ความคิดเห็นที่ 1 ตำรวจคงตรวจสอบครบแล้วครับว่า ร้านทองมีใบอนุญาตค้าของเก่าถูกต้อง  ร้านทองจึงไม่โดนข้อหารับของโจร ก็ต้องเอาเงินไปซื้อคืนจากร้านครับ  เขาต้องขายคืนให้เราในราคาที่รับซื้อมา แล้วให้ญาติคุณ ไปเอาเงินคืนจากญาติคุณที่ติดคุก จากคุณ : ช่างกระจก เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 10:34:32

ความคิดเห็นที่ 2 ร้านทองไม่ผิด เพราะเค้าไม่รู้ว่าคนที่ซื้อทองมาเป็นโจรถูกไหมคะ คนที่ผิดคือญาติคุณค่ะ หลักการของกฏหมายนี้คือ เพื่อไม่ให้คดีมันเพิ่มไปเรื่อยๆ เพราะตอนนี้คดีของมันคือ คดีระหว่างคุณกับญาติคุณ   ดังนั้นจะไปให้ร้านทองคืนทอง แล้วเงินที่ร้านทองซื้อไปละคะ ร้านทองก็ต้องไปแจ้งความเป็นเจ้าทุกข์ร้องทุกข์กับคนที่เอามาขายอีก กลายเป็นคดีระหว่างร้านทองกับญาติคุณอีก แล้วถ้าไปเจอร้านอื่นๆอีก ร้านนั้นต้องคืนของให้ญาติคุณแล้วไปตามเงินคืนจากญาติคุณอีก มันก็จะเป็นอีกคดี ไปเรื่อยๆ ถ้าทำแบนั้นมันจะทำให้การลักทรัพย์ 1 ครั้งมีเจ้าทุกข์เป็น 10 คดีล้นศาลพอดี ดังนั้นในกรณีที่เจอของกลางในร้านค้าที่พิสูจน์ทราบแล้วว่าร้านซื้อมาโดยสุจริต ( ไม่รู้ว่าโจรมาขาย )  สิ่งที่ทำได้คือ คุณต้องไปซื้อของคืนจากร้าน ในราคาทุนที่ร้านซื้อมา ( ร้านค้าก็ยังถือว่าซวยเหมือนกันนะ ลงทุนไปแล้วแต่ขายของไม่ได้กำไร ในทางธุรกิจถือว่าร้านค้าขาดทุนดอกเบี้ย ) และคุณก็ไปเรียกจากคนที่ขโมยคุณไปอีกที ( คดีก็ยังเป็นแค่คุณกับขโมย คนเดิม เหมือนเดิม ) จากคุณ : *แชมพู* เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 11:23:11

ความคิดเห็นที่ 3 ขอบคุณมากนะคะ สำหรับ ความคิดเห็น แล้วขอถามต่อ - กรณีการรับซื้อของโจร หมายถึงอย่างไร - ของที่ไปเจอว่ายังอยู่ที่ร้านทอง มีอยู่หลายชิ้นนะคะ รับซื้อในเวลาเดียวกันทั้งหมด - ของทั้งหมด รวมมูลค่า ได้ 2 แสน  แต่ว่าร้านรับซื้อไป 70000 บาท - เมื่อวานอาโกว ไปถามร้านทอง ว่าของยังอยู่ครบหรือไม่ เค้าก็บอกว่าอยู่   พอเดินไปหลังร้านก็บอกว่าขายไปบ้างแล้ว มีไม่ครบ - ขอคำแนะนำเพิ่มเติมอีกนะคะ ขอบคุณ จากคุณ : น้องนุ่น น้องแบงค์ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 11:31:26

ความคิดเห็นที่ 4 กรณีการรับซื้อของโจรคือ รู้ทั้งรู้ว่าเค้าขโมยมาก็ยังซื้อเอาไว้อ่ะค่ะ อย่างเช่น เศียรพระ  โจรขโมยเศียรพระ  เอาไปขายร้านขายของเก่า ซึ่งข่าวออกครึกโครมว่าพระโดนตัดเศียร แต่ร้านก็ยังซื้อ ทั้งๆที่รู้ว่าคนขายอะโจร อย่างนี้อ่ะ ผิด แน่ๆค่ะ แต่ในกรณีทอง ถ้าญาติคุณเอาไปขาย ร้านไม่รู้ว่าเค้าขโมยมา ก็ถือว่าร้านซื้อโดยสุจริตค่ะ ไม่เกี่ยวว่าซื้อมากซื้อน้อย ร้านอาจจะคิดว่าของเป็นของญาติคุณ แต่ญาติคุณร้อนเงินเอามาขายก็ได้ เรื่องมูลค่า เป็นธรรมดาคนซื้อของก็ต้องต่อสุดๆอยู่แล้ว เลยอาจทำให้ร้านซื้อของมาในราคาถูก ( ก็ดีไม่ใช่เหรอคะ ถ้าคุณอยากได้คืนก็สามารถซื้อมาได้ในราคาไม่สูงมาก ใช่ไหมคะ ) เรื่องอย่างนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่สอบสวน สอบเจตนาของเจ้าของร้ายอีกทีค่ะ ว่าซื้อโดยสุจริตจริงๆหรือไม่ จากคุณ : *แชมพู* เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 12:17:08

