เปิดร้านเข้าสู่เดือนที่8 เจ้าของตึกบอกไม่ให้ต่อสัญญา ทำยังไงดีคะ

เปิดร้านนั่งกินเหล้าเล็กๆ ค่ะ (ห้องเดียว) อยู่แถวเขตสาทร
ลงทุนไปหลายแสนค่ะ กับเพื่อน เท่ากับว่าตอนนี้เปิดได้จะ 8 เดือนแล้วค่ะ ตั้งแต่ พค. ต่อสัญญามาแล้ว 2 ครั้งค่ะ ครั้งแรก ผจก.ตึก(เป็นรูปแบบบริษัทค่ะ) บอกว่าทำสัญญาไปซัก 3 เดือนก่อนนะ ไม่มีปัญหาหรอกต่อใหม่ไม่ยาก ครั้งที่ 2 ก็ต่ออีก 6 เดือน ก็เหมือนเดิมค่ะ เค้าบอกว่าไม่มีปัญญา ก็เลยต่อแค่นี้ก็ได้
(เพราะก่อนหน้านี้เคยไปเช่าเปิดร้าน internet cafe แถวบ้านค่ะ ทำสัญญาครั้งเดียว อายุ 6 เดือน แล้วก็ไม่ต้องต่อ เพราะถ้าผู้เช่าไม่บอกเลิก ถือว่าต่อสัญญาอัตโนมัติก็อยู่มา 3 ปี ไม่มีปัญหา ก็อนุมานเอาว่าคงเหมือนๆ กัน ไม่นยาก...)
พอต่อสัญญาครั้งที่ 2 มาได้เดือน 2 เดือน ทางผจก.ตึกก็บอกว่า ทางเจ้าของเค้าไม่ให้ต่อสัญญาแล้วนะ ก็เท่ากับว่า มกราคมนี้หมดสัญญาแล้ว แล้วเปิดร้านมาได้แค่ 9 เดือน ลงทุนไปหลายแสน แล้ว..............ทำไง?
บอกตรงๆ ค่ะว่าตอนนี้เครียดมาก จะหาทำเลใหม่ก็ยาก แล้วต้องมาเสียค่าตกแต่งอีก ค่าขนย้ายอีก เครียดกับทำเลอีก
ตอนนี้ก็ได้แต่เรียกร้องทางเจ้าของตึกค่ะว่า จะให้ทำยังไงก็ได้ ขอต่อ อีกซัก 6 เดือน ให้กำไรบ้างเหอะ ทางเจ้าของเค้าก็ say no. อย่างเดียวเลย

ทีนี้มาดูสาเหตุกันค่ะว่าทำไม เจ้าของตึกถึงไม่ให้ต่อสัญญา
1. เจ้าของเค้าไม่ใช่คนใจร้ายค่ะ แถมเค้ายังเป็นคนธรรมะ ธรรมโม มากด้วย ก็เลยไม่อยากให้ขายเหล้า (แต่ให้เปิดร้านตอนแรก.. หรืออาจจะเป็นเพราะการรับรองจาก ผจก.ตึก ที่คอยช่วยเหลือทางเราอยู่)
2. มีคนโทรมาต่อว่าทางตึก และทางเจ้าของตึกเลยค่ะว่า ร้านเราเสียงดังรบกวนเค้า นอนไม่ได้ นอนไม่หลับ  เค้าเลยมองว่าการที่ให้เราเช่า เค้าได้เงินค่าเช่า เราได้เงินจากลูกค้า ได้กันอยู่ 2 ฝ่าย แต่กลับทำให้ผู้อยู่อาศัยระแวกนั้นเดือนร้อน เป็น 10 (พอถึงตรงนี้เราก็เข้าใจค่ะ)

ทีนี้ ขออธิบายเรื่องร้านหน่อยค่ะว่า
ร้านเรามีลำโพงติดอยู่ข้างหน้า 2 ตัว เล็กๆ แบบใหญ่กว่าลำโพงคอมพิวเตอร์ ทั่วไป2เท่า ก็ถือว่าเล็กค่ะ จากหน้าร้าน(ที่ติดลำโพง) ไปถึงถนน มีระยะห่างประมาณ 6-7 เมตรค่ะ ถนน 2 เลน เพลงที่เปิดก็เป็นแนวเบเกอรี่ค่ะ ชิวมาก ไม่ใช่เพลงแนว non stop เลยค่ะ ซ้ายกับขวาของร้าน ไม่ติดที่พักอาศัยค่ะ ด้านนึงติดธนาคาร ด้านนึงติดกับร้านกาแฟที่เปิดแค่ตอนกลางวันและกลางคืนไม่มีคนพักอยู่ที่นั่น ฉะนั้นตัดไปค่ะ
ฝั่งตรงข้ามมีคนพักอาศัยแน่นอนค่ะ แต่ในความคิดเรา เราว่ามันห่างกันพอตัวเลยนะ ไม่น่าจะดังขนาดนั้นอ่ะ เราก็เข้าใจค่ะว่า ตอนหัวค่ำ รถเยอะ มีร้านข้าว มีตลาด มีคน เสียงร้านเราก็เลยไม่ได้ไปรบกวนใคร แต่พอตกดึก ร้านปิด คนหมด แต่เรายังเปิดอยู่ เสียงก็เลยอาจจะดังมาก แต่ลำโพงเราหรี่ได้ค่ะ พอร้านอื่นๆเริ่มๆปิด ซัก 5 ทุ่มครึ่ง เที่ยงคืน เราก็จะหรี่เพลงลงค่ะ ลูกค้าเข้าใจว่าร้านเราจะหรี่เพลงในเวลาประมาณนี้

