การออกกฏหมาย แต่ไม่บอกวิธีปฏิบัติ ..... ทำชาวบ้านเดือดร้อน....

ถ้าท่านจดทะเบียนสมรสที่สถานทูตหรือกงสุลไทย...
ท่านอาจเดือดร้อนแบบไมรู้ตัว....

เนื่องจากเจ้าหน้าที่
สถานทูตและกงสุลไทยต่าง ๆ ......
ยังไม่เข้าใจวิธีปฏิบัติ
เกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรส
ตามกฎหมายใหม่
ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้
เมือ่กลางปี 2551

ดังนั้นเมื่อมีคนไทย
ไปขอจดทะเบียนสมรส
เขาก็จะสลักหลังใบทะเบียนสมรส
ลงไปว่า
ให้ฝ่ายหญิงใช้คำนำหน้าว่านาง
และให้ใช้นามสกุลตามสามี

โดยที่เขาไม่ได้ถาม......
ควาประสงค์ของท่านก่อน
แต่อย่างใด

แล้วถ้าท่านไม่ได้อ่าน
และหรือไม่ได้ทักท้วงละก็
ต้นเรื่องเอกสารการจดทะเบียนสมรสนั้น
จะถูกส่งจากสถานทูตไปกรุงเทพ
และส่งต่อไปกระทรวงมหาดไทย
และไปยังเขตหรืออำเภอ
ที่ท่านมีทะเบียนบ้านอยู่

แล่้วทางราชการไทย
ก็จะเปลี่ยนฐานข้อมูลทันที
โดยที่ท่านไม่รู้เรื่องด้วยใด ๆ ทั้งสิ้น

ซี่งจะมีผลให้ชื่อและนามสกุล
ตามหนังสือเดินทางของท่าน
ไม่ตรงกับ.........
ชื่อและนามสกุลในฐานข้อมูล
ของกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งเรื่องนี้.........
เป็นเรืองสำคัญมาก ๆ

ตอนนี้มีคนเจอปัญหาแบบนี้
หลายรายแล้ว........
กำลังปวดหัวกันทุกฝ่าย........

บางคนก็ยอมเสียค่าเครื่องบิน
เพื่อไปแก้ไขปัญหานี่
ที่เขตหรืออำเภอในเมืองไทย
ที่ตนมีทะเบียนบ้านอยู่กันเลยทีเดียว

ดังนั้น ถ้าท่านที่เป็นสตรี
และจดทะเบียนที่สถานทูตหรือกงสุล
จึงควรจะให้ญาติ
ไปติดต่ออำเภอหรือเขตให้ตรวจสอบดู

อนึ่ง การเดินทางของเอกสาร
ที่จะมีผลต่อการเปลียนแปลงดังกล่าว
จะใช้ระยะเวลาเดินทาง
จากสถานทูตหรือกงสุลไปถึงเขตหรืออำเภอของท่าน
ประมาณ 5 เดือน
นับแต่วันจดทะเบียนสมรส..........

สวัสดี

หมายเหตุ
ถ้าท่านไม่ต้องการให้มีปัญหาละก็
ท่านต้องยืนยัน
และให้เจ้าหน้าที่นายทะเบียน
สลักหลังลงไปว่า
ฝ่ายหญิงมีความประสงค์
ขอใช้คำนำหน้าชื่อว่านางสาว
และใช้นามสกุลตามเดิม

การกระทำของท่านดังกล่าว
เป็นสิทธิของท่าน
ตามกฏหมายใหม่
ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน

จากคุณ	: kongsilp2000
เขียนเมื่อ	: 22 ธ.ค. 52 21:50:45