบอกแก่คุณ  และคุณควรตัดสินใจว่าจะจ้างเขาทำคดีหรือไม่  อย่างไร และคดีของคุณต่อสู้คดีอย่างไร?  รับสารภาพหรือไม่อย่างไร คดีนี้ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้หรอกครับ เมื่อทนายความมีใบอนุญาตว่าความแล้วอย่างน้อยเขาก็มีความรู้พอสมควรล่ะครับที่จะแนะนำคุณได้  เมื่อคุณตกลงสู้คดีไปตามแนวทางนั้นแล้วเชื่อมั่นทางทนายความของคุณเถอะ  และหากศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น  ก็ลองหาช่องทางฎีกาเพื่อต่อสู้คดีต่อไปตามกระบวนการ และไม่ว่าจะเป็นอย่างไรโปรดยอมรับในสิ่งที่ได้ทำผิดไป แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 10:26:23 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 10:10:24 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 52 09:40:31 จากคุณ : ทนายเนติบัณฑิตคนหนึ่ง - [ 5 ม.ค. 52 09:33:33 ]

ความคิดเห็นที่ 11 อืม.......น้องชายคุณเล่าให้ฟังไม่หมดครับ.... คงเล่าให้ฟังในส่วนที่ตนเองคิดว่าดี แล้วคุณก็เชื่อตามน้องของคุณ คิดว่าคดีนี้...คงเป็นการรับแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงไม่ได้ฟ้องผ่านทนายความ โดยทั่วไปคดีทำร้ายร่างกาย บาดเจ็บเล็กน้อย พนักงานสอบสวนจะปรียบเทียบปรับ แต่นี่...ถึงศาล  คู่กรณีคงจะเลือดตกยางออก ต้องพักรักษาตัวอย่างแน่นอน แล้วเป็นข้อหาอะไรครับ....ถึงต้องจำคุก 9 เดือนอย่างนี้ คงไม่ใช่สมัครใจทะเลาะวิวาทธรรมดา แต่คู่กรณีต้องสาหัสถึงจำคุก แต่คุณบอกว่าเดินปร๋อ....อย่างนี้ ไม่ใช่บาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน ฟันธง....ที่คุณบอกว่าน้องคุณมีเรื่องกับเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ต้องข้อหานี้แน่นอน...1.ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย 2.บุกรุก...  ก่อนอื่นที่จะแนะนำคุณต้องไปสั่งสอนน้องก่อนว่า ไม่ใช่ทำตัว เป็นนักเลง ก่อความวุ่นวายให้กับพี่อย่างนี้ ข้อแนะนำ.... 1.ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุธรณ์ได้( เราๆ,ท่านๆ ) 2.ศาลอุธรณ์ส่วนใหญ่จะไม่เพิ่มโทษแก่จำเลย 3.คนที่พูดเขามองออกว่า ศาลพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นแน่นอน( จำรอ ) จึงตกเบ็ดกับน้องคุณ 4.ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะฎีกาต่อ จากคุณ : ฮูฮง - [ 5 ม.