และแล้วก็มีคนไปร้องเรียนที่เขตสาทร ว่าร้านเราเสียงดัง (หลายครั้งมาก)
แล้วก็ไปร้องเรียนที่ กทม. โดยตรง (อาจจะโทรไปร้องเรียนหรือเปล่าไม่แน่ค่ะ)
แล้วก็โทรไปแจ้งความกับตำรวจว่าร้านเรามีตีกัน(ซึ่งจริงๆ ไม่มีเลย) ร้านเรามีเด็กม.ปลายมานั่งกิน (ซึ่งทุกวันนี้แทบจะตรวจบัตรประชาชนกันแล้วค่ะ) หรืออาจเป็นเพราะมีน้องบางคนมาเล่นเกมส์ร้านเกมส์ใกล้ๆ กัน เห็นรุ่นพี่มานั่งกินบางทีก็เดินเข้ามาหา (ลูกค้าส่วนมากชอบนั่งหน้าร้านค่ะ) เราก็จะบอกเลยว่านั่งไม่ได้นะคะ ถึงไม่ได้กินก็นั่งไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวตำรวจมาค่ะ (อ้างประมาณนี้)

ยาวหน่อยนะคะ เครียดมาก............
มาตอนนี้ มีสิ่งแวดล้อมของ เขตค่ะ เข้ามาดูแล มาตักเตือนค่ะ
จริงๆ เค้ามาตั้งแต่เปิดร้านแรกๆ เลยค่ะ เค้าให้เราจัดการเรื่องความสะอาดในร้าน มาแนะนำค่ะ เราก็ ok เช่น ถุงกระสอบน้ำแข็งให้เปลี่ยนเป็นถุงใส ที่สะอาด ไม่ให้ใส่กระสอบ เพราะกระสอบสกปรก ให้ติดบ่อดักไขมัน เป็นต้น

แล้ววันหนึ่งก็มี จดหมายจากสิ่งแวดล้อมเขต  มาแปะที่หน้าร้านว่า ร้านเราโดนร้องเรียนว่าเสียงดัง ให้เอาลำโพงหน้าร้านออก หรือจำกัดเสียงให้ดังไม่เกิน 10 เดซิเบล (**ข้อนี้อยากทราบมากเลยค่ะว่า 10 เดซิเบลที่มันขนาดไหนคะ เพื่อนบอกว่าตะโกนยังเกินลย) แล้วให้ติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ด่วน วันนั้นเราก็โทรไปเลยค่ะ แต่เจ้าหน้าที่เค้ากลับบ้านแล้ว เค้าบอกว่าไม่มีอะไรหรอก มีคนร้องเรียนก็เอาเลยต้องมีเอกสารไปแปะเตือน จริงๆ ไม่ใช่ดังจากเสียงลำโพงหรอก เป็นที่เสียงลูกค้าคุยกันดัง เพลงน่ะไม่ดังหรอก เพราะเคยมาตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว แก้ไขไม่ได้หรอกเรื่องคนคุยกันเสียงดัง

สรุป เมื่อวันก่อน เราไปคุยกับทาง ผจก.ตึกมาค่ะว่า ทำยังไงดี ตัวผจก.เองรู้สึกว่าเหมือนมีคนแกล้งเรา (มีคนอยากได้ห้องที่เราเช่าค่ะ)  เพราะมันดูผิดปกติมาก (ผจก.ตึกเค้ามักจะให้ยามมาแอบสำรวจร้านเราตอนกลางคืนบ่อยๆ ว่าดังมั๊ย มีเรื่องอะไรกันมั๊ย รบกวนใครมั๊ยค่ะ ยามยังบอกเลยว่าไม่ดังเลย) เค้าเลยแนะนำว่า ถ้าเรามีเอกสารจากทางเขตว่ามีการตรวจสอบแล้วว่า ร้านนี้ไม่ได้รบกวนใครนะ มาให้เจ้าของตึกดู เค้าอาจให้เราต่อสัญญาก็ได้ เพราะเป็นเอกสารจากราชการ

