PANTIP.COM : U8361357 ผมถูกจับความผิด ฐานปลอมเอกสาร [กฎหมาย]

ความคิดเห็นที่ 10

อ่านจาก คห 5 (จขกท) เชื่อ คห 4 แล้วนะครับ ว่าผิดฐานปลอมเอกสาร
องค์ประกอบของความผิดฐานปลอมเอกสาร ตามมาตรา 264
1. ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ (ของ จขกท ทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ เอาแบบง่าย ๆ การปลอมก็คือ จขกท เซ็นชื่อ ให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นคนอื่นเซ็น กรณีนี้ จขกท ลงชื่อให้คนอื่นเข้าใจว่า นายจ้างเซ้น อันนี้เข้าองค์ประกอบที่ 1 แน่นอน
2. โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน แน่นอน กรณี จขกท นายจ้างได้รับความเสียหายแน่นอน เพราะปลอมลายมือชื่อนายจ้าง (แม้ออกหนังสือรับรองตรงความจริง แต่นายจ้างก็เสียหายแล้ว เพราะเอาลายมือชื่อของเค้ามาใช้โดยไม่มีสิทธิ์)
3. กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง กรณีของ จขกท ก็ทำให้ธนาคารที่คุณไปยื่นขออะไรก็ไม่รู้ หลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่นายจ้างคุณออกให้จริง
เมื่อการกระทำของ จขกท เข้าองค์ประกอบของมาตรา 264 ทั้ง 3 ข้อดังกล่าวแล้ว การกระทำของ จขกท จึงเป็นความผิดตามมาตรา 264
เมื่อเจ้าของกระทู้ นำเอกสารไปยื่นต่อธนาคาร จึงเป็นการกระทำผิดฐานใช้เอกสารปลอม ตามมาตรา 268
เมื่อผู้ทำเอกสารปลอม เป็นผู้ใช้เอกสารปลอมเอง จึงต้องรับโทษ ตามมาตรา 268 มาตราเดียว
ที่ต้องบัญญัติไว้ว่าต้องรับโทษตามมาตรา 268 มาตราเดียว ไม่งั้นต้องรับโทษทั้ง 2 กระทง เพราะเป็นความผิดคนละกรรม

ยกฎีกาใกล้เคียงมาให้ดูนะครับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2518

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้วางระเบียบไว้ว่าใบสุทธิและใบรับรองให้ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผู้อำนวยการหรือผู้รักษาการแทนเท่านั้น เป็นผู้ลงชื่อสกุลพร้อมด้วยตำแหน่งจำเลยเช่ากิจการโรงเรียนราษฎร์ที่อยู่ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการจาก ส. ซึ่งได้รับอนุญาตให้เปิดทำการสอนนักเรียนได้ ระหว่างที่จำเลยเช่านั้นตำแหน่งครูใหญ่ว่างอยู่ ส. จึงยื่นเรื่องราวขอบรรจุจำเลยเป็นผู้จัดการและครูใหญ่แต่ก่อนที่ทางการจะสั่ง ส. ได้ไปขอถอนเรื่องคืนระหว่างที่ ส. ยื่นเรื่องราวไว้นั้นจำเลยได้ลงชื่อในใบสุทธิให้แก่นักเรียนไปโดยบางฉบับระบุว่าเป็นครูใหญ่ บางฉบับว่าอาจารย์ใหญ่ ดังนี้ เป็นการปลอมตนว่าเป็นผู้มีอำนาจลงนามในเอกสารนั้น เอกสารนี้จึงไม่ใช่เอกสารที่แท้จริง เพราะไม่ได้ลงนามผู้ที่มีอำนาจจะออกใบสุทธิได้ แม้ข้อความในใบสุทธินั้นเป็นความจริง ก็มิใช่ว่าเอกสารปลอมจะมีข้อความตรงกับความจริงมิได้สารสำคัญอยู่ที่ว่าจำเลยมีอำนาจลงนามในเอกสารนั้นได้หรือไม่การกระทำของจำเลยจึงเป็นการปลอมเอกสารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264 วรรคแรก

ที่เอามาแจ้งแถลงไขให้ทราบ เพราะเดี๋ยวคนอ่านเข้าใจว่าการกระทำของ จขกท ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร จะไปทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว โดยทำหนังสือรับรองกันเอง ติดคุกไม่รู้ตัวกันใหญ่

ส่วนตาม หน 8
เค้าไม่เรียกว่าเอกสารปลอม เค้าเรียกว่าเอกสารเท็จ
คือถ้าคนที่มีอำนาจลงชื่อ กรณี คห 8 นายจ้างลงชื่อนายจ้าง ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าคนอื่นเป็นคนลงลายมือชื่อ เอกสารนั้นจึงไม่เป็นเอกสารปลอม แม้ข้อความจะไม่เป็นความจริง แต่คนลงลายมือชื่อเป็นของจริง เอกสารนั้นจึงไม่เป็นเอกสารปลอม แต่เรียกว่าเอกสารเท็จ อันนี้ไม่ผิดกฎหมาย ฐานทำเอกสารปลอมตามมาตรา 264 แต่จะไปผิดฐานฉ้อโกงหรือเปล่า ก็รอธนาคารฟ้องเอา
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง
แล้วดูซิครับ ตาม คห 8 ถ้าไปหลองทำบัตรเครดิต อาจเจอข้อหาฉ้อโกงได้นะครับ ติดคุกไม่สนุกหรอกครับ

จากคุณ : วี ครับ

เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 52 01:19:13 A:110.164.116.139 X: TicketID:171104