CafeTech-ExchangePantip MarketChatPantownBlogGang


    ทิศทางของกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ควรไปทางไหน?

      เพิ่มโทษให้แรงขึ้น (4 คน)
      ยกเลิก หรือแก้ไขให้เบาลง (61 คน)
      คงไว้ตามเดิม (4 คน)
      อื่นๆ(โปรดระบุ) (2 คน)

    จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 71 คน

     5.63%
     85.92%
     5.63%
     2.82%


    เป็นเรื่องที่พูดกันบ่อยในเรื่องหมิ่นสถาบันฯ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ก็พอมี3แนวทางคือ คงไว้ตามเดิม,เพิ่มโทษให้แรงขึ้น,ยกเลิกหรือแก้ให้เบาลง ท่านๆเห็นกันอย่างไร

    เชิญโหวตและเชิญอภิปรายครับ

    กฎหมายปัจจุบัน ปอ. มาตรา ๑๑๒
               ผู้ใด หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือ แสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ สามปีถึงสิบห้าปี

    ฝ่ายเสนอให้เพิ่มโทษ
    พีรพันธ์ สาลีรัฐวิภาต รมว.ยุติธรรมเสนอให้เพิ่มความแรงและโทษ ดังนี้

    1. เพิ่มเติมให้การกระทำหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อ “พระบรมวงศานุวงศ์” เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย จากเดิมที่ครอบคลุมองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทน


    2. เพิ่มเติมโทษตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งเดิมกำหนดว่า ความผิดตามมาตรานี้ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15 ปี เพิ่มเป็น "จำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 25 ปี และปรับตั้งแต่ห้าแสนถึงหนึ่งล้านบาท”

    3. ให้การฟ้องคดีฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท พระบรมวงศานุวงศ์ และผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยให้ศาลกำหนดวันไต่สวนมูลฟ้องและวันพิจารณาคดีโดยไม่ชักช้า

    4. กำหนดให้ศาลพิจารณาในชั้นไต่สวนมูลฟ้องถึงพฤติกรรมหรือพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดของจำเลย หรือข้อมูล หรือข้อความ หรือถ้อยคำ หรือคำเรียกขาน หรือคำเปรียบเปรย หรือภาพ หรือเนื้อหาตามคำฟ้อง หากเห็นว่ามีมูลให้ศาลประทับรับฟ้องไว้พิจารณาและกำหนดวันนัดพิจารณาโดยไม่ชักช้า

    5. กำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้รับภาระในการพิสูจน์และนำพยานหลักฐานมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน  

    6. เป็นคดีที่พิจารณาต่อเนื่อง ห้ามเลื่อนโดยไม่มีเหตุอันควรอย่างแท้จริง

    ฝ่ายคัดค้านเสนอให้ยกเลิกหรือแก้ไข
    ไชยันต์ ชัยพร คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า ถ้าจะคลี่คลายปัญหาการเมืองไทยอย่างสันติ ต้องยกเลิกกฎหมายหมิ่นฯ โดยเขาอ้างถึงแนวคิดของเอมมานูเอล คานท์ (Emmanuel Kant) นักปรัชญาชาวเยอรมัน ว่า การพัฒนาก้าวหน้าของมนุษยชาติ เริ่มที่ความรู้ ความคิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด เพราะฉะนั้น คานท์ชี้ว่า สาเหตุที่คนไม่ก้าวหน้า เพราะสิ่งที่อยู่ในตัวเราเป็นสิ่งขัดขวางการพัฒนาทางความคิด เพราะขี้เกียจกับขี้ขลาด ขี้เกียจหาคำอธิบาย หนังสือว่ายังไงก็ว่าตามนั้น ขลาดกลัวว่าคิดต่างจะเป็นแกะดำ หรือโดนจับ



    เขากล่าวว่า คานท์เรียกร้องให้เราเลิกเชื่อสิ่งที่ดำรงอยู่รอบตัวเรา ให้เราคิดเอง ไม่ใช่มีข้อมูลมาแล้วก็จมอยู่กับข้อมูลและเชื่อตามง่ายๆ หรือขี้เกียจหนักก็ไม่สนใจเลย อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขสำคัญ ที่จะให้คิดด้วยตัวเอง คือเสรีภาพ แต่เสรีภาพที่ไม่มีขอบเขต จะทำให้สังคมปั่นป่วน เพราะสังคมคืออยู่รวมกัน โดยมีแบบแผน ถ้าไม่ยอมรับแบบแผนเลย จะกลายเป็นอนาธิปไตย คานท์จึงพยายามหาทางออกที่ไม่ให้มีเสรีภาพมากจนสังคมปั่นป่วน โดยแบ่งการใช้เหตุผลออกเป็นสองแบบ คือ การใช้เหตุผลเรื่องส่วนตัว กับการใช้เหตุผลในเรื่องสาธารณะ การใช้เหตุผลเรื่องส่วนตัวต้องถูกจำกัดอย่างยิ่ง ขณะที่การใช้เหตุผลเรื่องสาธารณะต้องเต็มที่

    http://www.prachathai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ID=12563&Key=HilightNews

    จากคุณ : ธงธรรม - [ 6 ม.ค. 52 20:51:16 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | PanTown.com | BlogGang.com