ความคิดเห็นที่ 5 แต่รูปพรรณสันฐาน ขโมยที่เอาไปขาย แค่มองผ่าน ๆ ก็รู้ว่าติดยา แน่นอน เพราะ สูงผอมดำและหน้าตาบอกยี่ห้อ มาก ๆ ว่าเคยติดคุกมาแล้วด้วยนะคะ จับมาแต่งตัวสะอาดสะอ้านอย่างไรก็ดูออกว่าไม่ใช่คนดี แต่ทางร้านทอง ก็ยังกล้ารับซื้อ จากคุณ : น้องนุ่น น้องแบงค์ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 13:57:48

ความคิดเห็นที่ 6 ถึงแม้ว่ารูปพรรณสันฐานที่คุณบอกออกมาว่าเขามีสภาพแย่ ๆ แบบนี้ก็จริงแต่ คนเราต่างจิตต่างใจ การมองคนอื่น หรือการตีค่าของบุคคลอื่น นั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกันก็ได้ค่ะ ตราบใดที่คำว่า ....โจร หรือขโมย ....ไม่ได้ตราเอาไว้ที่หน้าผาก คนที่รับซื้อเขาก็มิอาจจะรับรู้ได้อย่างแน่ใจหรอกค่ะ เพราะไม่จำเป็นว่าคนที่โทรม ๆ ท่าทางผอมโซ จะต้องเป็นคนไม่ดีหรือติดยา เพราะคนดี ๆ รวย ๆ มีสตางค์ที่แต่งตัวธรรมดา เข้าขั้นโทรมเดินเกลื่อนถนนค่ะ เพราะฉะนั้นคุณจะหวังว่าทำไมเจ้าของร้านทองถึงไม่มีสัมผัสที่ 6 รับรู้ได้อันนี้เราว่ามันเหมือนคุณแอบตำหนิเจ้าของร้านทองที่ซื้อไปอยู่นะคะ             ฉะนั้นการตีค่าของคน ๆ หนึ่งที่ลักษณะท่าทาง การแต่งตัว ในแค่แวบแรกที่ได้เห็น แล้วเหมาไปว่าต้องเป็นบุคคลน่าสงสัยอันนี้เราว่าออกจะเหมือนว่าเราไปแบ่งแยก หรือ เหยียดหยันกันเกินไปนะคะ ฉะนั้นค่าของคนอยู่ที่การให้เกียรติคนอื่นก่อนเสมอค่ะ .......แม้ผู้ต้องหาที่โดนจับได้เขายังมีโอกาสสู้คดี หรือแก้ตัวเลย  แต่นี่ ญาติคุณเขาไม่ได้โชว์ประวัติหรือมีรูปขึ้นหน้าหนึ่ง คนขายเขาก็มีสิทธิ์ที่จะไม่พิพากษาเขาว่าเป็นโจร ก็ได้นี่คะ        ขอโทษค่ะที่ยาวไป และขอโทษ จขกท. ด้วยที่เราแสดงมุมมองตรงไปนิดค่ะ จากคุณ : ฟ้าสางที่เชียงดาว เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 15:08:00

ความคิดเห็นที่ 7 ขออภัยจริง ๆ ที่เข้ามาตั้งกระทู้ในนี้  ปกติจะอยู่ห้องอื่น เข้ามาห้องนี้เป็นครั้งแรก อันที่จริงต้องการขอความช่วยเหลือในสิ่งที่ถามเท่านั้น เนื่องจากเดือดร้อน เราไม่เคยมีเจตนาว่ากล่าวหรือดูถูกใคร พูดตามจริง บอกตามจริงก็เท่านั้น ถ้าไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ขอบคุณมาก ๆ ที่มา ตอบให้ ------------------- ขอจบกระทู้ เพียงเท่านี้ -------------------- ปล. หากเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนที่คุณรัก จะทำอย่างไร คิดเองแล้วกัน ฝากไปคิดด้วย สำหรับเราเองต้องขอโทษด้วยที่ไม่คิดเองตั้งแต่แรก มัวแต่เป็นกังวลแทนอาโกว ขอบคุณมาก สวัสดีค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 53 16:14:26 จากคุณ : น้องนุ่น น้องแบงค์ เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 16:13:37