ค. 52 10:14:05 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เราจะรู้ว่าอัยการอุทธรณ์ก็เมื่อศาลชั้นต้นตัดสินใหม่ ๆ แล้วได้หมายศาลและสำเนาอุทธรณ์ของอัยการเพื่อให้เราเขียนแก้นั่นแหละค่ะ ถ้าไม่มีหมายศาลกับสำเนาอุทธรณ์ของอัยการมาถึงคุณแปลว่าอัยการไม่อุทธรณ์ค่ะ ถ้าศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 9 เดือน... ถ้าหากทนายความของน้อง จขกท. อุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ ประเด็นพิจารณาในศาลอุทธรณ์น่าจะมีประเด็นเดียวแล้ว คือสมควรรอการลงโทษหรือไม่ ยกเว้นว่าเขามีอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้องด้วย ซึ่งกรณีเช่นนี้ 1. ทนายความที่ว่าความให้ เขาน่าจะมีประสบการณ์มากพอ และหากมีเหตุใดที่จะทำให้ศาลจะปรานี เขาน่าจะพูดไปหมดแล้วในอุทธรณ์ ดังนั้นประเด็นนี้น่าจะเบาใจได้ 2. ยิ่งศาลต้นจำคุก 9 เดือนแบบนี้ ยิ่งไม่รู้สึกว่าคนรู้จักคนนั้นเขารู้อะไรมากไปกว่าคนอื่นเลย เพราะ 9 เดือนคือเท่าศาลชั้นต้น ยิ่งถ้า จขกท. ทำให้เขารู้ว่าตัวเองอุทธรณ์แค่ขอให้รอการลงโทษมันยิ่งชัวร์ว่า 9 เดือนเท่าเดิมนี่แหละ คิดว่า จขกท. มีโอกาสถูกหลอกสูงมาก   ถ้าจ่ายเงินไปแล้วศาลรอ เขาก็อ้างว่าเพราะเขาวิ่งเต้นให้ แต่ถ้าศาลไม่รอ เขาก็บอกว่าเงินแค่นี้อุดศาลไม่พอ ฝ่ายตรงข้ามทุ่มเงินให้ศาลมากกว่า ฯลฯ เชื่อดิฉันมั้ยหละ แต่กรณีนี้อยากให้ทำใจนิ่ง ๆ แล้วดูทั้งคดีเหมือนกันค่ะ เพราะการที่ศาลลงจำคุก 9 เดือน ไม่รู้ว่าน้องชาย จขกท. รับสารภาพหรือเปล่า ถ้ารับสารภาพแล้วยังลงขนาดนี้นับว่าหนักมากสำหรับฐานทำร้ายร่างกาย แต่ต่อให้ไม่รับสารภาพ ศาลลง 9 เดือนโดยไม่ลดโทษเลยก็ยังนับว่าหนักอยู่ดี จนสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเป็นทำร้ายร่างกายสาหัสหรือเปล่าด้วยซ้ำ ฐานทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัสนั้นไม่จำเป็นต้องนอน ICU หรือหยอดน้ำข้าวต้มเสมอไปค่ะ แค่ตาบอด หูหนวก ใบหน้าเสียโฉมติดตัว หรือได้รับบาดเจ็บบางอย่างจนต้องรักษาตัวเกิน 20 วัน อย่างแขนหัก ขาหัก ก็ถือว่าได้รับอันตรายสาหัสแล้วค่ะ รายละเอียดอ่านประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 จขกท. บอกว่าคู่กรณียังเดินปร๋อได้ แต่ถ้าเป็นเดินปร๋อ แต่ใส่เฝือกแขนไปเดือนนึง ก็ถือว่ารับอันตรายสาหัสแล้วค่ะ จากคุณ : มานะฯ - [ 5 ม.