|
ความคิดเห็นที่ 7 |
เอ เห็นว่าจะไปต่อรองลดค่าปรับ...เลยเพิ่งมาอ่านตรงโทษปรับอีกครั้ง เรามีความเห็นแง่กฎหมายว่างี้นะ ๑. โทษปรับต่ำสุดตามกฎหมายที่วางไว้คือ ๒๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่ได้แปลว่า ตามบัญชีโทษศาล จะวางไว้ที่โทษขั้นต่ำนา อาจจะสูงกว่านั้น เพราะกฎหมายกำหนดวงเงินไว้ที่ ๒๐๐,๐๐๐-๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท เลยนะเีนี่ย
สมมุติความผิดลักทรัพย์ในเวลากลางคืน กฎหมายมาตรา ๓๓๕ บัญญัติไว้ว่า จำคุก ๑ ปี ถึง ๕ ปี นี่เป็นแค่ช่วงกำหนดโทษที่บอกไว้ให้ศาลลงได้เท่านั้น แต่ไม่ได้แปลว่าพอขึ้นศาลแล้วจำเลยรับสารภาพ ศาลจะกำหนดโทษ ๑ ปีแล้วลดกึ่งเหลือ ๖ เดือน นะ แต่จะมีแนวปฏิบัติของศาลว่าพฤติการณ์แบบไหนๆ ราคาทรัพย์เท่าไหร่ จะวางโทษเท่าไหร่ จะมีช่วงขยับๆไปเรื่อยตั้งแต่ ๑ ปี ถึง ๕ ปี แล้วแต่ความร้ายแรงของพฤติการณ์
ถามเพื่อนแล้วเพื่อนบอกว่า พรบ. ภาพยนต์และวีดีทัศน์ กรณีขายโดยไม่มีใบอนุญาตน่าจะดูจำนวนแผ่นด้วยว่ายึดของที่ขายโดยไ่ม่มีใบอนุญาตมาได้จำนวนเท่าไหร่ ถ้าจำนวนมัันมากๆ โทษก็น่าจะมากตามไปด้วย ดังนั้นการวางกำหนดโทษตามมาตรฐานของศาลมันไม่ได้จำกัดไว้ว่าขั้นต่ำ ๒๐๐,๐๐๐ บาท หรอก ต้องดูพฤติการณ์อื่นๆประกอบด้วย เช่นยึดแผ่นได้มากอะไรแบบนี้ โทษก็น่าจะขยับตาม (ถามเพื่อนมานะ เพราะเราไม่รู้ว่าการขยับช่วงการกำหนดโทษ ระหว่าง 200,000-1,000,000 ของมาตรา 38 นี่ศาลท่านดูจากอะไรบ้าง จะเป็นเรื่องจำนวนแผ่นที่ยึดได้อย่างที่เพื่อนเราว่ารึเปล่าไมรู้)
๒. กำหนดโทษขั้นต่ำ แปลว่านั่นคือขั้นต่ำแล้ว ศาลไม่มีอำนาจวางโทษลงต่ำกว่าขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้ เว้นแต่กฎหมายให้อำนาจไว้
ตัวอย่างเช่น พรบ. ยาเสพติด มาตรา 100/2 ถ้าจำเลยให้้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ทำให้เจ้าหน้าที่ขยายผลไปจับกุมผู้ค้ายารายอื่นได้ แบบนี้กฎหมายกำหนดไว้ว่า ศาลมีอำนาจใช้"ดุลพินิจลงโทษต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด"เท่าใดก็ได้ --> ซึ่งถ้าใน พรบ.ภาพยนต์และวิดีทัศน์ ไม่ได้มีมาตราไหนเขียนข้อความไว้ในลักษณะนี้ตามตัวอย่าง แปลว่าขั้นต่ำที่ศาลลงได้คือแค่ 200,000 เท่านั้น ต่ำกว่านั้นไม่ได้เลย ขัดต่อกฎหมาย เมื่อสารภาพก็ลดกึ่งเหลือ 100,000 บาท
แต่สมมุติถ้าตามแนวปฏิบัติของศาล ในกรณีความผิดแบบนีี้ศาลกำหนดโทษไว้ 400,000 บาท ถ้ามีเหตุขอความเห็นใจ ศาลอาจใช้ดุลพินิจลงต่ำกว่านั้นได้ แต่ต้องไม่ต่ำกว่า 200,000 บาทอยู่ดี (อันนี้คือความเห็นตามแนวกฎหมายนะ)
ปล. จากที่ดูพรบ. น่าจะเป็นความผิดต่อรัฐ ไม่น่าไปไกล่เกลี่ยกับใครได้ (ไกล่เกลี่ยใช้ต่อเมื่อคู่กรณีเป็นเอกชน ไปไกล่เกลี่ยว่าจะชดใช้ค่าเสียหายได้ หรือขอให้เอกชนคู่กรณีไม่เอาเรื่องเอาราวอะไรแบบนี้เป็นต้น) ฉะนั้นไกล่เกลี่ยกับศาลคงไม่ได้มั้ง น่าเป็นลักษณะแถลงการณ์ขอความเห็นใจ
แก้ไขเมื่อ 11 ต.ค. 52 11:28:56
จากคุณ |
:
Volksrecht
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 52 11:28:13
|
|
|
|
|