ผมเป็นทหารเกณฑ์ ผลัด1/48 ทบ.ครับ เรื่องที่ผมจะกล่าวถึงเป็นประสบการณ์ที่ผมกับเพื่อนๆในผลัดได้รับในการในชีวิตทหารในค่ายนี้ (ผมจะไม่ขอเอยถึงชื่อค่ายนะครับ เอาเป็นว่า เป็นค่ายทหารค่ายนึ่งของ จ.ชลบุรี)
ไม่รู้ว่าเพื่อนๆที่ผ่านทหารเกณฑ์มา จะได้เจอเรื่องแย่ๆ แบบผมหรือเปล่าว แต่ผมคาดว่าน่าจะมีนะหรืออาจจะหนักกว่า แต่สำหรับตัวผม ผมยอมรับว่านี่คือสิ่งที่แย่ที่สุดในชีวิตของผม
ชีวิตทหารที่ผ่านมายอมรับครับว่าสิ่งที่ได้รับคือได้รับทั้งดีทั้งไม่ดี เรื่องดีๆที่ผมได้รับคือ ฝึกฝนผมให้เป็นคนอดทน มีระเบียบวินัยมากขึ้น ได้รู้ซึ้งถึงนิสัยใจขอของคนแต่ล่ะคน แต่สิ่งที่แย่ๆ ที่ผมจะกล่าวถึงคือพฤติกรรมห่ามๆของครูฝึกนายสิบบางท่านครับ ขอย้ำนะครับว่าบางท่าน
ใครเคยผ่านทหารมาคงเข้าใจนะครับว่า ช่วงฝึก 2 เดือนแรกเป็นอะไรที่โหดมาก ต้องตื่นตั้งแต่ ตี4 ฝึกตลอดวันจนถึงช่วง 6 โมงเย็น แม้กระทั่งช่วงนอน ยังต้องระแวงว่าจะถูกเรียกมาซ้อม (ลงโทษ) ตอนไหน
ช่วงฝึกจะมีแค่อาทิตย์ล่ะวันเท่านั้นที่ทหารอย่างพวกผมมีความสุข ก็คือวันอาทิตย์ เพราะญาติๆสามารถมาเยี่ยมได้ แต่ก็ใช่ว่าจะมีความสุขได้เต็มร้อยนะครับ เพราะ ครูฝึกท่านชอบเรียกทหารมาลงโทษโชว์ บรรดาญาติๆ เช่นตอนพักเที่ยงช่วงญาติอยู่กันเยอะๆ ครูฝึกก็จะเรียก พวกเราไปรวมพล แล้วก็ลงโทษ ทั้งๆที่บางที ก็ไม่ได้มีความผิดอะไร เช่น ให้วิดพื้นกลางพื้นซีเมนท์ หรือให้ลุกนั่งจนกว่าครูฝึกจะพอใจ จนเพื่อนผมบางคนอาเจียน
แต่ที่น่าสงสารไม่ใช่พวกผมหรอกครับ เป็นบรรดาญาติทหารมากว่า เพราะบางท่านก็อายุมากแล้ว กว่าจะมาเยี่ยมลูกหลาน ก็ต้องนั่งรถมาไกล แล้วมาเจอลูกหลานตัวเองโดนทรมารแบบนี้อีก( อย่างแม่ผมท่านอายุ 60 กว่าแล้วครับ ท่านเป็นโรคเบาหวาน และ โรคหัวใจ พอถึงวันอาทิตย์ท่านจะดีใจมาก จะรีบตื่นแต่เชขช้าทำอาหารมาให้ผมกิน ท่านรักผมมากเพราะผมเป็นลูกคนเดียวของท่าน ผมก็ภูมิใจนะครับที่ทำให้ท่านดีใจด้วยการสมัครเป็นทหาร )
แม่ผมพอเห็นพวกผมโดนลงโทษ ท่านก็จะเป็นลมแทนพวกผม เพราะท่านสงสารพวกผม มีบางอาทิตย์ที่ผมต้องห้ามท่านมา เพราะกลัวท่านจะเป็นอะไรไป แต่ท่านก็มาทุกอาทิตย์อ่ะครับ เพราะท่านบอกว่าคิดถึงผม ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมครูฝึกต้องลงโทษโชว์ญาติด้วย จริงๆจะลงโทษ ก็ไม่เป็นไรหรอกครับเพราะมันเป็นสิ่งที่พวกผมได้รับอยู่ทุกวันอยู่แล้ว แต่จะหาที่ลงโทษ ที่ญาติๆไม่เห็นไม่ได้เชียวเหรอ และ การขายของ ของครูฝึกอีก วันอาทิตย์จะมีครูฝึกบางท่าน เอาของมาขาย เช่น พวกขนม น้ำขวด ครูฝึกบางคนก็จะจดชื่อทหารที่ไม่ชื่อของ ของเค้าไว้ เผื่อเอามาลงโทษทีหลัง และ บางทีก็ทำเหมือนใจดี เช่นให้ทหารเซนต์ไว้ก่อนได้ แล้วค่อยมาจ่ายตอนฝึกเสร็จ ซึ่งพอเรียกเก็บตังค์ ราคากลับผิดจากเดิม 3-4 เท่า ซึ่งเพื่อนผมบางคนแทบไม่มีเงินกลับบ้านกันเลย