ค. 52 11:09:30 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่าถ้าไม่ใช่อาชญกรโดยอาชีพ คดีไม่ร้ายแรง จำเลยมีโอกาสกลับเนื้อกลับตัว ทำประโยชน์ให้สังคม  ส่วนใหญ่แล้วศาลจะรอลงอาญามากกว่าเอาไปติดคุกครับ ยกเว้นบางคดีที่ศาลอาจจะทำให้เป็นเยี่ยงอย่าง (อย่างเมื่อก่อนนักการเมืองชอบกล่าวหากันลอยๆ แล้วก็ไปฟ้องกัน ส่วนใหญ่ศาลจะตัดสินรอลงอาญา จนนักการเมืองได้ใจ กล่าวหา ใส่ร้ายกันเละเทะไปหมด จนคดีเต็มศาล หลังๆ มานี่ศาลก็เลยมักจะตัดสินให้ติดคุก - อันนี้เป็นข้อสังเกตส่วนตัวนะ)  เพราะคุกก็เต็มอยู่แล้ว ศาลไม่เอาคนที่ยังพอมีอนาคตไปติดคุกครับ ไม่ต้องไปเสียเงินหรอก จากคุณ : TingTing - [ 5 ม.ค. 52 11:50:32 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ศาลไม่บ้าจี้ที่จะสั่งจำคุกกันง่ายๆตั้ง 9 เดือน ผมว่าคุณคงไม่รู้รูปการจริง  หรือไม่ก็เข้าใจคลาดเคลื่อนไปเอง การทะเลาะวิวาท  หากฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บและอีกฝ่ายสำนึกโดยการช่วยเหลือ บรรเทาเยียวยา มีหรือศาลจะสั่งจำคุก มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นจริงไหม หรือไม่คุณก็บอกความจริงไม่ครบจริงไหม จากคุณ : ttno1 - [ 5 ม.ค. 52 13:53:32 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอตอบคุณทนายเนติบัณฑิตคนหนึ่ง : "คดีของคุณเท่าที่อ่านมาไม่ทราบว่าถูกฟ้องข้อหาอะไร? หนักเบาขนาดไหน?" --> ข้อหาทำร้ายร่างกายค่ะ ทั้งสองฝ่ายหัวแตก ตาเขียว แผลถลอกตามเนื้อตัว แต่วันรุ่งขึ้นคู่กรณีก็ใส่เฝือกที่แขนค่ะ อืม... ข้อมูลที่เราให้เป็นแบบย่อแน่นอนว่ารายละเอียดคงไม่ครบหรอกค่ะ แต่เป็นข้อมูลที่เป็นใจความสำคัญและเป็นความจริงทุกประการนะ ไม่รู้ว่าจะหลอกทุกคนไปทำไมนะคะ เพราะไม่มีประโยชน์กับใครเลยแม้แต่เราเอง..... เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดที่หน้าบ้านของเราเองและคุณพ่อกับคุณแม่เราก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลังเกิดเหตุเราพาน้องชายไปโรงพยาบาลและแจ้งความด้วยตัวเองค่ะ เห็นกับตาว่าน้องเราสภาพเป็นยังงัยและคู่กรณีสภาพเป็นอย่างไร เรื่องขอยอมความต่อหน้าตำรวจ หรือการว่าจ้างทนายและรูปคดีต่าง ๆ เราก็เป็นคนจัดการทั้งหมดตั้งแต่ตอนเริ่มต้นค่ะ ไม่ใช่รับฟังมาอย่างเดียวนะคะ ถึงเวลานี้แล้ว เราไม่มีเวลามาโกหกใครเพื่อขอความเห็นใจหรอกค่ะ...แค่มาขอคำแนะนำและเก็บข้อมูลจากทุกคนที่มีน้ำใจมาตอบเพื่อพิจารณาดูว่าเราจะทำอะไรได้ต่อไปเพื่อให้น้องเราไม่ต้องถูกจำคุกและสามารถเรียนต่อได้จนจบค่ะ ตอนนี้เราคิดตามคำแนะนำของเพื่อน ๆ ว่าเราควรอยู่เฉย ๆ รอฟังคำตัดสินในศาลนี้ หากถูกตัดสินจำคุกจริง...เราคงยอมรับแต่เราจะไม่ยอมแพ้ค่ะ คงต้องฎีกาต่อ จากคุณ : WeloveOurFamily - [ 5 ม.