ความคิดเห็นที่ 1 เลือกข้อ 1 ค่ะ บางครั้งเราต้องยอมเจ็บเพื่อคนอื่นบ้าง แล้วอีกอย่างเธอก็มีคนของเธออยู่แล้ว มันจะดีเหรอค่ะ ที่คุณไปแย่งเขามา แล้วภรรยาคุณและแฟนของเธอทำผิดอะไรค่ะ คุณลองคิดดูสิค่ะ ถ้าเกิดว่าคุณมีคนรักแล้วคุณก็รักเธอมาก กำลังจะแต่งงานกัน แต่มีผู้ชายอีกคนมาแย่งแฟนคุณไป แล้วคุณจะรู้สึกยังไงค่ะ   เรื่องบางเรื่องเราไม่สามารถทำตามใจตัวเองได้ทั้งหมดหรอกค่ะ  มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ ที่รู้จักแยกแยะ ผิด ชอบ ชั่ว ดี นั่นทำให้เราต่างจากสัตว์เดรัจฉานนะค่ะ คิดให้ดี ๆ นะค่ะ คนที่คุณจะแย่งเขามาในวันนี้ ไม่กลัวว่าสักวันกรรมจะตามสนองเหรอค่ะ อาจจะมีคนคอยแช่งชีวิตรักของคุณให้ไม่มีความสุขก็ได้นะ  หรือ สักวันอาจจะโดนแย่งของรักไป จากคุณ : คนกาฬสินธุ์ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 08:53:19

ความคิดเห็นที่ 2 ความคิดเห็นที่ 1 อื้มมม ตอบได้ถึงพริกถึงขิงจริงๆครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 08:58:24

ความคิดเห็นที่ 3 "สาเหตุที่แต่งไวเพราะผมเห็นว่าแฟนคนปัจจุบันก็โอเคดีทุกอย่าง " "ผมไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งทีแรกเป็นเพื่อน.แต่นานวันกลับกลายเป็นคนที่ใช่"  เจอคนที่ 3  คุณจะมาตั้งกระทู้อีกไหมครับ ?  ผมคิดว่าคุณคงมีคำตอบของตัวเองอยู่แล้วใช่ไหมครับ. จากคุณ : ว่าวปักเป้า เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:05:49

ความคิดเห็นที่ 4 ความคิดเห็นที่ 3 555+ถามได้โดนใจจริงๆครับ ขอบคุณครับ   คงไม่มีคนที่3ครับ เพราะผมไม่ใช่นักรักหรือคนเจ้าชู้นะครับ ผมทำตัวดีมาตลอดเจอคนดีๆมากมายแต่ผมก็ยังเดินอยู่ในเส้นทางตัวผมเองครับ เพราะบอกตรงๆว่าผมไม่ได้บ้าผู้หญิง แต่ผมบ้าเรื่องอนาคตตัวผมเองมากกว่าครับ แต่คนนี้ทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไป ถ้าจะบอกว่ามันอาจเป้นความรู้สึกจากชาติก่อนเลยจะเชื่อไหมครับ...คงไม่เชื่อซินะครับ เพราะถ้าผมมองในมุมคนอื่นผมก็เห็นว่าไร้สาระเช่นกันครับ555+ แต่ขอบคุณครับ ผมชอบคำถามคุณจริงๆครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:12:59

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเราเลิกกับแฟนคนปัจจุบันได้ก็คงได้อ่ะคะ  ไม่มีพันธะกับใคร  แต่ถ้าหมายถึงการเป็นชู้(แม้จะทางใจ)ก็ คิดว่า อีก 40 ปีที่เหลือคงเป็น 40 ปีแห่งตราบาปและความละอายใจมากกว่าจะมีความสุข คนที่ใช่อาจไม่ใช่คู่ครองก็ได้นะ  แต่เขาเป็นมิตรแท้ของคุณ  เป็นที่พักใจ จากคุณ : คุณหนูขาวมณี เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:16:20

ความคิดเห็นที่ 6 ความคิดเห็นที่ 5 อื้มม ความคิดเห็นน่าคิดมากครับเป็นอีกมุมมองที่น่าสนใจเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:21:55

ความคิดเห็นที่ 7 อุ๊ย  เลือกยากแฮะ กับภรรยาคบกันนานไหมครับก่อนแต่ง เห็นเหตุผลที่แต่งแล้วมันชอบกลนะ แต่งเพราะไม่รู้จะรออะไร ไม่รู้ว่าภรรยาคุณแต่งด้วยเหตุผลเดียวกันหรือเปล่า  อีกเรื่องหนึ่งคือ เราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เราทำลงไป แต่ที่คุณให้เลือกนี่มันเลือกยากจริงๆ ปล การแต่งงานไม่ได้เป็นการเพิ่มชีวิตครอบครัวให้ยาวขึ้นนะครับ ขอเลือกข้อสองแล้วกันครับ เหตุผลที่เลือกเพราะยังไม่มีใครเลือก แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 09:26:20 จากคุณ : แสนสุขสมนั่งชมวิหค เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:22:52

ความคิดเห็นที่ 8 คงไม่มีใครสนับสนุนข้อสองหรอกมั๊ง...ผมก็ไม่.. จากคุณ : บ่มีหยังดอก..คนนอกสายตา.. (anirutstb) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:25:51

ความคิดเห็นที่ 9 " นิสัย มุมมอง ทัศนคติ ความคิดและอีกหลายๆอย่างมันเข้ากันมาก....ผม อยู่กับเขาแล้วผมสบายใจมาก ผมไม่ได้ต้องการคนที่เดินตามหลัง ผมต้อง การคนที่เดินเคียงคู่ คนที่สามารถเป็นคู่คิดผมได้ ตามความคิดผมทัน และ เป็นผู้ปลอบโยนที่ดียามผมล้ม ซึ่งเธอมีครบครับ  และที่สำคัญเราคิดและ รู้สึกเหมือน"  ก่อนจะให้เลือก ถามคุณก่อนว่า  ภรรรยาคุณไม่มี สิ่งเหล่านี้ในตัวเธอบ้าง เลยหรือคะ            แล้วภรรยาคุณผิดอะไรตรงไหน   เพราะตอนแต่งคุณ ก็บอกว่าเธอ โอเค แต่พอเจอคนใหม่ เธอไม่ โอเค แล้วหรอคะ    ให้เลือกจะเลือกข้อแรกค่ะ  เก็บความรู้สึกดีๆ เกี่ยวกับตัวเธอและคุณไว้ เถอะค่ะ แล้วหันกลับมามองภรรยา ที่ไม่รู้เรื่องราว กับความคิดของคุณ    ข้อสอง มันแห็นแก่ตัวมากไปหน่อยค่ะ จากคุณ : ป้าลายคราม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:32:56

ความคิดเห็นที่ 10   ตัดใจซะแล้วทำสิ่งที่ถูกต้อง...คุณแต่งงานแล้วและผู้หญิงคนใหม่ก็ใกล้ที่จะมีสามีแล้วเช่นกัน..มนุษย์ต่างจากสัตว์ประเภทอื่น ๆ ตรงที่มีความยับยั้งชั่งใจอย่าทำให้คนที่ไม่มีความผิดอะไรต้องมาเจ็บเพราะคุณถึง 2 คน จากคุณ : เตือนกันตรงๆ (ครูเนเน่) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:33:08

ความคิดเห็นที่ 11 ความคิดเห็นที่ 7 คบกันมา3ปีครับ....เรากันครับ...แต่พออยู่ด้วยกันทัศนคติไม่ตรงกันพอสมควรเลยครับ ผมพยายามปรับให้เข้ากันมา1ปีแล้ว...ซึ่งก็ได้ในระดับหนึ่งครับ....แต่ก็ถูกครับคนเราต้องมีความรับผิดชอบครับ...แต่ผมไม่มั่นใจว่าการที่ผมอยู่กับเขา...แต่ใจผมอยู่กับอีกคน มันจะเป็นการทำร้ายเขาทางอ้อมหรือปล่าว และการที่แฟนผมแต่งกับคนที่ไม่ได้รัก(แต่คบกันมานาน7ปี) แต่แต่งด้วยความผูกพันที่มี...แต่ใจเขาก็อยู่กับผม....มันจะเป็นการทำร้ายแฟนเขาทางอ้อมด้วยหรือปล่าว....ซึ่งมันบังเอินที่เราสองคนเหมือนกันจริงๆ เหมือนกันมาก เหมือนจนผมขนลุกเลยครับเล่าคงยาวนะครับ ซึ่งหากเขาแค่ชอบผม ผมคงไม่ลำบากใจที่จะเลือกเลย แต่เขากลับรักผมมากเท่าๆกับที่ผมรักเขามาก มักมากนะ อธิบายคงไม่มีใครเข้าใจ เอาเป็นว่ามันมากจนกรณีแม้นผมกับเขาไม่ได้คู่กัน แต่เราก็จะยังคงรักกันไปจนวันสุดท้าย แม้นชีวิตเราไม่ได้เป็นเส้นเดียวกัน แต่ก็ขอขนานกันไป เผื่อใครมีปัญหาอะไรก็จะช่วยกันได้...ไม่รู้น้ำน่ำไปไหมนะครับ แต่อยากบอกว่าแม้นเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ความรักนี้มันก็จะยังคงอยู่ครับ ผมมองว่ามันเป็นรักแท้ที่บริสุทธิ์จริงๆ จนผมเริ่มกลัวว่าสิ่งที่เราคิดว่าเราทำถูกโดยการทำสิ่งที่ถูก อาจเป็นการทำร้ายคนสองคนทางอ้อมหรือปล่าว....เหอะๆพอดีกว่าเริ่มยาวแล้วคนไม่เข้าใจจะมองว่าไร้สาระเพ้อเจ้อปล่าวๆ555+ คห6:การแต่งงานไม่ได้เป็นการเพิ่มชีวิตครอบครัวให้ยาวขึ้นนะครับ อื้มมครับเป้นคำพูดง่ายๆที่มีมุมมองมากๆครับ คือตอนนั้นผมอยากมีลูกเร็วๆครับ...ถ้ารู้ว่าคนนี้โอเคผ่าน....ทำไมต้องรอ....รีบสร้างครอบครัว สร้างอนาคต จะได้รีบๆมีอิสรภาพทางการเงินไวๆดีกว่า...(ความคิดตอนนั้นนะครับ อิอิ) จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:43:46

ความคิดเห็นที่ 12 ความคิดเห็นที่ 8 นั่นนะซิครับ....ก็คิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกันครับ 555+ ความคิดเห็นที่ 9 ครับมีครับ แต่ไม่ตรงกันครับ มุมมองในชีวิตมันต่างกันครับ เขาไม่ผิดครับ...รู้ๆอยู่ว่าคนที่ผิดคือผมครับ มุมมองคนเราเปลี่ยนไปตามอายุครับ เด็กมองว่าลูกกวาดโอเค วันรุ่นมองว่ารักกุ๊กกิ๊กโอเค ผู้ใหญ่มองว่าเงินโอเค วัยกลางคนมองว่าครอบครัวโอเค วัยชรามองว่าลูกหลายโอเค คนเราโตขึ้นความคิดก็เปลี่ยนครับ ดังนั้นความคิดคนที่มีประสบการณ์ในชีวิตคู่กับคนที่ไม่มีจึงต่างกันครับ และเลือกข้อ2ก็เป็นการเห็นแก่ตัวจริงๆครับไม่เถียงครับ 555+ ขอบคุณครับมุมมองผมเพิ่มมากเลยครับ ความคิดเห็นที่ 10 พูดอีกก็ถูกอีกแหละครับ 555+ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 09:54:04

ความคิดเห็นที่ 13   ดูคุณอารมณืดีขึ้นแล้วนะคะ ^^ จากคุณ : พิงคาน (พิงคาน) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 10:04:58

ความคิดเห็นที่ 14 ผมไม่เชื่อว่า จะมีแค่ ๒ คนครับ อีก ๑๐ ปี ผ่านไป เจ้าของกระทู้อาจจะมาตั้งกระทู้คล้ายๆกันอีก ว่า ไปเจอคนที่ใช่.... อีกคน เลิกกับเธอดีไหม เพื่ออนาคตอีก ๓๐ ปีที่เหลือ บลาๆๆๆๆ ปล. แฟนคุณคนปัจจุบัน ไม่ดีตรงไหนเหรอครับ คุณถึงอยากเลิกกับเธอ ถ้าคุณอยากเลิกกับเธอเพราะว่า อยากมีคนใหม่ ยินดีด้วยครับ คุณกำลังเข้าสู่โลกคนเจ้าชู้แล้วครับ (ถึงคุณจะปฏิเสธก็เถอะ) จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 10:10:49

ความคิดเห็นที่ 15   กลับมามองข้อดีของภรรยา ที่คุณเลือกเค้าแต่งงานด้วยบ้างสิคะ คุณลืมไปรึเปล่าคะ จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 10:15:41 A:113.53.70.43 X: TicketID:229775

ความคิดเห็นที่ 16 เคยแอบได้ยินพ่อสอนพี่ชายว่า จะแต่งงาน เลือกให้ดี เพราะพ่อจะจัดการให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อมีโอกาสเลือกคู่มาตลอดครึ่งชีวิต จะมารู้สึกว่าไม่พอใจทีหลังไม่ได้ และห้ามทิ้งภรรยาไปมีคนอื่นเด็ดขาด ถ้าเค้าไม่ได้ทำความผิดร้ายแรง ถ้าทำแบบนั้น พ่อถือว่าไม่ให้เกียรติพ่อกับแม่ในการไปสู่ขอ และที่สำคัญอย่าดูถูกผู้หญิง เมื่อตัวเองก็มีน้องสาวเป็นผู้หญิง อาจฟังดูโบราณ แต่เราซึ้งค่ะ รักพ่อจังเลย จขกท สู้ๆๆนะ ผ่านตรงนี้ไปให้ได้ แล้วชีวิตครอบครัวจะยืนยาว จากคุณ : แดดอ่อนอ่อน เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 10:25:36

ความคิดเห็นที่ 17 ความคิดเห็นที่ 13 ครับเครียดไปก็ไม่ได้อะไรนิครับ555+ ถ้าเครียดแล้วได้ตัง หรือเครียดแล้วแก้ปัญหาได้ผมจำทำครับ ความคิดเห็นที่ 14 555+เปรียบได้ดีนะครับ ผมเข้าใจความคิดคุณครับ เพราะผมก็เป็นคนอย่างคุณเหมือนกันครับ แถมอาจจะแรงกว่าด้วยซ้ำ ถ้าผมผ่านมาเจอกระทุ้นี้ผมอาจจะไม่มานั่งโพสให้เสียเวลาผมด้วยซ้ำ หรืออาจจะโพสว่ายังไม่หลุดพ้นจากวงจรณ์รักๆใคร่ๆ แต่...ต้องพอเจอกับตัวนี่รู้ซึ้งเลยนะครับ ชีวิตผมไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมีวันนี้ ไม่เคยคิดเลยจริงๆT^T ความคิดเห็นที่ 15 ครับ...เขาเป็นคนดีมากๆครับ...แต่ผมมันเลวเองเหอะๆ ขอบคุณครับที่เตือนสติ... ความคิดเห็นที่ 16 พ่อผมสอนว่าระวังพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น....เพิ่งเข้าใจครับเหอะๆ ขอบคุณครับที่คอยเอาใจช่วย อิอิ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 10:42:39

ความคิดเห็นที่ 18 มิน่าเล่า ผู้ชายถึงถูกผู้หญิงครหาว่าไม่รู้จักพอ เสียชื่อจริงๆ จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 10:58:21

ความคิดเห็นที่ 19 "ผมต้องการคนที่เดินเคียงคู่ คนที่สามารถเป็นคู่คิดผมได้ ตามความคิดผมทัน และเป็นผู้ปลอบโยนที่ดียามผมล้ม ซึ่งเธอมีครบครับ  และที่สำคัญเราคิดและรู้สึกเหมือนกัน" นี่แหละครับที่ผมต้องการเช่นกัน ผมกำลังอยู่ที่ทางแยกเช่นคุณ กลัวเหลือเกินที่จะต้องเจอตลกร้ายเช่นนี้ จะขอดูผลโหวดนะครับ จากคุณ : the chubby knight เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 11:10:38

