ความคิดเห็นที่ 1 ตัวอย่างประเทศจีนครับ อ่านแล้วก็อื่มมมมมมมม http://www.oknation.net/blog/print.php?id=194690 ผมพึ่งไปเซี่ยงไฮ้ไม่กี่เดือนมานี้เอง มันช่างยิ่งใหญ่อลังการอะไรเช่นนี้ คนมากมายก่ายกอง จัดการกันอยู่หมัดได้ยังไง??? จากคุณ : CJCJ - [ 20 มิ.ย. 52 11:10:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 3 วิธีที่ได้รับการยกเว้นนั่นคือ 1.การซื้อบ้านของชาวต่างชาตินั้นต้องซื้อในนามบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย 2.ซื้อบ้านภายใต้กรรมสิทธิ์ของคนไทยโดยมีสัญญาการเช่าเป็นระยะเวลายาว(30 + 30 + 30 ปี) 3.แต่งงานกับคนไทย(หากท่านเลือกแนวทางนี้ก็ควรระมัดระวังบุคคลที่ท่านเลือกแต่งงานด้วยเช่นกัน) จากคุณ : izax.man - [ 20 มิ.ย. 52 11:45:24 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อีกอย่างครับใครพอจะยกตัวอย่างประเทศบางประเทศที่โดนถลุงโดยการเก็งกำไรของต่างชาติเพราะเปิดเสรีบ้าง เท่าที่รู้ ก็ อาเจนติน่า ล่มสลายไปเลยจริงๆ เพราะให้เสรี ไม่มีการกำหนดขอบเขต เรื่องมันยาว จากคุณ : เรื่องของเรื่อง - [ 20 มิ.ย. 52 14:41:56 A:222.123.147.196 X: TicketID:180727 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คห.สอง.. ข้อสอง...ค่ะ จากคุณ : ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง - [ 20 มิ.ย. 52 16:08:37 ]

ความคิดเห็นที่ 5 บางครั้งกฏหมายเขียนไว้ดีแล้ว พอถึงเวลา ผลประโยชน์เข้าตา กฏหมายก็ถูกเปลี่ยนได้ง่าย ๆ ครับ ดังนั้น โอกาส ที่จะถูกซื้อหมดประเทศมีมากเลยครับ ดังนั้นจึงไม่ควร เปิดเสรี จากคุณ : kim - [ 20 มิ.ย. 52 16:09:19 A:119.46.61.233 X: TicketID:110735 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนตัวดิฉันเองเห็นด้วยกับการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้มากกว่าค่ะ เพราะกำลังซื้อของคนไทยนั้นมีน้อย คิดดูว่าทาวเฮ้าส์ราคาถูกๆ หลังละล้านกว่าบาท คุณต้องมีเงินเดือนประมาณสองหมื่นบาทถึงจะกู้ผ่าน แล้วคิดดูว่าคนทำงานโดยเฉลี่ยของไทย เงินเดือนอยู่ต่ำกว่านั้นมากทีเดียว ดิฉันเองอยู่ที่ออสเตรเลีย ต่างชาติก็สามารถซื้อบ้านที่นี่ได้ ทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ที่นี่ราคาสูงขึ้นมาก สภาพคล่องก็สูงเพราะดีมานด์มาก ชนิดที่เรียกว่า ขนาดปิดป้ายขายกันไม่ถึงเดือนก็ขายออกแล้ว บางที่ hot cake ขนาดที่ปิดป้ายขายไม่กี่วันก็ปิดป้าย sold แล้วค่ะ อย่าลืมว่าอสังหาฯนั้นเป็นสิ่งที่เคลื่อนที่ไม่ได้ ไม่ว่าอีกกี่ปีกี่ชาติมันก็ยังอยู่ในประเทศของเราไม่ไปไหน แต่สิ่งที่จะได้คือกำลังซื้อจะมากขึ้น เมื่อมีกำลังซือ้มากขึ้น บ้านมือสองที่อยู่ล้นตลาดในขณะนี้ก็จะมีที่ระบาย ผู้ที่ได้รับประโยชน์ก็จะเป็นประชาชนทั่วๆ ไปที่อาจไม่สามารถส่งค่าบ้านต่อได้ จะได้ไม่กลายเป็น NPL หรือบางคนอยาก upgrade ซื้อบ้านที่ใหญ่ขึ้น ก็เป็นการกระตุ้นอสังหาฯในอีกทาง ไม่ใช่ขายออกแต่โครงการบ้านเปิดใหม่ที่ผู้ได้รับประโยชน์ก็เป็นพวกคนรวย นายทุนเพียงแค่นั้น และที่สำคัญก็เป็นการกระตุ้นราคาอสังหาฯ ด้วย เพราะตอนนี้อสังหาฯในบ้านเรายังถือว่าถูกมาก เนื่องจากอยู่ตปททำให้มีโอกาสเปรียบเทียบถึงบ้านของตัวเองในออสเตรเลีย กับบ้านญาติที่ไทยที่ซือมาในเวลาใกล้เคียงกัน(สิบปีที่แล้ว) บ้านของดิฉันตอนนี้ราคาขายนั้นเพิ่มขึ้นเท่าตัว แต่บ้านของญาติยังราคาแทบจะไม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด แต่ดิฉันเข้าใจว่าคนไทยคิดว่าการขายอสังหาฯให้ต่างชาติคือการขายชาติกลายๆ ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลน่าจะทำคือ โซนนิ่งค่ะ ว่าโซนที่เป็นที่สาธารณะ หรือที่ที่เป็นสมบัติส่วนรวมก็ไม่มีใครสามารถถือกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินได้ แต่ให้ทุกคนมีสิทธิ์ใช้ประโยชน์ร่วมกันเสีย จากคุณ : ผ่านมา - [ 20 มิ.ย. 52 17:37:24 A:115.129.14.161 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 7 คุณ คห6 ช่วยคิดให้ละเอียดกว่านี้หน่อยครับ บางธุรกิจก็เป็นของต่างชาติหมดแล้วครับ ลองไปดูแถวกระบี่ ภูเก็ต สมุย ซิครับ จากคุณ : LEKPET - [ 20 มิ.ย. 52 18:33:16 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 21 มิ.ย. 52 00:48:53 ]

ความคิดเห็นที่ 9 คคห 7 คะ ดิฉันไม่ได้พูดเรื่องการทำธุรกิจค่ะ ธุรกิจก็ส่วนธุรกิจสิคะ จขกทถามถึงเรื่องการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติ ดิฉันก็พูดถึงเรื่องการถือครองที่ดินในประเทศไทย ไม่จำเพาะเจาะจงว่าเป็นจังหวัดไหน อ้อ ในเมื่อคุณพูดเรื่องการมีธุรกิจอยู่ในกระบี่ สมุย ของชาวต่างชาติ ก็ลองดูตัวอย่างก็ได้ว่า อย่างเราๆ มีปัญญาไปซื้อที่ดินแถวๆ ที่คุณพูดถึงนั่นมั๊ยคะ แต่อย่างว่าแหละค่ะ ถึงเปิดเสรีตอนนี้ก็อาจสายไปแล้ว เพราะเศรษฐกิจโลกก็ย่ำแย่ อีกอย่างดิฉันเองก็ไม่แน่ใจแล้วว่าตอนนี้เมืองไทยยังมีเสน่ห์น่าดึงดูดสำหรับต่างชาติอยู่หรือไม่ จากคุณ : ผ่านมา - [ 21 มิ.ย. 52 06:27:06 A:115.129.0.45 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ผมยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการเลยนะเนี่ย หะๆ คำถามนะครับ??? *** แล้วรัฐบาลของต่างชาติเค้ามีมาตรการ/ข้อกฎหมายอย่างไร ที่จะรักษาผลประโยชน์ของประเทศเค้าไว้ *** จากคุณ : CJCJ - [ 21 มิ.ย. 52 10:07:32 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าปล่อยให้ต่างชาติที่อยู่ในไทยซื้อบ้านได้ สงสัยดิฉันคงได้เช่าบ้านอยู่ตลอดชาติ หรือไม่ก็ต้องไปอยู่จังวหัดใกล้เคียงแล้ว เพราะราคาขนาดนี้ถ้าซื้อได้ มันคงกวาดเรียบไปแล้ว แล้วคนไทยก็ไม่ต้องอยู่กัน ตัวอย่างดูง่ายๆที่อเมิรกา คนชาติเดียวกันแต่คนละรัฐเช่นคนแคลิฟอเนีย เพราะซื้อบ้านในรัฐตัวเองไม่ได้มันราคาสูง ก็เลยหอบเงินไปซื้อที่รัฐอื่น คนท้องถิ่นก็เก็บเงินจะซื้อบ้านหน่อย คนแคลิฟอร์เนียมาก็ซื้อๆๆๆ ราคาก็ขึ้นๆๆๆ คนท้องถิ่นก็ซื้อไม่ได้ จากคุณ : Queen_of_Rain - [ 21 มิ.ย. 52 14:46:09 ]