ค. 52 19:47:45 A:124.120.229.231 X: TicketID:123889 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อยากให้ดูข้อเท็จจริงในศาลชั้นต้นมากกว่าครับ ว่าปฏิเสธ หรือรับประเด็นไหนกันบ้าง สืบสมกันมากน้อยแค่ไหน หรือพอมีเหตุต่อสู้ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะบางครั้งหากชั้นต้นทำมาไม่ดี หรือสืบไม่สมแล้วอุทธรณ์หรือฏีกาไปก็ลำบากครับ แต่ยังไงก็เอาใจช่วยขอให้น้องได้รับความยุติธรรมจริงๆ นะครับ         อีกอย่างผมอยากให้คุณลองเปิดใจคุยกับทนายความของคุณกันอย่างจริงๆ จังๆ เลยครับ คุยกันให้เข้าใจว่าจะแก้ปัญหา เยียวยา อย่างไรกัน เพราะผมเชื่อว่าตอนนี้ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงเท่ากับคู่ความ หรือทนายความที่ติดตามข้อเท็จจริงมาแต่ต้นนะครับ  สู้ๆ จากคุณ : www.mahisornlaw.com (attorney_law) - [ 5 ม.ค. 52 22:18:25 ]

ความคิดเห็นที่ 17 อ่านดูไม่ทราบว่าฝ่ายคุณ  รับสารภาพหรือต่อสู้คดี แต่หากรับสารภาพ  และวางเงินชดใช้ค่าเสียหายเสียหน่อย  น่าจะรอด   อ่านดูๆสงสัยจะต่อสู้คดีไม่ได้รับสารภาพเลยถูกลงโทษ   ก็เอาใจช่วยล่ะครับ ถึงต่อสู้คดีจริงก็มีโอกาสรอการลงโทษอยู่แต่ว่าโอกาสนี้ในความคิดของผมก็มีน้อยกว่าการรับสารภาพต่อศาลพอสมควร แล้วแต่คำพิพากษาศาลล่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อเท็จจริงแต่ล่ะเรื่องไม่เหมือนกันครับ ไม่ทราบว่ามีการสืบพยานกันไปอย่างไร ขอให้โชคดี และเชื่อในทนายความคุณเถอะ หากศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ก็ยื่นคำร้องขอให้ผู้พิพากษารับรองให้ฎีกาเพื่อหาช่องทางฎีกาลดหย่อนผ่อนโทษต่อไป ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : ทนายเนติบัณฑิตคนหนึ่ง - [ 6 ม.ค. 52 00:01:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เล่นกั๊กความจริง มาบอกทีละนิดคงไม่มีใครช่วยอะไร หรือแนะนำคุณได้หรอกครับ จะว่าบอกโดยย่อแบบนี้  มันคนละเรื่องกับที่พูดกันในศาลแล้วครับ ข้อมูลที่คุณให้มา กับคำตัดสินของศาลชั้นต้นมันฟ้องทนโท่ว่าคุณบอกความจริงไม่หมด  งั้นผมถามหน่อย 1 คู่กรณีเป็นใคร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ทำงานตำแหน่งอะไร สถานะร่ำรวยแค่ไหน 2 ทะเลาะกันเพราะอะไร 3 ชกต่อยกันที่ไหน กี่โมง ใครลงมือก่อน มีใครรู้เห็น(ทั้งฝ่ายเราและฝ่ายเขา)   ชกต่อยโดยมีอาวุธหรือไม่ 4 หลังชกต่อยใครบาดเจ็บแค่ไหน 5 ใครเป็นคนไปโรงพักก่อน 6 มีการเยียวยา รักษาพยาบาลคู่กรณีหรือไม่ แค่ไหน 7 ในชั้นศาลรับสารภาพ หรือจำนนต่อหลักฐาน 8 ระหว่างดำเนินคดี มีความพยายามใกล่เกลี่ยหรือไม่  ทำอย่างไร อะไรบ้างที่  คุณแสดงออกว่าพยายามใกล่เกลี่ย ถ้าคุณไม่บอกเรื่องพวกนี้ด้วย  ก็แนะนำอะไรคุณไม่ได้หรอก ทำได้แต่ให้กำลังใจเท่านั้น จากคุณ : ttno1 - [ 6 ม.