ความคิดเห็นที่ 20 เอาแบบนี้คิดว่าถ้าได้หญิงคนที่ว่ามาเป็นภรรยา อยู่ๆ กันไปคิดว่าความคิดเห็นจะยังตรงกันเหมือนก่อนแต่งงานไหม ในอีก 2 - 5 ปีข้างหน้าจะรักกันดูดดื่มเหมือนตอนนี้ไหม  ถ้าคิดว่ายังจะรักกัน ความคิดเห็นจะยังตรงกันเหมือนตอนนี้ก็ลองดู  แต่ชีวิตมันจะลองผิด ลองถูกก็คงไม่ได้ ชีวิตก็แบบนี้แหละ มันก่อนแต่ง และหลังแต่งอะน่ะ  ก่อนแต่งรักกันดูดดื่ม หลังแต่งไปหมดรัก ก็อ้างเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ เข้ากันไม่ได้บ้างละ ความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างละ สารพัดเหตุผล ของคนอยากเลิก อยากทิ้งกัน เมื่อหมดรัก ก็หมดใจ  ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่ถ้าอยากจะได้หญิงคนใหม่มาเป็นภรรยา คู่ชีวิต แฟน หรืออะไรก็ตาม อยากให้จัดการเรื่องภรรยาคนปัจจุบันเสียก่อน จะเลิก จะหย่า ก็ต้องเลือกเอา อย่าควบสอง ยังไงมันก็ต้องมีคนเสียใจอยู่แล้ว จากคุณ : คนกาฬสินธุ์ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 11:10:51

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเข้าใจ จขกท. ครับ เพราะผมก็เคยเจอเหตุการณ์เดียวกัน  มันเลือกยากมากครับ ระหว่าง ข้อ 1 กับ ข้อ 2.  แต่สุดท้ายผมก็เลือกข้อ 1. ครับ  เหตุผลคือ 1. ภรรยาเราไม่ได้ทำผิดอะไร เค้าไม่ควรมาเสียใจจากการกระทำของเรา 2. ให้คิดถึงคนรอบข้างด้วยครับ  ไม่ได้มีกันแค่ 2 คนในโลกใบนี้ครับ  เพราะตอนจัดงานแต่งงาน พ่อแม่ ญาติ พี่น้อง แขก ก็มากันมากมาย 3. ถ้าเราทำตามใจต้วเองตอนนี้ ผมเชื่อแน่ว่าในอนาคตจะเกิดแบบนี้อีก เราต้องหยุดตั้งแต่ตัวเราไม่ให้เกิดแบบนี้อีกครับ สุดท้ายอยากฝากข้อคิดครับ ว่าภรรยาเราคือคนที่เราเลือกแล้ว อย่างน้อยก็ควรรับผิดชอบต่อกัน หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ ผมเข้าใจผู้หญิงมากๆ ครับ  ผู้หญิงนั้นอุทิศตนให้ความรักจิงๆ  ขนาดผมไปมีความรู้สึกดีๆกับคนอื่น เขาเสียใจมาก ร้องไห้ ฟูมฟาย แต่ยังไม่ว่าผมซักคำแถมไม่ได้บอกให้ใครรู้อีกกลัวว่าคนอื่นจะมองผมเป็นคนไม่ดี  ผมจึงได้รู้ว่ายังมีอีกคนที่รักผมมากขนาดนี้ แค่นี้ผมก็พอแล้วครับ  และผมจะรักภรรยาผมให้มากๆ ครับ  ยังงัยขอเป็นกำลังใจให้ จขกท. นะครับ จากคุณ : trionttt (trionttt) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 11:20:34

ความคิดเห็นที่ 22 ผมเล่านิทานเรื่องหนึ่งให้ฟัง เพื่อนๆคงรู้จัก เพลโต และ อริสโตเติล ดีนะครับ วันหนึ่งอริสโตเติลได้ถามเพลโตว่า ความรัก คืออะไร เพลโตจึงพาอริสโตเติลไปที่ตลาดแห่งหนึ่ง โดยเพลโตได้บอกอริสโตเติลว่า "เจ้าจงเดินเข้าไปในตลาด แล้วเลือกดอกไม้ที่คิดว่าสวยที่สุด มาให้ข้าดอกหนึ่ง แต่ข้อแม้คือ เจ้าจะหยิบได้เพียงครั้งเดียว และห้ามเดินถอยหลัง ข้าจะไปรอเจ้าที่ปลายทางออก" อริสโตเติล ได้เข้าไปในตลาด และพบดอกไม้มากมาย ทุกๆดอกดูสวยงาม ต่างๆกันไป ถึงแม้เขาจะเจอดอกที่เขาคิดว่าสวย แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจเลือก เพราะจะรู้ได้ไงว่าข้างหน้าจะไม่มีดอกที่สวยกว่า พอรู้สึกตัวอีกที อริสโตเติล ก็มาถึงท้ายตลาด และพบกับเพลโต โดยที่มือของเขายังคงว่างเปล่า ทันใดนั้น อริสโตเติลก็เข้าใจ ทันทีว่า ความรัก คืออะไร ยังไม่พอ อริสโตเติลถาม เพลโตผู้เป็นอาจารย์ต่อว่า "การแต่งงาน คืออะไร" เพลโตจึงพาอริสโตเติล ไปที่ป่าแห่งหนึ่ง แล้วพูดว่า "เจ้าจงเข้าไปในป่า แล้วเลือกต้นไม้ ที่เจ้าถูกใจที่สุดกลับมาปลูกต้นหนึ่ง เข่นกัน เจ้าห้ามเดินถอยหลัง จนกว่าจะได้ต้นไม้กลับมา" ครั้งนี้อริสโตเติลเดินเข้าป่าได้ไม่นาน ก็ได้ต้นไม้กลับมาต้นหนึ่ง เพลโตจึงถามว่า"ทำไมเจ้าจึงตัดสินใจ เลือกไม้ต้นนี้" อริสโตเติลตอบว่า "เพราะ ข้าคิดว่า ไม้ต้นนี้ไม่แข็งแรง หรือหนักเกินกว่าที่ข้าจะดูแล และไม่อ่อนแอถึงขนาดที่คนอย่างข้าจะดูแลได้" เพลโต ยิ้มให้กับ อริสโตเติล ด้วยความพอใจ ปล ผมฟังเรื่องนี้มากจากอาจารย์คนจีนที่ผมเคารพรักคนหนึ่งนะครับ ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 11:25:04 จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 11:23:26

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ kokuki ครับ ขอเข้ามาแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง โดยส่วนตัว ผมไม่เคยเสนอข้อคิดเห็นให้ครอบครัวใดแยกทางกันเลย ไม่ว่าจะสาเหตุใดๆทั้งสิ้น อย่างมากที่สุดคือผมอ่านเฉยๆ ไม่แสดงความคิดเห็นโดยการโพสต์ข้อความลงไป แต่กรณีของคุณ ผมรู้สึกแปลกใจมากกว่าที่คุณเปิดกระทู้แบบนี้ เพราะผมเห็นคุณแสดงความคิดเห็นที่กระทู้ U8682390 เรื่อง "เบื่อเมีย" มันเป็นคนละทิศทางกับกระทู้ที่คุณตั้งเลย ผมขอโทษล่วงหน้าถ้าผมเข้าใจผิดว่าเป็นบุคคล คนเดียวกัน อย่างไรก็ตามผมก็ยังไม่เห็นด้วยที่คุณที่จะแยกทางกันเพราะเหตุผลส่วนตัวแบบนี้  ลองคิดในมุมกลับกันนะครับ ถ้าเปลี่ยนเป็นภรรยาของคุณ ขอแยกทางกับคุณด้วยเหตุผลเดียวกัน คุณจะรู้สึกอย่างไร ทำไมคุณไม่ลองพยายามปรับเปลี่ยนโน้มน้าวภรรยาในปัจจุบันของคุณ ให้เป็นภรรยาในฝันของคุณดูล่ะครับ มันจะมีความสุขกว่ามั้ย? ขอโทษอีกครั้ง ถ้าข้อคิดเห็นผมเป็นการก้าวล่วง หรือล่วงเกินคุณไป จากคุณ : ว่าวปักเป้า เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 11:33:35

ความคิดเห็นที่ 24   เรื่องของเรื่องคือ ขาดสติ ความยับยั้งชั่งใจค่ะ ถ้ามีครอบครัวแล้ว ก็ไม่ควรเปิดโอกาส ไปศึกษาคนอื่นตั้งแต่แรก ... จากที่อ่านก็คงไม่ใช่รักแรกพบ เห็นปุ๊บรักปั๊บ ต้องใช้เวลาศึกษารู้จักรู้ใจกันพอสมควร ... จากคุณ : Little White bear (Little white bear) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 11:37:58

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิดเห็นที่ 18 โหววแรงแฮ๊ะ...ถ้าทำให้คิดเช่นนั้นขอโทษมากๆครับ ความคิดเห็นที่ 19 ครับ...ผมอยากรู้ว่าผลโหวจะออกมาอย่างไรเหมือนกับครับ 555+ กำลังคิดว่าจะ100%หรือไม่ครับ....ซึ่งคนหนึ่งที่โหวตข้อสองผมไม่ขอนับนะครับ เพราะโหวตด้วยเหตุผลไม่มีคนโหวตข้อ2 ความคิดเห็นที่ 20 อื้มมขอบคุณครับ ขอคิดชัดและบทสรุป ชัดเจนดีครับ ขอบคุณมากๆครับ ความคิดเห็นที่ 21 เหมือนกันจริงๆครับเหมือนกันมากครับ555+ แต่ผมมั่นใจอย่างเดียวว่าไม่มีข้อ3(สำหรับผมคนเดียวนะครับ) แต่สองข้อบนเป็นเหตุผลเดียวกันเลยครับ ส่วนข้อคิดเห็นนั้นเหมือนกันผมเลยครับ... ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณครับ เป็นนิทานที่เห็นภาพมากครับ.... ความคิดเห็นที่ 23 -ครับ...เป็นคนเดียวกันครับ.... -ถ้าแฟนผมไม่รักผม ก็...ต่างต่างอยู่ดีกว่าครับผมยอม แต่ผู้ชายกับผู้หญิงมันต่างกันพอสมควรนะครับ....ว่าไหมครับ.... -ก็ทำแล้วครับแต่....การสอนลิงให้เป็นลิง กับสอนแมวให้เป็นลิงมันต่างกันนะครับ ซึ่งผมก็พยายามอยู่ครับ.....และทัศนคติคนเรามันเปลี่ยนกันยากนะครับ.... -ไม่ถือว่าก้าวก่ายครับ ขอบคุณมากกว่าครับที่ช่วยให้คำแนะนำครับ.... -สาเหตุที่ตั้งกระทู้เพราะผมอยากรู้ความคิดเห็นคนอื่นบ้างนะครับ โลกทัศผมจะได้กว้างขึ้น ซึ่งก็เป็นไปดังที่คิดครับ มีคนให้คำแนะนำดีๆเยอะเลยครับซึ่งก็ขอบคุณมากๆครับ บางคนว่าว่าเหน็บแรงใช้ได้เลยครับแต่ผมก็ก้มหน้ารับอยู่แล้วครับไม่หนีไปไหนอยู่แล้วครับ เต็มที่ครับผมไม่โกรธเลย อิอิ ความคิดเห็นที่ 24 เรื่องนี้เป็นเรื่องบังเอินครับ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆครับ ผมรู้จักเขาผมออกตัวก่อนเลยครับว่าเราเป็นเพื่อนกันนะผมได้ได้จีบและไม่เคยคิดดังนั้นเรื่องพวกนี้เลิมไปเลยครับซึ่งตอนนั้นค่อนข้างชัดเจนนะครับ....แต่ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้นี่ครับ แต่เราสองคนก็ไม่เคยพูกันเพราะต่างคนต่างรู้จุดยืน...แต่ก็เหตุบังเอินเราดันรู้ใจกัน จึงรู้ว่าอีกผ่ายคิดเหมือนกัน...รู้ครับว่ามันผิด...แต่ผมยืนยันนะครับผมมีสติตลอดเวลา....ครับ... แต่ก็ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ เป้นประโยชน์มากครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 12:35:30

ความคิดเห็นที่ 26   "แต่ความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้นี่ครับ " ห้ามไม่ได้ แต่อย่าไหลไปตามมันสิคะ การไหลไปตามมัน ถึงได้สร้างปัญหาให้คุณ อยู่นี่ไง และ"การสอนลิงให้เป็นลิง กับสอนแมวให้เป็นลิงมันต่างกันนะครับ ซึ่งผมก็พยายามอยู่ครับ" ทำไมต้องอยากให้ภรรยาคุณเหมือนใคร (ในดวงใจ)ด้วยล่ะ อีกประเด็นนึง ถ้าเราเป้นแฟนคุณและรู้ จะไม่เหนี่ยวรั้งคุณไว้เลย เพราะแค่มีผู้หญิงอีกคนเข้ามาในชีวิต คุณยังไม่หนักแน่น ไปชอบเค้า มากกว่าที่คุณ จะมอบความซื่อสัตย์ให้ภรรยาคุณ ไม่รู้สิ เราว่ามันเป็นข้อหาหนักค่ะ บังเอิญและบังเอิญญญญญ เราว่าคุณเป็นคนไม่หนักแน่น และโลเลค่ะ (ถ้าเหตุผลทั้งหมดเป็นอย่างที่คุณเล่ามาเท่านั้น) ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ขอโพสต์อีกรอบค่ะ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:27:45 A:113.53.70.43 X: TicketID:229775

ความคิดเห็นที่ 27 อดีตก็คืออดีต ถ้าคุณเชื่อในเรื่องโชคชะตา เธอที่คุณว่าใช่ กลับไม่ใช่คู่ของคุณก็แปลว่า เขาไม่ใช่เนื้อคู่คุณ แฟนคนปัจจุบันคุณต่างหากล่ะที่เป็นคู่แท้ของคุณ แฟนคนปัจจุบันก็ดีไม่ใช่หรือ? ถึงมุมมองอะไรต่อมิอะไรจะไม่เท่ากับเธอคนนั้นก็เถอะ แต่เธอก็เป็นคนรักที่ดีของคุณ คุณจะทำร้ายเธอเพราะคุณอยากจะได้คนที่คิดว่าดีที่สุดงั้นหรือ? ไม่เอาน่า อดีตแล้วนะคะ คุณได้เลือกเธอเป็นคู่แล้ว ก็อย่าไปคิดอะไรแบบนั้นเลยดีกว่า เกิดคุณทิ้งแฟนคุณแล้วไปหาเธอคนนั้น แต่เธอคนนั้นดันไม่เล่นด้วย ก็จบอะ กลับมาตายรัง ดีไม่ดีแฟนคุณจะเป็นฝ่ายทิ้งคุณต่ออีก(ซะงั้น) ลืมอดีตเถอะ ปล่อยให้มันเป็นความรู้สึกที่ดีๆในหัวใจคุณคนเดียวดีกว่า ต่อท้ายอีกนิด เราว่าคุณจขกท น่าจะทราบคำตอบดีอยู่แล้วนะ ทำไมถึงอยากจะถามต่อล่ะคะ ว่าควรจะทำยังไง*-* ไม่ใช่ไม่เข้าใจหรอกนะ เราเองก็เคยรักคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนเหมือนกัน ถึงจะไม่มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันก็ตาม แต่เค้าก็เป็นคนที่ดีกับเรามากมาย คอยให้คำปรึกษาทุกอย่าง ก้คิดว่า"ใช่นะ"คนนี้ ถึงขนาดจะเลิกกับแฟนเลยทีเดียว(แฟนนี้คือฮันนี่ที่เราคบกันเฉยๆนะอิอิ) แต่พอมานั่งคิดดีๆ 1.รู้แก่ใจรักใครมากกว่า 2.แฟนเราไม่ได้ผิด เราผิดเองต่างหากที่ไปเข้าใจเขาผิด งอนไม่เ้ข้าท่า 55+ 3.ไม่อยากเห็นใบหน้าที่เสียใจของแฟน ก็เท่านั้นแหละ ยังไงก็ข้อ1ชัวร์ๆค่า แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 13:38:26 จากคุณ : หมูน้อยซ่าส์ เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:31:35

