|
ความคิดเห็นที่ 2 |
|
ก็ต่อรองกันไปมา ทั้งวันน่ะค่ะ ดิฉันไปโรงพักตั้งแต่บ่ายโมง จนเกือบ 5 โมงเย็น ตำรวจก็เชิญไปอีกห้องเป็นห้องสืบสวนก็จะมีพนักงานสืบสวนถามทั้งสองฝ่าย ก็ตกลงกันไม่ได้ เพราะสุดท้ายเขาก็ขอที่ 15,000 บาท แต่ดิฉันก็ยังยืนยันว่าไม่มีให้เขา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่2พันบาท ตำรวจที่แสนดีว่าอย่างไรรู้ไหมคะ เค้าบอกว่า ดิฉันก็ทำมาค้าขาย เงินแค่ 15,000 ก็ไม่น่าจะมีปัญหาหรอก ตำรวจบอกว่าตัวเองเป็นกลางนะ เตือนดิฉัน(หรือขู่ก็ไม่ทราบ)ว่า ถ้าขึ้นศาลคุณก็ต้องเสียเงินอยู่ดี ค่าวางศาล ค่าอะไรจิปาถะ ไม่แน่อาจต้องเสียเป็นแสน เพราะทำผิดจริง และศาลไม่พิจารณาหรอกว่าของมูลค่าสินค้าพันกว่าบาท ทำผิดก็คือทำผิด มีการเอาข้อกฎหมายมาเปิดให้ดูด้วยนะคะว่า การกำหนดโทษปรับ 50,000-200,000 บาท หรือจำคุก ดิฉันเห็นก็ใจฝ่อสิคะ ตอนนั้นมืดแปดด้าน จะถามใครดีหนอ เพราะญาติๆที่ปรึกษาแต่ละคนก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับกฎหมาย ก็บอกกันไปคนละทาง บ้างก็ว่าให้ยอมจ่าย บ้างก็ว่าให้เรื่องขึ้นศาล จนสุดท้ายนึกได้ว่ามีลูกค้าคนหนึ่งของร้านดิฉันเป็นทนายค่ะ ก็เลยขอคำปรึกษาจากเขา คุณทนายบอกว่า พวกนี้เป็นพวกกรรโชกทรัพย์ ให้เรื่องขึ้นศาลไปเลย ดิฉันก็เลยทำตามค่ะ
พวกนั้นพอได้ยินว่าดิฉันยอมให้ฟ้องแต่ไม่ยอมจ่ายให้เขา ก็พยายามข่มขู่ว่าขึ้นศาลจะเสียมากกว่านี้ เสียเวลา และที่ตลกคือ เขายอมลดให้เหลือ 10,000 บาท ทางตำรวจผู้สุดแสนจะเป็นกลาง ก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นให้ดิฉันหาเงินมาประกันตัวได้เลย 300,000 บาท(ซึ่งมารู้ทีหลังว่า กรณีนี้อย่างมากก็ไม่เกิน1แสนบาท) ดิฉันก็ตกใจใหญ่ว่า “ตำรวจคะ หมื่นเดียว ยังไม่มี จะเอาที่ไหนมา3แสน” ตอนนั้นดิฉันนึกถึงคุณน้าซึ่งเป็นครู ก็เลยขอท่านใช้ตำแหน่งมาช่วยประกันตัว ก็ต้องทำเรื่องอีกยาว สรุปวันนั้นกว่าจะได้กลับบ้านก็เกือบ 3 ทุ่ม พร้อมกับความเครียดอีกกระบุงโกย
จากคุณ |
:
aeroway
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.ย. 52 10:50:21
A:112.142.116.54 X:
|
|
|
|
|