ค. 52 10:49:10 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณ"คุณ www.mahisornlaw.com" ค่ะ เราคงจะไปคุยกับทนายอย่างจริงจังและเป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้ แต่ใจกำลังคิดว่าถ้าต้องถึงกับฏีกา..เราจะไปปรึกษาที่สภาทนายความแทนแล้วค่ะ ขอบคุณ "คุณ ทนายเนติบัณฑิตคนหนึ่ง" ค่ะ ทางเราต่อสู้คดีค่ะ สืบพยานข้างเราก็มีพ่อแม่เราแล้วก็คนแถวนั้นที่นั่งอยู่แถวหน้าบ้านเราและเห็นเหตุการณ์เช่นกันค่ะ ส่วนทางคู่กรณีเค้ามีเพื่อนผู้ชายที่นั่งรถมาด้วยกันเป็นพยานค่ะ ขอบคุณ "คุณ ttno1" ค่ะ แค่มาเป็นกำลังใจให้ก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ คุณเชื่อกันไหมคะ.....ว่าเงินซื้อได้เกือบทุกสิ่ง จากคุณ : WeloveOurFamily - [ 6 ม.ค. 52 20:33:25 A:124.122.163.11 X: TicketID:123889 ]

ความคิดเห็นที่ 20 เอ่อ เห็นคุณพี่พูดหลายครั้งแล้วนะครับเรื่องเงินซื้อได้ เหมือนกับฝ่ายตรงข้ามเขาใช้เงินยัดเยียดข้อห้าให้น้องเสียอย่างนั้นหละ ผมว่ามันเหมือนหมิ่นศาลเลยนะครับ สองศาลด้วย นี่ไม่นับกระบวนการยุติธรรมอื่นๆนะครับไล่มาตั้งแต่ ตำรวจ อัยการ ศาล อีกผมว่าถ้าคุณพี่มีหลักฐานข้อสงสัยอะไร เข้าไปหานักการเมืองเลยครับ เอารัฐบาลปัจจุบันก็ได้ หลายท่านก็อยู่ในวงการยุติธรรมมาก่อน เป็นทั้งผู้พิพากษา อัยการ ทนาย ชำระกันเสียที แต่ผมอยากให้คุณพี่ตรองดูด้วยนะครับ เอาชื่อมานั่งดูว่าผู้พิพากษาท่านเป็นใครมาจากไหน ชีวิตราชการมาอย่างไร เรื่องของเรื่องมันเด็กตีกันนะครับ ผมมานั่งคิดดูว่าคุณพี่มีทัศนะคติอย่างนี้ น้องคุณพี่จะเป็นอย่างไร แล้วเคยมีคนแนะนำไหมครับว่าถ้าที่ครอบครัวไม่มีความเชื่อถือในระบบยุติธรรมของประเทศนี้แล้วก็ หนีประกันเสียเถอะครับ เห็นบอกว่าเรื่องทะเลาะเบาะแว้งไม่ใช่อาชยากรแผ่นดินสำคัญอย่างไร ไปเสียระวังอย่าติดต่อกลับมาทางบ้าน ระวังเนื่อระวังตัว ทำอาชีพค้าขายสุจริต อาจจะได้เรียนรู้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ครับ จากคุณ : ตรองดู - [ 7 ม.ค. 52 11:13:25 A:119.42.93.93 X: TicketID:008482 ]