ความคิดเห็นที่ 28 คุณก็บอกภรรยาไปสิคะ  บอกไปตามตรงว่า ขอโทษนะ  เราเจอคนที่เราคิดว่าใช่แล้ว   ซึ่งก่อนเราแต่งกะเธอเราก็คิดว่าเธอก็ใช่เหมือนกัน แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว  เราเพิ่งรู้ว่าเธอ............. ทำให้เราไม่ค่อยมีความสุขซักเท่าไหร่  แต่เราก็ยังอยู่กะัเธอมาได้เรื่อยๆ เพราะความเคยชิน  ความรักอะไรเนี่ย  เรานึกไม่ออกแล้ว เป็นความซวยของเธอเองที่เราดันไปเจอสาวคนนึง ซึ่งเพอเฟคเหมาะกะเรามาก ซึ่งเราตอดกันไปตอดกันมาสักพักแล้วล่ะ  และตอนนี้เธอติดผมเรียบร้อยแล้ว เป็นไงล่ะ  เราเนียนมากใช่ไหม  เธอช่างไม่ระแวงเลยนะ ตอนที่เรารู้ตัวว่าคิดอะไรเกินเลยกะหญิงคนนั้น  เรายังไม่หยุดตัวเองเลย ปล่อยให้มันถลำไปเรื่อยๆ  เรื่องอะไรเราจะหักห้ามใจของเราล่ะ  มันเป็นสีสันในชีวิตเรา  ก็รู้อยู่ว่ามันเป็นโอกาสที่จะมีเมียใหม่  ใครจะหยุด เขาเข้าใจฉันมากกว่าเธอ  ที่มัวแต่เอาเวลาไปคิดเรื่องดูแลบ้าน ซักผ้า  ทำกับข้าว  จนลืมเรื่องเสน่ห์หญิงที่จะมัดใจฉัน เมียที่เพอเฟคของฉันน่ะ  ไม่ได้ให้มาดูแลบ้านหรืออาหารการกิน หรืออนาคตอะไรหรอก ฉันแค่อยากให้มานั่งคุย และเข้าใจ พูดอะไรฉลาดๆให้ฉันนับถือ  เกิดความประทับใจก็พอ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาทำหน้าที่เมียแทนเธอ ฉันก็ขอแค่ให้เขาฉลาด  ตามผมทันก็พอ  ส่วนอย่างอื่น  ผมไม่แคร์ ดังนั้นการที่คุณมีความดีอย่างอื่นมากมายไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นเมียคนโปรดของผมได้  เป็นได้แค่อดีตเมียเท่านั้น ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่าผมขาดเมียประเภทไหน ต่อไปนี้ผมจะยกย่องผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียแทน ส่วนคุณกลับไปร้องไห้กับแม่ที่บ้านละกันนะ  เพราะคุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าการที่ผมเลือกเขา  มันหมายถึงว่าผมไม่ได้เห็นใจคุณเลย ผมไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้  ไม่รู้จักพอนะครับ   คนพวกนั้นเขาทำเพราะเขาเลว  คิดไม่ได้ แต่ผมแค่เจอคนใหม่ที่ไฉไลกว่าจริงๆ  มันไม่เหมือนกัน คุณก็ดีอะนะ  แต่ผมว่าไม่เหมาะกะผมซะแล้ว อะไรนะ...... คุณว่าคุณจะปรับปรุงตัวเหรอ โถ่  เธอ  คนเรามันเปลี่ยนกันไม่ได้หรอก เหมือนรถยนต์นั่นแหละ  ถ้าอยากเปลี่ยนต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่เลย อันเก่าขายทิ้ง  ถึงจะผูกพันว่าใช้มานานต้องตัดใจสักพัก  แต่เก็บไว้จะได้ประโยชน์อะไร  เพราะผมไม่พอใจที่จะขับรถคันเก่าไปทำงานแบบทุกวันนี้   เข้าใจซักทีนะ เพราะผมเป็นคนดีและไม่เจ้าชู้ ดังนั้นผมจึงคิดหนักพอสมควรว่าจะเลือกใคร อ่าว...ผมก็ต้องคิดโดยยึดตัวเองเป็นหลักสิครับ  ถามแปลกๆ ผมถือว่าเมียนั้น  เป็นสิ่งที่จะบันดาลความสุขในชีวิตผมทั้งหมด ผมไม่สามารถมีความสุขจากปัจจัยอื่นได้ สมาธิผมจดจ่ออยู่แต่เรื่องเมีย การงาน  คำมั่นลูกผู้ชาย  สัญญิง  สัญญาอะไร  ไม่ได้มีความหมายกับผม คนอื่นอาจตีค่าไว้สูง  แล้วภูมิใจในชีวิต แต่ความสุขและความภาคภูมิใจของผมคือเรื่องผัวเมียครับ เพราะฉะนั้นผมต้องเปลี่ยน  เพื่อตัวผม อะไรนะ...... เออสิ  ผู้หญิงคนนั้นเค้ารักผมจะตาย  ขนาดเขากะลังจะแต่งงาน  เขายังกิ๊กกะผมเลย  เหมือนเป็นมาแต่ชาติก่อนเลยล่ะ  เขินจัง ถ้าผมเลิกกับคุณ  เขาต้องแต่งกะผมอยู่แล้ว เค้าไม่ดูเรื่องความรับผิดชอบหรอกครับ  เค้ามองผมดีเพราะเรื่องอื่นครับ เอาล่ะ  เราหย่ากันได้แล้ว  เดี๋ยวจะไม่ทันล้มเลิกงานแต่งของกิ๊กผม ........จบ........... รับรองเคลียร์มากเลยค่ะทุกอย่างที่คาใจกันอยู่ แต่ถ้า จขกท  อ่านแล้วว่า  บทสนทนานี้มัน:-)ๆ   ก็ทบทวนตัวเองอีกรอบละกันนะคะ จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:52:59

ความคิดเห็นที่ 29 คุณยังไม่ได้อยู่ด้วยกัน เราคิดว่าการที่ได้อยู่ด้วยกัน มาใช้ชีวิตด้วยกัน มันจะรู้ไส้รู้พุงกันหมด ถึงแม้คุณบอกว่าคนที่มาทีหลัง คุยกันเข้าใจหมดทุกอย่าง มากกว่าภรรยาตัวเอง แต่ไม่แน่ ถ้าได้มาอยู่ด้วยกัน คุณอาจจะเห็นข้อเสียของเธอมากกว่าก็ได้ กับการที่ได้คุยกัน ปรึกษากัน ยังไม่รู้ซึ้งกัน 100 % แล้วคุณไม่ชอบภรรยาคุณตรงไหนล่ะ เธอมีข้อเสียอะไร เราเชื่อว่าคนทุกคนมีข้อดีข้อเสีย คละกันไป เพียงแต่คุณยังรู้ไม่หมดกับคนนี้ต่างหาก สมมติว่าคุณได้เลิกกับภรรยาจริงๆ และได้อยู่กับคนนี้จริงๆ เธออาจจะมีข้อเสียมากกว่าภรรยาคุณก็ได้ คุณอาจจะต้องมานั่งเสียใจภายหลัง ถ้าภรรยาไม่ได้เลวร้ายอะไร และเธอไม่ได้ทำอะไรผิด ก็หยุดซะเถอะค่ะ หยุดสานต่อความสัมพันธ์ที่มากกว่าความเป็นเพื่อน ถ้าภรรยาคุณรู้เธอคงเจ็บน่าดู จากคุณ : ญ. เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:53:49

ความคิดเห็นที่ 30   อยากจะโหวด  แต่ไม่มี choice โดนใจ   จริงๆ  ก็แค่อารมณ์ชอบของใหม่    ที่ปฏิเสธว่าไม่ได้  หลง   ไม่ได้อยากได้แค่เซ็กซ์  แต่เป็นรัก     หรือเข้าใจว่าเป็นรัก ผู้หญิงคนนั้น  ดีตรงที่เข้าใจคุณ    ไม่เห็นดีเลยค่ะ   มีแฟนแล้วยังแอบกั๊กสามีคนอื่นเป็นกิ๊กอีก    โห...น่าหนีให้ไกล  แบบนี้เรียกทอดสะพานให้สามีคนอื่น    แล้วสามีคนอื่นก็ไม่ฉลาดพอจึงหลงลม ......แค่เกมตื้นๆ   อ้างว่า   ก็เราเปิดอก  เราเข้าใจกัน    ........   มารยาแบบนี้   ดิฉันก็เอามาเล่นบ่อยๆ   ดูผู้ชายมักมาก  แสดงตัว   ก็แค่นั้น    จริงๆ แล้ว   เค้าก็ไม่ศรัทธาคุณสักเท่าไหร่    ถ้าเค้าศรัทธา   รักจริง   เค้าคงไม่มีแผนแต่งงานหรอกค่ะ       ยังไง  เค้าก็รัก  คนนู้นมากกว่า    เลือกที่จะแต่งงานกับคนนู้น      แต่งเพราะเหตุผล...................ก็เป็นคำพูดที่เอาไว้ล่อให้สามีคนอื่น     มาหลงกลว่าเธออาภัพ  หลงรักเธอจริง...........    อะไรที่เธอทำกับคุณ    เป็นกิริยาที่น่ารังเกียจทั้งหมด   ทั้งการไปกินข้าว  จับมือ  ซบอก  ร้องไห้  คร่ำครวญ    เธอควรสำนึกและไปทำกับสามี  เอ๊ย  แฟนเธอ    มิใช่สามีคนอื่น   ถ้าเธอ   มีนะ    สำนึกอะ คำตอบที่อยากเลือกคือ   เลือกที่จะอยู่เฉยๆ   ในใจจะคิดอะไรก็คิดไป  แต่ชีวิตจริงต้องตั้งอยู่กับความเป็นจริงที่มี   มีงาน  มีครอบครัว  มีความรับผิดชอบ   ตลอดชีวิตการแต่งงาน   ต้องเจอแบบนี้อีกหลายครั้ง   เลือกคนใหม่ คุณก็จะเจอแบบนี้อีก    ชิวๆ    เอาแค่ชุ่มชื่นหัวใจแล้วตื่นมาพบความดีคนที่บ้านเหมือนเดิมดีกว่า ถ้าเฉยๆ   อีกไม่นาน   มันก็ผ่านไป   มองเห็นเธอคนนั้นก็เฉยๆ  ไปแล้ว    แต่ถ้าหลงลมไปกับอารมณ์ชั่วๆ  เอ๊ย  อารมณ์ชั่ววูบ   คุณก็จะสูญเสีย    อย่างไม่มีวันหวนคืน คำตอบคือ   อยู่เฉยๆ   อยากทำอะไรกับเธอผู้มีชู้คนนั้น    ก็เอามาทำกะภรรยา    อยากกอด  ก็มากอดภรรยา  อยากหอมอยากทำดี  ก็มาทำดีกับภรรยาแทน    แล้วสิ่งดีๆ  ก็จะกลับมาหาคุณ     ไม่ใช่หงุดหงิดใส่ภรรยา   มาออเซาะกิ๊ก    ไม่กี่วันอารมณ์พวกนี้ก็ผ่านไปแล้วล่ะค่ะ   เข้มแข็งหน่อย     ถามคุณสามีที่มีประสบการณ์เยอะๆสิ    เจออีกหลายครั้ง    แบบนี้ จากคุณ : ...ญ.หญิง...เจ้าเล่ห์.. (น้องหญิงอนัตตา) เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 13:59:31

ความคิดเห็นที่ 31 สมมุติว่า ถ้าเราเป็นภรรยาคุณมาเห็นข้อความเหล่านี้เข้า เราชวนคุณหย่าเลยนะ รับไม่ได้หรอกที่จะอยู่กับเราแต่ตัว หัวใจเป็นของคนอื่น ใครคิดไงไม่รู้ แต่เราว่า คุณควรบอกเธอตามตรง และปล่อยเธอไป(พร้อมค่าเลี้ยงดู) เพื่อเธอจะได้เจอกับคนที่รักเธอจริง รักเธอทั้งตัวและหัวใจ ส่วนคุณ อาจจะโชคดีที่แฟนคนใหม่อาจจะสลัดคู่หมั้นของเธอ มาหาคุณ หรือเธออาจแต่งกับคู่หมั้น แล้วปล่อยให้คุณ แห้งเหี่ยวเป็นชู้ทางใจไปตลอดกาล เราว่าคุณกับเพื่อนสนิทของคุณคนนี้ มีอย่างนึงที่เหมือนกันจริงๆแหละ คือโลเล โอนไปเอนมา ไม่ทำอะไรให้เด็ดขาด แต่ ให้ตายเถอะ สงสารภรรยาคุณจัง ปล่อยเธอไปเถอะค่ะ อายุยังน้อย ลูกเต้าก็ไม่มี ยังเริ่มใหม่ได้ อย่าให้เธอมาติดแหง็กอยู่กับผู้ชาย หัวใจโลเลอย่างคุณเลย มันไม่แฟร์ เธอควรได้เจอกับผู้ชาย ที่มีหัวใจหนักแน่นกว่านี้ ปล. อายุเพิ่ง28 อย่าเพิ่งบอกว่าจะไม่มีใครอีก ไว้อายุ50 ค่อยมาตั้ง กระทู้ใหม่ จากคุณ : Fly away home เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:10:38

ความคิดเห็นที่ 32   ...คุณ..ทำให้นึกถึงอดีตคู่หมั้นคู่หมาย นึกถึงวันที่เขาจะไปกับน้องคนนั้น โซ่ล่ามช้าง ก็รั้งไว้ไม่อยู่ อดีตคู่หมั้นของดิฉัน มานั่งร้องให้น้ำตานองหน้า ขอให้ดิฉันปล่อยเขาไปมีอนาคตกับน้องคนนั้น เขาพูดเหมือนคุณเลยค่ะ น้องคนนั้นมีในส่วนที่เขาหาไม่มีวันเจอจากดิฉัน น้องเขาช่างเอาใจ เข้าอกเข้าใจ อ่อนหวาน ...ดิฉันมาจากครอบครัวค้าขาย วันๆยุ่งแต่กับงานที่บ้าน กับร้านที่เพิ่งเปิดของดิฉันกับเขา ซึ่งแต่ก่อนเขารักที่ดิฉันเป็นแบบนี้ เขาบอกว่าเขามาจากครอบครัวข้าราชการ ดิฉันมาเติมเต็มในส่วนที่เขาขาด ...10 กว่าปีผ่านมาแล้วค่ะ เขากับน้องคนนั้น ต่างคนต่างไปมีอนาคต เป็นของตัวเอง หลังจากใช้ชีวิตคู่กันได้แค่ 2 ปี อายุงานน้องคนนั้น คนที่ใช่สั้นจนน่าใจหาย แต่ปัจจบันนี้เขาเจอคนที่ใช่คนที่สามแล้วค่ะ เป็นผู้หญิงที่เพื่อนๆรอบตัวเขาบอกว่า มีส่วนคล้ายดิฉันเป็นอย่างมาก จากคุณ : ออม เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:38:33 A:81.243.103.23 X: TicketID:064840

ความคิดเห็นที่ 33 คุณอาจจะมองว่าความรักของคุณกับเธอคนนั้นที่ไม่ใช่ภรรยาของคุณ ขอย้ำค่ะว่า เธอคนนั้นที่ไม่ใช่ภรรยาของคุณ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ แต่ในมุมมองของคนนอกอย่างเรา กลับมองว่า มันไม่ใช่ค่ะ มันเป็นความรักฉาบฉวยที่มีแรงผลักดันรุนแรงในความต้องการครอบครองเป็นเจ้าของซึ่งกันและกัน จนจวนเจียนที่เส้นศีลธรรมจะขาดลงแล้วล่ะค่ะ (ต้องขอโทษ...ถ้าคำพูดจากใจมันแรงเกินไปนะคะ) ความรักที่คุณกับเธอคนนั้นที่ไม่ใช่ภรรยาของคุณมีให้แก่กันนั้น....ไม่ผิดหรอกค่ะ สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคนบนโลกบนนี้ แต่กาละเทศะ...หรือ...ความเหมาะสมของความรักที่เกิดขึ้นต่างหากล่ะคะ ที่ทำให้มนุษย์บนโลกนี้...แปรผันชีวิตตัวเองด้วยความรัก...ไม่เหมือนกันค่ะ ความรักที่ถูก ต้องเกิดขึ้นอย่างถูกที่ ถูกเวลา ถูกโอกาสด้วยค่ะ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนค่ะ...อีก 40 ปีที่เหลืออยู่ของคุณ อาจจะเป็นเช่นไรก็ได้.... คุณกำลังมองแต่มุมของตัวเอง ลองมองในมุมของภรรยาคุณ แฟนของเธอคนนั้นที่กำลังจะแต่งงานกันปีหน้าตลอดจนครอบครัวของคุณและภรรยาคุณ รวมถึงคนใกล้ชิดและครอบครัวเธอคนนั้นด้วยดีมั้ยคะ เชื่อว่า...ไม่มีใครรับทราบเรื่องราวเหล่านี้นอกจากคุณและเธอสองคนใช่มั้ยคะ จากคุณ : พะยูนอ้วน เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 15:58:18

ความคิดเห็นที่ 34 ง่ายๆ คุณกำลังนอกใจภรรยา อย่าเอาเหตุผล 108 มาอ้าง   อยากให้คุณตัดใจค่ะ ภรรยาของคุณไม่ได้ผิดอะไร ถ้าคุณเลือกข้อ 1 ถ้าคุณเลือกข้อ 2 แน่ใจหรือว่า อีก 40 ปีข้างหน้าจะมีความสุข อาจจะสุขช่วงแรกๆ แต่คุณก็ได้ชื่อว่า นอกใจภรรยา และ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้ ชื่อว่านอกใจแฟนตัวเองเหมือนกัน เขากำลังจะแต่งงานคิดว่าคงคบมานาน แล้ว แน่ใจนะว่าต่อไปในอนาคตคุณ จะไม่คิดเรื่องนี้ แล้วอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข เพราะเราเชื่อว่า คนเราต้องรู้สึก ผิด ชอบ ชั่ว ดี  แต่จะคิดได้เมื่อไหร่เท่านั้น จากคุณ : พาไล เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 16:05:13

