ความคิดเห็นที่ 1   จับคนร้ายได้ แล้ว ขึ้นศาล ว่าไปตามกระบวนการ ยอดค่าใช้จ่าย เราก็ยังไม่จ่าย ตามที่ ตร. บอก ให้ศาล สั่ง ไล่บี่ คนผิดเอาเอง จากคุณ : aroonaroonaroon2009 เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 13:40:26

ความคิดเห็นที่ 2 ตำรวจแนะนำถูกต้องแล้วครับ เราไม่ต้องรับผิด เพราะว่าเราไม่ได้ใช้บัตร เราเป็นผู้เสียหายในกรณีบัตรถูกขโมยเท่านั้น และ เอาผิดฐานเอาบัตรไปใช้โดยมิชอบ และ เอาไปซึ่งเอกสาร ตาม ปอ.มาตรา ๑๘๘  ม.๒๖๙/๕  ม.๒๖๙/๗ จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 13:41:15

ความคิดเห็นที่ 3 ตามมาดู แต่คิดว่าไม่ต้องจ่ายเหมือนกันค่ะ เรายืนยันได้ว่าไม่ใช่ลายเซ็นต์เรา จากคุณ : noknannew เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 14:01:51

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วในสัญญาการใช้บัตรเครดิต ได้ระบุให้ เจ้าของบัตร ต้องชดใช้ ก่อนการแจ้งอายัดบัตร หรือไม่ครับ ถ้าเจ้่าของบัตร ไม่ต้องรับผิดชอบ  ธนาคาร ไม่ต้องรับผิดชอบ ร้านทองไม่รับผิดชอบ  ขโมย ก็หนีประกันไปแล้ว  แล้วใครต้องรับผิดชอบครับ จากคุณ : ช่างกระจก เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 14:22:45

ความคิดเห็นที่ 5 แนะนำ จขอท ดังนี้ ครับ 1. ปัจจุบัน ในสัญญาที่ทำบัตรเครดิต กับธนาคาร จะมีข้อสัญญาว่า ในกรณีที่บัตรหาย และมีผู้นำไปใช้ ก่อนที่ เจ้าของบัตรจะแจ้งอายัดบัตรต่อธนาคาร เจ้าของบัตรต้องรับผิดชอบ จำนวนที่ถูกใช้บัตรไป 2. กรณี ของ จขกท จะเข้าตามข้อ 1 เลยครับ จขกท ต้องพิจารณาว่า การชำระค่าบัตร ใช้วิธีไหน ถ้าใช้วิธีจ่ายเงินสด - ไม่ต้องไปจ่าย ถ้าใช้วิธีหักบัญชีธนาคาร - ถอนเงินในบัญชีให้เหลือ 0 ธนาคารก็จะหักบัญชีไม่ได้ 3. แจ้งความตำรวจ และแจ้งธนาคาร พร้อมปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นหนังสือ แนบใบเจ้งความตำรวจด้วย 4. เมื่อธนาคารยังฟ้องเรียกหนี้ ก็หาทนายความสู้คดี แต่ถ้าลายเซ็นไม่ค่อยเหมือน โอกาสชนะคดีมีเยอะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 16:26:46 จากคุณ : ขุนนนท์ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 16:24:34

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าผมเป็นเจ้าของร้านค้านะครับ เวลาผมรับบัตร  ผมต้องตรวจลายเซ็นในสลิป กับ ลายเซ็นหลังบัตรเครดิต ว่า คล้ายคลึง ตรงกันไหม   เพราะผมไม่อาจไปทราบได้ว่า  เจ้าของบัตรจะมีลายเซ็นอื่นๆ เวลาไปเซ็นเอกสารที่ไหนไหม   บางคน เซ็นเอกสารทั่วไป ก็เซ็นแบบหนึ่ง  เซ็นถอนเงินในธนาคาร ก็เซ็นอีกแบบหนึ่ง  เซ็นบนหลังบัตรเครดิต ก็เซ็นอีกแบบหนึ่ง ก็อาจเป็นได้ ดังนั้นถ้าจะพิสูจน์ว่า  ร้านค้าประมาทเลินเล่อ  ก็ต้องเอาลายเซ็นในสลิป เปรียบเทียบกับลายเซ็นหลังบัตรเคตดิต เท่านั้น  จะไปเอาลายเซ็นบนเอกสารอื่นๆ ที่ร้านค้าไม่อาจทราบได้ มาเปรียบเทียบกัน มันก็ไม่ถูกนะ ถ้าเอาลายเซ็นบนเอกสารอื่น มาเปรียบเทียบกันกับในสลิปได้  แบบนั้น  ผมก็เซ็นในบัตรเครดิตแบบหนึ่ง  แล้วก็เซ็นสลิปให้ตรงกับบัตรเครดิต   แล้วปฎิเสธการจ่ายว่า ไม่ได้เป็นคนเซ็น ให้เปรียบเทียบลายเซ็นบนสลิป กับ  เอกสารอื่นๆ ของผมซิ  แบบนี้  ร้านค้าไม่เน่าทั่วประเทศหรือ แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 17:53:28 จากคุณ : ช่างกระจก เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 17:50:56

