...ทำไมเรื่องเศร้าของการแอบชอบคนอื่นต้องเกิดกับผมด้วย...(จะเศร้าแค่ไหน ถ้าจะบอกว่าคนนั้นคือพี่ชายที่แสนดีผมเอง)...
|
|
ตู๊ดดดด ตู๊ดดดดด .....หวัดดีครับพี่..... "...หวัดดี ใครครับเนี่ย..." .....คนที่พี่แซวผมตอนกิจกรรมประชุมสตาฟรับน้องไงครับ จำผมได้ป่าวพี่ คนที่เป็นสันทนาการ ที่เต้นบ้าๆบอๆไง..... "...อ้อ จำได้แล้ว คนนั้นเอง..." .....พอดีผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อยครับ ถือว่าขอร้องแล้วกัน..... "...ให้พี่ช่วยไรละ..." .....พี่ครับ ช่วยสอนผมวาดรูปคนหน่อยได้ไหมครับ... "...ได้สิไอ้น้อง แต่รูปคนวาดยากมากนะ..." .....ไม่เป็นไรครับพี่ ผมพอมีทักษะบ้าง และไม่ยากเกินพยายาม..... "...ได้ไอ้น้อง พี่จะสอนให้..."
นี่คือบทสนทนาครั้งแรกที่ผมได้พูดกับพี่ชายที่คนนี้อย่างเป็นทางการผ่านสายโทรศัพท์ ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมผมอยากสนิทกับพี่ชายคนนี้หนักหนา จำได้ว่าผมเจอพี่เขาครั้งแรกตอนไปเรียนที่ตึกคณะมนุษย์ เหมือนพี่เขานั่งรอใครอยู่ ตอนนั้นเขาไม่ได้สนใจผมหรอก มีแต่ผมที่สนใจเขาเป็นพิเศษแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ....ครั้งแรกที่เจอพี่เขา มีความรู้สึกแปลกๆ คือ อยากรู้จัก อยากคุยด้วย เพราะดูพี่เขาเหมือนเป็นคนเก่ง มีความสามารถ จะพูดว่าเป็นเหมือนไอดอลก็ได้ ซึ่งผมเองก็งงตัวเองว่าทำไมรู้สึกแบบนั้น....
....แต่ยังไงก็ได้แค่คิด เพราะผมไม่รู้จะเข้าไปคุยกับเขาในฐานะอะไร และอีกอย่าง ผมเป็นคนที่ขี้อายที่จะต้องคุยกับคนแปลกหน้า ไม่ว่าหญิงหรือชาย เพื่อนสนิทจะรู้ ว่าเวลาไปไหนถ้าคนที่ไม่รู้จักผมจะเงียบมาก แต่ถ้าสนิทกันเมื่อไหร่จะคุยจนเพื่อนบางคนรำคาญเลยละ (...เป็นอย่างนั้นจริงๆ...)....
....แต่กับพี่คนนี้ผมก็ได้แค่คิด ไม่รู้ว่าอยากสนิทกับเขาขนาดไหน ถึงขั้นเก็บเอาพี่เขาไปฝัน 3 วัน 3 คืนเลย จริงๆ...(บ้าไปแล้วนิ...)
....หลังๆผมเจอพี่เขาบ่อยขึ้น เพราะเราเรียนที่ตึกเดียวกัน แต่เชื่อไหมว่าผมเจอพี่เขาทั้งเทอมเลย บางทีขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกันบ้าง เดินสวนกันบาง แต่ไม่เคยคุยกัน ได้แค่มองเพราะไม่กล้าจะคุย อีกอย่างดูเหมือนเขาไม่เคยผมด้วย (อายเหมือนกันถ้าจะบอกว่าแอบมอง...ฮิ...ฮิ...)...
....ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกกับพี่เขาแบบนี้ จะบอกว่าผมเป็นเกย์หรือป่าวก็ไม่ใช่ เพราะผมเองก็ชอบผู้หญิง และตอนนั้นมีแฟนเป็นผู้หญิง(ถึงปัจจุบันจะเลิกกับแฟนเพราะพี่เขาแล้วก็เถอะ) แต่ทำไมต้องมีความรู้สึกกับพี่เขาแบบนี้ก็ไม่รู้...(จะบอกว่าเรื่องนี้ไม่เคยเล่าให้เพื่อนคนไหนฟัง เพราะกลัวเพื่อนจะล้อว่าผมเป็นเกย์(ทั้งที่ไม่ได้เป็น) อีกอย่างผมรับไม่ได้ที่ใครจะมองว่าผมเป็นเกย์ด้วย พูดง่ายๆคือกลัวเพื่อนไม่คบ)...