ความคิดเห็นที่ 12 test จากคุณ : okb - [ 21 มิ.ย. 52 15:38:31 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คคห 11 คะ ดิฉันว่าที่อเมริการาคาบ้านขึ้นคงไม่ใช่เพราะอย่างที่คุณบอกมามังคะ ปัญหาคือ การที่แบงค์ปล่อยกู้ให้กับคนกู้เกินกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่สนใจว่าผู้กู้จะมีปัญญาผ่อนหรือไม่ต่างหาก ที่ทำให้ราคาบ้านสูงเกินกว่าความเป็นจริง พอเจอวิกฤติซับฯ เข้าไป ราคาเลยตกลงเกือบจะ 50% แล้วกระมัง สำหรับจขกทนะคะ ก่อนที่จะตอบคำถาม ดิฉันอยากให้จขกทให้ข้อมูลเพิ่มอีกนิดว่า ที่จขกทบอกว่าประเทศเราจะเสียผลประโยชน์ในการเปิดเสรีนั้น เสียตรงไหน อย่างไรคะ แต่ถ้าเป็นการเสียประโยชน์โดยใช้เหตุผลของคคห 11 ล่ะก็ ดิฉันคงไม่ตอบนะคะ เพราะไม่รู้จะตอบอย่างไรให้เข้าใจค่ะ การที่เราเปิดเสรีให้คนต่างชาติเข้ามาซื้่ออสังหาฯ ได้ ก็หมายถึงเงินที่จะเข้ามาสู่ประเทศไทย และมันก็โยงใยเป็นลูกโซ่ ตามหลักการตลาดง่ายๆ ซึ่งก็จะมีกลุ่มคนหลากหลายที่จะได้รับผลประโยชน์ตรงนี้ เช่น ผู้ขาย(ซึ่งหมายถึงคนทั่วๆ ไป ไม่ใช่แต่นายทุน เจ้าของโครงการเปิดใหม่แต่ผู้เดียว) บริษัทฯ รับเหมา การจ้างงาน รวมไปถึงธนาคารด้วย เมื่อมีการซื้อขายอสังหาฯ แต่ละรายการ รัฐบาลก็สามารถมีรายได้จากการเก็บค่าภาษีและธรรมเนียม ซึ่งในต่างประเทศนั้นค่อนข้างสูงทีเดียวเมื่อเทียบกับประเทศไทย แต่อย่างที่บอกนะคะ ที่ตปท เค้าจะมีการโซนนิ่ง คือส่วนที่ให้สร้างเป็นบ้านอยู่อาศัยก็สร้างเป็นบ้านไป จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ส่วนที่เป็นโรงงานก็เป็นโรงงานอย่างเดียว จะไปสร้างบ้านในส่วนนั้นไม่ได้ และส่วนที่เป็นที่สาธารณะ ซึ่งกินบริเวณกว้างมาก ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์ไปถือครองได้เลยนอกจากเป็นสมบัติของชาติ จากคุณ : ผ่านมา - [ 21 มิ.ย. 52 16:28:12 A:115.129.6.40 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถึงคห13 ผมยังไม่ได้บอกเลยนะครับว่าเราจะเสียประโยชน์ ลองอ่านใหม่ดีๆนะครับ ผมเข้ามาขอความเห็นอย่างเดียวเลย ^^ ว่าตปทเค้าทำยังไง ขอบคุณทุกความเห็นจริงๆครับ แก้ไขเมื่อ 21 มิ.ย. 52 17:02:48 จากคุณ : CJCJ - [ 21 มิ.ย. 52 17:01:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 -คิดว่าน่าจะเป็นกฏหมาย ที่ดินมั้ง  เช่นเก็บภาษีสูงกว่าคนอื่น ขายคืนให้รัฐ เพราะอย่างว่า รายได้ประชาชนคนไทยมันน้อย ถ้าให้ประเทศรวยๆมาซื้อ มันก็ไม่เหลือแล้ว จากคุณ : keab (keab_h) - [ 21 มิ.ย. 52 23:28:10 ]