ความคิดเห็นที่ 8 โอ๊ะ  ขออภัย ท่าน จขกท อย่างแรง  เรารีบอ่านความเห็น ที่หกเร็วไปหน่อย  จึงตีความหมายผิดไป มาเห็นความเห็นที่เจ็ด  ได้แต่สงสัย  จึงย้อนกลับไปอ่านช้าๆความเห็นที่หกอีกที  จึงรู้ความหมายที่แท้จริง   เราจึงขอถอนการให้คะแนนถูกใจในความเห็นที่หก ขออภัย  ขออภัย ท่าน จขกท อย่างแรง ในเรื่องนี้  มันผิดรับของโจรอย่างแน่นอน  แต่การพิสูจน์เจตนา มันยาก  เพราะไม่มีพยานรู้เห็น เพราะหลักทางกฏหมาย  กรรมจะเป็นเครื่องชี้เจตนา  หากเรามีพยานหลักฐานอย่างแน่นอน ถึงคนที่นำมาขาย  ขายในราคาที่ปกติหรือไม่  คนนี้นำมาขายในลักษณะอย่างไร เป็นต้น หรือหากเราจับคนโขมยได้  และให้การซักทอดได้ เป็นต้น จึงขออภัย ท่าน จขกท มา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ จากคุณ : phabat77 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 16:33:01

ความคิดเห็นที่ 9 ผิดรับของโจร ? ..... อ้ะ ถือว่า "ถูก" เพราะมีคำตัดสินไปแล้ว แต่ตอนรับซื้อ ก็ใช่ว่าจะรู้ว่าเป็นโจรนะขอรับ แค่วันๆ หนึ่งเจ้าของร้านต้องรับซื้อของกี่คน ? มีเวลาสนใจหรือเปล่าว่า เป็นโจรหรือเปล่า ? อาจบางทีเป็นของ ผู้ขายเองก็ได้ จะไปเหมารวมกับหน้าตาเขาได้ยังไง ? อันนี้ ผมขอผ่าน เพราะเขาพูดคุยกันไปข้างต้นไปแล้ว (มาเอาฮางั้นล่ะ ฮา) ประเด็นที่น่าสนใจ คือ เมื่อวานอาโกว ไปถามร้านทอง ว่าของยังอยู่ครบหรือไม่ เค้าก็บอกว่าอยู่ พอเดินไปหลังร้านก็บอกว่าขายไปบ้างแล้ว มีไม่ครบ ทางร้าน ไม่มีสิทธินำไปขายต่อ เมื่อทราบแล้วว่า เป็นของที่ถูกขโมยมา คุณบอกเขา ใช่หรือเปล่า ? ถ้าบอก ก็ถือว่า เขาจงใจทำให้คุณเสียหาย สามารถโยงเข้าเรื่องละเมิดได้ทันที ซึ่งความจริงแล้ว คุณต้องซื้อคืน และไปไล่เบี้ยเอากับจำเลยในคดีเอง แก้ไขเมื่อ 12 ม.ค. 53 12:42:34 จากคุณ : มารกระบี่แสวงรัก (กระบี่เก้าเดียวดาย) เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 53 21:54:35

ความคิดเห็นที่ 10 ดีนะเค้าอ้วนดำ ><  ..เป็นคนดีแน่ๆ!!! ถ้าเกิดกับคนที่เรารัก เราก็คิดว่าเป็นโชคดีของญาติเราแล้วที่แค่เสียทรัพย์อย่างเดียว บางคนแค่เงินไม่กี่บาท ทองไม่กี่สลึง มันฆ่าปาดคอกันแล้ว สิ่งนั้นมันอาจจะมีคุณค่าทางจิตใจมากๆ แต่ให้คิดเสียว่าตายไปก็เอาไปไม่ได้อยู่ดี อาจจะช่วยให้สบายใจขึ้นมาได้บ้างนะ อีกอย่างที่คุณว่าๆขโมยไป.. แต่บนกระทู้คุณบอกว่าขโมยคนนี้เป็นญาติคุณ ......อืมมมมม......เราก็เคยมีญาติที่ขี้ขโมยเหมือนกันนะ สิ่งที่ต้องระวังก็พยายามอย่าให้เค้าเข้ามาในบ้าน  ตัดญาติไปเลยได้ยิ่งดี เวลามาทีต้องคอยเฝ้ากันยิ่งกว่าร้านทองเลยล่ะ จากคุณ : J_kanok เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 53 20:07:18