....ผมเจอพี่เขาโดยที่ผมมองเขาฝ่ายเดียวนานมาก(อายนะที่ต้องบอกอย่างนี้) เกือบปีเลยมั้ง....
....และแล้ววันที่ผมได้พูดคุยกันกับเขาครั้งแรกก็มาถึง คือวันซ้อมสตาฟประชุมเชียร์ของทางมหาลัย....(หรือสตาฟรับน้องที่เราๆท่านๆรู้จักกันนั่นละครับ)
....อายนะครับที่ผมจะบอกว่า ผมมาสมัครเป็นสตาฟเพราะผมรู้ว่าพี่เขาก็สมัครเหมือนกัน หิ...หิ....
....คือที่ผมรู้ว่าพี่เขาสมัคร เพราะผมมีเพื่อนเป็นอนุกรรมการประชุมเชียร์เมื่อปีที่แล้ว(คือปีที่แล้วนั้นพวกผมอยู่ปี 1) ปีนี้เพื่อนผมมันเลยสามารถเข้านอกออกในในหมู่กรรมการได้ พอดีผมเห็นแฟ้มใบสมัครสตาฟของเพื่อนเพราะเพื่อนมันคะยั้นคะยอให้ผมสมัคร ผมเลยแอบเปิดดู แล้วปรากฎว่าเจอชื่อและรูปพี่เขา จากทีแรกจะไม่สมัคร ผมเปลี่ยนใจเอาใบสมัครกับเพื่อนมาเขียนทันทีเลย และได้รู้จักชื่อจริง ชื่อเล่น และเบอร์โทรพี่เขาด้วย 555555+
....ทีนี้หลังจากสมัคร ผมทำหน้าที่อยู่ที่ฝ่ายสันทนาการ(ฝ่ายที่ทำให้น้องใหม่เขาเฮฮานั่นละครับ) หลังจากที่ประชุมกันมาเหนื่อย ก็ต้องเป็นหน้าที่ผมและเพื่อนที่ต้องทำสันทนาการ....
....ระหว่างที่เต้นแร้งเต้นกาอยู่นั้น ปรากฎว่า ผมโดนพี่เขาแซวว่า....
"...น้อง เต้นไม่มันเลยอ่า เอาใหม่...เต้นให้มันแรงๆ..."
....แค่ได้อยู่ใกล้หัวใจผมก็พอโตแล้ว แต่นี่โดนพี่เขาแซวด้วย มีหรือผมจะหยุด ผมเต้นแบบสุดๆๆๆๆๆ ตามที่พี่เขาว่าเลยครับ 555555555+
....จนสุดท้ายเพื่อนเลยแซวว่า...
"...เฮ้ย...ไอ้เอี้ยเสือ(นามสมมุติครับ ไม่ใช่ชื่อจริงๆของผม) เกิดบ้าพลังอะไรขึ้นมาว่ะ...ทำไมมรึงเต้นแรงขนาดนี้..."
....ผมเลยตอบเพื่อนไปว่า.... "...ก็กรูมีความสุขนี่หว่า ที่ได้ทำหน้าที่นี้ 55555+..."
... ... ....หลังจากประชุมสตาฟเสร็จ ผมกับรูมเมทกลับมาถึงห้องแทบตายเลยครับ เพราะบ้าพลังมากเกินไปเมื่อตอนกลางวัน มาถึงห้องก็รีบควานหาของกินทันที....
....ขณะกำลังกินกันอย่างเมามัน เพื่อนผมคนที่มันชวนสมัครสตาฟมันโทรมา บอกว่าจะคุยเรื่องสันทนาการที่ห้อง ผมเลยให้เมทกินไปก่อน แล้วรีบขี่แมงกะไซออกไปหามันทันที ไม่ใช่เพราะอยากไปคุยเรื่องงานหรอกครับ แต่อยากคุยเรื่องพี่ชายที่แสนดีของผมต่างหาก....
..... ..... .......พอไปถึงห้องมัน เราก็นั่งคุยงานกัน ซักพักผมก็เริ่มถามเป้าหมายที่ผมต้องการทันที คือเรื่องของพี่เขา ปรากฎว่าเพื่อนผมคนนี้มันรู้จักพี่ชายคนนี้ของผมอย่างดีเลยครับ มันเลยเล่าเกี่ยวกับประวัติของพี่เขาให้ฟังอย่างละเอียดยิบเลยครับ ทั้งประวัติส่วนตัว เรียนคณะอะไร โอ๊ยยย หลายเรื่องเลยครับ ผมทั้งฟังทั้งปลื้มเลยครับ (ทำไมก็ไม่รู้ถึงรู้สึกอย่างนั้น)....
