ความคิดเห็นที่ 1 ตามความรู้สึก (แบบไม่ได้อิงกฏหมาย) ผมว่าต้องใช้ครับ เพราะเงินที่เรารับฝากไว้ ถือเป็นความรับผิดชอบของเรา หากเกิดกรณีสูญหาย เราก็จำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบในส่วนนั้น คล้ายๆกับ เพื่อนยืมรถเราแล้วขับไปชน เพื่อนก็จะต้องซ่อมรถให้เราเช่นกัน จากคุณ : Eied เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 08:34:03

ความคิดเห็นที่ 2 มันต้องดูว่า การฝากนั้นฝากแบบไหน ระหว่างฝากเงินตามปกติทั่วไป หรือ ฝากเอาไว้ทั้งก้อน(จำนวนเงิน)และห้ามเอาไปใช้ (คล้ายฝากของ) ถ้าฝากแบบปกติทั่วไปเงินจะโอนมาที่ผู้รับฝากทันที เหมือนกับเราฝากเงินกับธนาคาร แต่ถ้าฝากแบบช่วยดูแลด้วย(คล้ายฝากของ) เงินนั้นไม่โอนมาเป็นของเรา ดังนั้นผู้ฝากยังคงเป้นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในเงินนั้น ถ้าหากว่าเพื่อนคุณฝากทั่วไป คุณต้องชดใช้เพราะเงินไม่มีกลิ่น ดังนั้นใครจะเป็นเจ้าของเงินใบไหนไม่สำคัญ เมื่อเงินหายไป คุณต้องชดใช้ทั้งหมด แต่ถ้าฝากแบบคงรูป(ฝากของ) อันนั้นถ้าหายโดยไม่ใช่ความผิดของคุณ เพื่อนคุณก็ซวยไป เว้นแต่การเก็บของคุณจะประมาทเลินเล่อ หรือ ไม่ว่าจะเก็บดีอย่างไร ยังไงก็หายหรือเสียหาย เช่น บ้านเพื่อนคุณกับบ้านคุณใกล้กับ วันที่รับฝากเกิดพายุพัดแรงทำให้บ้านทั้งสองหลังปลิวหายไปกับลม ดังนั้นไม่ว่าฝากเงินกับคุณหรือไม่ ยังไงเงินก็หายทั้งนั้น ... จากคุณ : น้าออด เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 08:40:40

ความคิดเห็นที่ 3 เห็นใจนะ ต้องดูจากเหตุผลของการรับฝากมากกว่านะ ถ้าเรารับฝากดดยมีผลประโยชน์ก็ควรจะชดใช้นะ แต่ถ้าเค้ากลัวหายเลยมาฝากเราก็ ควรร่วมรับผิดชอบ แต่ที่สำคัญหลังจากนั้นจะเรียกว่าเพื่อนต่อมั๊ย จากคุณ : stranger (vjjeab) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 08:42:21

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่า คนนั้นไม่ใช่เพื่อนแล้วแหละครับ -*- จากคุณ : Ice-man เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 08:51:14

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่รู้นะ ถ้าเป็นดิฉัน ๆ คงจะคืนให้อะ เพราะว่าเหมือนเขาฝากของไว้กับเรา แล้วเราทำหายอะ เป็นเหมือนความรับผิดชอบของเราตั้งแต่ที่เรารับของมาจากมือเขาแล้ว  เสียอย่างเดียว จขกท. ไม่ได้นับเงินในซองว่ามีเท่าไหร่ เกิดเขาโกหกว่ามีเท่านั้น เท่านี้ เราเสียเงินโดยใช่เรื่องเลย จากคุณ : คนกาฬสินธุ์ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:08:33

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วอยู่ดี ๆทำไมเค้าถึงมาฝากล่ะครับไม่สงสัยเหรอ คุณต้องแยกให้ออกนะระหว่างฝากกับยืมอ่ะ จากคุณ : max (udom46) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:23:43

ความคิดเห็นที่ 7 โดยมารยาท เราควรจะคืนเงินเพื่อน  ในทางกลับกัน โดยมารยาท เพื่อนไม่ควรมาทวงเราค่ะ เพราะขโมยขึ้นบ้าน เป็น เหตุสุดวิสัย    กรณีนี้ น่าจะรอมชอมกันมากกว่านะคะ จากคุณ : แคลินน์ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:23:45