ความคิดเห็นที่ 21 กะว่าจะไม่ตอบกระทู้นี้แล้วเพราะคิดว่าข้อมูลที่หลาย ๆ คห. แสดงไว้ก็ค่อนข้างครบครันแล้ว แต่เหมือน จขกท. จะปักใจเชื่อเหลือเกินว่าเงินซื้อศาลได้ ซื้ออัยการได้ ซื้อคดีได้ ไม่ว่าทุกคนจะพูดอย่างไร จขกท. พูดเหมือนกับ ตำรวจที่ทำคดีถูกเงินยัด แล้วบอกว่าคู่กรณีแค่หัวแตก ตาเขียว ทำไมโดนลงโทษเสียหนัก แต่แล้วก็บอกออกมาทีหลังว่าวันรุ่งขึ้นจากวันเกิดเรื่องเขาใส่เฝือกแขน... (อ้าว ถ้าแขนหักแล้วหมอลงความเห้นว่ารักษาเกิน 20 วัน ก็ต้องเป็นข้อหาทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัสแล้ว) ข้อหานี้ระวางโทษจำคุก 6 เดือนถึง 10 ปีนะคะ ไม่ใช่ข้อหาเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วการที่ต่างฝ่ายต่างทะเลาะวิวาท ถ้าตำรวจเขาลงความเห็นว่าต่างฝ่ายต่างสมัครใจเข้าทะเลาะวิวาท เขาก็ดำเนินคดีกับทั้งคู่แหละค่ะ น้องคุณทำร้ายเขาแขนหัก ก็น่าจะโดน ม. 297 ส่วนเขาทำร้ายน้องคุณหัวแตก ตาเขียว ถลอกตามเนื้อตัว น่าจะโดนข้อหาทำร้ายร่างกาย ม. 295 ไป (คิดว่าคดีของคู่กรณีก็มีเหมือนกัน แต่เหมือน จขกท. จะไม่พูดถึงจึงไม่ทราบรายละเอียด) แล้วมันไม่ตรงไปตรงมาตรงไหน หรือจะกล่าวโทษแพทย์ผู้ตรวจร่างกายคู่กรณีเขาด้วยว่าทำรายงานไม่ดี แขนไม่หักมาบอกว่าแขนหัก คิดว่าแค่คู่กรณีเขาเดินใส่เฝือกเล่น ๆ โดยไม่มีใบแพทย์จะทำให้ตำรวจเปลี่ยนข้อหาได้หรือคะ รูปคดีส่วนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ทนายบอกว่าไม่รู้นี่ไม่ใช่ทนายไม่ได้เรื่องนะคะ... เพราะทนายไม่มีทางบอกได้เป๊ะ ๆ ว่าศาลจะพิพากษาอย่างไร โดยเฉพาะดุลพินิจการลงโทษของศาลนั้นมันเป็นเรื่องเฉพาะคดี ทนายที่ดีเขาไม่ฟันธงหรอกค่ะ กระบวนการคดีมันก็ดำเนินไปอย่างมีขั้นตอนของมัน ถ้ากระบวนการมันแย่จนทั้งตำรวจ+หมอ+อัยการ+ทนาย+ศาลชั้นต้น  ทำงานร่วมกันยังทำให้น้องชายของ จขกท. "ถูกกระทำ" ได้ขนาดนี้ชักสงสัยแล้วว่า กระบวนการยุติธรรม ทั้งระบบ กับจรรยาแพทย์ มันทรุดหนัก หรือว่า จขกท. มองข้อเท็จจริงด้านเดียวกันแน่ จากคุณ : มานะฯ - [ 7 ม.ค. 52 14:16:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้งค่ะ เราเข้าใจดีค่ะว่าบางสิ่งที่เราโพสต์อาจทำให้ทุกท่านระคายเคืองจิตใจเป็นอย่างมาก เราขอน้อมรับทุกความคิดเห็นและจะพยายามรวบรวมคำแนะนำดี ๆ เพื่อไปดำเนินการต่อนะคะ ขอบคุณคุณ มานะอีกครั้งสำหรับคำแนะนำสุดท้าย เราคงมองข้อเท็จจริงด้านเดียวอย่างที่ทุกคนคิด...... ^_^ ท้ายนี้ขอให้ปีใหม่นี้เจอแต่สิ่งดี ๆ นะคะ ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดปีและตลอดไปอย่าได้มีเรื่องร้าย ๆ ใด มาแผ้วพานค่ะ เพื่อน ๆ ใน pantip มีน้ำใจเสมอค่ะ จากคุณ : จขกท - [ 7 ม.ค. 52 23:02:09 A:124.121.212.122 X: TicketID:123889 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 16 ม.ค. 52 23:16:10 ]