ความคิดเห็นที่ 1 จะกลายเป็นว่าไปต้องไปชดใช้ให้เขาอีกรึป่าวคะ... จากคุณ : บ๊วย...นิยามของคำว่าสวย เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 08:52:11

ความคิดเห็นที่ 2 คดีแบบนี้ เป็นคดีอาญาที่จนท.บ้านเมืองจะเข้ามาดำเนินการแทนใช่หรือเปล่าครับ จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 08:53:36

ความคิดเห็นที่ 3 ลองสอบถามบริษัทกลาง กอทุนผู้ประสบภัยจากรถ  ดู  แต่ถ้าผมเป็นคู่กรณี ผมสู้แหลกแน่ และจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากครอบครัวคนตายนี่แหล่ะครับ  เอาให้เข็ดพวกทำผิดกฎจราจรนี่ จากคุณ : กระจอกจัง เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:14:32

ความคิดเห็นที่ 4   แล้วการที่ไปขับรถย้อนศร จนทำให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ถือว่าเป็นการทำการประมาท ละเมิดผู้อื่นจนเสียทรัพย์หรือครับ แล้วทำไมคุณถึงสงสารแต่คนขับรถย้อนศร แต่กลับไม่สงสารอีกคนหนึ่งซึ่งขับตามทางของเขา แถมยังจะไปเรียกร้องเงินเขาอีก จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:18:34 A:125.27.48.244 X: TicketID:153655

ความคิดเห็นที่ 5   ที่ทำงานพี่ประกันชีวิตให้เขาไหม เขาทำประกันอะไรไว้หรือเปล่า ผมว่าถ้ามอเตอรืไซด์ผิดประกันภัยฝ่ายโน้นเขาจะมาตามเรียกเก็บค่าเสียหายเอากับพี่มากกว่า พี่เป็นเจ้านายอย่าไปพยายามคิดยอกย้อนให้กับลูกน้องแบบนี้นะพี่จะเข้าตัวเปล่าๆ เดี๋ยวจะต้องเดือดร้อนไปขึ้นโรงขึ้นศาลเบิกพยานกับเขาด้วย พี่เองก็รู้อยู่แก่ใจว่าขับย้อนศร แล้วไปให้ความหวังกอะไรกับเขาหรือยัง ตอนนี้ที่ช่วยได้คือใส่ซอง เรียกเก็บเรี่ยไรกับเพื่อนพนักงานช่วยเหลือกันไป งานศพก็จัดให้อย่าให้บกพร่องอย่าให้เหลือเป็นภาระกับลูกเมียเขาดีกว่า อันนั้นพี่ทำได้เลย เหมาะสมควรกับสถาณะของพี่แล้วครับ ลองพิจารณาดู จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:23:41 A:202.139.223.18 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 6   - กรณีดังกล่าว ฝ่ายผู้ตายขับรถย้อนเส้นทางเข้าไป ถือว่ามีส่วนผิด ส่วนฝ่ายรถคู่กรณีคงต้องพิจารณาว่ามีส่วนประมาทด้วยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากคู่กรณีขับรถเร็วเกินสมควร ถ้าพิสูจน์ได้ว่าหากขับรถด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ก็จะไม่ชนผู้ตาย เพราะสามารถหยุดรถได้ อย่างนี้ถือว่าคู่กรณีมีส่วนประมาทด้วย จากข้อเท็จจริงเบื้องต้นมีข้อกฎหมาย ป.พ.พ. มาตรา ๔๒๒ บัญญัติไว้ว่า ถ้าความเสียหายเกิดแต่การฝ่าฝืนบทบังคับแห่งกฎหมายใด อันมีที่ประสงค์ เพื่อจะปกป้องบุคคลอื่น ๆ ผู้ใดทำการฝ่าฝืนเช่นนั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเป็นฝ่ายผิด ตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ตายเป็นฝ่ายผิดครับ หากข้อเท็จจริงปรากฏว่าคู่กรณีไม่มีส่วนประมาท ย่อมไม่อาจเรียกร้องให้คู่กรณีชดใช้ค่าเสียหายได้ แต่ทายาทผู้ตายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ฯ จำนวน ๓๕,๐๐๐ บาท จากบริษัทที่รับประกันภัยรถจักรยานยนต์คันที่ผู้ตายขับครับ จากคุณ : ใต้หล้า เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:28:01 A:222.123.219.175 X:

ความคิดเห็นที่ 7 อืม บุคคลใดที่ขับรถย้อนศรแล้วไซร้บุคคลนั้นสามารถถูกบุคคลอื่นฆ่าให้ตายโดยชอบด้วยกฎหมายหรือครับ จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:31:44

ความคิดเห็นที่ 8   ไม่ใช่พี่7 รัฐเขาลงโทษคนรอดไงพี่ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย บทลงโทษเขามี แต่อันนี้ญาติคนตายเขาจะมาฟ้องร้องเอาค่าเสียหายทางแพ่ง พี่แยก อาญา กับทางแพ่งให้ออกนะพี่ กฏหมายเขาให้ความเป็นธรรม คิดแบบนั้นมีแต่สร้างปัญหาให้สังคม คนที่ฟังเขาเข้าใจผิดเกลียดชังกัน จะเป็นเวรเป็นกรรมกันเปล่าๆ จากคุณ : คิดดู เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 09:44:17 A:202.139.223.18 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 9   ขึ้นกับข้อเท็จจริง 1..หากย้อนศร แล้วขับช้าๆอย่างระมัดระวัง  แล้วอีกฝ่ายประมาทมาชน เช่นนี้สามารถหักล้างข้อสันนิษฐานตาม 422 ได้      ซึ่งผู้ตายทำผิดกฎหมายจราจรแน่นอน และมีเพียงโทษปรับเล็กน้อยเท่านั้น     คนขับรถชน ต้องรับผิดป.อ. 291  และรับผิดทางแพ่งฐานละเมิด ป. 420  ซึ่งต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่างๆตามกฎหมายด้วย     โดยอาจยกข้อที่ว่า ผู้ตายมีส่วนผิดมาใช้ เพื่อลดค่าสินไหมทดแทนได้   2...หากย้อนศรแล้วขับเร็ว  ไม่ระมัดระวังรถคันอื่นๆ จนรถที่ชนหลบไม่ทันซึ่งถือว่ารถที่ชนเขาไม่ประมาท  เช่นนี้ เมื่อไม่ประมาท จึงไม่ต้องรับผิดตาม ป.อ 291   และส่วนแพ่ง 420 ซึ่งต้องรับผิดเมื่อจงใจ  หรือ ประมาททำให้เขาเสียหาย เมื่อไม่จง  ไม่ประมาท จึงไม่ต้องรับผิดตาม 420 ในทางตรงกันข้าม หากพิสูจน์แล้วว่า ผู้ตายเป็นผู้ทำละเมิดเขาเสียเอง ผู้ตายต้องรับผิด  ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน  ซึ่งทายาทก็ต้องรับผิดแทนผู้ตายในละเมิดนั้น แม้ 437 ยังคงให้รับผิดในละเมิดเนื่องจากยานพาหนะอันเดินได้ด้วยเครื่องจักรกล  ซึ่งกรณีนี้ ต่างฝ่ายต่างได้ประโยขน์ จาก 437 เช่นกัน จึงหักล้างกันไป  ดังนั้น การพิสูจน์ความรับผิด จึงต้องพิสูจน์ตาม 420 เท่านั้น 3. หากย้อนศรแล้ว ไม่ประมาททั้งคู่ ก็คงไม่เกิดเหตุอะไร 4....ควรจะไปติดต่อขอความช่วยเหลือที่ไหน ... ถ้ามีประกันฯ ต้องเรียกไปที่ประกัน   และ กองทุนฯตาม 2  และ 4 ในส่วนอาญา  ต้องที่พนักงานสอบสวนก่อน    ในส่วนแพ่ง ที่เป็นค่าสินไหมเพื่อละเมิด(หากมีสิทธิ) หากคู่กรณีไม่จ่ายตามที่เรียกร้องต้องฟ้องศาล  แล้วไปสู้คดีกันในชั้นศาล เห็นใจทั้งสองฝ่าย   ขอให้โชคดีครับ แก้ไขเมื่อ 01 พ.ย. 52 10:11:14 จากคุณ : สนเดียวดาย เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:10:04