ความคิดเห็นที่ 8   คนขโมยเลวมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : พิงคาน (พิงคาน) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:27:07

ความคิดเห็นที่ 9 กระผมเห็นว่า  ถ้าเป็นการฝากเงิน ( คือคุณ จขกท. ทราบว่าเป็นเงิน ) ต้องปรับตามมาตรา ๖๗๒ ซึ่งเป็นวิธีเฉพาะการฝากเงิน เท่านั้น คือผู้รับฝากต้องคืนเงินให้ครบจำนวน แม้เกิดจากเหตุสุดวิสัย แต่ถ้าคุณ จขกท. ต่อสู้ว่า รับฝากของแต่ไม่ทราบว่าของในซองคืออะไร  ก็เป็นการฝากทรัพย์ธรรมดา  ถ้าเป็นการรับฝากแบบไม่มีบำเหน็จ เพียงแต่คุณ จขกท. พิสูจน์ได้ว่า ใช้ความระมัดระวังสงวนรักษาทรัพย์ซึ่งฝากนั้นเหมือนประพฤติในกิจการของตนเอง ( คือก็เก็บซองซึ่งบรรจุ " อะไรก็ไม่รู้ "ไว้กับทรัพย์สินในตู้เซฟของเรา ) ตามาตรา ๖๕๙ วรรคแรก คุณ จขกท. ก็หลุดพ้นจากความรับผิด จากคุณ : เชิญถลุง (Akira-deang) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:32:06

ความคิดเห็นที่ 10 เราก็บอกกับเพื่อนว่าเราจะรับผิดชอบนะค่ะ แต่เพียงขอให้ตำรวจตามเรื่องให้ได้มากกว่านี้ก่อน แต่เพียงตอนนี้เพื่อนมาทวงกับเราแล้วจะให้เราใช้เงินทันที บ้านเพื่อไม่มีตู้เซฟ เลยมาฝากไว้กับเรา โดยเราก็เพียงอยากช่วยเหลือเท่านั้นเอง ไม่มีผลประโยชน์อะไร แต่พอเงินหายเราก็เสียใจนะ เราก็บอกว่าเราจะใช้ให้ แต่ว่าขอเวลาหน่อย ของเราก็หายต้องเยอะ เราก็ไม่อยากต้องไปถอนเงินเก็บมาใช้หนี้เพื่อนทันที ตำรวจก็ทำงานช้ามากเลย จากคุณ : missingsomepiece (Missingsomepieceinthebigcity) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:38:34

ความคิดเห็นที่ 11 ขอพูดถึงตัวบทกฎหมายกันเลยดีกว่านะคะถึงเรื่องสัญญาฝากทรัพย์ กฎหมายมีกำหนดในเรื่องการใช้ความระมัดระวังของผู้รับฝากไว้ว่า สัญญาฝากทรัพย์ที่ไม่มีบำเห็จ...ผู้รับฝากจำเพียงใช้ความระมัดระวังในทรัพย์ของตน คือ เราดูแลรักษาทรัพย์ของเรายังไง เค้ามาฝากเราไม่ได้ให้ค่าฝาก เราก็ดูแลอย่างทรัพย์นั้นมันเป็นของเราธรรมดา เช่น เราจอดรถไว้ ปกติเราก็ล๊อครถ ถ้าเค้ามาฝากรถกับเราไว้ แล้วเราไม่ล๊อครถ รถโดนขโมย เราก็ต้องรับผิดค่ะ การรับฝากทรัพย์ที่มีบำเหน็จ ผู้รับฝากจำต้องใช้ความระมัดระวังอย่งวิญญูชน เช่นว่า เค้ามาฝากแหวนทองไว้กับเรา ปกติเราก็เป็นคนทิ้งๆขว้างๆของ ถอดไหนโยนนุ่น แต่สำหรบคนธรรมดาทั่วไป ทองเป็นของมีค่า ต้องเก็บใส่กล่องใส่ลิ้นชัก ถ้าเราเอาไว้ทิ้งๆขว้างๆไมได้ดูแลรักาอย่างวิญญูชน ถ้ามันหายขึ้นมา ก็ต้องรับผิดค่ะ ปัญหาของคุณดูแค่ว่า เค้าให้บำเหน็จสินจ้างอะไรคุณรึเปล่า แล้วก็ระดับการใช้ความระมัดระวังค่ะ จากคุณ : Amanda Moore เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 09:51:32

