ความคิดเห็นที่ 1 จะเป็นอย่างนี้ไหมครับ สัญญาให้จ่ายทุกวันที่ 1 ของเดือน แต่คุณไปจ่ายทุกวันที่ 12 ของเดือน อย่างนี้ไหมครับ ถ้าเป็นอย่างนี้ คุณจ่ายช้าไป 12 วัน เฉพาะเดือนแรกเท่านั้นครับ  เดือนต่อไปรอบเงินของคุณไม่ได้ขาดตอนเลย จะไปชนกันในทุกวันที่ 12 ของเดือน ถ้าเขาจะคิดดอกเบี้ยล่าช้า ก็คิดได้เพียง 12 วันครับ ปล. ไม่ปกติครับ จ่ายตามสัญญาถึงจะถูกครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 19:37:34

ความคิดเห็นที่ 2   แยกเป็นกรณีดังนี้ 1....ในสัญญามีการบอกว่า จ่ายทุกวันที่ 1 ...  จึงถือเป็นหนี้ที่ต้องชำระเป็นงวด และมีกำหนดชำระในวันที่ 1ของทุกเดือน  เมื่อไม่ชำระตามกำหนด จึงเป็นผู้ผิดนัดแล้ว             ต่อมาคุณชำระวันที่ 12 จึงถือว่าผิดนัดตามสัญญาไป 11 วัน สำหรับงวดนั้น ซึ่งเมื่อผิดนัดก็ต้องเสียค่าปรับ ค่าติดตาม รวมตลอดถึงค่าอะไรต่างๆตามที่ปรากฏในสัญญา  งวดที่2 ก็เช่นกัน เมื่อถึงวันที่ 1 คุณม่ชำระ  แต่ไปชำระวันที่ 12 จึงถือว่าผิดนัดในงวดที่ 2 อีกเช่นกัน  งวดต่อๆมาอีกก็เป็นเช่นเดียวกัน  กล่าวคือ ต้องเสียค่าปรับ ค่าติดตาม ฯลฯ อีกทุกเดือน 2....แต่ได้มีการตกลงกับตัวแทนขายทางเค้าบอกว่า เรทได้ ไม่เกิน 15 วัน...  กรณีนี้ไม่ว่า ตัวแทนขายมีอำนาจขยายเวลาส่งงวดให้คุณหรือไม่  หรือในทางปฏิบัติเจ้าของ/ผู้จัดการร้าน ได้รับรู้ถึงการขยายเวลาส่งงวดนั้นแล้วหรือไม่ แต่การที่ทางร้านได้ยอมรับเอาการชำระหนี้ในวันที่ 12 โดยไม่อิดเอื้อนหรือไม่ว่าอะไร  จึงถือได้ว่าไม่ถือเอาเวลาวันที่ 1 เป็นสาระสำคัญสำหรับพิจารณาว่าผิดนัดหรือไม่   โดยถือเอาวันที่ 12 ตามที่ตัวแทนขายได้ตกลงไว้      การทำการของตัวแทนขาย ตลอดจนพฤติการณ์การรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้  จึงถือได้ว่า ผูกพันตัวการ คือไฟแนนซ์  ดังนั้นจากวันทีส่งงวดแรกจนถึงวันที่มีจดหมายมาทวง คุณยังไม่เป็นผู้ผิดนัด    เมื่อเปลี่ยนผู้จัดการใหม่ และมีจดหมายมาทวง  จึงถือว่า ไฟแนนซ์ได้เปลี่ยนเจตนามายึดถือเอาวันที่ 1 เป็นสาระสำคัญสำหรับพิจารณาว่าผิดนัดแล้ว   หากปรากฏว่าหลังจากมีจดหมายแจ้งมา คุณยังคงชำระวันที่ 12 อีก คุณต้องรับผิดตามข้อ 1 3.....และในกรณีก่อนหน้านี้ได้มีการตกลงก่อนซื้อว่าจะส่งต่องวด กันในราคานึง แต่หลังจากการซื้อได้เพิ่มค่าส่งมางวดละ 50บาท<เกินกว่าในสัญญา + ไปอีก 50บาท> ... สำหรับ เงิน 50 บาท ที่ชำระเกินมานั้น ถือว่าเป็นการชำระงวดถัดไปล่วงหน้า  ซึ่งไฟแนนซ์ต้องนำไปหักจากยอดที่ต้องชำระของงวดต่อไปลง 50 บาทเช่นกัน  เจ้าหนี้/ตัวแทน/ไฟแนนซ์จะถือเอาส่วนที่เกินมานี้ เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆไม่ได้เลย อย่าลืมเก็บใบเสร็จรับเงินค่างวดไว้ทุกใบ  เผื่อจะได้ใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงกัน ขอให้โชคดีครับ จากคุณ : สนเดียวดาย เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 22:27:09

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากๆคร้าบ~*^^ จากคุณ : เฟืองเหนือ เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 52 22:57:11