ความคิดเห็นที่ 7 1. ปัจจุบัน ในสัญญาที่ทำบัตรเครดิต กับธนาคาร จะมีข้อสัญญาว่า ในกรณีที่บัตรหาย และมีผู้นำไปใช้ ก่อนที่ เจ้าของบัตรจะแจ้งอายัดบัตรต่อธนาคาร เจ้าของบัตรต้องรับผิดชอบ จำนวนที่ถูกใช้บัตรไป ----------------------------------------- ข้อสัญญาที่ขัดกับกฎหมายถือเป็นโมฆะครับ อย่าไปจ่ายครับธนาคารมันเห็นแก่ตัวจะให้คุณจ่ายนะซิ ว่าไปตามกฎหมาย เลยครับ ปกติครบรอบบิลถ้ารายการไหนเราไม่ได้เป็นคนรูด ยังมีสิทธ์ไม่จ่ายได้เลยนะครับ ไม่ใช่ว่ารูดแล้วเงินจะ เคลียร์ทันทีนี่ครับ จากคุณ : artidk เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 17:58:09

ความคิดเห็นที่ 8 ^ ^ ^ ข้อสัญญานี้ เขียนทุกธนาคารครับ แล้วก็ไม่ขัดด้วยครับ เพียงแต่ต้องดูว่า จขกท ประมาทหรือไม่ จะชนะหรือแพ้อยู่ที่การพิสูจน์ ก็แล้วแต่ฝีมือทนายความ จากคุณ : ขุนนนท์ เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:45:08