ความคิดเห็นที่ 12 ทำไมเค้าต้องเอาเงินมาฝากคุณด้วยคะ จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 10:04:08

ความคิดเห็นที่ 13 คิดเล่นๆว่า เพื่อนฝากเงินไว้ที่บ้านคุณ แล้ววางแผนให้ขโมยมาจัดการ จากคุณ : นายอุดม เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 10:14:54

ความคิดเห็นที่ 14 ทำหาย     ถ้ารักเป็น เพื่อน ก็ต้องๆๆๆจ่าย                   จะเบี้ยว   ก็ได้  ตามคห 9  ฝากคงรูป                     กรรมสิทธิ์ ไม่โอน  เคราะห์ กรรม ตก ที่ผู้ฝาก จากคุณ : พญาทราย (พญาทราย) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 10:40:40

ความคิดเห็นที่ 15 ยังงี้ต้องโทษตู้เซฟ เพราะถ้าไม่มีตู้เซฟ เพื่อนก็ไม่เอาเงินมาฝาก ตู้เซฟมีเอาไว้กันขโมย แต่ทำไมมันกันไม่ได้ล่ะ ยังงี้ฟ้องบริษัทผลิตและขายตู้เซฟได้ไหม ?????????????? จากคุณ : kongsilp2000 เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 11:05:31

ความคิดเห็นที่ 16 สงสัยว่าถ้าเราไม่คืน  เค้าจะไปเอาหลักฐานมาจากไหนว่า  ฝากเราไว้จริงอ่ะ อันนี้สงสัยเฉยๆ  แล้วถ้าไม่คืน  เค้าจะฟ้องเราได้มั้ย  คือถ้าเพื่อนมาทวงๆ  แล้วเราไม่มีอ่ะ  จะให้ทำไง จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 11:43:37

ความคิดเห็นที่ 17   เรามองว่า หากว่าเพื่อนของคุณฝากเอาไว้ โดยคุณไม่ได้เรียกค่าใช้จ่ายอะไร แต่เป็นการฝากเงินเพื่อให้ปลอดภัยเท่านั้น และคุณได้เก็บไว้ในเซฟอย่างวิญญูชนควรจะทำแล้ว   ของอื่นๆในบ้านที่อาจโดนขโมยไปด้วย มันก็อาจมองได้ว่า คุณไม่ได้ตั้งใจจะให้ขโมยมาเอาเงินนั้นไป เราว่าในกรณีอย่างนี้ก็ไม่น่าจะต้องใช้ เพราะคงไม่มีใครคาดคิดได้ว่าจะมีขโมย และคุณก็ได้นำใส่เซฟไว้แล้ว อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่แน่ชัด คงยังไม่มีใครตอบให้คุณได้อย่างตรงๆว่าในกรณีเช่นนี้จะเป็นเช่นไร จากคุณ : beautymai เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 14:56:55

ความคิดเห็นที่ 18 มองแบบคนนอกได้ 3 กรณี 1 คนรับฝากเอาไปและบอกว่าหาย 2 คนมาฝากและวางแผน เอาไป ให้คนฝากรับผิดชอบ 3 มีขโมยเกิดขึ้นจริงๆ แสดงความบริสุทธิ์ใจและตามมารยาท เสนอ คืนเงินที่หายให้พร้อมกับโชว์ใบแจ้งความ ของที่หายและเงิน ที่หายค่ะ เราว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด  และถ้าคนฝากเอาไปเป็นคนวางแผน เรื่องถึงตำรวจแล้ว คงมีการดำเนินการ จับคนร้ายได้ ถ้าเงินไม่มากมาย คนฝากก็ควรจะแสดงน้ำใจไม่เอาความ เพราะตัวเองเป็นคนที่ตัดสินใจฝากเองเช่นกันค่ะ จากคุณ : onlycat เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 15:15:29