ความคิดเห็นที่ 35 "ผมต้องการคนที่เดินเคียงคู่ คนที่สามารถเป็นคู่คิดผมได้ ตามความคิดผมทัน และเป็นผู้ปลอบโยนที่ดียามผมล้ม ซึ่งเธอมีครบครับ  และที่สำคัญเราคิดและรู้สึกเหมือนกัน" ตอนคุณตัดสินใจแต่งงานกับภรรยา เธอไม่มีสิ่งเหล่านี้เหรอคะ เราไม่ได้จะกวนนะคะ แต่สงสัยจริง ๆ ว่าเหตุผลในการแต่งงานของคุณคือ เธอก็ "โอเค" แค่นี้เหรอคะ สมมุติ คุณเลิกกับภรรยาแล้วไปแต่งงานใหม่กับเพื่อนสนิทที่คุณบอกว่าเธอมีทุกอย่างที่คุณต้องการ..เนี่ยแหละใช่เลย  แต่แล้ววันนึงคุณก็พบว่าเธอไม่ใช่คนที่ใ่ช่ของคุณอีกต่อไปแล้ว ถึงตอนนั้นคุณจะทำอย่างไรคะ อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ขอให้คุณโชคดีในการตัดสินใจของคุณค่ะ จากคุณ : หมูน้อยอ้วนพี เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 16:18:52

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าสมมติ เลือก ข้อ 2 แล้วสำเร็จ แต่งงานกันไป อีก ปีสองปี จะไม่เจอคนที่ใช่กว่า หรือค่ะ จากคุณ : Glot^Gofe เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 16:20:06

ความคิดเห็นที่ 37 แฟนคุณปัจจุบัน ทำนิสัยอะไร ที่มันแย่ แล้วคุณรับไม่ได้บ้าง ลองเอากระดาษมาเขียน ซิจะได้กี่ข้อ หลังจากเขียนแล้วให้กลับไปตอบแต่ละข้อ นิสัยที่แย่ของแฟนคุณ ขนาดเลิกกันเลยหรือ เพียงเพราะคุณมีคนใหม่อีกคน ปล ผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงาน และมาแอบมีใจให้กับสามีชาวบ้านที่แต่งงานแล้ว   เราว่าก็ไม่ใช่ว่าเธอจะดีในสายตาคนอื่นหรอก แต่คงดีในสายตาคุณ เพราะคนที่นิสัยเดียวกัน เข้ากันได้เท่านั้น ถึงจะเกิดมีใจกันแบบนี้ เราโหวต ข้อ 1 ต้องขออภัย ที่ความเห็นเราอาจทำให้คุณรู้สึกแย่ เพียงเพื่อต้องการให้คุณไม่หลงผิดไป จากคุณ : onlycat เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 16:43:10

ความคิดเห็นที่ 38 คุณฝ้ายเอาไป ๓ แต้มมมมม จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 16:46:36

ความคิดเห็นที่ 39   ชีวิตเป็นของคุณเลือกเอา อยู่กันมา 30ปี ยังเลิกกันได้ ไม่แปลก ทนไปก็เท่านั้น จากคุณ : teerawut99 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 17:39:56

ความคิดเห็นที่ 40 ความคิดเห็นที่ 26 ครับ...ขอบคุณครับ ความคิดเห็นที่ 27 เป็นมุมมองที่น่าสนใจทีเดียวครับ ความคิดเห็นที่ 28 สุดยอดดดด สุดยอดมากๆครับ เจ็บลึกทุกบรรทัดครับ555+ ขอบคุณมากๆครับ อย่างที่ คห.38บอก เอาไปเลย3แต้มครับ ความคิดเห็นที่ 29 ครับผม..ถูกครับ ความคิดเห็นที่ 30 ครับ...ผมคิดว่าผมไม่ได้หลงนะครับ อิอิ ความคิดเห็นที่ 31 อื้มมม ผมก็คิดอย่างนั้นแหละครับ....ต้องระวังซะแล้วเหอะๆ ความคิดเห็นที่ 32 555+ เข้าใจครับ ผมก็เคยเห็นมาเยอะครับกรณีนี้ ความคิดเห็นที่ 33 ครับ..ใช่ครับ...ขอบคุณครับ...รับรู้ความรู้สึกได้เลยครับ ความคิดเห็นที่ 34 555+ครับ ขอบคุณครับ โดนใจมากๆครับ 108 1009 ความคิดเห็นที่ 35 ครับ..ขอบคุณครับที่ช่วยแสดงความคิดเห้นครับ ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ครับ...เพราะถ้าผมเลือกข้อ2 นี่ก็เป็นเป็นเรื่องที่ผิดมากๆแล้วนะครับ คงไม่ทำผิดซ้ำ2ชัวร์ และคนเรา....มันไม่มีใครอยากเป็นไม่ดีหรอกครับ ความคิดเห็นที่ 37 ครับขอบคุณครับที่เป็นห่วง แต่ผมรับได้กับความรู้สึกและสิ่งที่จะมีคนโพสมา ตั้งแต่ก่อนตั้งกระทุ้แล้วครับ...อิอิ ความคิดเห็นที่ 38 เฮ้ออคนสุดท้าย 555+ ครับผมดันเผลอกด1แต้มไป ตามไปกด3แต้มใหม่ไม่แน่ใจจะได้ไหม แต่คุณฝ้ายนี่....ขั้นเทพจริงๆครับ 555+ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 17:42:34

ความคิดเห็นที่ 41   ดิฉันแนะนำให้เลิกกับภรรยาไปเลยค่ะ แล้วไปแต่งงานกับคนที่ใช่ เพราะคุณกับกิ๊กเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก มีทัศนคติตรงกัน ที่สำคัญมีความคิดและรู้สึกเหมือนกัน ในขณะที่คนนึงมีภรรยา อีกคนก็กำลังจะแต่งงาน แต่รักกันสุดหัวใจ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ราวกับเป็นคู่กันมาแต่ชาติปางก่อน จะรอช้าอยู่ไย เลิกกับคนเก่าทั้งคู่ แล้วมาแต่งงานกัน ต่อไปถ้าต่างคนต่างเจอคนที่ใช่อีก ก็ไม่มีปัญหา สามารถเลิกกันได้โดยไม่ต้องอธิบายมาก เพราะความคิดความรู้สึกเหมือนกัน ย่อมเข้าใจกัน คนแบบนี้หายากนะคะ รีบๆ หน่อย ปล. ไม่ต้องไปห่วงว่าภรรยาปัจจุบัน กับค่หมั้นของแฟนใหม่คุณจะเสียใจ ดิฉันเชื่อว่า หลังจากเลิกกับคุณแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ของเค้าต้องมีความสุขกว่าอยู่กับคุณแน่นอน จะให้เค้าทนคุณไปอีกตั้ง 40 ปี เชียวหรือ ไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ จากคุณ : นึกไม่ออก เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 18:51:56 A:125.27.128.104 X: TicketID:217515

ความคิดเห็นที่ 42 ความคิดเห็นที่ 39 อื้มมม เป็นความคิดเห็นที่แตกต่างดีครับ ขอบคุณมากครับ ความคิดเห็นที่ 41 555+แรงใช้ได้ครับ เจ็บจี๊ดขึ้นสมองเลยครับ ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 19:13:42

ความคิดเห็นที่ 43 เลือกยากครับ ดันแต่งงานแล้วนี่สิ ประเด็นที่ผมคิดนะ มันจะเป็นเรื่องความไว้ใจในอนาคตครับ ถ้าคุณเลิกกับภรรยาแล้วคบกับกิ๊ก อนาคตกิ๊กคุณจะไว้ใจคุณเหรอครับ แล้วคุณไว้ใจกิ๊กเหรอครับ เค้ากำลังจะแต่งงานนะ เค้าจะไม่ทำกับคุณเหมือนเค้าทำกับแฟนเหรอครับ ผมก็อยากเลือกข้อ2 แต่ศีลธรรมมันค้ำคอไว้ แต่ถ้าอยู่กันแบบนี้เหมือนติดคุกน่ะ ใจคุณมันไปหมดแล้ว อยู่กันแบบซังกะตาย ยิ่งถ้าแฟนคุณเริ่มระแคะระคาย ผมว่ายังไงก็เลิกกันอยู่ดี งงๆหน่อยนะครับ จากคุณ : nanut เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 19:55:06

ความคิดเห็นที่ 44 โหวดไปข้อ1ค่ะ อยากจะบอกว่าถ้าคุณไม่หยุดความคิดแบบนี้คุณก็เป็นแบบนี้อีกเมื่อเจอคนที่ใช่คนต่อไป แล้วอีกอย่างผู้หญิงคนนั้นก็กำลังจะแต่งงานกำลังจะมีครอบครัวแต่กลับคิดเหมือนกับคุณอีก โอ้ เวรกรรม! แบบนี้ที่เค้าเรียกว่าไม่พอหรือป่าวค่ะ เหมาะสมกันจริงๆ เห็นด้วยกับความเห็นที่ 41อยากจะให้กิ๊ฟมากแต่ใช้บัตรผ่านซะนี่ ปล. ขออภัยนะคะถ้าความคิดเห็นรุนแรงไปค่ะ แก้ไขเมื่อ 22 ธ.ค. 52 20:45:10 จากคุณ : Nana_5917 เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 20:42:29

ความคิดเห็นที่ 45 ข่มใจเอาไว้ครับ บางทีอาจเป็นแค่ความอ่อนไหว จากคุณ : deemakak เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 23:05:40

ความคิดเห็นที่ 46   เป็นผม คงเลือกข้อ 2 คับ ชิวิต เรามีครั้งเดียว มันผิดด้วยหรือที่เราเลือกสิ่งที่เราคิดว่าดีแก่ชิวิต คนอื่นไม่ได้อยู่กับเราทั้งชีวิต นะคับ การแต่งงานก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแค่นั้น ไม่ใช่การผูกมัดว่าต้องอยู่ด้วยกันตลอดไป เราแค่ถอยออกมาเพื่อเริ่มต้น อย่าเอาชีวิตผูกมัดกับความคิดของคนอื่น ชีวิตเรา เราควรเลือกเองคับ และพร้อมยอมรับผลกรรมที่จะตามมา ปล หวังว่า จขกท คงคิดว่ามาจากความรู้สึกจิงๆ ไม่ใช่แค่อารมณ์อ่อนไหว จากคุณ : Vetkoh เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 00:30:48

ความคิดเห็นที่ 47   ไม่รู้ทำไมอะ เราอ่านกระทู้นี้จบแล้ว เรารู้สึกหงุดหงิดมากอะ พออ่านจบแล้ว ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในสมอง คือ "คุณงี่เง่ามากเลยอะ" เลิกๆ ไปเถอะค่ะ กับภรรยาคุณอะ เราก็ไม่รู้นะ ว่าคุณจะมาตั้งกระทู้ถามทำไม ในเมื่อตัวคุณเอง ได้คำตอบตั้งแต่ก่อนตั้งกระทู้แล้วนี่ ทิ้งภรรยาคุณไปเถอะค่ะ อย่ายื้อเค้าไว้ ให้เค้า "เสียเวลา" และ "เสียโอกาส" ในชีวิตมากไปกว่านี้เลย สงสารเค้ามากๆ ไม่ต้องคิดถึงความรู้สึกของเค้าหรอกค่ะ ต่อให้ทุกๆ คนในนี้บอกว่า อย่าเลิกกับภรรยาคุณเลย เลิกกับกิ๊กคุณเหอะ คุณจะทำเหรอคะ?? ใจคุณไม่อยู่กับเค้าแล้วอะ จะมานั่งถามคนอื่นเค้าทำไม ไม่เข้าใจ!! จากคุณ : LucKy_RiN เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 01:03:04

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่ทราบว่าความรู้สึกตอนนี้เป็นความรู้สึกชั่งใจอยู่ว่าใครดีกว่ากัน หรือ เป็นความรู้สึกว่าคนใหม่ดีกว่าเหลือล้ำ ถ้าชั่งใจอยู่ผมว่าอยู่กับภรรยาเถอะ ของสองอย่างดีพอกันก็ควรใช้อันที่มันคุ้นเคย เพราะมันถนัดกว่า ใช้งานมาแล้วก็ไม่มีปัญหาด้วย ถ้าเป็นความรู้สึกว่าคนใหม่ดีกว่าเหลือล้ำ ผมว่าคุณเลิกกับภรรยาคุณดีกว่าครับ ไม่ใช่ว่ามันเห็นแก่ตัว เพื่ออีกสี่สิบปีข้างหน้าของเราอะไรนะครับ แต่เพราะคุณไม่มีคุณสมบัติที่จะทำให้ภรรยาคุณมีความสุขแล้วหละ คุณอยู่ไปก็ไม่มีความสุข ภรรยาก็ไม่มีความสุข ดูจากอายุของคุณ ผมเดาว่าภรรยาก็คงอายุพอๆ กัน ก็ปล่อยเค้าไปมีคนใหม่เถอะครับ ผมว่าเค้าก็คงหาคนใหม่ได้ไม่ยาก จากคุณ : Toey84 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 08:40:15