ความคิดเห็นที่ 10 ในเบื้องต้นพนักงานคนนี้จะได้เิงินประกันชีวิตหมู่ที่ได้ทำไว้กับบริษัท เงินจากประกันสังคม และจากพรบ.ของเขาเอง แล้วก็มีการเรี่ยไรเงินจากพนักงานในบริษัท นอกนั้นคงจะเป็นน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง เช่นค่าปลงศพจากคู่กรณี ผมได้วางอุเบกขาแล้วครับ นำมาคิดก็เกิดทุกข์ ทั้ง2ฝ่ายคงมีกรรมต่อกันมา หากอโหสิได้กรรมก็คงสิ้นสุดในชาตินี้ แต่ถ้าหากคู่กรณีจะเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายคนตาย ผมก็คงต้องเข้าไปช่วยเพราะถึงอย่างไร หากเขาผิดจริงโทษจะต้องเป็นอันระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำความผิด จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:18:45

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านแล้วเห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายเลย เรื่องนี้ได้ข้อคิดที่ว่า "ยอมขับรถเสียเวลาหน่อย เพื่อแลกกับชีวิตที่ยืนยาวกว่า" จากคุณ : ผู้สังเกตการณ์ เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 10:53:02

ความคิดเห็นที่ 12 ประมาทหรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง คนตายพูดไม่ได้ คนเป็นจะพูดอย่างไรก็ได้อย่างนั้นหรือ...? ถ้าผู้ตายมีส่วนประมาทรวมอยู่ด้วย ทายาทก็ไม่สามารถเอาผิดในทางอาญาได้(ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมไม่ได้) ในทางแพ่งคิดว่าอย่างไรทั้งคู่ก็ประมาทแน่นอน แต่ใครจะประมาทมากกว่ากันนั้น อีกเรื่อง ถ้าผู้ตายมีส่วนประมาทรวมอยู่ด้วย ก็แค่มีผลเพียงว่า ค่าเสียหายที่จะได้รับต้องลดลงตามส่วนเท่านั้น หาได้ถูกจำกัดมิให้ต้องได้รับค่าสินไหมทดแทนไม่ แน่นอน ปพพ มาตรา ๔๒๒ เป็นบทสันนิฐานก็จริง แต่ไม่เด็ดขาด ดังนั้นย่อมสืบหักล้างได้ แล้วใครจะสืบได้ล่ะ เพราะตายไปแ้ล้ว นอกจากพยานแวดล้อมกรณีเท่านั้น ผู้ตาย ตายในระหว่างทำงานหรือไม่ ถ้าใช่ จะได้รับเงินดแทนจากกองทุนทดแทน ตาม กม.เงินทดแทนอีกร้อยละ ๖๐ โดยคิดจากค่าจ้าง ๓๐ วันสุดท้าย เป็นเวลา ๘ ปี และเงินจากกองทุนประกันสังคมอีก ค่าปลงศพ และอื่นๆอีกตาม พรบ.ประกันสังคม คนที่ชน คิดว่าตัวเองไม่ผิด และ ไม่ยอมชดใช้หรือเยียวยาอะไรกับฝ่ายผู้ตายเลย หากต่อมาศาลในคดีอาญาวินิจฉัยแล้วว่าผู้ชนเป็นฝ่ายประมาท ดังนั้นการที่ไม่เยียวยาหรือให้ความช่วยเหลือพอสมควร อาจไม่ได้รับการปรานีจากศาลก็ได้ใครจะรู้ จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 11:10:27

ความคิดเห็นที่ 13 คห.10   ผิดแล้วกระมังครับ  โทษอายาโอเคเป็นไปได้  แต่คดีแพ่งความรับผิดยังไม่สิ้นสุด  ทายาทต้องเป็นผู้รับผิดชอบหากมีความเสียหายเขาสามารถไล่เบี้ยวึ่งทรัพย์สินของตายได้ครับ  ไม่งั้นผู้กู้เงิน 1000 ล้าน  แล้วผมฆ่าตัวตาย ทายาทก็สบายซิครับ จากคุณ : กระจอกจัง เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 13:36:26