ความคิดเห็นที่ 19 เราก็มีคิดเหมือนกันว่า  ถ้าเอามาฝาก ในลักษณะ มาร้องขอ ช่วยเป็นธุระ เก็บให้หน่อย  ทั้งๆ หน้าที่ก็ไม่ใช่  แต่ไม่ได้ลำบากอะไรมากมาย ก็เลยช่วยเก็บให้ ไม่ใช่การบริการ รับฝากเงิน เหมือนธนาคาร พอวันนี้ เงินหาย  อ้าว ซวยตู  ต้องรับผิดชอบเงินชาวบ้าน  มันเป็นหน้าที่ เราด้วยหรือ   สงสัยในแง่ของความสมควร ถูกต้องนะคะ ว่าเป็นหน้าที่เราต้องรับผิดชอบไม๊  ไม่เกี่ยวกับเรื่อง งก ไม่อยากจ่าย  หรือว่า เค้าเดือดร้อน ให้ๆ เค้าไป นะคะ จากคุณ : Zodiac_pink เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 15:23:30

ความคิดเห็นที่ 20 คิดว่าต้องคืนนะคะ มันเหมือนของที่อยู่ในความรับผิดชอบของเราน่ะค่ะ แต่คืนเต็มจำนวนหรือเปล่าอาจจะต้องคุยกับเพื่อนอีกที แบ่งความรับผิดชอบกันไปคนละครึ่งได้หรือเปล่า แต่เหตุการณ์ก็ให้บังเอิญนะคะ เพื่อนเขาอาจจะคิดไปอีกอย่างได้ จากคุณ : pimplus (pimplus) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 16:19:38

ความคิดเห็นที่ 21 กลับกันถ้าคุณเอาเงินไปฝากไว้กับเพื่อนคนเดียวกันนี้แหละถ้าเค้าทำเงินคุณหายคุณจะให้เค้าชดใช้ให้หรือเปล่า อย่าไปอิงกฏหมายเลยค่ะใจต่อใจนี่แหละค่ะ โชคดีนะคะ จากคุณ : Sophia's Mom เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 20:00:23

ความคิดเห็นที่ 22 กรณี เพื่อนฝากเงินกับเรา เพราะเห็นว่าเรามีตู้เซฟ ต้องพิจารณาเป็นไป ตามความเห็นที่ สิบเอ็ดได้ให้คำแนะนำไว้ ทั้งนีเป็นไปตามมาตรา 659 คือต้องตูว่าเราผู้รับฝาก ได้รับบำเหน็จค่าฝาก หรือไม่ หรือเป็นผู้มีวิชาชีพในการรับฝากหรือไม่  ซึ่งระดับในการระมัดระวังรักษาจะแตกต่างกัน ถ้าการรับฝากของเราไม่มีค่าบำเหน็จ  การระมัดระวังรักษาเงินนั้นก็ให้เหมือนที่เราเก็บรักษาเงินของเราอย่างไร เช่นเก็บเงินในเซฟ  เงินที่เรารับฝากก็เก็บในเซฟเช่นกัน กรณีนี้หาก เงินนี้ได้สูญหายจากถูกโขมยอันเป็นเหตุสุดวิสัย  เราในฐานะผู้รับฝากก็ไม่ต้องรับผิดชอบในเงินนี้แต่อย่างใด กรณีที่จะให้ผู้รับฝากเงินต้องรับผิดชอบในการคืนเงินให้กับผู้ฝากแม้จะสูญหายไปด้วยเหตุสุดวิสัยนั้น  ต้องเป็นกรณีที่ผู้รับฝากไม่ได้เก็บเงินนั้นไว้  แต่ได้นำเงินที่รับฝากนำออกไปใช้อันเป็นการใดๆของผู้รับฝากเอง  ซึ่งกฏหมายให้อำนาจให้ผู้รับฝากนำเงินนั้นออกใช้ได้ ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 672 วรรคสอง  ซึ่งเป็นกรณีไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของท่าน จขกท  ซึ่งท่าน จขกท มิได้เอาเงินที่รับฝากนำออกใช้แต่ประการใด แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 52 21:58:28 จากคุณ : phabat77 เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 21:55:56

