ความคิดเห็นที่ 1 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5806/2539 โจทก์ฟ้องขอใช้สิทธิเรียกร้องแทนบริษัท บ. โดยอ้างว่าก่อนที่จำเลยจะพ้นจากการเป็นกรรมการบริษัทบ. จำเลยเบียดบังทรัพย์สินของบริษัท บ.ไปโดยทุจริตบริหารงานหรือจัดการทรัพย์สิน ของบริษัท บ. ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทบ.ซึ่งเท่ากับกล่าวอ้างว่าจำเลยละเมิดต่อ บริษัท บ. บริษัท บ.ชอบจะฟ้องร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยได้ โจทก์เป็นเจ้าหนี้ของบริษัท บ.ชอบจะใช้สิทธิตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1169ฟ้อง เรียกร้องบังคับเอาจากจำเลยแทนบริษัท บ.เท่าที่โจทก์มีสิทธิเรียกร้องแก่ บริษัท บ.อยู่การเรียกร้องดังกล่าวเป็นการเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนจาก จำเลยที่กระทำละเมิดต่อบริษัทบ.มีอายุความตามมาตรา448เมื่อการกระทำละเมิด เกิดขณะจำเลยเป็นกรรมการบริษัทบ.อยู่คือก่อนวันที่17กันยายน2525ซึ่งเป็นวัน ที่จำเลยลาออกจากบริษัทบ. โจทก์ยื่นฟ้องวันที่23กันยายน2535พ้นกำหนดสิบปีนับแต่วันที่จำเลยได้กระทำ ละเมิดแล้วคดีของโจทก์จึงขาดอายุความ จะเห็นว่าตาม ป.พ.พ. มาตรา 1169 กำหนดว่า กรณีที่กรรมการก่อความเสียหายแก่บริษัทให้บริษัทเรียกค่าเสียหายจากกรรการนั้นได้ และถ้าหากบริษทไม่ยอมฟ้องร้อง ผู้ถือหุ้นสามารถดำเนินการฟ้องร้องแทนบริษัทได้ครับ แม้ว่ากรรมการผู้นั้นจะพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จากคุณ : BarristerZ เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 10:21:37

ความคิดเห็นที่ 2   โดยหลัก กรณี กรรมการทำความเสียหายให้กับบริษัท เจ้าหนี้ของบริษัทมีสิทธิฟ้องกรรมการได้โดยตรง โดยไม่ต้องเรียกร้องให้บริษัทฟ้องร้องก่อน มาตรา 1169 วรรคสอง ซึ่งเป็นไปตามฎีกา ตามความเห็นหนึ่ง ส่วนกรณีผู้ถือหุ้นจะฟ้องกรรมการโดยตรง ทำไม่ได้ ต้องเรียกร้องให้บริษัททำการฟ้องร้อง และเมื่อบริษัทไม่ฟ้อง ผู้ถือหุ้นจึงจะเกิดสิทธิในการที่จะฟ้องกรรมการ มาตรา 1169 วรรคหนึ่ง(แนวฏีกามีมาก) แม้กรรมการจะออกจากบริษัทไปแล้วก็ตาม ไม่มีกฏหมายห้ามไม่ให้บริษัทฟ้องกรรมการผู้นั้น เหตุความเกี่ยวพันระหว่าง กรรมการและบริษัท บังคับกฏหมายตัวแทน ซึ่งไม่ได้บัญญิติห้ามไว้ จากคุณ : จุดเดียว เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 52 11:50:55 A:118.172.106.208 X: TicketID:199985