ความคิดเห็นที่ 49 ขอเล่าเรื่องของคนที่เพื่อนๆเรียกกันว่ากิ๊กหน่อยนะครับ...เขาเจอผู้ชายหักอกเมื่อ7ปีก่อน...แฟนเขาเข้ามาณ.วันนั้นพอดีแล้วบอกว่าคบกับเราได้ไหมผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอย่างนี้....เขาพูดว่าได้...แต่ไม่ได้รักนะ....มันเป็นเหมือนการประชดชีวิตตัวเองและคบกับคนที่เขาไม่ได้รักมา7ปี แต่แม้น7ปีนี้เขาจะไม่ได้รัก...แต่มันก็มีความผูกพัน....จึงทำให้เขาสองคนคิดจะแต่งงานกัน...แต่ใจของผู้หญิงคนนี้ก็ไม่เคยลืมผู้ชายที่ทิ้งเขาไปเมื่อ7ปีก่อนเลย....ซึ่งผมเข้ามา...รู้จักกับเขา...และเริ่มสนิทกับเขา...และรู้เรื่องของเขา....ผมแนะนำให้เขาไปเคลียร์กับแฟนเก่าเขา เพราะเขาสองคนอยู่ในเครือญาติกันเจอกันบ่อยแต่ไม่มองหน้ากัน ผมอึดอัดแทน....แต่เมื่อเราคุยกันเรื่องเคลียร์กับแฟนเก่าเขา...มันทำให้เราเปิดใจกันมากขึ้น...จนวันหนึ่งเรารู้ใจกันและกัน....แต่มันดันผิดแต่ต้น...ผิดที่ตัวผมเอง...ที่ผมไม่ได้บอกเขาแต่ต้นว่าผมมีแฟนแล้ว  ดังนั้นผมถือว่าเรื่องนี้ถ้าจะผิดผมผิดคนเดียวนะครับผู้หญิงคนนี้ไม่เกี่ยวเลยครับ....ถ้าจะว่าก็ว่าผม...ด่าผม...เอาเลยครับเต็มที่...เพราะผมเปิดกระทู้นี้มาจุดประสงค์หนึ่งก็เพื่อมานั่งรับฟังพวกเพื่อนๆอัดใส่ผมอยู่แล้วครับ....แต่ขอร้องอย่าว่าผู้หญิงคนี้เลยครับเขาไม่เกี่ยวครับ......     ความคิดเห็นที่ 43 เรื่องความไว้ใจสำหรับเสองคนผมคิดว่าไม่มีปัญหาครับ.... ส่วนเรื่องศีลธรรม....สิ่งนี้แหละครับที่มันคอยเตือนผมตลอด แม้นด้วยคอนเซปการดำเนินชีวิตผมไม่แคร์เรื่องนี้ก็ตามเพราะผมมองว่าประเทศไทยก็เป็นเพียงชนเผ่าหนึ่งของโลกเท่านั้น และมนุษย์เราก็ไม่ได้วิเศษไปกว่าสัตว์เลย....เราแค่คิดไปเอง อุปมาอุปมัยไปเองเท่านั้น....เราก็ยังอยู่ในกฏธรรมชาติเหมือนสัตว์ทุกตัว....แต่นี่ก็ความคิดในแง่มุมหนึ่งของผมนะครับ...แต่หิริโอตะปะก็ยังอยู่ในใจผมเสมอ.... ความคิดเห็นที่ 44 ครับ...ขอบคุณครับ...ไม่แรงไปครับ ก่อนผมตั้งกระทู้ผมคิดว่าจะเจอหนักกว่านี้ด้วยซ้ำครับ...ถ้าผมใส่หน้ากากของคนดีผมคงวิจารณ์ตัวผมเองแรงกว่านี้เยอะครับ...แต่วันนี้...ณ.ที่กระทู้นี้...ผมขอถอดมันออก....เพื่อเปิดโลกทัศน์ของความคิดผมให้กว้างกว่าเดิม...ขอบคุณครับ ความคิดเห็นที่ 45 ครับ...แต่ผมว่าเรื่องนี้...สำหรับผม...มันมากกว่าความอ่อนไหวครับ แต่ก็ขอบคุณครับที่เตือนสติ...เพราะตอนนี้ผมก้ยังไม่อยากถอดหน้ากากของคนดีซักเท่าไหร่....เรื่องของเรื่องยังอยากเป็นคนดีอยู่นะครับ ความคิดเห็นที่ 46 สุดยอดครับ...คุณมีความคิดประเภาทเดียวกับผมเลยครับ 555+ (แต่ความคิด....กับการกระทำ....อาจไปคนละทางก็ได้นะครับ....) ขอบคุณครับ...อีกสาเหตุหนึ่งที่ผมตั้งกระทุ้เพื่อจะดูว่าจะมีคนอย่างคุณหรือปล่าวครับ....ยินดีที่ได้รู้จักครับ อิอิ ความคิดเห็นที่ 47    หงุดหงิดเลยหรอครับ.....ผมงี่เง่าหรอครับ? คุณเป็นคนแรกนะครับที่ว่าผมงี่เง่า555+ แต่ขอบคุณมากๆครับ คุณหงุดหงิดก็แสดงคุณยังเห็นผมอยู่ในสายตา แต่ผมก็ขอโทษจริงๆครับที่ทำให้คุณหงุดหงิด เอาเป็นว่าอย่าคิดมากเลยครับ....ไม่อยากให้ใครมาหงุดหงิดในกระทุ้เท่าไหร่นะครับ เพราะผมเห้นบ่อยกระทู้ที่มีคนทะเลาะกัน...ด่ากัน...โดยส่วนตัวแล้วผมไม่เคยทะเลาะกับใครครับและไม่ชอบด้วยครับ....   เอาเป็นว่าผมอยากให้คิดว่าณ.ที่แห่งนี้เป้นการระดมความคิดความรู้สึกมันคือมวลชน ดังนั้นเราต้องเจอคนที่ความคิดเห็นแตกต่างจากเราโดยสิ้นเชิงในนี้แน่นอน ถ้าเรามันไปหงุดหงิดที่คนอื่นเขาทำอะไรไม่ได้ดั่งใจชีวิตเราจะไม่มีความสุขปล่าวๆนะครับ...แต่ก้ขอบคุณมากๆที่หงุดหงิดใส่ผมเพาะผมถือว่าคุณเป้นห่วงผม...ขอบคุณครับ    ขอโทษนะครับ...."เราก็ไม่รู้นะ ว่าคุณจะมาตั้งกระทู้ถามทำไม ในเมื่อตัวคุณเอง ได้คำตอบตั้งแต่ก่อนตั้งกระทู้แล้วนี่" คุณรู้คำตอบผมหรอครับ...ขนาดผมยังไม่รู้เลย555+ ผมเป็นคนมองทุกอย่างในโลกเป้นสีเทานะครับไม่มีขาวไม่มีดำ ไม่มีดีแท้จริง และเลวแท้จริง ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสียเสมอนะครับ....ดังนั้นถ้าคนส่วนมากโหมความคิดแนวนี้ ผมก็ต้องเป็นผู้เสนอแนวคิดแนวนี้เพื่อให้มันแย้งกัน เราจะได้เข้าใจข้อดีแล้ข้อเสียให้ลึกซึ้งและชัดเจนขึ้น....    ตอนนี้แม้นคำตอบที่มีผมจะยังไม่ชัดเจน....แต่คำตอบในใจผมก็มีแล้ว...แต่ผมก็ยังไม่ได้บอกใครเท่านั้นเอง....และผมก็ไม่คิดว่าจะตัดสินใจตอนนี้ ผมขอเวลาประมาณกลางปีหน้า ให้ความคิดผมมันชัดเจนและนิ่งกว่านี้ก่อน...ซึ่งผมเชื่อว่าถ้าถึงเวลานั้น....ผมอาจไม่ต้องคิดเลยก็ได้.... จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 08:56:40

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดเห็นที่ 48    คนใหม่ไม่ได้ดีกว่าครับ.....แต่เขาเหมาะสมกับผมมากกว่าหลายๆอย่างมันเข้ากันได้อย่างลงตัว มันเหมือนจิ๊กซอลอีกชิ้นที่รอผมอยู่....มันมากกว่าใคร่ความหลง....แต่มันเป็นชีวิตครอบครัวที่ลงตัวเมื่ออยู่กับเขา(คงไม่เข้าใจซินะครับ555+)    ตอนนี้ผมไม่ได้ชั่งใจระหว่างสองคน....แต่ผมชั่งใจว่า....ผมควรที่จะเลือกเป็นคนดี....หรือเลือกชีวิตในอนาคตที่มีความสุขกว่า....ผมชั่งใจว่าผมควรจะสำหรับเรื่องนี้....ผมควรจะถอดหน้ากากของคนดีหรือไม่.....ครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 09:05:47

ความคิดเห็นที่ 51 ผลโหวตตอนนี้ประมาณ.....21:16:8 (ข้อ1:ไม่โหวต:ข้อ2) ประมาณ30% เยอะกว่าที่คิดไว้นะครับ....ขอบคุณครับที่ช่วยกันโหวต จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 09:10:58

ความคิดเห็นที่ 52   ขอโหวตข้อ2 ค่ะ เพราะอยู่กับคนที่คิดว่าไม่ใช่แล้วก็ไม่มีความสุขแค่คุณคนเดียว ตัวภรรยาเองคงจะทุกข์ไม่น้อยเหมือนกัน ถ้าสามีเรามีปัญหานี้เราจะขอให้เขาไปซะ เฮ้อ! ของเรากำลังกลุ้มเรื่องลูกชายอยู่ค่ะ จากคุณ : daran52 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 10:28:33

ความคิดเห็นที่ 53   อารมณ์ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เช่นกัน อย่าไปยึดติด ว่า นี่แหละใช่ เพราะมันใช่ ที่เราปรุงแต่งเอาเองทั้งนั้น และการที่ปรุงแต่งเอาเองเช่นนี้ คิดเข้าข้างตัวเอง ว่าเป็นเช่นนี้ เช่นนี้ นั้น ก็ไม่ต่างอะไร กับเด็ก ๆ สิ่งที่ใช่ ในเวลา นี้ ต่อไป ก็อาจไม่ใช่ ใน วันข้างหน้า ถ้า คิดว่า ความดี ที่คุณทำ เป็นแค่หน้ากาก ก็ถอดมันออกเถอะ คะ จากคุณ : therumo (therumo) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 10:33:09

ความคิดเห็นที่ 54 คนที่ใช่กว่า...คนที่เคยรักกัน เรามีเรื่องของคู่รัก 2 คู่มาเล่าให้ฟัง ทั้ง 2 คู่ต่างก็เป็นคู่รักที่รักกันมาก ดูแลเอาใจใส่และเข้าอกเข้าใจกันมานาน 7- 8 ปี เป็นคู่รักที่คนรู้จักต่างก็แน่ใจว่าอีกไม่นานก็คงได้ยินข่าวดีจากคู่รัก 2 คู่นี้แน่ๆ แต่แล้ววันนึงก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันขึ้นกับคู่รักทั้ง 2 คู่ .. เมื่อฝ่ายชายก็ได้พบใครใหม่ที่คิดว่า 'ใช่' มากกว่า ผู้หญิงคนใหม่ที่สวยกว่าและมีเสน่ห์มากกว่า ฝ่ายชายตัดสินใจคบดูใจด้วย โดยที่ยังไม่เลิกกับคู่รักเดิม . ยิ่งคบเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่ ผู้หญิงคนใหม่ที่คบกันมา 2 - 3 เดือนกับคนรักคนเดิมใน 7- 8 ปีที่ผ่านมา เริ่มถ่วงดุลน้ำหนักที่เท่ากันบนตาชั่งการตัดสินใจของเขา ทายสิว่า ชายหนุ่มทั้งคู่เลือกใคร เขาทั้งคู่เลือกผู้หญิงคนใหม่ . สิ่งที่ผู้ชายทั้งคู่ต่างหยิบยกมากล่าวถึงก็คือ คนรักคนเดิมที ่เคยคบด้วยมีอะไรบางอย่างที??เขาไม่ค่อยชอบใจ อาจจะเป็นนิสัยส่วนตัวบางประการ แต่ในขณะที่คบกันมานั้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาพอรับได้เมื่อเทียบกับความดีอื่นๆ ที่เธอทำให้เขา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักอย่างหมดใจที่เธอมีให้เข า แต่วันนึงที่พบผู้หญิงคนใหม่ อะไรที่เคยทนได้ ก็กลับทนไม่ได้ขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อผู้หญิงคนใหม่ไม่ได้มีข้อเสียในจุดนั้นเหมือนคนรักเก่า แต่ข้อแตกต่างอยู่ที่ ผู้ชายคนที่ 1 ถูกคนรักของเขาจับได้เองว่าเขามีผู้หญิงคนใหม่ และเมื่อขาบอกว่าเ ขาเลือกผู้หญิงคนใหม่ เขาให้เหตุผลว่า เขาดีกว่าคุณทุกอย่าง เขาคอยดูแลผม เขาเข้าใจผม (และที่สำคัญเขาสวยกว่า และใหม่กว่าคุณด้วย) ' ส่วนผู้ชายคนที่ 2 เลือกสารภาพกับคนรักว่า ผมเป็นคนผิดเองที่นอกใจคุณ แต่คนที่ผมเลือกก็เป็นเขา ขอโทษนะ ผมผิดเอง ขอโทษจริงๆ' ถามคุณว่า ถ้าต้องเลือกระหว่างการปฏิบัติของผู้ชาย 2 คนนี้ แบบไหนที่ดูเป็น ' ลูกผู้ชาย' มากกว่ากัน........ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ถ้ามีทางเลือกผู้หญิง เราคงไม่เลือกสักทาง จริงไหม เพราะถ้ าเราเลือกได้จริงๆ เราก็ขอเลือกให้เขามีเราคนเดียวมากกว่า เราเชื่อว่า สิ่งที่คนส่วนใหญ่ (อาจจะไม่ทุกคน แต่ก็เชื่อว่าเป็นจำนวนมาก) ต้องการมากที่สุดในการตัดสินใจที่จะรักและใช้ชีวิตอยู่่ร่วมกับใครสักคนแล้ว ก็คือความ'จงรัก' และ'ภักดี' จากคุณ : หัวใจของบ้าน (หัวใจของบ้าน) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 10:39:45

ความคิดเห็นที่ 55 คุณทมยันตี เคยกล่าวถึงคำทั้ง 2 คำไว้ และเราสรุปเป็นใจความได้ว่า จงรัก' อาจจะมากมายในวัยหนุ่มสาว........อาจจะร้อนแรง อาจท่วมท้นในยามแรกรัก! แต่วันนึงอาจจะจืดจางได้ตามกาลเวลา....แต่คนรักคู่ใดๆในโลกก็มักเริ่มชีวิตคู่ด้วยคำๆ นี้ แต่ 'ภักดี' นั้นชั่วชีวิต ความจงรักหรือความรักนั้น เราเชื่อว่ามันไม่เข้มข้น ร้อนแรงตลอดไปก็จริง แต่มันคงเหลืออวลไอเป็นใยบางๆ ไว้ตราตรึงใจบ้างกระมัง ในยามที่เราหวนนึกถึงมัน แต่การที่คนสองคนอยู่กันมานานแสนนานขนาดนี้ ย่อมต้องมีความผูกพัน ความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจซึ่งกันและกันบ้างไม่มาก ก็น้อย สิ่งที่เราเห็นจากคู่รักทั้ง 2 คู่ก็คือ ฝ่ายชายหมดความ 'จงรัก' ลงไป แต่ความรู้สึกอื่นๆ ล่ะ ความผูกพันของคนสองคน ความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าอกเข้าใจที่เคยมี มันไม่เหลือพอที่จะผูกใจเขาให้อยู่กับเราแล้วหรือ คู่รักทั้ง 2 คู่ เป็นคู่ที่เรารู้จักดีทั้ง 2 คู่ ตอนที่เขารักกัน เขาก็รักกันมาก เขาดูแลกันเป็นอย่างดี ตอนนี้เมื่อถึงจุดแตกหัก  เราพอรู้ว่าฝ่ายหญิงจะเป็นอย่างไร พอเข้าใจว่าผู้หญิงที่รักและภักดีต่อฝ่ายชายแต่เพียงผู้เดียวจะรู้สึ กอย่างไร ผู้หญิง 1 ใน 2 คนนี้บอกกับฝ่ายชายตอนที่เขามาขอเลิกว่า ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่กับคุณก่อน จะอยู่ดูแลคุณอีกสักพัก เพราะตอนนี้คนรอบข้างคุณและเพื่อนๆ ของเราไม่ค่อยมีใครอยู่ข้างคุณ แล้วพอเพื่อนๆ ของเรายอมรับผู้หญิงคนใหม่ของคุณได้แล้ว..ฉันก็จะไป' แต่ฝ่ายชาย เราไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะคิดอย่างไร อาจจะกำลังมีความสุขกับผู้หญิงคนใหม่ ความรักอาจกำลังท่วมท้น อาจกำลังวางแผนสร้างอนาคตที่สดใสกันอยู่ เขาอาจจะมีความรักที่รุ่งโรจน์กว่าที่ผ่านมาก็เป็นได้ เราก็หวังไว้แต่ว่าวันนึง เขาคงจะไม่เจอคนที่ 'ใช่มากกว่า' อีก เพราะนั่นหมายถึง ผู้หญิงที่ต้องเสียใจจะเพิ่มขึ้นอีก 2 คน ถ้าเราคิดจะมองหาคนที่ถูกใจ คนที่ 'ใช่' คุณเชื่อไหมว่า “เราหาได้เกือบชั่วชีวิต” แต่คนที่จะตรงใจคุณจริงๆ 100% นั้น ไม่มีหรอก นอกจากคุณจะหยุดความต้องการที่ไม่มีข้อสิ้นสุดของตัวคุณเองลง เราเขียนจดหมายฉบับนี้ขึ้นมา ไม่ได้ต้องการบอกว่า ใครผิดใครถูก แต่ต้องการให้คุณหยุดคิดสักนิดว่า อะไรในชีวิตที่คุณต้องการ อะไรที่เป็นสิ่งที่ยั่งยืนกว่ากัน มนุษย์เรา หากจะรักและคิดจะใช้ชีวิตร่วมกับใคร ก็คงจะต้องการเพียงแต่ ' เพื่อนคู่ชีวิต' สักคน คนที่อยู่กับเราเสมอไม่ว่ายามทุกข์ยาก ลำบาก หรือผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน คนที่มองเห็นข้อเสียและข้อผิดพลาดของคุณ แต่ก็ยังรักและยังอภัยให้คุณได้เสมอ คนที่พร้อมจะอยู่กับคุณแม้คุณจะกลายเป็นตาแก่หัวล้าน พุงยาน หนังเหี่ยว เขาก็พร้อมที่จะแก่เฒ่าไปพร้อมกับคุณ แต่คนที่ว่ามานี้ คุณมักลืมเขา ในยามที่คุณยัง มีความสุขอยู่ ในยามที่ชีวิตของคุณยังเป็น 'ผู้เลือก' ที่ถูกห้อมล้อมด้วยผู้ถูกเลือกได้อยู่ ในยามที่คุณยังมีหน้าตา.....มีเครื่องประกอบชีวิตที่เป็นที่สนใจจากคนเหล่านั้นอยู่ คุณอาจจะต้องนึกถึงเขาอีกที ในยามที่คุณไม่มีใครแล้ว ในยามที่คนที่คุณคิดว่า 'ใช่' เขาก็ไปกับคนใหม่ที่เขาก็คิดว่า 'ใช่' มากกว่าคุณเหมือนกัน .............................................................................................. ขอบคุณเจ้าของบทความ....ณ ที่นี้ด้วย จากคุณ : หัวใจของบ้าน (หัวใจของบ้าน) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 10:46:43

ความคิดเห็นที่ 56 นี่เป็นเหตุผลที่ผมยังไม่แต่งงานครับ จากคุณ : aftertime เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 11:39:34