ความคิดเห็นที่ 9 เราเคยโดนลักษณะคล้าย ๆ แบบนี้เหมือนกันค่ะ เมื่อปีที่แล้วเอง ของเราโดนขโมยบัตรเครดิต ไปรูดซื้อบัตรเติมเงิน ที่ห้างบิ๊ก... บางพลี เป็นจำนวนเงิน 27000 บาท พอรู้ตัวว่าบัตรหาย ได้โทรแจ้งทางธนาคาร ธนาคารเราต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เพราะได้มียอดค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแล้ว ก่อนโทรแจ้งธนาคาร เราเลยถามธนาคารว่า แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรได้บ้าง ธนาคารแนะนำให้ไปแจ้งความ เพื่อนำใบแจ้งความ ไปขอเปิดกล้องดู จะได้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ และเราเองก็จะได้ไม่ต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ดังนั้น เราจึงไปแจ้งความ และนำใบแจ้งความไปที่ห้าง เพื่อขอเปิดกล้อง ตอนแรกพนักงานที่รับผิดชอบดูเหมือนจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ยังบอกเราอีกว่า อ๋อ คนร้ายได้มาใช้รูดซื้อบัตรเติมเงิน ตรงเค้าเตอร์นี้เลยค่ะ มีกล้องอยู่ตรงนี้พอดี 2 ตัว ยังไงต้องได้ตัวคนร้ายแน่ แต่แล้ว ก็มีพนักงานอีกคน อ้างว่าอยู่แผนกบัญชีได้เรียกพนักงานที่กำลังคุยกะเราอยู่ ไปคุยอะไรกันไม่รู้ แล้วก็เดินหายไปทั้ง 2 คน ไปเป็นชั่วโมงเลยค่ะ บอกให้เรารอก่อน หลังจากที่พนักงานห้างคนที่รับเรื่องของเรากลับมา ก็ได้บอกเราว่า เอ่อ พี่จะดูกล้องใช่ไหมคะ เมื่อกี้หนูไปถามพนักงานที่นั่นมาแล้ว เค้าบอกว่า กล้องได้โดนลบออกไปหมดแล้วค่ะ เพราะที่ห้างบิ๊ก... เราจะลบข้อมุลในกล้องออกทุก ๆ 2 สัปดาห์ค่ะ เราบอกว่า งั้นขอสลิปไปถ่ายเอกสารหน่อยได้ไหม ก็บอกว่า ไม่ได้ค่ะ เป็นกฏอะไรไม่รู้ของทางห้าง คือสรุปว่าจะไม่ให้ความช่วยเหลือ เพราะทางห้างเองก็กลัวที่จะต้องรับผิดเองนั่นแหละ สรุปคือไม่ได้ช่วยอะไรเลย แถมบอกปัด ไม่ให้ดูกล้อง ไม่ให้ถ่ายสลิป จากตอนแรกที่ดูว่า จะช่วยเราได้เป็นอย่างดี เราผิดหวังมาก และรู้สึกไม่ดีกับห้างนี้อย่างแรง ระหว่างนั้นเราได้โทรหาธนาคารและเล่าให้เค้าฟัง ทางธนาคารก็บอกว่า ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ยังไงเราก็ต้องจ่ายในส่วนที่โดนรูดไป แต่ทางธนาคารจะให้ผ่อนจ่าย 6 งวด โดยไม่คิดดอกเบี้ย เราถือซะว่า ครั้งนั้นมันเป็นคราวซวยของเรา และไม่อยากเสียเวลาที่จะไปทวงถามหาความรับผิดชอบ เพราะได้ทำแล้ว แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดจะช่วยเหลือ ทั้งฝ่ายห้าง และฝ่ายธนาคาร ทุกวันนี้ หักทิ้ง ยกเลิก ไม่ให้เหลือแม้แต่ใบเดียว และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ธนาคารนี้ก็ยังมีหน้าส่งบัตรเครดิตใบใหม่มาให้เรา โดยที่เราได้ยกเลิกไปแล้ว และไม่ได้สมัครใบใหม่แต่อย่างใด พอเราโทรไปแจ้งธนาคารว่า ได้ขอยกเลิกบัตรไปแล้ว และส่งมาให้ทำไม ธนาคารบอกว่า บัตรใบนี้ใช้แทนใบหมดอายุ งงค่ะ มันจะหมดอายุได้ไง ในเมื่อดิฉันยกเลิกบัตรไปแล้ว พอดิฉันขอยกเลิก ธนาคารบอกว่า ต้องรอให้ได้ 1 รอบบัญชีก่อน ถึงค่อยโทรมายกเลิกนะคะ หลังจากวางสาย ก็มี SMS จากธนาคาร ว่า ถ้าใช้บัตรเดือนนี้ถึงเดือนกุมภา เดือนละ 5000 บาท จะได้กระเป๋าล้อลากฟรี มูลค่า 4500 บาท แก้ไขเมื่อ 23 ธ.ค. 52 19:47:09 จากคุณ : lovejustinkung เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 19:45:30

ความคิดเห็นที่ 10 ตามคุณตำรวจครับ อย่าไปจ่ายจนกว่าคดีสิ้นสุด จากคุณ : napgnop เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 21:02:30