และมีอยู่หลายคืนครับ ที่พวกผมต้องโดนลงโทษ ซึ่งการลงโทษนี้ผมไม่ทราบว่าครูฝึกท่านนั้นท่านมีความคิดปกติทางจิตหรือปล่าว ท่านจะเรียกพวกผมมารวมตัวกันที่ห้องน้ำ ท่านบอก วันนี้จะมีการตรวจน้ำ ใครไม่เสร็จไม่ต้องขึ้นไปนอน ท่านก็ให้พวกผมแก้ผ้า แล้วให้ช่วยตัวเอง ใครทำเสร็จก็เอาน้ำอสุจิไปให้ครูฝึกดู แล้วขึ้นไปนอนได้ ซึ่งถ้าใครไม่เสร็จก็ห้ามขึ้นไปนอน
และมีหลายครั้งครับที่พวกผมโดนครูฝึกซ้อมและลงโทษ ด้วยข้อหาหมั่นไส้ ทั้งๆที่ไม่ได้ทำไรผิด ก็จะเรียกมาซ้อมเพื่อระบายอารมณ์
ผมเจอการฝึกและลงโทษที่ค่อนข้างทารุณมาตลอดทั้ง 2 เดือนอ่ะครับ แต่ที่ผมโดนกับตัวเอง ที่ทำให้ผมลืมไม่ลงคืออาทิตย์สุดท้าย อาทิตย์นี้เป็นการฝึกเดินทางไกล 20 กว่ากิโลครับ พวกผมต้องใส่ชุดฝึกเต็มชุด ใส่หมวกเหล็ก ตะพายเป้กว่า 20 โล รวมทั้งถือปืน แล้วออกเดินเท้าจากค่าย ตัวผมเองมีโรคประจำตัวครับ คือ โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งผมได้แจ้งครูฝึกและให้ไปรับรองแพทย์ไปแล้วตอนเข้ามาในค่ายใหม่ๆ (เพื่อนๆคงงงซิครับว่าผมเป็นโรคประจำตัวทำไมผมถึงเป็นหทารได้ เพราะตอนคัดเลือกหมอไม่ได้ตรวจร่างกายผมครับ คือผมสมัครเค้าก็ให้เป็นเลย ซึ่งผมพึ่งมารู้ก่อนวันรายงานตัวเป็นทหารแค่วันเดียวว่า เป็นโรคความดันสูง)
ผมพยายามสู้นะครับ คือพยายามสู้ให้เดินให้ถึง แต่ผมต้องแพ้พิษโรคประจำตัวของตัวเองครับ คือผมเป็นลม เดินไม่ไหว ครูฝึกบางท่านท่านก็เห็นใจ ให้ผมนั่งรถไป เหตุการณ์นี้เองทำให้ผมเป็นที่หมั่นใสของครูฝึกท่านนึ่ง( ซึ่งเป็นคนเดียวที่สั่งให้พวกผมช่วยตัวเองในห้องน้ำ) พอถึงที่หมาย พวกผมก็กลางเต็นท์เพื่อพักกัน พวกเราได้นอนกันตอน 5 ทุ่มหลังจากเสร็จกิจกรรม แต่ผมยังไม่ได้นอนครับโดนสั่งให้ไปเข้าเวร ซึ่งครูฝึกกลุ่มนึ่ง ก็จับกลุ่มกันกินเหล้าและเล่นไผ่ครับ และ มีครูฝึกคนนึ่ง เมาและเสียไผ่ ซึ่งเค้าก็ไม่นอนอ่ะครับ เพราะหงุดหงิด พอถึงตี 4 เค้าเป่านกหวีดเรียกพวกเราตื่นให้ไปหุ้งข้าวทำกับข้าว โดยให้เวลาแค่ 15 นาที ซึ่งไม่มีใครหุ้งข้าวสุกเลยครับ ส่วนตัวผมเอง