ความคิดเห็นที่ 57 ตอบจขกท ในความเห็น 50 นะครับ คำว่าดีกว่านอกจากหน้าตาบานะและลักษณะนิสัย ผมรวมถึงความเหมาะสมด้วยนะครับ ถ้าอย่างที่เจ้าของกระทู้พูด ผมก็ถือว่าคนใหม่เหนือล้ำกว่าครับ ในเรื่องของการเป็นคนดี มุมมองเรื่องความดีของแต่ละคนมันผิดกันไปครับ ผมว่า บางคนทำตามที่สอนกันมา หลีกเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ซึ่งเรื่องที่ผมกล่าวมาข้างต้น ผมไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องไม่ดีตรงไหน ถ้ากินดื่มเล่นอย่างพอเพียง กลับมาในเรื่องความรักของเจ้าของกระทู้ คนดีนอกจากดีแล้วต้องฉลาดด้วยหรือเปล่าครับ ถ้าดีอย่างเดียวแต่เลือกทางเลือกที่ทำให้ไม่มีใครมีความสุขเลย อย่างงี้นับเป็นคนดีได้หรือเปล่าครับ บางคนบอกว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน ยังมีครอบครัวด้วย แต่ถ้าคู่แต่งงานไม่มีความสุข ครอบครัวทั้งฝ่ายหญิง ฝ่ายชาย จะมีความสุขเหรอครับ เท่าที่ผมดูถ้าเจ้าของกระทู้เลือกภรรยา คุณไม่มีความสุข ภรรยาไม่มีความสุข คนใหม่ไม่มีความสุข สามีของคนใหม่จะมีความสุขหรือไม่ ไม่ทราบ แล้วสมาชิกครอบครัวที่แวดล้อมจะมีความสุขจริงหรือไม่ ?? จากคุณ : Toey84 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 12:19:11

ความคิดเห็นที่ 58   รักเอย รักเคยชื่นเชยชูใจ  บัดนี้รักห่างร้างไกลให้คนึง  รักเป็นอย่างไร  ใฝ่ถึง ...............................................         เราเคยเป็นมาก่อน  เพียงแต่ว่าไม่ได้แต่งงานกันเท่านั้นเอง  ทุกวันนี้  เขายังคงเป็นคนดี  ในใจเรา ตลอดไป           รักไม่ควรทำผิดกับใครที่เขาไม่ผิด            สักวันหนึ่งเมื่อ ถึงเวลา  คุณคงได้เจอกับเขาอีก       สักวัน  แต่ไม่รู้ว่าวันไหน   เมื่อไร......... จากคุณ : เสี่ยวเม่ยเม่ย เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 13:02:28

ความคิดเห็นที่ 59   อย่าเปิดประตูใจให้ใครอีก หากคุณได้เลือกไปแล้ว ดีกับคนที่คุณเลือก...เท่านั้น จากคุณ : ชื่ออะไรไม่ซ้ำ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 14:14:09

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ อายุ 28  เเต่งงานมาเเล้วปีกว่า แสดงว่า คุณเพิ่งเจอ คนที่ใช่ ของคุณไม่เท่าไหร่เองดิ ใช่ป่ะ (เดาเอา) เพราะถ้าเจอเร็วกว่านี้ คุณคงยังไม่รีบเเต่งกะเมียคุณหรอก น่าคิดนะ เพิ่งเเต่งงานได้ไม่ถึง 2 ปี คิดจะมีเมียใหม่ละ ตัณหามันบังตาอยู่หรือเปล่า เพราะบางที เรื่องลักกินขโมยกิน มันเร้าใจกว่าเยอะ กินแบบเปิดเผยเยอะ คิดดีๆ นา คนเพิ่งเจอกัน กับคนที่คุณตัดสินใจร่วมชีวิตกับเขา จากคุณ : blueblues เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 15:44:18

ความคิดเห็นที่ 61 ต่ออีกหน่อย เห็นคุณเข้ามาอ่านเเล้ว ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ผ่านช่วงเวลาที่ต้องเลือกนี้ไปอย่างราบรื่นและบอบช้ำน้อยที่สุดนะคะ ไม่ว่าใครจะช้ำก็ตามอ่ะนะ เวลาจะเยียวยาทุกสิ่งเอง ไม่ว่าจะความรู้สึกคุณ ความรู้สึกเขา อย่าลืมBookmark กระทู้ล่ะ เเล้ววันหน้าลองมาอ่านดูนะคะ ว่าครั้งนึงคุณเคยรู้สึกแบบนี้ และ ในอนาคตมันยังใช่อยู่ไหม จากคุณ : blueblues เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 16:52:49

ความคิดเห็นที่ 62   ..... จากคุณ : picklife เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:20:07

ความคิดเห็นที่ 63 เชื่อหรือไม่..มันเกิดขึ้นกับเราตอนนี้..เพียงแต่เราเลิกกับแฟนแล้ว..แต่เขายัง คิดไม่ตก..ตัวเองตอนนี้คงต้องเลือกข้อ 1 เพราะ แฟนเขาไม่ผิดอะไร..ปล่อยให้เป็นไปตามวิถีชีวิต ..เถอะ ทั้งที่เจ็บลึกๆ..แต่เราก็ยังคุยกันเสมอ..ไม่เคยปล่อยอารมณ์เป็นใหญ่ แอบรอบ้างว่าสักวัน.. จากคุณ : เก้อ (kongchaidee) เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 22:39:30

ความคิดเห็นที่ 64 กระทู้โดนใจ คล้ายกันแต่ต่างตรงที่ยังไม่ได้แต่งผู้ชายส่วนมากตายเพราะความสงสาร ที่คุณคิดมากเพราะว่าผู้ชายน่ะเวลาพลาดหรือล้ม ตอนนั้น่ะอยากได้คนที่คุณ รักที่สุดมาช่วยประคองมากที่สุด แต่ถ้าคนที่อยู่ข้างคุณช่วยอะไรไม่ได้เลย หรือไม่อยู่ตอนที่คุณต้องการที่สุดน่ะ บางทีอาจจะกระทืบซ้ำ มันสุดจะช้ำที่สุดในชีวิตเลยนะจะบอกให้คุณผู้หญิงทั้งหลาย เลือกข้อ 2 เพราะโดนมาแว้วววววว แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 23:58:58 จากคุณ : ป๋าพะวาฬ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 23:58:02

ความคิดเห็นที่ 65 ไม่น่ารีบแต่งเลยเนอะ ^^ ขนาดผมยังไม่แต่งไปแอบมีกิ๊กโดนจับได้เธอก็ไม่ว่าสักคำ "แต่เสียใจ" มีครั้งเดียวไม่พอ "คนมันไม่รู้จักพอ" เลยไปหาอีกคนให้จับได้อีก 555+ สุดท้ายเลิกมีกิ๊กผมไม่เอาล่ะพอ "เหมือนรู้สึกตัวช้า" กิ๊กมันก็แค่ อารมณ์ชั่ววูบ ความหลงใหล อะไรก็เหมาะสมไปหมด "ผมเคยเจอมาแล้ว" ทุกอย่างเหมาะไปหมดถึงกับบอกเลิกแฟนตัวเอง แต่สุดท้ายผมก็เลือกแฟนตัวเอง เป็นผมเลือกข้อ 1 ละกัน ไม่อยากทำให้ ผัวเมีย-แฟนกัน ต้องมาแยกทางกัน จากคุณ : voice of wind (voice of wind) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 05:26:06

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่มีไรจะบอก  เพราะคห.อื่นๆได้บอกไปหมดแล้ว แต่อยากให้ จขกท  อ่านเรื่องนี้ก่อน....  ยาวหน่อยนะ  แต่ถ้าอ่านจบ  เราว่าคุณอาจจะเจอทางออกที่ดีกว่านี้แน่นอน ,,,,,, ในวันแต่งงานของผม ผมจูงมือภรรยาของผม..ไว้ในอ้อมแขน รถแต่งงาน..จอดหน้าที่พักของเรา เพื่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า.. ผมควรจะอุ้มเธอ..เข้าไปในบ้าน ดังนั้น ผมจึงทำตาม เธอเขินอาย..ในอ้อมแขนผม ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุข..ที่สุดในโลก นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว..สิบปี ในวันถัดๆ มา..ทุกอย่างก็เหมือนเดิม เรามีลูกด้วยกัน... ผมทำงานอย่างหนัก..เพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว เมื่อเราเริ่มมีฐานะ..ที่ดีขึ้น ความห่างของเรา..ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทุกๆ เช้า..เราออกจากบ้านไปด้วยกัน แล้วก็ถึงบ้าน..เวลาเดียวกัน ลูกของเรา..เรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน ดูเหมือนความรักของเรา..ช่างน่าอิจฉายิ่งนัก แต่แล้ว.. ความสงบสุข..ก็เริ่มเปลี่ยนแปลง..อย่างมิได้คาดหมาย เจน..เข้ามาในชีวิตของผม ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน เจนเข้ามาสวมกอดผม..จากด้านหลัง หัวใจผมเต้นแรง..ด้วยความรัก ที่นี่เป็นอพาร์ตเมนท์..ที่ผมซื้อให้เธอ เธอบอกว่า.. “คุณเป็นผู้ชาย..ที่ผู้หญิงทุกคนถวิลหา” คำพูดของเธอ..ทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ เธอบอกว่า.. “วันที่คุณประสบความสำเร็จ..ผู้ชายอย่างคุณ..จะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา” ผมเริ่มรู้สึกลังเล... ผมรู้ว่า..ผมกำลังทรยศต่อภรรยาผม แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว ผมปลีกตัว..ออกจากเจน "วันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันนะ.. ผมต้องเข้าออฟฟิศ" แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก เพราะผมสัญญากับเธอว่า..เราจะไปด้วยกัน ในตอนนั้น...ความรู้สึกถึงการหย่าร้าง เริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม ทั้งที่จริงๆ แล้ว..ผมไม่เคยมีความคิดนี้เลย แม้แต่ครั้งเดียว แต่ผมก็พบว่า.. เป็นเรื่องยาก..ที่จะบอกกับภรรยาของผม ไม่ว่า..ผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด เธอจะต้องเจ็บปวดใจ..อย่างแน่นอน จริงๆ แล้ว..เธอเป็นภรรยาที่ดีมาก ทุกๆเย็น..เธอจะวุ่นวายกับการทำอาหาร ในขณะที่..ผมนั่งอยู่หน้าทีวี ทานอาหารเสร็จ..เราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน หรือ... ถ้าผมจะเลือกชีวิต...แบบนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ มองเรือนร่างอันงดงาม..ของเจนช่างเป็นอะไรที่หน้าฝันถึงเสียจริง วันหนึ่ง.. ผมพูดทีเล่นทีจริง..กับภรรยาของผมว่า.. “คุณจะทำยังไง..ถ้าเราหย่ากัน” เธอจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อ..ในสิ่งที่ได้ยิน และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร เธอมั่นใจว่า..การหย่า..เป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมาก ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่า.. หากเธอรู้ว่า.. เรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้น. ..เป็นเรื่องจริง..เธอจะเป็นอย่างไร วันหนึ่ง..ภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ สวนทางกับเจน..ที่เพิ่งจะออกไปพอดี พนักงานทุกคน..ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่าง..จากเธอ เธอเหมือนจะรับรู้มันได้ แต่เธอก็ยิ้มน้อยๆ.. กับพนักงานทุกคน แต่ผมก็สังเกตเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอ..ภายใต้รอยยิ้มนั้น ในที่สุด...เจนก็บอกกับผมว่า... “หย่ากับเมียคุณนะ..แล้วเราจะได้อยู่ด้วยกัน” ผมพยักหน้า.... ผมจะลังเลต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ผมตัดสินใจบอกภรรยาผม..ในอาหารค่ำ “ผมมีอะไรจะบอกคุณ” เธอนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ ผมสังเกตเห็น..แววตาอันเจ็บปวดของเธอ มันทำให้ผม..พูดในสิ่งที่ผมต้องการพูดไม่ออก แต่ท้ายที่สุด..ผมก็พูดออกไป “ผมต้องการหย่า...” เธอดูไม่ตกใจ..กับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย ผมย้ำกับเธออีกครั้ง เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า.. “คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!” เราไม่ได้คุยกันอีกเลย.. คืนนั้น... เธอร้องไห้อย่างหนัก ผมรู้ว่า..เธออยากรู้ว่า..เกิดอะไรขึ้น..กับชีวิตแต่งงานของเรา แต่ผมเอง..ไม่สามารถหาคำตอบ..ให้กับตัวเองได้ เป็นเพราะ..ใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้ว..งั้นเหรอ ผมคงไม่สามารถบอกเธอ..อย่างนั้นได้ มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน..ทุกๆ อย่างในบ้าน ทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให้เธอหมด เธอเหลือบมองกระดาษที่ผมร่างขึ้น...แล้วฉีกมันทิ้ง มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมา..เป็นระยะเวลาสิบปี กลายเป็นคนแปลกหน้ากัน..ภายในหนึ่งวัน ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้ เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจ..อย่างที่สุด ,,,,, มีต่อค่ะ แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 52 14:32:39 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 52 14:31:44 แก้ไขเมื่อ 24 ธ.ค. 52 14:31:37 จากคุณ : gnikapae เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 14:23:06

ความคิดเห็นที่ 67 สำหรับผมแล้ว... การร้องไห้ของเธอ เหมือนเป็นการปลดปล่อยความสับสน..ของตัวผมเอง หลังจากที่ผมกลุ้มใจ..กับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม ในที่สุด...มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริง ๆ เสียที คืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อนข้างดึก เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ ผมหลับไปอย่างรวดเร็ว..ด้วยความเพลีย ผมตื่นขึ้นมาอีกที..แล้วพบว่า... เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่า..เธอไม่ต้องการสิ่งใด..จากผม แต่เธอต้องการให้ผม..ให้เวลาเธอหนึ่งเดือน เพื่อตั้งตัว..สำหรับการหย่า และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้น ทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ ด้วยเหตุผลที่ว่า..เธอต้องการให้ลูกจบการศึกษา..ซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน เธอไม่อยากให้ลูกต้องเห็น..ความล้มเหลวในการแต่งงาน..ของพ่อแม่ ก่อนเวลานั้น..จะมาถึง “รัชต์.. คุณจำได้มั๊ย...วันที่เราแต่งงานกัน คุณประคองฉันไว้ในอ้อมกอด..ในวันที่เราเข้าเรือนหอ” ผมพยักหน้า.. “นั่นเป็น..ความทรงจำที่ดีที่สุดของฉัน ฉันมีเรื่องขอร้อง...ฉันอยากให้คุณประคองฉันไว้ในอ้อมกอดจากห้องนอน..ไปถึง ด้านล่างทุกวัน นับจากวันนี้ไป..จนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน” ผมยอมรับ..ด้วยความเต็มใจ ผมรู้ดีว่า.. เธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานของเธอ จบลง..ด้วยความทรงจำที่ดี ผมบอกเจน..ถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้น..ในการหย่าร้าง เธอหัวเราะถึงความไร้สาระ..ของเงื่อนไข ภรรยาผม..บอกกับผมว่า..“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม..ฉันจะต้องยอมรับ..ผลของ การหย่าร้างให้ได้” คำพูดของเธอ..ทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง เราไม่ได้ถูกเนื้อต้องตัวกันเลย นับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า ความจริง..เหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน..ด้วยซ้ำไป พอถึงวันที่..ผมประคองเธอลงจากห้อง..วันแรก มันจึงทำให้ผม..ทำตัวไม่ถูก ลูกชายของเราตบมือ แล้วพูดด้วยความดีใจว่า..“ว้าว...วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย” มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น เธอบอกว่า.. “อย่าบอกลูกเรา..ถึงเรื่องของเรา” ผมพยักหน้า..ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม ผมขับรถไปส่งเธอ..ที่ป้ายรถเมล์ แล้วเลยไปออฟฟิศ วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขิน..เริ่มน้อยลงไป เธอซบบนอกผม เราใกล้ชิดกันมาก..จนผมได้กลิ่นน้ำหอมของเธอ ผมถึงได้ตระหนักว่า....เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว เธอเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้า..มากขึ้น ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่า.. “สวนกำลังรื้ออยู่..เดินระวังด้วย” ในวันที่สี่...มันช่างเหมือนกับว่า..เราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมากภาพของเจนเริ่มเลือนรางไป วันที่ห้าและหก..เธอคอยเตือนผม..ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น เธอวางเตารีดไว้ที่ไหน ผมควรจะระวังอะไรบ้าง..ตอนทำอาหาร และอื่นๆ อีกมากมาย ความสนิทสนมของเรา..เพิ่มมากขึ้นทุกที ผมไม่ได้บอกเจน..ถึงเรื่องนี้เลย ผมรู้สึกว่า..ผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวัน โดยไม่ได้สังเกตถึง..ความเปลี่ยนแปลงในตัวเธอเลย หรือบางที..คงเป็นเพราะผมแข็งแรงขึ้น แต่แล้วผมก็พบว่า..มันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด เป็นเพราะว่า..เธอผอมลง..จนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้ นั่นต่างหาก..ที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น ผมรู้ดีว่า..เธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้ ลูกของเราร้องขึ้นว่า..“พ่อ..ได้เวลาอุ้มแม่แล้วนะ” สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่..เป็นภาพที่เขามีความสุขที่สุด เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น ผมทนมองภาพนั้นไม่ได้จริงๆ ผมกลัวว่า..ผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย และแล้ว..วันสุดท้ายก็มาถึง ผมอุ้มเธอไว้..ในอ้อมกอด เท้าผม..แทบจะก้าวไม่ออก เธอบอกกับผมว่า... “ความจริงแล้ว...ฉันอยากให้คุณอุ้มฉัน..ไปจนเราแก่เฒ่า” ผมกอดเธอแน่น และผมก็ตระหนักว่า..ชีวิตคู่ของเรา..ขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ผมขึ้นรถทันที..เพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่ ผมลังเลเล็กน้อย แต่ในที่สุดแล้ว..ผมก็มาพบเจนจนได้ เธอเปิดประตูออก ผมบอกเธอว่า..“เจน..ผมขอโทษ...ผมจะไม่หย่า” เธอมองหน้าผม.. แตะหน้าผากผม “คุณสบายดีหรือเปล่า” “เจน...ผมขอโทษ..ผมขอโทษจริง ๆ... ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม ชีวิตการแต่งงานของเรา..น่าเบื่อ มันเป็นเพราะ..ผมไม่ได้ให้ความสำคัญ..กับรายละเอียดเล็กน้อย ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ มันไม่ได้หมายความว่า..เราไม่ได้รักกัน ตอนนี้..ผมเข้าใจแล้วว่า... ตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน เธอมีลูกให้ผม ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่” เจน..ตบหน้าผมอย่างแรง และกระแทกประตูใส่ผม ระหว่างทางกลับบ้าน ผมแวะร้านดอกไม้ พนักงานขาย ดอกไม้ถามว่า..“จะเขียนว่าอะไร” ผมให้เธอเขียนว่า... “ผมจะอุ้มคุณทุกเช้า..จนกว่าเราจะแก่” จากคุณ : gnikapae เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 14:26:51