เราก็เลยไปติดต่อทาง จนท.ของสิ่งแวดล้อมเขตว่า เราสามารถยื่นเรื่องอะไรได้มั๊ย เกี่ยวกับเรื่องนี้ เราจะได้ต่อสัญญาได้ เค้าบอกว่า ไม่ได้หรอกถือว่าดวงไม่ดีละกัน ทีหลังไปเปิดร้านที่ไหนก็อย่าลงทุนเยอะ เดี๋ยวเป็นแบบนี้อีก (ตอนนี้ยืนกำมือแน่นเลยค่ะ โมโห) ถ้าทางคุณได้ต่อสัญญา ทางเขตก็ถือว่าทางผู้เจ้าของตึกผิดสัญญากับเขตเรื่องไม่ให้ต่อสัญญาสิ (ตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าทางเขตไปบีบให้ทางเจ้าของตึกไม่ให้เราเช่าต่อนี่หว่า)  เราก็ถามเค้าว่า แล้วยังงี้ถ้าเราโดนแกล้งร้องเรียน ตาสีตาสาที่ไหนไม่รู้มาร้องเรียน มาแจ้งแบบไม่มีมูลเหตุความจริง เราก็ต้องปิดร้านไปเหรอ เค้าบอกว่า "ใช่" (โอยเครียด)

แบบนี้มันคืออะไรอ่ะคะ มันใช่จริงๆ เหรอคะ ยังไงวานผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยนะคะว่าต้องทำยังไงค่ะ ทางภาครัฐไม่มีมาตรฐานในการตรวจสอบอะไรเลยเหรอคะ อย่างเช่น 191 ที่เวลาโทรไปแจ้งว่า ได้ยินเสียงคนในบ้านนี้ ฆ่ากันตาย แล้วเค้าก็ส่งสายตรวจไปดู ถ้าไม่มีอะไร ก็แจ้งกลับว่า ไม่มีอะไรแค่ทะเลาะกัน หรือเข้าใจผิด เป็นต้น น่ะค่ะ  ถ้าเป็นไปได้เราก็อยากรู้ค่ะว่าใครแจ้ง เค้าอาจจะเข้าใจเราผิด หรือให้เราปรับปรุงร้าน ก็บอกกันได้นะคะ ไม่ใช่ให้หมดทางทำมาหากินไปเลย ปิดร้านไปเลยแบบนี้ ด้วยสาเหตุว่าลูกค้าคุยกันเสียงดัง

ทุกวันนี้ลูกค้าที่มาที่ร้านเพราะบรรยากาศร้านดูสบายๆ ไม่หนวกหู นั่งกินไปคุยกันไปได้ ส่วนลูกค้าที่มาปาร์ตี้ เช่นวันเกิด นัดรวมพล สังสวรรค์ พวกนี้เสียงดังมากค่ะ ยอมรับเลย แต่เค้าจะนั่งข้างในกัน เพื่อความเป็นส่วนตัว เวลามาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ แทบจะเหมาด้านในไปเลยค่ะ ฉะนั้นเสียงก็ไม่น่าจะมีเล็ดลอดเท่าไหร่นะคะ

ส่วนเพื่อนที่หุ้นกัน เค้าก็ดอดไปเปิดร้านใหม่ แถวเจริญกรุงค่ะ ก็เลยอาจจะไม่มีผลกระทบกับเค้าเท่าไหร่

เราเสียดายลูกค้าที่นี่มากค่ะ เชื่อมั๊ยคะว่าคนแถวนี้น่ารักมาก ที่ร้านไม่เคยโดนกินแล้วชิ่งเลยซักครั้งเดียว ไม่เคยมีตีกัน แต่อาจจะแขวะๆ กันนิดหน่อย  ไม่มีเรื่องเด็กมาเล่นยาในร้าน แถมแม่ค้าแถวนี้อัธยาศัยดีมากๆ ขอความช่วยเหลือได้ตลอด เห็นเราเดือดร้อนก็รีบมาช่วยเหลือเสมอเลยค่ะ เพื่อนบ้านก็ อุดหนุนเราค่ะ บางทีเราก็ไปทำผมร้านเค้า เค้าก็มากินร้านเรา ส่วนร้านอินเตอร์เน็ทข้างๆ  ตอนนี้ก็กลายเป็นสนิทกันไปค่ะ ผู้คนแถวนี้ดีมากๆ จริงๆค่ะ

ตอนนี้ ใจนึงก็อยากย้ายค่ะ แต่ทำเลหาลำบากมาก แถมยังต้องใช้งบแต่งร้านอีกพอควร

edit คำผิด

แก้ไขเมื่อ 25 ธ.ค. 52 04:30:35

จากคุณ	: Jamaija
เขียนเมื่อ	: 25 ธ.ค. 52 03:54:48