ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของโลก ที่ปรากฏกันอยู่ในปัจจุบัน เป็นภาวะที่หนักหนาสาหัส ในระดับดลก ทำให้หลายประเทศมีการออกมาตรการการปกป้องทางการค้า ทั้งนี้เพื่อสงวนการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อสินค้าการผลิตภายในประเทศของตน เพื่อให้ประชาชนของตนเองได้มีงานทำ เป็นการบรรเทาผลกระทบ ต่อภาวะถดถอยทางระบบเศรษฐกิจ และในอีกด้านหนึ่งก็คือการเร่งการใช้จ่าย และการลงทุน ของทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
หลายท่านที่ได้สังเกตุข่าวสารที่ปรากฏอย่างต่อเนื่องนับแต่กลางปี2008 ที่ผ่านมาต่างกล่าวกันว่า ประเทศไทยของเราควรหันมาพิจารณาใช้ นโยบายเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม เพื่ออำนวยประโยชน์และปกป้องความเสียหายที่กำลังจะเกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจของประเทศเรา อาทิเช่น รัฐบาลควรมุ่งส่งเสริมกิจกรรมต่างๆเพื่อให้การซื้อสินค้าจากผลผลิตของ ผู้ผลิตในประเทศ โดยใช้มาตรการต่างๆ และการเร่งสร้างบรรยากาศเพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในประเทศ
มาเลเซียซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา มีประสบการณ์ยาวนานในการใช้นโยบายเศรษฐกิจ บทเรียนของมาเลเซียจึงน่าสนใจและมีความหมายต่อประเทศไทย บทความนี้จะรายงานแนวคิดการใช้นโยบายเศรษฐกิจ นโยบายการเกษตร และ อุตสาหกรรมแบบ ของมาเลเซีย เพื่อเป้นตัวอย่างหนึ่ง ในการพิจาณา ดังที่ปราชญ์หลายท่านกล่าวไว้ว่า ....รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง....
ตัวอย่างที่ หนึ่ง
ในเดือนมีนาคม 2552 มาเลเซียจะมีการประกาศใช้มาตรฐานการนำเข้าสินค้าเกษตรที่จะนำเข้าไปยังมาเลเซียที่มีความเข้มงวดในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านอาหาร
ตัวอย่างที่ สอง
รัฐบาลอินโดนีเซียกับรัฐบาลมาเลเซียได้ใช้มาตรการกีดกันหรือห้ามการนำเข้าน้ำตาลจากประเทศไทยจากการประมูลครั้งล่าสุด โดยรัฐบาลอินโดนีเซียใช้นโยบายที่จะลดการนำเข้าน้ำตาลทรายขาว หรือ refined sugar ไปจนกระทั่งถึงห้ามนำเข้าน้ำตาลทรายขาวจากประเทศไทย ในขณะที่รัฐบาลมาเลเซียสั่งห้ามมิให้น้ำตาลทรายดิบที่ผลิตจากประเทศไทยเข้าร่วมในการประมูลครั้งล่าสุด ด้วยการระบุไว้ในหลักเกณฑ์การประมูลอย่างชัดเจน โดยทั้ง 2 ประเทศอ้างว่าน้ำตาลทรายที่ผลิตจากประเทศไทยนั้น "คุณภาพไม่ดีพอ"
ตัวอย่างที่สาม
ข้อบังคับในอุตสาหกรรมรถยนต์ของมาเลเซียที่ มีการอนุญาตให้เจ้าของกิจการที่มีเชื้อสายมาเลย์เท่านั้น ที่สามารถดำเนินธุรกิจนำเข้ารถยนต์ได้
เป็นที่เข้าใจได้ว่า นโยบายเหล่านี้ที่ทางผู้บริหารประเทศต่างๆในโลก ได้ทยอยกันออกมาเป็นระลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งนี้ก้เพื่อปกป้อง ประชาชนของตนเองให้มีงานทำจากการผลิตภายในประเทศ ....... ซึ่งไม่เฉพาะแต่มาเลเซียเท่านั้น หากทั้งในสหรัฐอเมริกา แคนนาดา อินเดีย เวียตนาม ต่างๆเหล่านี้ ก็มีการทยอยกันออกมาตรการในแนวนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แม้นแต่สหภาพยุโรปเอง ที่เคยมีจุดยืน ในเรื่องการค้าเสรี และคัดค้านการปกป้องทางการค้ามาโดยตลอด ล่าสุดก็ยังมีท่าทีที่ลังเลต่อการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของตนเองเช่นกัน .....
ประเทศไทยของเรา ต้องจับตามองเขา ..... แล้วคงต้องหันมามองตนเองเช่นกันในระยะนี้
ที่มาของข้อมูล บางส่วนจาก : http://www.depthai.go.th
จากคุณ :
kaataii2
- [
23 ก.พ. 52 10:33:18
]