ความคิดเห็นที่ 11 เพื่อนที่ทำงานเคยเจอ แต่คนละเคสกับ จขกท คือ เขามียอดการใช้จ่ายแปลก ๆ เกิดขึ้น ตัวเขาอยู่ กทม. แต่บิลที่ส่งมานั้น มียอดซื้อสินค้าที่เชียงใหม่ หลายพันเหมือนกัน เขาก็โทรไปบริษัทบัตรเครดิตนั้น ทางบริษัทบอกมาว่า ต้องรับผิดชอบ เพราะว่าเป็นการใช้ภายใต้ชื่อของเพื่อน   เพื่อนเดี๊ยนเลยยั๊วะ บอกว่า "ปัญญาอ่อนหรือไง บัตรรูดวันเดียวกัน ห่างกัน ชม. เดียว แต่รูดที่ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต กับ เชียงใหม่ เทวดาที่ไหนจะทำได้" แล้วเพื่อนถามว่า สลิปที่บอกว่ารูดซื้อสินค้าที่เชียงใหม่น่ะ มีลายเซ็นไม๊ บริษัทบัตรเครดิต ตอบว่า  ไม่มี (แล้วมันจะให้รับผิดชอบทำแป๊ะไรเนี่ย) เพื่อนเลยบอกว่า ในเมื่อไม่มีลายเซ็น บริษัทคุณก็ปฏิเสธการจ่ายเงินไปสิ ไปยอมจ่ายแล้วจะมาให้ผมรับผิดชอบได้ไง  ไม่รู้แหละ ถ้าจะให้ผมรับผิดชอบ ก็เอาสลิปที่มีลายเซ็นผมมา  แต่ถ้าไม่มี ผมไม่รับผิดชอบ อยากได้ก็ไปฟ้องเอา สรุป บริษัทมันต้องยอมตัดรายการออกไป จะบอกว่า บริษัทพวกนี้ เขาจะมีการกันเงินค่าความเสี่ยงเอาไว้แล้วค่ะ (ตามธนาคารก็มีเช่นเดียวกัน เผื่อพนักงานนับเงินผิด) ในงบประมาณที่ตั้งไว้แล้วนั้น บริษัทสามารถที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในกรณีของ จขกท ได้  ถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่ได้จงใจให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และได้รักษาบัตรอย่างดีแล้ว ไม่ได้ประมาทเลินเล่อ แต่ส่วนมาก ก็โบ้ยให้ลูกค้าจ่ายทั้งนั้นแหละค่ะ  โดนขโมยสำเนาบัตรประชาชนไปกู้เงิน  เจ้าของบัตรยังต้องรับผิดชอบเลย ไม่ได้รู้เรื่องด้วยสักนิด ทำแบบนี้เหมือนสนับสนุนคนเลวยังไงไม่รู้ จากคุณ : isiss12 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 00:13:48

ความคิดเห็นที่ 12 เมืองไทย ธนาคารเป็นแบบนี้หรอ? ถ้าเป็นเมืองนอก บัตรหาย จะถูกใช้ยอดไปเท่าไร เราเจ้าของบัตร ถ้าไม่ได้กดใช้เอง ไม่ต้องจ่ายคะ แจ้งความ นำใบแจ้งความ ไปให้ธนาคาร แล้วอายัดบัตร นอกนั้น หมดหน้าที่ของเรา เจ้าของบัตร ต่อไป ก็เป็นหน้าที่ธนาคารเขาล่ะ จะไปไล่เบี้ยกับใคร เขาต้องไปไล่เบี้ยกับเจ้าของร้าน เพราะไม่รอบครอบ ตอนคนร้าย ใช้บัตร ทำไมไม่ขอดูบัตรประชาชน คนที่รับผิดชอบคือ เจ้าของร้านทอง แต่เราไม่ต้องไปเดินเรื่อง เพราะอันนี้หน้าที่ธนาคารเขาต้องจัดการ แต่ไม่ทราบเมืองไทยเป็นแบบไหน ทำไมห่วยแตกแบบนี้ คนไม่ได้ใช้ถูกขโมยจับคนร้ายได้ ยังบอกให้รับผิดชอบอีก เอาสมองส่วนไหนคิด มีแต่เอากับเอา ไม่ต้องจ่าย ไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเรามีหลักฐานการถูกขโมย ธนาคารอยากได้ ให้ไปฟ้องเอาที่ศาลลล นู้น แบบนี้ จากคุณ : อยาก..ลืม (อยาก..ลืม) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 00:16:38

