ความคิดเห็นที่ 1 การตรวจค้นร้านอินเตอร์เน็ตจะต้องมีหมายค้นนะครับ ไม่ทราบว่าทางนั้นมีหมายค้นมาไหมครับ จริง ๆแล้วถ้าไม่มีหมายค้นก็ค้นไม่ได้ครับ เรามีสิทธิ์ไม่ให้ค้น จากคุณ : หมอความ...กับ...หมอฟัน (takaru_chung) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 03:06:12

ความคิดเห็นที่ 2 ร้านอินเตอร์เน็ต มิใช่ที่รโหฐานครับ แต่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าออกได้ จึงเป็นที่สาธารณะ  ค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น  เว้นแต่โซนที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่สามารถค้นได้ จากคุณ : เชิญถลุง (Akira-deang) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 08:29:01

ความคิดเห็นที่ 3   เล่นกันแบบนี้อีกแล้ว......... จากคุณ : ท (ทะลายร่างทะลวงใจ) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 09:21:10

ความคิดเห็นที่ 4   อย่างนี้คนทำมาหากินสุจริตจะอยู่ได้ยังไง มองทางไหนก็เจอแต่เรื่องชั่วๆ กลุ่มมาเฟีย ผู้มีอิทธิพลคอยเอาเปรียบ เขาไม่กลัวเวรกรรมกันหรือไง จากคุณ : เลวไม่สิ้นสุด เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 09:47:09 A:124.120.73.21 X: TicketID:159141

ความคิดเห็นที่ 5 ยังไม่หมด พวกทำนาบนหลังคน มันเล่นตั้งแต่ร้านเช่า ขายวีซีดี ยันร้านเน็ต ร้านเกมส์ เจอที่ไหน ตีกบาลให้เข็ด ... จากคุณ : Resource of life เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 11:29:04

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าตามที่ คห.2 เข้าค้นร้านได้ โดยไม่ต้องมีหมาย แล้วถ้าจะตรวจสอบเครื่องคอมพ์ เราไม่ให้ตรวจได้มั้ยละคับ เพราะถ้าถือว่าร้านเป็นที่สาธารณะ แต่คอมพ์พิวเตอร์ไม่ใช่ของสาธารณะ จะไม่ให้ตรวจได้มั้ย จากคุณ : ค.คนไทย (ค.คนไทย) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 13:03:38

ความคิดเห็นที่ 7   เพิ่มเติมนะครับ ถ้าเราไม่ให้เขาเสียบ handy drive ไม่ว่าจะด้านหน้าหรือด้านหลังเครื่อง ระวังเขาจะฝากไฟล์ไว้ตามเว็บต่างๆ แล้วเก็บ link ไว้ใน mail หรือที่ไหนก็ตาม พอมาถึงเครื่องเราเขาก็ download ไฟล์มาลงเครื่องเรา เท่านี้มันก็เอาเพลงมันมาลงได้โดยไม่ต้องเสียบ handy drive ก็ได้ เราต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาครับ จากคุณ : จขกท. (noom) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 13:55:02 A:117.47.184.132 X:

ความคิดเห็นที่ 8   ทำไมไม่ลง โปรแกรม rollback ล่ะครับ ร้านที่ผมใช้คอมอยู่ตอนนี้ก็ใช้ระบบนี้ล่ะครับ เลิกใช้คิดตังเสร็จ คนใหม่จะมาเล่น มันก็จะกลับไปตอนเริ่มต้น ใครโหลดอะไรไว้ก่อนหน้านั้น หายเรียบ ไม่มี history ไม่มีอะไรไว้เลย อาจจะแพงหน่อย แต่ดีกว่า เอาไปจ่ายให้พวกนี้ จากคุณ : ผีแดง เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 14:28:09 A:119.148.98.206 X:

ความคิดเห็นที่ 9   จะได้จำไว้ค่ะ เพราะคิดว่าจะเปิดร้านเน็ตเหมือนกัน จากคุณ : เก๋ (เก๋กาการิ) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 14:40:07

