|
ความคิดเห็นที่ 23 |
สำหรับ Stiglitz ผมเอามาจาก http://www.earthsharing.org.au/2006/09/15/orderly-progress-fair-shares/ For two centuries economists have grudgingly acknowledged the elements of the ideal system. Joseph Stiglitz, Professor of Economics at Stanford University and President Clintons chief economic adviser, reviewed that system in an article, in which he concluded: Not only was Henry George correct that a tax on land is non-distortionary, but in an equalitarian society in which we could choose our population optimally, the tax on land raises just enough revenue to finance the (optimally chosen) level of government expenditures. ข้อความที่อ้างมีเพียงเท่านี้ครับ คุณคงไม่คิดว่าผมจะขยันไปค้นตรวจสอบต่อไปอีกนะครับ แล้วผู้นำมาอ้างก็เขียนว่า in which he concluded
และขอถือโอกาสเสริมครับ Stiglitz เป็นนักเศรษฐศาสตร์หนึ่งในสามท่านที่ได้รับรางวัลโนเบลทางเศรษฐศาสตร์ใน ค.ศ.2001 ในปี 1999 เขาถูกปลดจากตำแหน่งหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกหลังจากที่เขาเริ่มพูดเกี่ยวกับข้อกังวลของเขา
Greg Palast นักเขียนของ The Observer ที่ลอนดอนได้ถามเขาในการสัมภาษณ์ปี 2001 ว่าตอนนั้นเขาคิดจะช่วยประเทศกำลังพัฒนาอย่างไร Stiglitz ตอบว่าเขาเสนอให้ปฏิรูปที่ดินอย่างถึงรากฐาน (radical) และโจมตีที่หัวใจของลัทธิเจ้าที่ดิน รวมทั้งการที่กลุ่มคณาธิปไตยที่ดินทั่วโลกคิดค่าเช่าแพงเกินไป เมื่อถูกถามว่าทำไมธนาคารโลกจึงไม่ทำตามที่เขาแนะนำ Stiglitz ตอบว่า ถ้าคุณท้าทายมัน (กรรมสิทธิ์ที่ดิน) จะเป็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจของอภิชน (elites) นั่นมิใช่วาระเร่งด่วนของธนาคารโลก (จาก http://www.earthrights.net/docs/schumacher.html#10 )
และจากบทสัมภาษณ์ชื่อเรื่อง Joseph E. Stiglitz: October 2002 Interview (http://www.wealthandwant.com/docs/Stiglitz_Oct02_interview.htm ) ซึ่งเริ่มต้นเกี่ยวกับการปฏิรูปที่ดิน เขาตอบว่า
ความคิดหลักที่สำคัญของเฮนรี จอร์จคือการเก็บภาษีที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ สมัยนั้นผู้คนจะคิดว่า ไม่น่ารวมทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ แต่ส่วนสำคัญในความคิดของจอร์จคือค่าเช่าของสิ่งที่ไม่มีความยืดหยุ่นในอุปทาน ซึ่งก็คือ ที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ และการถือเอาค่าเช่าที่ดินและค่าการนำทรัพยากรธรรมชาติออกมาใช้ เป็นฐานภาษี เป็นประเด็นที่ข้าพเจ้าคิดว่ามีเหตุผลที่ดีมากทีเดียว เพราะมันเป็นแหล่งที่มาของรายได้และเศรษฐทรัพย์ที่ไม่มีผลบิดเบือน
อีกตอนหนึ่ง เขากล่าวว่า ปัญหาคือ "จะดีกว่าไหมถ้าเราเก็บภาษีมากขึ้นจากที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ และหารายได้มากขึ้นจากการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และข้าพเจ้าจะรวมบรรยากาศและคลื่นความถี่เข้าไว้ด้วย" และเก็บภาษีน้อยลงจากรายได้และการออม และข้าพเจ้าจะกล่าวว่า "เห็นด้วย" และข้าพเจ้าคิดว่านักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากจะเห็นด้วย
และอีกตอนหนึ่งคือ
ทุกวันนี้มีความเห็นกันว่าเราควรจะเก็บภาษี environmental bads เช่น ภาวะมลพิษและสิ่งที่คล้ายกัน และเปลี่ยนจากการเก็บภาษีสิ่งดี ๆ เช่น แรงงาน [กาย, สมอง - ผู้แปล]
.ดังนั้น ประเด็นคือ ทำไมจึงเก็บภาษีจากสิ่งที่มีส่วนช่วยสังคม ?
เมื่อเราเก็บภาษีจากบ้าน พืชผล เงิน เครื่องเรือน ทุน หรือทรัพย์สมบัติในรูปแบบใด ๆ นั่นคือเราเอามาจากปัจเจกบุคคลซึ่งสิ่งอันเป็นของเขาโดยชอบ เราละเมิดสิทธิในทรัพย์สิน และทำการชิงทรัพย์ในนามของรัฐ แต่เมื่อเราเก็บภาษีมูลค่าที่ดิน เราเอามาจากปัจเจกบุคคลซึ่งสิ่งอันมิใช่ของเขา แต่เป็นของประชาคม และซึ่งมิสามารถปล่อยให้เป็นของปัจเจกบุคคล โดยไม่เป็นการชิงทรัพย์ของปัจเจกบุคคลอื่น ๆ - เฮนรี จอร์จ The Single Tax: What It Is and Why We Urge It http://www.schalkenbach.org/library/george.henry/SingleTax.htm
ขอบคุณครับ จากเว็บเศรษฐศาสตร์เพื่อความเป็นธรรม http://utopiathai.webs.com
จากคุณ |
:
สุธน หิญ
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.พ. 53 03:27:38
|
|
|
|
|