.......ทีนี้ผมเริ่มหาทางที่จะทักทายพี่เขาครับ ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เพราะผมเชื่อว่าการที่ผมเป็นสันทนาการ และโดนพี่เขาแซวขนาดนี้ ผมว่าพี่เขาคงจำผมได้บ้างละครับ......
.......ทีนี้ผมเริ่มคิดได้แล้วละครับว่าผมจะหาโอกาสคุยกับพี่เขายังไง พอดีไอ้เพื่อนคนนี้มันบอกว่าพี่เขาวาดรูปเก่งมาก โดยเฉพาะภาพแบบนฤมิตศิลป์(ภาพที่วาดให้ออกมาเสมือนจริง) แล้วทีนี้ผมเองเป็นคนที่ชอบวาดภาพเหมือนกัน(เคยสอบเอ็นนฤมิตได้ 46 แล้วกัน 5555+) เพราะเคยอยากเรียนวิจิตร มช. แต่ไม่ติด(พูดให้ขายหน้าทำไมหว่าๆๆๆๆๆๆ)......
......และแล้วแผนชั่วผมก็ออกมา คือ ผมจะให้พี่เขาสอนวาดภาพให้ เพราะผมเองตอนนั้นก็อยากวาดภาพคนให้เก่งๆเหมือนกัน.......
......ผมเลยขอเบอร์พี่เขาจากเพื่อนที่แสนดีคนนี้อีกที(ขอบใจมากว่ะ) เพื่อจะโทรหาพี่เขา.......
.......ทีแรกเพื่อนผมก็งงว่าจะเอาไปทำอะไรและยึกยักว่าจะไม้ให้ แต่สุดท้ายมันก็ให้ ก็ลองไม่ให้ดูสิ มีหวัง มรึงตายยยยยย 55555+.......
........ ....... ....... ........หลังจากออกจากหอมัน แล้วมาถึงห้องผมป๊าบบบ..... ปรากฎว่า รูมเมทผมนอน..แอ้งแม้ง..ไปแล้ว สงสัยมันคงเหนื่อยจากเมื่อเช้ามั้ง แต่มันนอนได้ก็ดีแล้ว ทางจะได้สะดวก จะได้โทรหาพี่เขาง่ายหน่อย ไม่ต้องโป๊ะยางสลบ วางยานอนหลับ หรือเอาคอนตีหัวมันในเสียเวลา (จะฆาตกรรมเพื่อนแล้วเรา 5555+).....
........ผมโทรหาพี่เขาทันทีเลยครับ แต่ก่อนโทรผมตื่นเต้นมาก ใจสั่น อายด้วย เพราะไม่รู้จะคุยอย่างไร ยิ่งเป็นคนที่อยากจะคุยด้วยแล้ว ใจยิ่งสั่นเป็น 10000 เท่าเลยครับ ......
สัญญาณดัง.....ตู๊ดดดด....ตู๊ดดดดด.... ไม่เกิน 10 วินาที เสียงคนที่ผมอยากพูดด้วยก็ดังขึ้น "....ฮัลโหล หวัดดีครับ...." .....หวัดดีครับพี่..... "...หวัดดี ใครครับเนี่ย..."
....ตื่นเต้นมากมาย ก่อนจะบอกว่า....
.....คนที่พี่แซวผมตอนกิจกรรมประชุมสตาฟรับน้องไงครับ จำผมได้ป่าวพี่ คนที่เป็นสันทนาการ ที่เต้นบ้าๆบอๆไง.....
.....พี่เขานึกซักพัก แล้วก็ตอบกลับมา.....
"...อ้อ จำได้แล้ว น้องคนนั้นเอง..."
.....โล่งอกครับ นึกว่าพี่เขาจำผมไม่ได้...หิ...หิ...ทีนี้ผมเข้าเรื่องเลยครับ....
.....พอดีผมมีเรื่องให้พี่ช่วยหน่อยครับ ถือว่าขอร้องแล้วกัน..... "...ให้พี่ช่วยไรละ..." .....พี่ครับ ช่วยสอนผมวาดรูปคนหน่อยได้ไหมครับ... "...ได้สิไอ้น้อง แต่รูปคนวาดยากมากนะ..." .....ไม่เป็นไรครับพี่ ผมพอมีทักษะบ้าง และไม่ยากเกินพยายาม..... "...ได้ไอ้น้อง พี่จะสอนให้..."