ความคิดเห็นที่ 10 แม้จะเคยมีแนวฏีกา ว่าเป็นที่สาธารณสถานก็ตาม  แต่หลักของสาธารณสถาน จะต้องเป็นสถานที่ที่ประชาชนมีความชอบธรรมจะเข้าไปได้ แต่เราในฐานะเจ้าของสถานที่  สิทธิของเราย่อมเป็นใหญ่  ที่จะให้ใครเข้า หรือไม่ให้เข้า  หรือไล่ออกไปได้ การแก้ปัญหา  ถ่าย วีดีโอ เก็บไว้ทุกคน ให้เห็นข้อเท็จจริง ว่าเราไม่ต้องการให้เขาอยู่ในร้านของเราแล้ว  ให้ออกไป มิฉะนั้น เราจะดำเนินคดีฐานบุรุก เมื่อเราให้ออกไป  คนเหล่านั้นก็ไม่มีความชอบธรรมที่จะอยู่แล้ว   หากไม่ยอมออก   ก็ฟ้องเป็นคดีอาญาให้หมดทุกคนไปเลย  ในข้อหาบุกรุก  ถ้าเป็นตำรวจก็พ่วงด้วย 157  ไปอีกข้อหาหนึ่ง หากหลักฐานชัดเจนแบบนี้ ก็หาทนายฟ้องร้องเองเลย  ไม่ต้องไปแจ้งตำรวจให้เสียเวลา เมื่อคดีถึงศาลแล้ว  ศาลจะขี้ข้อกฏหมายให้ว่า การที่เราให้พวกเขาออกแล้ว เท่ากับไม่มีความชอบธรรมจะอยู่ต่อไปแล้ว  จึงไม่ใช่สาธารณะสถานอีกต่อไปแล้ว สำหรับคนเหล่านี้ เมื่อศาลชี้ไม่ใช่ที่สาธารณะแล้วนับแต่เจ้าของสถานที่ให้ออกแล้ว  ความผิดของพวกนี้จะได้รับคือข้อหาบุกรุก  และเป็นตำรวจ ก็จะเจอ ปอ มาตรา 157 ต้องช่วยๆกันนำคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อให้เกิดบรรทัดฐานไว้   จะได้ตัดการทำมาหากินที่ประพฤติมิชอบของบุคคลเหล่านี้ออกไปจากสังคม กรณีนี้ใช้ไม่ได้ หากเขามีหมายค้นมาด้วย   แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 53 15:20:30 แก้ไขเมื่อ 17 ม.ค. 53 15:15:13 จากคุณ : phabat77 เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 15:13:33

ความคิดเห็นที่ 11 บริเวณร้านเป็นที่สาธารณะแต่เครื่องคอมพิวเตอร์หากจะค้นต้องมีหมายศาลครับเพราะคอมพิวเตอร์หากจะใช้ต้องขอใช้จากเจ้าของร้านก่อนครับหากเจ้าของไม่อนุญาตก็ใช้ไม่ได้ การจะค้นคอมพิวเตอร์ต้องมีหมายศาลเพราะมี พรบ. คอมพิวเตอร์ร่วมประกอบด้วยซึ่งใน พรบ. ก็ระบุเอาไว้แล้วว่ามีเจ้าหน้าที่อะไรบ้างมิใช่อยากจะค้นก็ค้นได้เลย จากคุณ : DraGo เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 16:04:33

ความคิดเห็นที่ 12 ขออนุญาตนำข้อความไปโพสไว้ในบอร์ดนี้นะคะ http://www.internetcafe.in.th/showthread.php?t=10794 จากคุณ : ชมจันทร์ aT ThE SaME TiME เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 21:58:39

ความคิดเห็นที่ 13 ตามที่คุณ phabat77 กับ คุณ DraGo ว่าไว้ครับ บริเวณทางเดิน-ห้องน้ำ ถ้าเป็นส่วนที่ให้ลูกค้า ที่ใช้บริการเดินเข้าไปได้นั้นถือว่า เป็นที่ สาธารณะครับ แต่ ส่วนที่ทางร้าน ไม่ให้คนนอกเข้าออก เช่น ส่วนพักอาศัย/ห้องน้ำส่วนตัวของเจ้าของร้าน/ส่วนควบคุมร้าน(ที่วางเครื่องคุมร้าน,โต๊ะเก็บเงิน) ถือว่าเป็นที่ รโหฐาน รวมไปถึง เครื่อง คอมพิวเตอร์ ทุกเครื่อง ภายในร้านนั้นๆด้วย เพราะ บุคคลใดที่จะเข้าใช้ ต้อง ทำการ ซื้อ บัตร/จ่ายเงิน ทางผู้ดูแลร้านถึง จะอนุญาต ให้ใช้เครื่องนั้นๆได้ มิใช่ ใครก็จะเดินเข้าไป ใช้ได้ ตามใจ ฉนั้น การจะเข้าตรวจ ค้น ข้อมูล ในเครื่อง คอมพิวเตอร์ภายในร้านนั้นๆ ต้อง มี หมายค้น จาก ศาล ที่ออกโดยถูกต้องมาเท่านั้น จะใช้ แค่ใบแจ้งความ และบอกว่า เป็นการกระทำความผิดซึ่ง หน้านั้น มิได้ หากมีข้อสงสัยเรื่องใดก็ให้ลองเข้าไปศึกษาแนวทาง ได้ที่ เวปข้างบนได้เลยครับ http://www.internetcafe.in.th/index.php จากคุณ : alcatel547 (ALCATEL547) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 22:44:01