ความคิดเห็นที่ 68   gnikapae ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับเรื่องราว จากใจจริงค่ะ จากคุณ : พิงคาน (พิงคาน) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 19:36:58

ความคิดเห็นที่ 69   สวัสดีค่ะ มาร่วมแสดงความคิดเห็นช้าไปมั๊ยคะ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะคะ ถ้าข้อความเราอาจไม่ถูกใจทุกท่าน แต่อ่านแล้ว คิดว่า จขกท. กำลังสับสนและอยากหาทางออกจริงๆ แต่ยังทำเป็นขำ คือไม่เครียดจัด ขอตอบจากเรื่องจริง.... เราเหมือนอยู่ในตำแหน่ง คนที่คุณว่าใช่ หน่ะค่ะ สามีเรา แต่เดิม เค้ามีภรรยาค่ะ รักกันมาหลายปี ได้ทราบมาว่า แต่ก่อนนี้เค้าก็ว่า เป็นคู่รักที่เพื่อน ยกให้ว่าดูแลกันดีมากก จนหลายปีผ่านไปหลังจากแต่งงานกัน เค้าก็มีปัญหากัน แยกบ้านกันอยู่ โดยที่ทางผู้ใหญ่ ของทั้ง 2ไม่ทราบ ขณะนั้น สามีก็มาเจอเรา โดยที่เราไม่ทราบว่าเค้ามีครอบครัวแล้ว ไม่ได้เริ่มจากเจอกันก็มาจีบกันดื้อๆ ก็เหมือนคุณ จขกท. ที่ทำงานแล้วได้ติดต่องานกัน ไปๆมาๆ ก็ เริ่ม โทรหาเรา คุยกันบ่อยขึ้น เราทั้งคู่รู้สึกว่า เหมือนเรามีบางอย่าง ที่สื่อสารกันได้โดยไม่ต้องพูด ทุกอย่างลงล็อค ทัศนคติ ความคิด สไตล์ เค้าเริ่มรู้ตัวว่ารักเราเข้าจริงๆ แต่ด้วยพันธะ ที่เค้ามีเค้ากังวลยังไม่เปิดเผยเรื่องให้เราทราบ สำหรับเราซึ่งไม่เคยเปิดใจให้ใคร รู้สึกว่าเค้าคือคนที่ใช่ เพราะว่าไม่ว่าใครมาจีบเราก็เอือมระอามาตลอดก่อนที่จะเจอเค้า จนวันนึง ความเรื่องเค้ามีครอบครัวแล้วแตก เราเสียใจมากมาย รัก แต่ทุรนทุราย ไม่คิดว่า เกิดมาจะเจออะไรแบบนี้ เสียใจเพราะว่ารักเค้าไปแล้วจนหมดใจ จากคนที่ไม่เคยลึกซึ้งในเรื่อง ความเจ็บปวด ความรัก นะวันนั้น ทราบซึ้งไปทุกขุมขน เขาเองก็ไม่ต่างกัน เค้าเลือกจบกับภรรยาเค้า โดยคุยกันตรงๆ (ทุกคนอ่านไม่ผิด ดิฉันไม่ต้องการความเห็นนะคะ มาเล่าเฉยๆ) เค้าจบกับภรรยา เค้า โดนบอกว่า ระหว่างเค้ากับภรรยาก็เหมือนเลิกกันแล้วเพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน เมื่อเค้าเจอคนใหม่เค้าก็อยากทำให้ถูก ในตอนนั้นเค้าบอกทั้งเรา และภรรยาเค้าว่า เราคือคนที่เค้ารักมากกก เค้าอยู่กับเราเค้าอบอุ่น อะไรที่เค้าขาด เราเติมเต็ม เค้าเสียใจที่เจอกันช้าไป เค้าบอกว่าเราคือคนที่เข้าใจเค้าที่สุด แม้กระทั้ง พ่อแม่เค้าเอง แล้วเราก็ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เป็นสามีภรรยาอย่างถูกต้อง ครอบครัวเค้าดีกับเรามากกกก แต่จากวินาทีที่เรา ยื้อกับความสัมพันธ์ของเรา เรากับเค้านึกถึงความรัก และ เรา 2คนเป็นหลัก เรารู้ว่า ข้างหน้าอาจจะมีปัญหา เราบอกกันว่า เราต้องจับมือกัน รักษากัน อาจจะมีทั้งคนที่ ยอมรับเรื่องเรา และคนที่ไม่ยอมรับ เราหวานชื่นดูแลกันดีมากกก ส่วนตัวเรา เพื่อนๆในกลุ่มเข้าใจและเค้ากลายเป็นขวัญใจของกลุ่ม พ่อแม่เค้าเอ็นดูเราดีมาก พี่น้องเค้าด้วย แต่ด้านลบ หล่ะ........ ด้านลบ คุณเข้มแข็งที่ทนต่อความรู่สึกบางอย่างได้มั๊ย คนรู้จักแถวๆบ้าน เค้าบางคนก็อาจมีท่าทีกับเรา แต่ไม่ได้แสดงออก เช่น คนเหล่านั้นอาจจะเคยสนิทกับภรรยาเก่าเค้า แน่นอนย่อมตะขิดตะขวง เวลาเจอเรา เมื่อเวลาผ่านไป จากที่เข้าใจกันมากกกกก ไม่เคยทะเลาะกันเลย คิดอะไรก็เหมือนกันไปหมด เธอคือฉัน ฉันคือเธอ แม่เมื่อใช้ชีวิตค่ผัวเมีย ก็เปลี่ยนไป อยู่ด้วยกัน 24 ช.ม. เถียงกันมากขึ้น บางครั้งเคยคิด แต่ก่อนทำไม เธอคือคนที่เข้าใจฉันทุกอย่าง เค้าก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน แต่เราไม่ได้รุนแรงขนดคิดว่าเราเลือกคนผิด เรารักกันมากเหมือนเดิม เข้ากันมากกเหมือนเดิม ด้วยความที่เราเหมือนกันมากกกก เวลาดี ก็ คูณ 2 แต่เวลาที่เราปะทะกัน ข้อเสียที่ตรงกันคือ จุดบอดของเรา ณ วันนี้ เราและเค้ารักกันมากเหมือนเดิม รู้สึกว่าคือคนที่ใช่เหมือนเดิม เราคือชีวิตของกันและกัน เราต่างส่งเสริมกันนำพาชีวิตให้ดีขึ้น มั่นคงขึ้น ที่เราเล่ามา อยากให้เห็นว่า ความรู้สึกที่มากล้นในตอนนี้ซักวันมันอาจจะเจือจางลง คุณมั่นใจมั๊ยว่า ส่วนที่มันฟุ้งอยู่ตอนนี้ เมื่อจางลง รักจะเต็มขวดเหมือนเดิมมั๊ย หรือว่า ค่อนข้างเต็ม หวังอย่างเดียว เมื่อส่วนที่มันฟุ้งอยู่นี้จางลง อย่ากลายเป็นว่า มันระเหยไปเหลือเพียงก้นขวด เราเองก็ผ่านอะไรมาเยอะ คงแนะนำเท่านี้ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ฉันเลือกเธอ ... เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 22:29:58 A:124.121.229.190 X: TicketID:182057

ความคิดเห็นที่ 70   ความคิดเห็นที่ 52 อื้มมม...ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็นครับ เป็นอีกมุมมองที่ต่างดีครับ... ปล1.กลุ้มใจเรื่องลูกชาย....ทำไมหรอครับ? เป็นเหมือนผมหรอครับ... ปล2.ขอโทษครับที่หายไปนานเพราะมีปัญหาทางด้านloginโพสไม่ได้เนื่องจากผมไปเปิดกระทู้เดียวกันหลายๆห้องก็เลยโดบฟลัตอะไรก็ไม่แน่ใจครับอิอิ ยังนึกอยู๋ว่าจะแก้ไงดีหว่า จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 08:00:40 A:125.24.175.161 X:

ความคิดเห็นที่ 71   ความคิดเห็นที่ 53 อื้มม ขอบคุณครับ...ไม่ได้มีใครว่าผมเป็นเด็กมานานแล้วดีจังรู้สึกหนุ่มขึ้น อิอิ ถ้า...ผมขอเป็นผู้ใหญ่9เรื่องเป็นเด็ก1เรื่องจะได้ไหมครับ อิอิ ส่วนเรื่องหน้ากากมันเป็นมุมมองนะครับ ผมไม่ได้หมายถึงการใส่หน้ากากไปหลอกลวงคนอื่น แต่ผมเชื่อในเรื่องคน2บุคลิกครับ แต่จริงๆคนเรามีหลายบุคคลิกในตัวนะครับผมว่า...ส่วนการเปลี่ยนหน้ากาก ผมหมายถึงการใช้อีกบุคคลิกในตัวเท่านั้นครับ..... ความคิดเห็นที่ 54 ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเสียใจเพราะผมเลยครับT^T ขอบคุณครับ.... ความคิดเห็นที่ 55 ครับ...เป็นนักเขียนคนหนึ่งที่ผมชื่นชมครับ....ขอบคุณครับได้แง่คิดมากครับ ความคิดเห็นที่ 56 555+ นั่นนะสิครับ.... ความคิดเห็นที่ 57 ครับ...ขอบคุณครับ....คุณเป็นคนที่ลึกซึ้งมากนะครับ อิอิ ความคิดเห็นที่ 58 ถ้า...แม้นเราสองคนไม่ได้เคียงคู่กัน....แต่เราชีวิตเราจะยังคู่ขนานกันอยู่ครับ...และอย่างน้อย...ทุกๆปี...เราสองคนจะมาเจอกันครับ....ตามวันและเวลาและสถานที่เดิมทุกปีครับ.....(น้ำเน่าหน่อยนะครับ อิอิ) ความคิดเห็นที่ 59 ครับ....มันควรจะเป็นจะเป็นอย่างนั้น ผมผิดเอง...ผิดมากๆ....ทั้งที่ตั้งใจไว้แน่วแน่ไว้อย่างนั้น....แต่ประตูบานนั้นมันดันเปิดออกซะแล้ว....ถ้ามองหาสาเหตุคือความผิดผมล้วนๆ....แต่วันนี้..ผมกำลังมองหาวิธีไปต่อครับ...ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดีเมื่อมันพลาดไปแล้ว..... ความคิดเห็นที่ 60 อูยยย....เจ็บมากๆครับ "ลักกินขโมยกิน" เจ็บครับคำนี้..หุๆ ความคิดเห็นที่ 61 ครับจะเก็บไว้ครับ....แล้วอย่าลืมมาตามอ่านบทสรุปกันนะครับ เหอะๆ ความคิดเห็นที่ 62 ........... ความคิดเห็นที่ 63 ครับขอบคุณครับ...แต่"แอบรอบ้างว่าซักวัน...."นี่รออะไรครับ อิอิ ความคิดเห็นที่ 64 ครับ...T^Tซึ้งครับ.....ผมก็ไม่อยากเป็นคนเลวครับ....จะมีใครอยากเกิดมาเป็นคนเลวบ้างครับ ผมว่าคงไม่มี....แต่ก็ยังมีคนเลวมากมายเกิดขึ้นในสังคม เพื่อนว่าเพราะอะไรหรอครับ? ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าผมยังไม่แต่ง....ผมจะไม่รังเลเลยครับ..... ความคิดเห็นที่ 66,67 ครับ...ซึ้งมากครับ....ขอบคุณครับสำหรับเรื่องราวดีๆ ความคิดเห็นที่ 68 ครับ...ก็ขอบคุณ คุณด้วยนะครับที่อยู่ด้วยกันในห้องนี้ ที่ร่วมกันเม้น อิอิ ความคิดเห็นที่ 69 ครับ....ไม่ช้าเกินไปเลยครับ...ขอบคุณมากครับ เรื่องราวของคุณทำให้ผมเห็นภาพมากๆครับ.... และคุณ...เข้าใจผมจริงๆครับT^T..... ปล.กระทู้นี้ผมเป็นคนตั้ง....และให้เขามาร่วมอ่าน....สิ่งที่มีคนประนามในนี้คือสิ่งที่เราสองคนต้องเจอในอนาคตหากเราเลือกข้อสอง ผมตั้งกระทู้เพื่อให้มันออกมาเป้นรูปธรรม เราสองคนต้องอ่านมัน...เพื่อจะได้รู้ว่า....มันจะทำให้เราสั่นคลอนแค่ไหน เราจะยังคิดเหมือนเดิมไหม? มากขึ้นหรือน้อยกว่าเดิม? ผมไม่ให้เขาพูดหรือตัดสินใจวันนี้....ผมอยากให้เวลาเป็นเครื่องช่วยพิสูจความรู้สึกที่เรามีต่อกัน....ผมเชื่อว่าเมื่อถึงปีหน้า(น่าจะประมาณต้นปี-กลางปี) เราสองคนคงมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้นกว่านี้.... และขอบคุณทุกๆท่านมากๆครับ ขอบคุณจากใจจริง....เพราะเรื่องราวและความคิดเห็นของพวกคุณ มันช่วยทำให้เราเห้นภาพขึ้น มันเหมือนทำให้ชีวิตเราสองคนผ่านเองราวมามากมายเลยทีเดียว...ขอบคุณครับ..... จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 08:35:18 A:118.173.99.20 X:

ความคิดเห็นที่ 72 เข้ามาอ่านและโหวต... เพราะงี้  ผมถึงยังไม่แต่งงาน(และยังไม่มีแฟน) ผมคงเลือกมากเกินไปด้วย(มั้ง) จากคุณ : swgss (SWGSS) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:31:02

ความคิดเห็นที่ 73 อยากขอแนะนำ ให้ คุณ forward กระทู้อันนี้ให้ ภรรยาของคุณดูค่ะ.... แล้วให้เธอเป็นคนตัดสินว่า จะเก็บคุณไว้ต่อ หรือ เขี่ยคนโลเล และไม่ซื่อสัตย์ออกไปจากชีวิตเธอ.... อยากให้การตัดสินใจเป็นของเธอค่ะ.... ดิชั้นเข้าใจดีว่า มันคงต้องมีเรื่องเสียใจเป็นธรรมดา.... แต่ถ้าเป็นดิชั้น.... ดิชั้นพร้อมเขี่ยคนไม่ซื่อสัตย์ออกไปจากชีวิตเสมอค่ะ..... ความซื่อสัตย์เป็นคุณสมบัติของคนดีค่ะ ..... ต้องขอโทษที่แรงส์ไปหน่อย.... แต่ดิชั้นเชื่อว่า.... เผชิญหน้ากันอย่างตรงไปตรงมามันได้ผลดีเสมอค่ะ..... จากคุณ : ซื่อสัตย์ต่อหัวใจเสมอ.... (engtaught) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 16:54:40