ความคิดเห็นที่ 16 อย่ามองแค่เรื่องของธุรกิจหรือการค้าครับ ปัญหาเรื่องที่ดินเป็นปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงของชาตินะครับ เด็กมัธยมก็ทราบว่าองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของ รัฐหรือประเทศ คือ ดินแดน ประชาชน รัฐบาล และอำนาจอธิปไตย ดินแดนหรือที่ดินคือจุดเริ่มต้นของรัฐหรือประเทศครับ หากไม่มีที่ดิน ประชาชนของประเทศนั้นจะไปอยู่ที่ไหนครับ หากไม่มีประชาชนก็ไม่มีทางมีรัฐบาล และไม่มีอำนาจอธิปไตยตามลำดับ หากปล่อยให้ต่างชาติซึ่งมีความได้เปรียบทางด้านเงินทุนถือครองที่ดินในประเทศไทยได้ ผมยังเคยคิดเล่นๆ ว่า มหาเศรษฐีต่างชาติแค่ไม่กี่คนก็สามารถซื้อที่ดินในประเทศไทยได้ทั้งประเทศ แล้วคิดว่าคนไทยจะไปอยู่ที่ไหนครับ ก็อยู่ได้แค่พื้นที่ที่ไม่มีความเจริญที่คนต่างชาติมันไม่อยากได้ หรือไม่ก็ต้องจ่ายค่าเช่าให้คนต่างชาติ อย่าไปเทียบกับประเทศที่มีพื้นที่มากอย่างจีน หรือประเทศที่ประชาชนไม่มีเชื้อชาติอย่างอเมริกา ออสเตรเลีย เพราะเดิมทีประเทศเหล่านี้ก็ปล้นที่ดินมาจากคนพื้นเมือง ถ้าอยากให้คำว่าคนไทยกลายเป็นประวัติศาสตร์อย่างคนอินเดียนแดงหรือชาวอะบอริจินก็ลองเปิดเสรีให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองที่ดินโดยไม่จำกัดดูละกันครับ ส่วนการถือครองที่ดินของคนต่างด้าวนั้นกฎหมายอนุญาตให้ทำได้ครับ ไม่ใช่ทำไม่ได้ เพียงแต่มีเงื่อนไขที่ค่อนข้างยาก โปรดดูประมวลกฎหมายที่ดินเอาเองละกันครับ ที่ www.krisdika.go.th จากคุณ : vice (vice) - [ 21 มิ.ย. 52 23:54:40 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ไปศึกษาของประเทศออสเตรเลียดีกว่าครับ ใกล้เมืองไทยดี เค้าสนับสนุนให้ซื้อเป็นกรรมสิทธิ์ไปเลย แถม ถ้ามีเงินหมุนต่อเนื่องจะยกสัญชาติให้อีกต่างหาก ผมยังคิดอยู่ว่า ถ้ามีเงิน ผมไม่ซื้อหรอกบ้านในเมืองไทย  ไปลงทุนต่างประเทศดีกว่า ค่าเช่ามันแรงดี จากคุณ : CitizenShip - [ 22 มิ.ย. 52 01:25:36 ]

ความคิดเห็นที่ 18 คุณจขกทคะ ทำไมอะเดรนาลีนพุ่งง่ายจัง ดิฉันแค่ถามโดยนำคคหของคุณจาก #10 น่ะค่ะ เพราะคุณถามว่ารัฐฯจะทำการรักษาประโยชน์ไว้ได้อย่างไร ตรงนี้ดิฉันไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงอะไร ถ้าคุณว่าไม่ได้พูดว่ามีการเสียผลประโยชน์ และทำไมรัฐต้องรักษาผลประโยชน์ล่ะคะ ดิฉันเริ่มงง ก็เลยอยากให้อธิบายเพิ่มเติมเพียงเท่านั้น ดิฉันว่าคุณยังอายุน้อยนะคะ ผู้ชายไทยส่วนใหญ่นั้นเก่งเหลือหลาย แต่ศักยภาพดังกล่าวถูกลดทอนลงด้วยค่านิยม อคติ และการไม่ยอมรับคคหที่แตกต่างว่ามันจะนำไปสู่การพัฒนาหรือไม่ น่าเสียดายออกค่ะ คุณ vice คะ จริงหรือคะที่ว่าเด็กมัธยมถูกสอนมาเช่นนั้น ถ้างั้นจขกทคงไม่ต้องตั้งกระทู้เพื่อมาหาคำตอบ สำหรับการเปิดเสรีในนี้แล้วล่ะค่ะ ก็ถูกวางโปรแกรมมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่คะ ในอดีตไม่ว่าที่ไหนๆ ประเทศก็ได้มาจากการช่วงชิง และปล้นคนอื่นเค้ามากันทั้งนั้นล่ะค่ะ จะต่างอะไร แต่ถ้าเราจะมัวมองอดีตเพื่อสนองความเคียดแค้น ชิงชัง อคติ เพียงอย่างเดียว มันจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะคะ ทำไมเราไม่มองในปัจจุบันว่าการพัฒนา ความเจริญ และสำนึกของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเห็นประเทศชาติในทางที่ดีขึ้น เค้าได้ทำอะไรกับคนพื้นเมืองบ้าง เมื่อเราพร้อมจะรับด้านเลวร้ายของคนอื่น ก็ต้องเปิดใจรับด้านที่ดีของเค้าด้วย ด้วยใจที่เป็นธรรมค่ะ ดิฉันอยู่ออสเตรเลียมานาน เห็นถึงสิ่งที่เค้าพยายามแก้ผิดให้เป็นถูกเพื่อความเป็นธรรมอย่างที่สุดกับชาวอะบอริจินี่ หน่วยงานมากมายตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือ ยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของชาวอะบอริจินี่ ไฮแลนเดอร์ และชาวพื้นเมืองกลุ่มอื่น เพราะมีคำกล่าวว่า พวกเค้าเป็นออสเตรเลียนยิ่งกว่าฝรั่งออสซี่เสียอีก อย่าให้อคติมาบดบังทำให้ตาของเราเห็นภาพที่ไม่ชัดเจน ภาพที่เต็มไปด้วยอคติอีกเลยค่ะ คุณ CitizenShip ดิฉันสนับสนุนค่ะ ถ้าสนใจรายละเอียดที่ดิฉันพอจะช่วยได้ก็ถามได้เลยค่ะ ยินดีให้คำแนะนำเท่าที่ความรู้อันน้อยนิดของดิฉันพอจะช่วยได้ จากคุณ : ผ่านมา - [ 22 มิ.ย. 52 07:44:54 A:115.129.0.68 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 19 โอ่ววว ต้องขอประธานโทษ คุณผ่านมาด้วยนะครับ คือคุณลองสังเกตนะครับคนส่วนใหญ่ตอบไม่ตรงคำถาม แล้วก็อคติกับหัวข้อนี้มาก แล้วผมก็ไม่ค่อยได้ใช้การสื่อสารยาวๆผ่านกระทู้ จึงทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ผมเลยตีความของคุณผิดไปจริงๆ แล้วผมว่า คห14 ผมก็ดูลงน้ำหนักคำพูดเบาแล้วนะครับ ยังโดนว่าอะเดรนาลีนพุ่งง่ายอีกนะ -_-" ส่วนที่ว่าจะเสียประโยชน์ก็คือ ป้องกันการกว้านซื้อเก็งกำไรของนายทุน, ราคาที่ขึ้นเพราะชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อมากกว่า จริงๆผมค่อนข้างอยากให้มีการเปิดเสรีแต่ก็ต้องวงเล็บว่าเมื่อรัฐบาลและราชการของประเทศไทยจะแข็งแรงพอที่จะไม่โดนแทรกแทรง ไม่ใช่อะไรก็ไม่ ไม่ ไม่ ลูกเดียว การเปลี่ยนแปลงที่ดียอมสร้างความเจริญก้าวหน้า แต่ก็ไม่อยากออกตัวมากครับ ไม่อยากให้เป็นกระทู้ล่อเป้า เพราะพอคนเข้ามาตอบด้วยอารมณ์ เหตผลย่อมไม่เกิดครับ ดิฉันว่าคุณยังอายุน้อยนะคะ(ใช่ครับปีหนึ่งแต่ช้ากว่าคนอื่นสองปี) ผู้ชายไทยส่วนใหญ่นั้นเก่งเหลือหลาย แต่ศักยภาพดังกล่าวถูกลดทอนลงด้วยค่านิยม อคติ และการไม่ยอมรับคคหที่แตกต่างว่ามันจะนำไปสู่การพัฒนาหรือไม่ น่าเสียดายออกค่ะ(ขยายความนิดนึงได้ไม๊ครับ ผมไม่เข้าใจครับ) ขอบคุณทุกๆความเห็นนะครับ แนะนำอ่าน คห10 ก่อนตอบนะครับ จากคุณ : CJCJ - [ 22 มิ.