ความคิดเห็นที่ 13   เรื่องนี้ง่ายมากเลยครับ ผมก็เคยเจอในเรื่องแบบนี้ ก็เอาตัวรอดมาได้ 1. เราต้องแจ้งความก่อนครับ เพื่อเป็นหลักฐาน 2. เราต้องแสดงตัวเราก่อนครับว่าเราไม่ได้ใช้บัตรเครดิต เช่น ลายเซนต์การรูดบัตร และที่สำคัญถ้าเราทำงานบริษัทให้เราเอาใบบันทึกเวลาการทำงานของเราไปแสดงด้วย ว่าเวลานี้เราทำงานอยู่ที่บริษัท จะมีเวลาที่ไหนไปใช้บัตร 3. เอาหลักฐานทั้งหมดไปคุยกับธนาคารครับ ธนาคารเขาจะไปไล่บี้กับร้านทองเองครับในฐานนะที่เขาไม่ได้ตรวจสอบอะไรเลยเกี่ยวกับบัตร   เรื่องราวของผมก็เลยรอดตัวมาได้ จากคุณ : mon1976 เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 00:38:53

ความคิดเห็นที่ 14 ขอขอบคุณทุกท่านมากครับ ได้ความรู้เยอะเลย และคลายความวิตกไปได้มาก ผมได้ให้หลักฐานแจ้งความไปกับธนาคารแล้ว  แต่เขาก็ยังคงโทรมาเจรจาอีก  คงเป็นระเบียบของธนาคารทุกแห่งละมัง ตอนนี้ผมก็จะทำตามที่ทุกท่านแนะนำครับ  ...ไม่จ่าย... จากคุณ : นพ (พี่นพ) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 52 08:52:51

ความคิดเห็นที่ 15 เราเคยทำตามที่ คห 13 บอกแล้วทุกอย่าง แต่ทางธนาคารก็อ้างว่า ลายเซ็นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถจะบอกได้ว่า คุณรูดจริง หรือ คนอื่นเป็นคนรูด ไม่มีอะไรจะการรันตีได้ ถ้าคุณรูด แล้วเซ็นไม่ให้เหมือน เพื่อที่จะบ่ายเบี่ยงเอง ซึ่งมันพิสูจน์ไม่ได้ ฉะนั้น ยังไง ๆ ก็ต้องจ่ายอยู่ดี เซ็งค่ะ จากคุณ : lovejustinkung เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 52 19:22:52

ความคิดเห็นที่ 16   โดนขโมยกระเป๋าที่บ้านเหมือนเรื่องที่พี่นพเล่ามาเลย โดนรูดซื้อทองเหมือนกันด้วยธนาคารบอกว่าเจ้าของบัตรต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ทำไม่ธนาคารประเทศไทยเป็นอย่างนี้ ทำอย่างไรดีหละ อยากให้ทางข่าว 3มิติออกอากาศ ประกาศจับตัวคนร้ายเหมือนกับที่เคยออกรายการบ้างจัง จากคุณ : คุณมิ้ง เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 22:36:39 A:125.24.11.157 X:

ความคิดเห็นที่ 17   มีภาพคนร้ายด้วยค่ะ เห็นภาพชัดเจนเลย ทำไม่มันช่างกล้าอย่างนี้เป็นผู้ชายแต่ใช้บัตรที่ขโมยเป็นของผู้หญิงไปรูด และทางร้านขายทองก็ยอมให้ซื้อได้ด้วย และธนาคารไม่มีระบบความปลอดภัยให้กับลูกค้าเลย ใครเห็นช่วยแจ้งด้วย จากคุณ : มิ้ง เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 22:43:23 A:125.24.11.157 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้ผมปรึกษาทนายและตำรวจ ทุกคนบอก "ไม่ต้องจ่าย" ครับ ทางธนาคารเขาต้องทวงแบบนี้เสมอ เพราะเขาไม่มั่นใจว่าเราร่วมมือกับคนร้าย  ทำทีเป็นโดนขโมยหรือเปล่า   เรามีหลักฐานจากตำรวจว่าโดนขโมยจริง  ให้ยืนยันไม่จ่ายไปครับ ถ้าเขาฟ้อง  เราก็ชนะ  แต่ส่วนใหญ่เขาไม่ฟ้อง  แต่จะพยายามตื้อเราให้จ่ายด้วยเงื่อนไขต่างๆ คนร้ายในกรณีผมก็เป็นผู้ชาย และรูดบัตรผู้หญิงเหมือนกัน  ถ้าจับคนร้ายและได้บัตรคืนมา  สามารถเทียบลายมือได้  แต่ของผมยังไม่ได้ของกลางอะไรเลย  แต่ก็ยืนยัน ไม่จ่าย ครับ จากคุณ : นพ (พี่นพ) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 09:02:45