ระหว่างที่คุยนั้นผมรู้สึกมีความสุขและหัวใจพองโตมากๆ ไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมรู้สึกอย่างนี้ได้ครับ
......หลังจากคุยกันผ่านโทรศัพท์ประมาณ 5 นาที เราทั้งสองจึงวางสายไป แต่จะบอกว่า 5 นาทีที่ผมคุยกับพี่เขา เป็น 5 นาทีที่ผมมีความสุขมากที่สุด พอๆกับคุยกับพ่อแม่เลยครับ ถึงแม้เวลาจะผ่านเร็วมาก และมีความรู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงิน 25 บาทที่เสียไปเลยครับ ทั้งๆที่ผมเป็นคนขี้งกมากๆคนหนึ่ง(ตอนนั้นวันทูคอลนาทีละ 5 นาทครับ จริงๆๆๆๆๆ)....
......หลังจากคุยกับพี่เขาเสร็จ ผมมีความสุขมากอย่างบอกไม่ถูกเลยครับ ผมนอนยิ้มทั้งคืนเลยครับ ไม่รู้ว่ามีความสุขถึงตอนไหน จนสุดท้ายผมเผลอหลับไป และคืนนั้นผมเก็บเอาพี่ชายของผมคนนี้ไปฝันเลยครับ จริงๆนะ.......
....... ...... .......นั่นคือครั้งแรกที่ผมคุยกับพี่ชายคนนี้ครับ เป็นคืนหนึ่งที่ผมมีความสุขมาก นึกถึงมันทีไรแล้วอดยิ้มไม่ได้ทุกที ขณะที่ผมพิมพ์มันลงไปและนึกถึงพี่เขา ผมยังอดที่จะอมยิ้มไม่ได้เลยครับ นับว่ามีความสุขมาก....... ....... ....... .......แต่หลังจากความสุขในค่ำคืนนั้นผ่านไป ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดี แต่เพราะหลังๆมานี้ ผมเริ่มสับสนในตัวเอง กลัวว่าจะถูกมองว่าเป็นเกย์ กลัวว่าเพื่อนจะรับไม่ได้ กลัวแฟนทิ้ง กลัวหลายๆอย่าง และที่สำคัญ กลัวว่าถ้าเขารู้ว่าผมคิดอะไรกับพี่เขาเกินพี่แล้วเขาจะเป็นยังไง จะคิดยังไงกับผม.....
......คำถามเหล่านี้มันกวนใจผมตลอด ทำให้ผมตัดสินใจทำอะไรบางอย่างกับพี่เขายากขึ้น และสุดท้าย การเลือกตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดพลาดของผมเองนั้น กลับมาฆ่าจิตใจผมให้เจ็บปวดทีหลัง.......
.......ทุกวันนี้ผมไม่เจอพี่เขาอีกเลยหลังจากวันรับปริญญาพี่เขาเมื่อปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้น ผมกับพี่เขาก็ไม่คุยกันอีกด้วย พี่เขาเห็นผมเขาก็เดินหนี จะโทรไปหาก็ไม่กล้า ถึงโทรไปซักพักก็วาง พอพี่เขาโทรกลับ เราเองกลับไม่ยอมพูดกับพี่เขา.......
.......ทุกวันนี้ผมยังคิดถึงพี่เขา อยากคุย อยากเจอ ที่สำคัญ อยากบอกกับพี่เขาว่า........ ".....ผมขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป เพราะผมรักพี่มาก จึงต้องทำแบบนี้....."
......ผมยังรู้สึกดีกับพี่เขาครับ อยากบอกว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเขาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันนี้ผมยังรู้สึกดีกับพี่เขาอยู่ แม้ว่าปัจจุบันผมจะไม่มีโอกาสได้เจอพี่เขา ไม่มีโอกาสได้ขอโทษ หรือได้คุยกับพี่เขาแล้ว....(..."ถึงตอนนี้ผมน้ำตาไหลเลยครับ เพราะคิดถึงพี่เขามาก อยากเจออีกซักครั้ง แต่ไม่มีโอกาสนั้นแล้ว"...)......
...... ...... .......ที่สำคัญ ปีนี้ผมจะรับปริญญาประมาณ ธ.ค.52 นี้แล้ว สิ่งที่ผมหวังไม่ต้องการอะไร ผมต้องการแค่ให้พี่เขามางานรับปริญญาของผม มีร่วมยินดีกับผมเหมือนที่ผมเคยแอบไปยินดีกับพี่เขา แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว.......
....... ........
.........ผมขอตัวไปร้องไห้ทำใจ และพักผ่อนก่อนนะครับ ผมเพลียมากเลยทุกครั้งที่ผมคิดถึงเรื่องนี้ อีกอย่างพรุ่งนี้ผมต้องไปทำงาน.......
........ไว้ว่างๆผมจะกลับมาเล่าต่อนะครับว่าหลังจากวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วทำไมผมต้องเสียใจมากที่นึกถึงเรื่องนี้..............
จากคุณ |
:
เสือเหงา
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ย. 52 19:43:14
A:172.17.13.73 X:61.91.205.162
|
|
|
|