ความคิดเห็นที่ 14 ผมไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมาย ก็เลยไม่อยากออกความเห็นในมาตราโน่นนี่ มันก็เหมือน ๆ กับคำถามว่า ถูกรถชนขณะข้ามถนน "ใต้สะพานลอย" จะเรียกร้องอะไรได้รึเปล่านั่นหละครับ แต่ถ้าผมเป็นคนชน ผมสู้หัวชนฝา อาจจะไม่ถึงขั้นเรียกร้องข้าเสียกลับจากฝ่ายผู้ตาย แต่จะไม่มีวันยอมจ่ายสินไหมใด ๆ ให้แก่ฝ่ายผู้ตายเด็ดขาด ผมคิดแบบ "ใจเขา ใจเรา" ถ้าผมขับรถของผมอยู่ดี ถูกต้องตามกฎ แถมชิดซ้ายเพราะไม่ไช่คนขับรถเร็ว จู่ ๆ มีจยย. ขับสวนเลนเข้ามา (ขับสวนเลน โดยปกติสามัญ จะชิดขอบฟุตบาท หรือทางซ้ายของคนขับปกติพอดี) โผล่วูบมาชนตูม!! เอาความผิดมาประเคนให้ถึงที่โดยทีผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ผมไม่มีวันยอมครับ... ขณะเดียวกัน ถ้าผมเป็นถูกชน หรือเป็นคนขับสวนเลน (ซึ่งไม่มีวันเกิดขึ้น ยกเว้นขี่จักรยานธรรมดา) ผม ณ ตอนนั้น จะเตรียมใจรับความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติไว้แล้ว และก็คงยอมรัชะตากรรมแต่โดยดี แต่ไม่รู้ว่าคน ๆ นี้จะคิดแบบผมรึเปล่า **ผู้ใดก็ตามที่ทำผิดกฎ "จะต้อง" พร้อมยอมรับผลเสียจากการทำผิดนั้น ๆ โดยไม่โต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น** อยากทำผิด ต้องรู้จักเจียมตัวครับ จากคุณ : Hyper Takuto เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 17:02:43

ความคิดเห็นที่ 15   ทำไมตอนขับย้อนศรไม่นึกถึงลูกๆ ตัวเองบ้าง ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะเป็นยังไง ริจะทำผิดกฎต้องพร้อมตายตลอดเวลาสิ รู้อยู่แก่ใจว่ามันอันตรายทั้งแก่ตัวเองและผู้อื่นก็ยังทำ เรายืนอยู่ถูกที่ถูกทางเกือบโดนรถเวรตะไลพวกนี้เสยเอาหลายครั้่งแล้ว ดีว่าหลบทัน ถ้าช้าหน่อยมันคงเหยียบแล้วหนีหายตามระเบียบ อย่าหาว่าใจร้ายเลยนะตั้งใจไว้ว่า ถ้าพบเห็นไอ้พวกขับย้อนศรเจออุบัติเหตุจะไม่ช่วยเลย เกลียดมากๆ คนมักง่ายให้มันตายๆ ไปเสียบ้างบ้านเมืองจะได้น่าอยู่ขึ้น จากคุณ : เบื่อพวกเบียดเบียนคนอื่น เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 52 21:50:21 A:210.86.214.137 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วคุณไม่สงสารอีกฝั่งนึงบ้างเหรอ  เจอไอ้พวกไร้ระเบียบ ไร้วินัย  ชนคนตาย ก็ซวยตายhaแล้ว  ยังต้องมาจ่ายเงินชดใช้ให้  ทั้งๆที่ตัวเองไม่ผิดด้วยเหรอ   คุณมีใจเป็นธรรมบ้างหรือเปล่าล่ะ  ก็อยากย้อนศรเอง  มันก็สมควรกับการกระทำแล้วล่ะ จากคุณ : nuch_tiew เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 03:58:55

ความคิดเห็นที่ 17   เอาว่าถ้าผมเป็นคนขับรถเก๋งนะครับ ก็ต้องดูอีกฝ่ายถ้ารู้สภาพ อ่อนน้อม ผมก็ช่วยตามสมควร คนก็ตายไป เป็นเพื่ออนมนุษย์กันถือว่าเยียวยากันไป แต่ถ้ามาลุแก่อำนาจ มาเบียดเบียนกันนี่ ผมเองก็มีหลักการนะพี่ สู้กันในศาลหละครับ ใส่หมวกไหม มีทะเบียนไหม มีคดีความติดตัวหรือเปล่า ใส่มาก็ใส่กลับ ผมถือว่าหลักการพี่ไม่ใช่สู้แค่เพื่อตัวผมเอง ผมทำให้ลุกหลานผมด้วยเกิดมันมักง่ายจนเป็นกระแสคราวหน้ามันขับย้อนมาแรงๆ ลูกเด็กเล็กแดงในรถพลอยตายไปด้วย ถ้าเป็นลูกหลานเราจะทำอย่างไร จากคุณ : ลองดู เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 09:35:53 A:202.139.223.18 X: TicketID:008482

