ตอนนี้น้องชายอายุสิบเจ็ด ตอนจบม.สามก็บอกว่าจะเรียนต่อวิทยาลัยเทคนิคในเมือง แต่เรียนได้ไม่ถึงเทอมก็ออกมาอยู่บ้าน บอกแต่ว่าขี้เกียจ ไม่อยากห่างบ้านเพราะไปเรียนในเมืองกลับบ้านได้อาทิตย์ละครั้ง ตอนแรกที่บ้านก็ต่อว่าและกดดันยกใหญ่แล้วก็เลิกไป เพราะคิดว่าเดี่ยวเรียนม.สี่ใหม่ที่โรงเรียนใกล้ๆบ้านก็ได้้
แต่พอใกล้เปิดเทอมเพื่อที่จะเรียนม.สี่ใหม่ กลับบอกว่าจะไม่เรียน ช่วงนั้นที่บ้านเครียดมากพยายามหว่านล้อม ประนีประนอมว่าจะให้นั่นให้นี่ก็เลยยอมไปเรียน
แต่พอเรียนไปไม่ถึงสามอาทิตย์ก็กลับมาบอกแม่อีกว่าจะไม่เรียนแล้วทั้งที่เราก็ทำตามสัญญาว่าจะให้ พอทวงถามเรื่องสัญญาก็เอาของที่เคยซื้อให้มาคืน เหตุผลคือขี้เกียจไม่ชอบเรียน
ดิฉันพยายามคุยด้วยเหตุผลดีไม่ได้คุยด้วยอารมณ์ แต่คำตอบที่ได้ทำให้ไม่เข้าใจเลย ทั้งที่น้องชายไม่ได้ขี้เกียจทำอย่างอื่นนะคะ ปกติก็จะออกไปตกปลาทอดแหบ่อยๆ แต่พอเป็นเรื่องเรียนก็ขี้เกียจแล้วก็ไม่ไปเอาดื้อๆ ถามเรื่องที่โรงเรียนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ได้ติดเหล้าหรือบุหรี่ ไม่มีแฟนเพราะพอหยุดเรียนก็อยู่บ้านตลอด โทรศัพท์มือถือก็ไม่มี(มีก็วางไว้เหมือนเป็นโทรศัพท์บ้าน)เกมส์ก็เล่นบ้างแต่ไม่ใช่เกมส์ออนไลน์เพราะที่บ้านไม่มีอินเตอร์เนตแต่เกมส์ที่เล่นก็เป็นเกมส์รุนแรงอยู่เคยแอบดู
และดิฉันก็คิดว่าน้องไม่ได้โกหกเพราะเราค่อนข้างสนิทกัน น้องชายมีเพื่อนบ้างแต่ก็แค่เพื่อนผิวเผินไม่สนิทถึงขั้นคุยกันทุกเรื่อง
น้องชายบอกว่าไม่รู้จะเรียนให้ได้อะไรขึ้นมา พอถามว่าไม่เรียนแล้วจะทำอะไร ก็บอกว่าอยู่เฉยๆ
ลำพังอนาคตน้องชายไม่ค่อยห่วงหรอกค่ะ ห่วงแต่แม่ที่อาจจะต้องดูแลมันไปตลอดชีวิต เท่าที่แม่เคี่ยวเข็นให้ไปเรียนก็ร้องไห้เหนื่อยใจไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ช่วงนี้ดิฉันเองก็เครียดจนร้องไห้บ่อย
พ่อไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่เพราะค่อนข้างหัวโบราณ ขี้บ่นอารมณ์ร้อน ไม่ยอมลงให้ใคร ดิฉันคิดว่าถ้าพ่อช่วยพูดอะไรๆอาจดีขึ้นบ้างแต่พ่อไม่ยอมทำอะไรเลยทั้งที่รู้ปัญหาทุกเรื่อง อย่างน้องชายเนี่ยถือเป็นโรคจิตไหมคะ หรือวัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นแบบนี้ ตอนนี้น้องชายก็อยู่บ้านเฉยๆค่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลย พูดท้าให้ออกไปหางานทำก็ไม่ไป จะอยู่บ้านอย่างเดียว พูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้วค่ะ
แก้คำผิดค่ะ
แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 52 11:47:15
จากคุณ :
poodinn
- [
2 มิ.ย. 52 11:45:41
]