ผมไม่ได้นอนครับรวมทั้งไม่ได้กินข้าวเช้าด้วย ครูฝึกก็ให้พวกเราเดินกลับ ด้วยความเพลียของผม รวมทั้งไม่ได้กินข้าวทำให้ผมจะเกือบเป็นลม แต่ผมก็กัดฟัน เดินต่อไป ทำให้ผมเดินช้ากว่าทุกคนจนรั้งท้ายแถว พอครูฝึกท่านนั้น รู้ว่าเป็นผม ท่านก็ขับมอเตอร์ไซค์มาหาผมแล้ว ถามผมว่า "ทำไมเอ็งไม่รีบเดิน" ผมบอกท่านไปว่า "ผมจะเป็นลมครับหมู่ ผมไม่ไหวจริงๆครับ ขอผมเดินช้าๆได้ไหมครับ' ท่านก็เอาเรียวไม้ไผ่ฟาดมาที่หน้าผม รวมทั้งระดมฟาดทั่วตัว จนผมต้องรีบเดิน
แต่ด้วยความรีบทำให้ผมล้ม ตอนนั้นยอมรับครับว่าผมหายใจไม่ออกแล้ว ครูฝึกก็เดินมาเตะซ้ำเข้าที่หลังผม และเดินมาเตะต่อที่หน้าอกผม จนผมล้มอีกรอบ ตอนนั้นความรู้สึกผมคือ ผมจะตายไหม เพราะผมหายใจไม่ออก ผมเกือบสลบครับ แต่ผมพยายามฝืนให้มีสติ ครูฝึกเดินมาหาผม และเอาเท้าย้ำที่หน้าอกผม และถามว่า "เอ็งจะลุกหรือไม่ลุก ถ้าไม่ลุกเอ็งโดนกระทืบแน่) ผมไม่มีแรงแล้วครับ แต่สิ่งที่ดลบรรดาลแรงให้ผมคงเป็นเพราะคิดถึงแม่ เป็นห่วงแม่ คือใจผมคิดว่า ถ้าผมตายไปแล้วใครจะอยู่ดูแลแม่ แล้วถ้าแม่รู้ว่าผมเป็นอะไรท่านจะช็อกไหม
ด้วยความคิดนี้อ่ะครับ ทำให้ผมรวบรวมแรงลุกขึ้นมา ครูฝึกเดินปรี้เข้าหา พร้อมกับพูดมา "เอ็งก็ลุกได้นี่หว่า เอ็งสำออยทำเป็นนอนเหรอ" เค้ากำกำปั้นเตรียมมาชกผม ผมก็ยกมือไหว้พร้อมกับก้มลงกราบที่เท้าของครูฝึก ผมบอกกับเค้าว่า "หมู่ครับอย่าทำไรผมเลยนะครับ ผมกลัวตายครับ ผมเป็นห่วงแม่ถ้าผมตายไปไม่มีใครดูแลแม่ผมครับ" ซึ่งเค้าก็ไม่สนใจคำพูดผมพร้อมกับเดินมาตบที่หน้าผมหลายครั้ง จนมีครูฝึกท่านนึ่งทนไม่ไหว ท่านคงสงสารผม ท่านบอกว่า "พี่ พอเหอะมันจะตายแล้ว" ครูฝึกท่านนั้นเลยเดินมาผยุงผม พร้อมกับโทรเรียกรถมารับผม
ในที่สุดผมก็รอดมาได้ครับ พอผมได้พักผมก็ขอเดินกลับพร้อมกับเพื่อน โดยไม่ขอขึ้นีรถกลับ ทั้งๆที่มีครูฝึกจะให้ผมนั่งรถกลับ ผมกลัวว่าผมจะโดนซ้อมอีก ผมก็กัดฟันเดินจนถึงพร้อมเพื่อนๆ
ครับนี่คือเหตุการณ์ที่ผมได้รับตอนเป็นทหารเกณฑ์ ซึ่งตอนนี้ผมปลดประจำการแล้วครับ ก็ขออวยพรน้องๆที่จับใบแดงได้หรือว่าสมัคร ขอให้ได้มาอยู่ค่ายนี้เลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------
ได้ฟังอย่างนี้แล้วเครียดแทนคนที่จะเป็นทหารเกณฑ์เลยค่ะ
สมัยม.ปลาย เพื่อนชายที่เรียนรด.ก็บอกว่าเคยโดนครูฝึกกลั่นแกล้งเหมือนกัน
ป.ล. เป็น forward mail ค่ะ ไม่รู้ได้รับกันหรือเปล่า
แก้ไขเมื่อ 09 ก.พ. 52 09:34:50
จากคุณ :
ซิกโก้
- [
9 ก.พ. 52 09:34:16
]