ความคิดเห็นที่ 18 การณ์หาได้เป็นดังว่า รถจยย.โดนชนที่ทางขึ้นทางกลับรถ คนขับจยย.ตายคาที่ คนขับรถยนต์หนีไป จากคำบอกเล่าของยาม ทราบว่ารถที่ชนเป็นรถเก๋ง หลังจากชนคนขับรถเก๋งลงมาจับดูชีพจรคนตาย แล้วจึงขับรถหนีไป จากคำบอกเล่าของหน่วยกู้ภัยทราบว่าพบทะเบียนตกในที่เกิดเหตุด้วย ญาติผู้ตายติดตามไปยังตำรวจได้รับคำตอบว่าอยู่ในระหว่างการสอบสวน ในบันทึกประจำวันที่ฝ่ายบุคคลขอถ่ายเอกสารมาไม่มีส่วนใดกล่าวว่าพบป้าย ทะเบียนรถตกอยู่เลยมีเพียงข้อความว่าอุปกรณ์ตกหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนที่บอกว่าย้อนศรนั้น เป็นคำพูดของภรรยาผู้ตายที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าพูดผิดพูดถูก(ทราบขาวตี5โทรมาลางานตอน7โมงกว่าๆ) จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 52 20:40:21

ความคิดเห็นที่ 19 เข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสียนะคะว่าเสียใจ แต่เราก็เจอบ่อยเหมือนกันค่ะย้อนมาแบบปาดหน้า ขับเร็ว รถคนอื่นหลบแทบไม่ทัน ถ้าย้อนแล้วโดนชนแถมเรียกร้องค่าเสียหายได้นี่เลิกขับรถดีกว่าค่ะ ขับอยู่ดีๆไอ้..่า ที่ไหนไม่รู้ย้อนมาจะหลบเราก็โดนรถคันหลังข้างหลังชน อาจตายทั้งคู่ เข้าข้างทางหลบซ้ายก็อาจจะตกคลอง ลงข้างทางตาย ชนไอ้..่านี่ก็โดนร้องเรียนอีก แบบนี้ก็ไม่ต้องทำเลนส์ให้ขับ ไม่ต้องทำที่กลับรถ สะพานลอย ใครอยากวิ่งเลนส์ไหน เดินข้ามถนนตรงไหน ก็ทำไปเลย งั้นหรอ จากคุณ : yuyuhaku (kangkakangka) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 10:22:35

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้ย้อนศรครับ ผู้ตายหยุดรถในเขตปลอดภัย บริเวณขึ้นทางกลับรถ แล้วถูกรถยนต์ของคู่กรณีชนเข้าอย่างแรง ไถผู้ตายไปกับทางกลับรถอีกเกือบ100เมตร มีพยานพบเห็น และได้ทำการจดหมายเลขทะเบียนไว้ คู่กรณีได้ขับรถหลบหนีไป จากคำพูดของอาสากู้ภัยบอกว่าคู่กรณีทำป้ายทะเบียนหล่นไว้ในที่เกิดเหตุ แต่ในบันทึกประจำวันไม่มีกล่าวถึงป้ายทะเบียนเลย มีเพียงบอกว่ามีเศษอุปกรณ์ตกหล่นในบริวณที่เกิดเหตุเท่านั้น หลังจากเสร็จงานศพทางเพื่อนพนักงานได้นำหมายเลขทะเบียนที่ได้จากผู้พบเห็นไปให้เพื่อนที่เป็นตำรวจเข้าไปตรวจสอบในฐานข้อมูลให้ ได้ชื่อ ที่อยู่ ของเจ้าของรถมา จึงได้ไปพบกับตำรวจและตำรวจได้เรียกญาติของคู่กรณีที่กำลังหลบหนีมาเจรจาค่าเสียหายครับ จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 52 17:54:02