ย. 52 20:33:37 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะคุณ CJCJ ที่เข้ามาชี้แจงให้ดิฉันเข้าใจ กลับมาที่ประเด็นของคุณนะคะ นั่นคือการเปิดเสรี เราก็ต้องมาชั่งน้ำหนักระหว่างผลประโยชน์ที่เราจะได้ กับที่เราจะเสีย หรือที่เรียกง่ายว่า Pro vs Con นะคะ ในที่นี้สิ่งที่เราจะได้ ดิฉันได้ชี้แจงไว้แล้วด้านบน คือทำให้เกิดการกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ส่วนการเสียประโยชน์อย่างที่คุณ ชี้แจงไว้ จริงๆ แล้วส่วนตัวดิฉันไม่ถือว่าเป็นการเสียประโยชน์นะคะ เพราะเมื่อเกิดการพัฒนาที่ดินเพื่อเก็งกำไร ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวจะได้ประโยชน์เต็มๆ ค่ะ เมื่อประชาชนได้กำไรจากการเก็งกำไรในอสังหาฯ ของตน ก็มีเงินที่จะไปลงทุนในอสังหาฯ ตัวอื่นๆ ในประเทศต่อไป ดังที่เกิดในประเทศที่เปิดเสรีทั่วไป ดิฉันจึงมองไม่เห็นว่า ทำไมเราจึงกลัวการเก็งกำไรของชาวต่างชาติ เพราะนั่นคือสิ่งหนึ่งที่เราต้องการให้เกิดเมื่อมีการเปิดเสรี และดิฉันกลับคิดว่าจะเป็นการดีเสียอีกที่มีนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาเก็งกำไร และแข่งขันกันในตลาดอสังหาฯ ทำให้เหมือนกับสร้างกลไก check & balance โดยธรรมชาติ เพราะเมื่อเปิดเสรี กระบวนการต่างๆ ก็ต้องเปิดเผยมากยิ่งขึ้น ทำให้การกินใต้โต๊ะ หรือปัญหาต่างๆ ในวงราชการก็อาจลดลง เมื่อมีจำนวนผู้ลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามา ทำให้ประชาชนมีทางเลือกมากขึ้น ไม่ต้องอยู่ในภาวะจำยอมต้องขายที่ดินในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดอีกต่อไป รัฐฯ ก็จะได้รายได้จากการจัดเก็บค่าภาษี ธรรมเนียม ในการซื้อขาย ซึ่งดิฉันอยากเรียนว่ารัฐฯ ออสเตรเลียได้รายได้จากการจัดเก็บค่าอากรจากการซื้อขายที่ดินสูงทีเดียว แต่อย่างที่บอกว่า ถ้าเรากลัวว่าประเทศจะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป เพราะเจ้าของเป็นต่างชาติหมด แม้จะไม่ค่อยเข้าใจเหตุและผลของความคิดดังกล่าวนัก แต่ดิฉันคิดว่าการโซนนิ่งก็เป็นการป้องกันที่รัฐฯ สามารถนำมาใช้ในกรณีดังกล่าวได้ ส่งท้ายสำหรับคำถามในประโยคสุดท้ายนะคะ ที่ดิฉันว่าคุณอายุยังน้อย ดิฉันจึงไม่อยากเห็นคุณเติบโตขึ้นเป็นอีกคนหนึ่งที่มองโลก โดยใช้หลักการและเหตุผลที่วางอยู่บนอคติ วิสัยทัศน์ที่ไม่กว้าง และค่านิยมที่จัดเอาคนที่เห็นต่างเป็นศัตรูที่ต้องประนาม เหยียดหยาม ด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟัง แต่ดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้อ่านคคหของคุณใน #19 ค่ะ เพราะดิฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนมีความสามารถคนหนึ่งทีเดียว จากคุณ : ผ่านมา - [ 23 มิ.ย. 52 14:03:40 A:115.129.14.138 X: TicketID:166806 ]