ความคิดเห็นที่ 74   ผมว่า จขกท ก็เป็นผู้ชายดาดๆ พื้นๆคนหนึ่ง ซึ่ง ทำอะไรมักง่าย เรื่อยๆเอื่อยๆในชีวิต ประมาณว่า ใช้ชีวิตง่ายๆ สบายๆ อะไรก็ได้ เพราะดูแล้ว จขกท แต่งงานโดยไม่คิด(คิดน้อย) แต่งงานแนวๆว่า เอ้าแต่งก็แต่ง """""""""""""""""ไเลิกกับเมียเหอะ""""""""""""""""" ไม่ได้บอกให้ทำแล้วเอ็งมีความสุข แต่ให้ทำเพราะ""""""""""ไเมียเอ็งจะได้มีความสุข""""""""" ไม่โดนเอ็งหลอกไปตลอดชีวิต แกล้งรักไปจนวันตาย จำไว้ การแต่งงาน ไม่ใช่ของเล่น ที่นึกสนุกก็แต่ง นึกเบื่อก็เลิก สังคมปัจจุบันเลยเละเทะไง เพราะคนมันใช้สมองน้อย เอ็งไปแต่งกับคนใหม่เหอะ ฟันธงได้เลยว่า อยู่กันไปไม่รอด สักพักก็เบื่ออีก แล้วไปเจอคนใหม่ ทีนี้จะเจออะไรแบบ คนที่ใช่ทุกอย่าง แต่ เด็กกว่า หน้าตาดีกว่า ฐานะดีกว่า ฯลฯ เหตุผลที่เอามาอ้าง จากคุณ : เรื่องพวกนี้ข่มไม่อยู่ก็ไม่จบ เขียนเมื่อ : วันสิ้นปี 52 22:21:17 A:119.31.53.109 X: TicketID:038237

ความคิดเห็นที่ 75   ขอถามคุณ จขกท. และ เพื่อนในเวบนะ ส่วนจะเลือกอะไรตามใจนะครับ 1 ผู้หญิงที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่ยังจะไปรักกับคนที่สมรสแล้ว นี่เค้าเรียกว่าดอกทองหรือปล่าว 2. ผู้ชายที่ชอบผู้หญิงดอกทองเค้าเรียกแมงดาหรือป่าว 3. ถ้าพ่อคุณเกิดไปเจอ ญ ที่ใช่ แล้วจะทิ้งแม่คุณ คุณจะสงสารแม่ไหม เลือกเดินทางชีวิตเอานะครับ มันมีหนทางอยู่เยอะขุมนรกอเวจี หรือสวรรค์ หรือทางเดินธรรมดา ที่สำคัญ อย่า "โกหก" หรือ "สร้างภาพ" แสดงความรู้สึกออกมา ผิดก็ต้องบอกว่าผิดเพราะผู้ชายท่ีเอาแต่พูดสร้างภาพนะ ถือว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษ เพื่อนผมอยู่คนนะ หล่อ รวย มีภรรายาสวย แต่มันก็แอบไปนอนกับเด็กๆ นอนคืนเดียวจบ สำหรับผมคุณก็แค่หลง Hee หรือ Jimmy อันใหม่แค่นั้นหละ ดันเป็น Jimmy ของคนมีพฤติกรรมดอกทองซะด้วย เหมาะกันมากกกกกกกกกกกก ดังนั้นถ้าคุณเลิกผมก็ไม่ว่าหรอกเป็นโชค ของภรรยาคุณจิรงๆที่สลัดผู้ชาย:-)อย่างคุณไปได้ ผมเห็นมาหลายแล้ว ชีวิตคุณจบไม่ดีหรอกถ้าเลิกกับภรรยาคนนี้ ขอให้ชีวิตบรรลัย เกิดมาชาติหนึ่งหาคนรักแท้ยากมากมาย คบนางฟ้าดีๆไม่ชอบ อยากคบกระหรี่ สวัสดี จากคุณ : ต้องรัก เขียนเมื่อ : วันปีใหม่ 53 15:15:59 A:110.164.106.120 X: TicketID:191546

ความคิดเห็นที่ 76 ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณครับ อิอิ ความคิดเห็นที่ 73 อื้มมขอบคุณครับ ตรงดีจังครับ แต่ขอไม่FWนะครับ...เหอะๆ ผมคงไม่ใช่คนดีจริงๆครับT^T...ถ้าการที่จะเป็นคนดีหรือไม่ดีดูที่ปัจจัยนี้ปัจจัยเดียว....แต่เรื่องนี้ผมก็ยอมรับครับว่าผมผิด.... ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณครับ...แรงดีจังครับ อิอิ ครับ...ผมก็เป็นผู้ชายดาดๆ พื้นๆคนหนึ่งครับ เท่าที่ผมประเมินตัวเองดู....ผมตรงกันข้ามกับที่พูดมานะครับ ผมค่อนข้างเป็นคนคิดมาก คิดเยอะกว่าคนอื่นเสมอ และไม่ใช่คนเรื่อยๆครับ ค่อนข้างจะHiperด้วยซ้ำครับ เหอะๆ ....ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ ใช้ภาษาดูจริงใจเหมือนคุยกับเพื่อนดีครับ ขอบคุณครับ อิอิ ความคิดเห็นที่ 75 หูยยย.....แรงครับ แรง แรงที่สุดในกระทู้นี้เลยครับ....คุณมีรอยแผลอะไรในเรื่องนี้หรือปล่าวครับ....เพราะดูเหมือนว่าคุณจะใช้คำที่แรงมากๆนะครับ ผมยอมรับคำว่าที่แรงๆได้หมด ยิ่งใครว่าผมแบบคนมีการศึกษาผมเจ็บจริงๆครับ....แต่ของคุณเป็นกระทู้แรกจริงๆครับที่ผมอ่านแล้วผมเฉยๆครับเพราะผมกลับรู้สึกเป็นห่วงคุณมากกว่าว่าคุณมีปัญหาอะไรกับชีวิตหรือปล่าวครับถึงใช้คำแรงๆพวกนี้ได้....ถ้าคุณเขียนสิ่งเหล่านี้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าเขียนด้วยการตรึกตรองมาดีแล้วน่าเป้นห่วงครับ เรื่องขนาดนี้คุณใช้คำขนาดนี้ ถ้าเกิดเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่านี้หรือเป็นเรื่องที่ผิดกฏหมาย คุณจะขนาดไหนหรอครับ?..... ขอโทษนะครับไม่ได้ตั้งใจจะว่าจริงๆ เพราะกระทู้ผมไม่ได้ตั้งมาเพื่อจะมาตอบโต้ หรือมาแก้ตัวกับใคร ผมตั้งมาเพื่อมานั้งให้คนวิจารณ์ครับ เพราะมีหลายเรื่องที่บางคนว่าเกิดจริงไปมาก แต่ผมก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ไม่ซีเรียสครับ ถือว่าเป็นการลงโทษตัวเองทางหนึ่ง ส่วนที่ผมพยายามตอบทุกคำตอบ เพราะผมอยากขอบคุณที่เพื่อนๆมีส่วนร่วมครับ และอาจจมีเสนอข้อความบางอย่างที่บางคนเห้นว่าผมแก้ตัวแต่ผมไม่ได้มีเจตนานั้นนะครับ แค่ออกความเห็นในอีก1มุมมองเท่านั้นครับ เพราะสิ่งหนึ่งผมเชื่อว่าไม่มีใครไม่อยากเป็นคนไม่ดีหรอกครับ....แต่ละคนต่างมีเหตุผลของตัวเองครับ..... เหอะๆพอก่อนดีกว่าครับเดี่ยวจะยากกว่านี้ อิอิ ขอโทษนะครับที่พูดยาวไปนิดแต่ผมรับไม่ค่อยได้กับคำหยาบๆที่เกิดขึ้นในเวปนะครับ เพราะผมเห้นเยอะในพันทิปที่ด่ากันในกระทู้....ดูแล้วมะค่อยโสภาเท่าไหร่นะครับ อิอิ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 17:45:29

ความคิดเห็นที่ 77   ขำ จขกท. มันคือลักษณะจริงๆของคนเจ้าชู้ คือจะ รับไม่ได้ถ้าใครพูดถึงตัวเองในแง่ลบ ผมอ่านมาจนเห็นตอบหลายอัน แต่คุณก็แก้ตัวข้างๆคูๆไป เพราะคนเจ้าชู้ไม่คิดถึงใจคนอื่นอยู่แล้ว ถึงได้ทำลงไป ตัวอย่างคห 16 ที่บอกว่า จะแต่งงาน เลือกให้ดี เพราะพ่อจะจัดการให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อมีโอกาสเลือกคู่มาตลอดครึ่งชีวิต จะมารู้สึกว่าไม่พอใจทีหลังไม่ได้ และห้ามทิ้งภรรยาไปมีคนอื่นเด็ดขาด ถ้าเค้าไม่ได้ทำความผิดร้ายแรง ถ้าทำแบบนั้น พ่อถือว่าไม่ให้เกียรติพ่อกับแม่ในการไปสู่ขอ และที่สำคัญอย่าดูถูกผู้หญิง เมื่อตัวเองก็มีน้องสาวเป็นผู้หญิง ผมเห็นด้วยมาก แต่คุณกับโต้ตอบในคห 17 ว่า.... "พ่อผมสอนว่าระวังพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น....เพิ่งเข้าใจครับเหอะๆ ขอบคุณครับที่คอยเอาใจช่วย อิอิ " ผมขอวิจารณ์ว่าบางครั้งคุณไม่มีเหตุผล คุณเอาเหตุผลทุกอย่างมาเพื่อให้เข้าข้างว่าตัวเองถูก ดังนั้น การตั้งคำถามก็เหมือนมีคำตอบอยู่แล้วว่าจะทำใช่ปะ ผมเชื่อว่าพ่อคุณสอนแบบนั้น สอนคนละเรื่องอาจจะสอนให้อดทน ตั้งใจเรียน หรืออะไรก็ตามเพื่ออนาคตที่ดี และเชื่อว่าถ้าพ่อคุณรู้ว่าคุณคิดแบบนี้ ท่านคงจะไม่แนะนำให้คุณทำในสิ่งที่คุณกำลังทำ หรือว่า ถ้าไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ขอโทษ อย่างที่คุณ คห 73 แนะนำให้ FW เมล์ไปให้ภรรยาคุณ ก็บอกไม่ทำมันก็แสดงแล้วว่าคุณไม่แฟร์ ไม่ได้เกี่ยวเลยว่าคุณจะดีไม่ดี ผมมองอยู่แล้วหละว่าคุณไม่ดีในแง่การใช้ชีวิตคู่ แต่ที่คนอื่นเค้าให้ทำนะคือ อยากให้คุณแฟร์ๆครับ win-win ทั้งคู่ กับภรรยาคุณ จิรงๆก็ไม่ win-win หรอก เพราะเล่นคบกับกิ๊กมานานแล้วค่อยบอก แน่จิรงๆควรบอกตั้งแต่ตอนยังจีบกิ๊กไม่ติดด้วยซ้ำ มันก็แสดงว่าคุณเป็นคนไม่ค่อยแฟร์อะ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรไม่เครียดหรอกเรื่องของคุณ แต่ว่าที่รู้สึกคือ 1 สงสารภรรยาคุณ 2 ถ้าคุณเลิกกับแฟนคนในนี้ก็คงยินดีด้วยที่ภรรยาของคุณได้สลัดคนโลเลอย่างคุณ เออส่วนที่คุณโพสต์ในกระทู้ว่า " แล้ววันนี้ผมกลับเจอเรื่องตลกร้าย...เรื่องที่ตัวผมเองเคยประนามคนอื่น...ว่ายังไม่หลุดพ้น...ยังวนเวียนกับเรื่องพวกนี้...ไร้สาระ...เอาเวลาไปสร้างอนาคตดีกว่า" นั่นไงคุณก็เคยประนามคนอื่น แต่ของคุณนี่คือ มันน่าอนาถตรงที่ว่าคุณมีภรรยาที่สมรสแล้ว กิ๊กของคุณก็มีแฟนอยู่แล้ว นี่ถ้าคุณมีลูกแล้วนี่ยิ่งไปกันใหญ่ ก็ไม่รู้จะใช้คำว่าอะไร งั้นใช้คำว่า "กิ่งทอง ใบหยก" ดีกว่าจะได้ดูสุภาพ จากคุณ : คนตอบ 75 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 53 21:43:13 A:110.164.106.120 X: TicketID:191546

ความคิดเห็นที่ 78 ความคิดเห็นที่ 77 (เลขสวยนะครับ 77 อิอิ) เดี่ยวนะครับ....ผมขอสรุปก่อนนะครับ...เรื่องนี้ผมผิดนะครับ....ผมไม่เคยว่าผมถูกนะครับ อิอิ คห 16 เขาบอกประมาณนั้น...ซึ่งดีมากๆครับเป็นมุมมองที่ดีมากๆครับ แต่ผมก็เสริมด้วยการเล่าว่าพ่อผมสอนอย่างไร เป้นคนละเรื่องนะครับ ผมแค่เล่าเพิ่มเติ่มครับไม่ได้มีเจตนาไปวิจารณ์ใครนะครับ อิอิ และผมก็มองว่าทุกๆคห.พยายามช่วยให้ผมหลุดพ้นจากเรื่องนี้ ผมถึงขอบคุณครับ...ที่เอาใจช่วย เพราะผมรู้ว่าทุกคนหวังดีครับ ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : kokuki เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 53 14:05:47

ความคิดเห็นที่ 79 ผู้หญิงเลือกข้อเเรก ผู้ชายเลือกข้อสอง อืม......เราไม่โหวตนะคะค อิอิ ในเมื่อคุณเลือกเเต่งกับคนที่ไม่ได้ "รัก" (เท่าที่อ่านคุณไม่ได้บอกรักภรรยาเลยอะ) งั้นก็อย่าหวังอะไรจากเธอนอกจากความเหมาะสมสิคะ เเต่....ตอนนี้คุณลังเล เพราะผู้หญิงคนนั้นเริ่มมีคุณค่ามากกว่าลูกเมียละเเล้ว 555 ถ้าอย่างนั้นเเนะให้คุณคุยกับภรรยาคะ ถ้าเธอยืนยันจะอยู่กับสามีที่ไม่มีใจให้ คุณจงอยู่ ถ้าเธอไม่ทน อยู่กับสามีที่ไม่รักเธอ งั้นปล่อยภรรยาคุณไปซะเถอะคะ ง่ายๆ แฟร์ๆ เมื่อเคลียร์ทางภรรยาได้คุณก็โสดละ มีสิทธิเต็มที่ที่จะจีบเธอคนนั้น (เเต่จีบติดรึเปล่ามันอีกเรื่อง อิอิ เธออาจไม่ได้ชอบคุณในเเง่นั้นก็ได้นิคะ) เท่าที่อ่านผ่านๆมา.....ไม่มีมีใครถามผู้หญิงทั้ง 2 เลยนะคะ เอาตรงๆเลยว่า..................พวกเธอต้องการคุณ ขนาดนั้นรึเปล่าื หึๆๆ สำหรับเรา ถ้าคนรักเราให้ที่ 1 ไม่ได้ เราก็ไม่ต้องการให้เค้าเป็นที่ 1 ของเราเหมือนกันคะ จากคุณ : fukaze เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 15:38:41

ความคิดเห็นที่ 80 ผมว่าอาการมันเหมือนมือถือที่ซื้อมาสามปีที่แล้วน่ะครับ พอเราไปเจออันใหม่ ที่เพิ่งออกมา นิ้งสุด ๆ เราก็จะหาเหตุผลให้ตัวเองต่า งๆ นา ๆ ว่า มันเก่าแล้ว มันเริ่มพังแล้ว มัน ถลอกแล้ว มันตกรุ่นแล้ว ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วก่อนที่คุณจะซื้อตัวเก่านั้น คุณก็มีอาการเหมือนตอนที่อยากจะได้ตัวใหม่นั่นแหละครับ ที่เค้าบอกว่าคนเรามันไม่มีทางพอ ไม่ใช่แค่เรื่องเงินหรอกครับ ทุกอย่างน่ะแหละครับ จากคุณ : mix_more เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 53 15:28:05