ความคิดเห็นที่ 23   อืมมม ...อันนี้ก็ตอบไม่อิงกฎหมาย ตอบตามความรู้สึกนะคะ เนื่องจาก จขกท. ไม่ได้มีอาชีพ รับฝากของ เหมือนพวกบริษัทรับฝากเอกสาร เพราะพวกนี้ถ้ารับฝากเป็นอาชีพ เค้าต้องตรวจเช็คด้วยซ้ำ ว่ามีอะไรข้างใน และมีการทำสัญญาด้วยซ้ำ ว่าถ้าเสียหายจะรับผิดชอบกล่องละเท่าไร แล้วจู่ ๆ มาฝากเอง (ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีอาชีพรับฝากของ) โดยรับฝากอย่างมีน้ำใจ เราคิดว่าไม่น่าต้องใช้นะ เพราะมาฝากเอง แล้วคุณก็ไม่ได้ตกลงรับผิดชอบของหาย ไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่าข้างในมีอะไร เปรียบเทียบกับ สมมติว่าบ้านคุณมีที่ว่างจดรถได้หลาย ๆ คัน เพื่อนบ้านเอามาฝากจอดด้วย เพราะบ้านเค้าไม่มีที่ โดยคุณยอมให้จอด เพราะที่ว่างมากพอ (แต่ล๊อกรถเองนะเฟ้ยยย) โดยที่คุณก็ล๊อกประตูรั้วบ้านเป็นปกติวิสัย ตื่นเช้ามา ทั้งรถเรา รถเพื่อนบ้าน หายทุกคัน คุณคิดว่าคุณต้องรับผิดชอบไหมล่ะ เราว่าไม่น่าต้องชดใช้ เว้นแต่ว่าจัดสถานที่รับฝากรถ (แบบคิดค่าบริการ) หากรถหายนั่นแหละน่าจะต้องรับผิดชอบ เราไม่ได้เข้าฝ่ายไหนนะ แต่ตอบตามความรู้สึก ปล.เซฟสมัยนี้ ราคาไม่แพงหรอก ไม่กี่พันก็ซื้อได้ เสียน้อยเสียยาก จากคุณ : คิดว่านะ เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 52 22:46:11 A:58.11.77.115 X: TicketID:245448

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่า ไม่ต้องชดใช้ครับ (ทั้งทางกฏหมาย และทางจริยธรรม) เพราะคุณไม่ใช่พนักงานรับฝาก เหตุการณ์สุดวิสัยครับ ก็คงต้องเลิกคบกันไปแหละครับ ช่วยไม่ได้ การฝากของ เป็นการผลักความรับผิดชอบให้เพื่อน โดยที่เพื่อนไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรเลยด้วยซ้ำ (คิดว่ามันแฟร์ไหม) บอกเพื่อนคุณไปเลย ว่าคุณเก็บไว้ให้อย่างดีแล้ว แต่โจรมันขโมยไป และคุณคิดว่า มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของคุณที่จะต้องชดใช้ และคนอื่น ๆ ก็เห้นอย่างนั้น และให้ไปฟ้องศาลเอา จากคุณ : คุณชินโซ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 11:55:02

ความคิดเห็นที่ 25 เพื่อนเคยฝากเงินไว้กับเราค่ะ ทั้งๆที่เราบอกว่าเราชอบทำเงินหายประจำ มันก็จะฝากเราอยู่นั่นแหละ มันบอกว่า เอ้อไม่เป็นไร ฝากหน่อยนา และผลสุดท้ายจากการล้วงเข้า ล้วงออกกระเป๋าหลายรอบ ตอนนั้นไปขายของที่งานคอมมาร์ท เงินหายจริงๆค่ะ !!!!! เลยเดินไปบอกมันว่า เงินหายจริงๆด้วย ฉันบอกแกแล้วไง ว่าไม่ให้ฝาก มันเลยต้องชดใช้แทน ก็บอกแล้วแต่ต้นว่าไม่รับฝากเป็นไง เจอคนดวงกินเงินเข้าไป จากคุณ : ทะเลาะคือชอบ โต้ตอบคือรัก เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 13:40:38