ความคิดเห็นที่ 21 "ดิฉันจึงไม่อยากเห็นคุณเติบโตขึ้นเป็นอีกคนหนึ่งที่ มองโลก โดยใช้หลักการและเหตุผลที่วางอยู่บนอคติ วิสัยทัศน์ที่ไม่กว้าง และค่านิยมที่จัดเอาคนที่เห็นต่างเป็นศัตรูที่ต้องประนาม เหยียดหยาม ด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟัง" เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ และคิดว่าเมื่อเลยผ่านช่วงที่เราๆเข้าใจว่ายังเป็นเด็ก คือ ยังเป็นนักเรียนนักศึกษา ผมว่าช่วงนี้ยังพอเปลี่ยนทัศนะได้บ้าง แต่พอทำงานหากินได้พึ่งตังเองได้ ไอตัวอัตตามันจะยิ่งโตโต๊โต เมื่อนั้นคงชี้แนะอะไรไม่ได้แล้วหละ จากคุณ : CJCJ - [ 23 มิ.ย. 52 21:14:37 ]

ความคิดเห็นที่ 22 คอมฯ ผมพังเลยเข้ามาแสดงความเห็นช้านะครับ "คุณ vice คะ จริงหรือคะที่ว่าเด็กมัธยมถูกสอนมาเช่นนั้น ถ้างั้นจขกทคงไม่ต้องตั้งกระทู้เพื่อมาหาคำตอบ สำหรับการเปิดเสรีในนี้แล้วล่ะค่ะ ก็ถูกวางโปรแกรมมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่คะ" สมัยผมสอบเอนท์ วิชาสามัญ ๑ ตอนปี ๒๕๔๑ ผมก็ท่องอยู่นะครับว่า องค์ประกอบของรัฐ คือ ด ป ร อ ส่วนจขกท. เขาจะเคยท่องหรือไม่ หรือเคยท่องแล้วลืม ผมไม่อาจทราบได้ แต่ผมยังเชื่อในหลักการดังกล่าว ผมเรียนจนจบปริญญาโทมาสาขาหนึ่ง ผมก็ยังเชื่อว่าที่ดินเป็นเรื่องของความมั่นคง มิใช่ทรัพย์สินที่ใครใคร่ขายก็ขาย ใครใคร่ซื้อก็ซื้อ แต่ผมเข้าใจว่าสาขาอื่นเขาอาจมองว่าที่ดินก็เป็นแค่ทรัพย์สินประเภทหนึ่ง ถ้าชาวต่างชาติอยากได้ ก็ขายเอาเงินดีกว่า ก็แล้วแต่ความเห็นครับ ผมพอเข้าใจเหตุผลของฝ่ายนั้นอยู่บ้าง ผมคงไม่บอกว่าสิ่งที่คุณเรียนมานั้นผิด แล้วของผมถูก และผมคงไม่บอกว่าถ้าสมัยมัธยมคุณถูกป้อนความคิด หรือ ถูกโปรแกรมมาแล้ว พอโตขึ้นได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ แล้วคุณจะเห็นต่างไม่ได้ เคยสงสัยไหมครับว่าคำว่าเปิดเสรีนี้มีที่มาจากชนชาติใด เพื่อประโยชน์ของใคร ชาวต่างชาติเรียกร้องให้เราเปิดเสรีทั้งด้านการค้าและบริการหลายอย่างที่เขาต้องการ แต่พอประเทศกำลังพัฒนาขอเปิดเสรีสินค้าเกษตร ประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายกลับบอกไม่เอา แล้วอ้างเรื่องความมั่นคงขึ้นมา คุณลองไปถามประเทศพัฒนาแล้วดูสิครับว่าทำไม ผมเข้าใจว่ามีคนอยากให้เปิดเสรีเรื่องที่ดิน แต่ผมก็แค่อธิบายว่าเหตุที่กฎหมายเราต้องกำหนดห้ามไว้นั้น เพราะเหตุใด ถ้าไม่อยากรับฟัง ผมก็ไม่ว่าครับ จากคุณ : vice (vice) - [ 25 มิ.ย. 52 20:37:39 ]