ความคิดเห็นที่ 14   ความคิดเห็นที่ 2 ครับ ที่ว่า ร้านอินเตอร์เน็ต มิใช่ที่รโหฐานครับ แต่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าออกได้ จึงเป็นที่สาธารณะ ค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น เว้นแต่โซนที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ไม่สามารถค้นได้ งั้นร้าน 7-11 ก็เป็นเหมือนที่คุณว่า ผมจะเข้าไปค้นเครื่องคอม เครื่องคิดเงิน ในเคาเตอร์ร้าน ได้โดยไม่ต้องมีหมายคนได้ใช่ไหม ไม่รู้อย่าตอบให้คนอื่นเข้าใจผิดดิ จากคุณ : a เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 22:53:02 A:192.168.4.2 X:58.8.238.189

ความคิดเห็นที่ 15   ล่าสุดค้นประวัติพวกมันมาได้บางส่วนครับ ตรงกับหลักฐานว่ามันไปแถวภาคเหนือไล่ลงมาเรื่อย เป็นคนกลุ่มเดียวกันเลยครับ ยืนยันเลขทะเบียนรถพวกมันอีกที Nissan big-m ตอนครึ่ง สีเขียว เลขทะเบียน พ-3055 ราชบุรี จากคุณ : noom เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 22:53:57 A:117.47.184.132 X:

ความคิดเห็นที่ 16   ดูร่องรอยมันเคยไปมาแล้วหลายพื้นที่ เพิ่งจะมาพลาด http://www.internetcafe.in.th/showthread.php?t=10103 จากคุณ : noom เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 22:57:22 A:117.47.184.132 X:

ความคิดเห็นที่ 17   ลองเข้าไปปรึกษาเวปนี้ดู http://ict.in.th/ จากคุณ : oneplusboy เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 53 23:41:25

ความคิดเห็นที่ 18   กรรมของคนทำมาหากิน มีพวกเห็บเหลือบไรคอยดูเลือดอีก เฮ้อ... อย่าไปยอมพวกมันนะคะ จับติดคุกซะให้เข็ดพวกนี้ เอาเรื่องให้ถึงที่สุดเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ^_^ จากคุณ : yeti_kiwi เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:19:35

ความคิดเห็นที่ 19   ไม่ต้องจ่ายเงินสิครับ อยากได้ก็ไปฟ้องเอา จากคุณ : -*- เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:11:29 A:110.164.135.201 X: TicketID:189235

ความคิดเห็นที่ 20   พยายามติดกล้องวงจรปิดไว้ด้วยครับ สำหรับร้านเนต หรือร้านเกมส์ และหาโปรแกรม หรือการ์ดอันดู มาใช้ครับ ป้องกันการโหลด เพลงหรือ   หรือโปรแกรมลิขสิทธิ์ โดยมีพวกหากินมากวนครับ ยอมลงทุนอีกนิด ดีกว่าเสียเงินให้กับคนพวกนี้ทีหลังครับ เพือนผมที่เปิดร้าน เนต ร้านเกมส์   มีคนพวกนี้มาขอตรวจ หุเจอโปรแกรม โรแบ้ค หรือการ์ดอันดูเค้าเห็น พวกนี้รีบออกจากร้านแทบไม่ทันหุๆ  และการตรวจคนขอให้ดุหมายค้น   ดูวันเดือนปีให้ตรงครับ ขอเป็นกำลังใจ เพือนๆครับ จากคุณ : ทามากิ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 18:45:45

ความคิดเห็นที่ 21 ความเห็นที่ 14  การค้นเป็นอำนาจของเจ้าพนักงานตาม ป.วิ.อ.   คุณเป็นใครจะเข้าไปค้นใน 7 - 11 คำพิพากษาที่ 6894/2549  แจ้งแก้ไขข้อมูล หนังสือร้องทุกข์ของโจทก์ร่วมซึ่งมีข้อความว่า มีการละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วมที่บริเวณศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ขอแจ้งความร้องทุกข์เพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ถือได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (7) แล้วไม่จำเป็นต้องระบุชื่อหรือรูปพรรณของผู้กระทำความผิด ร้านที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องเล่นเกมต่างๆ และแผ่นเกม ย่อมเป็นสถานที่ที่เชื้อเชิญให้ประชาชนทั่วไปสามารถเดินเข้าไปดูและเลือกซื้อสินค้าได้ นับเป็นที่สาธารณสถานซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ เมื่อสิบตำรวจ ส. เป็นผู้ทำการตรวจค้น แผ่นซีดีเกมอยู่ในตะกร้าซึ่งอยู่ในตู้สามารถมองเห็นได้ โดยแผ่นซีดีเกมของกลางดังกล่าวละเมิดลิขสิทธิ์ของโจทก์ร่วม มีลักษณะภายนอกของแผ่นซีดีของกลางต่างจากของโจทก์ร่วมอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นกรณีของการค้นในที่สาธารณสถานโดยเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งมีเหตุอันควรสงสัยว่าร้านที่เกิดเหตุมีสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิด ไม่จำเป็นต้องมีหมายค้น ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 93 ทั้งเป็นกรณีที่เจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับจำเลยได้ตามมาตรา 78 (1) ประกอบมาตรา 80 วรรคหนึ่ง การค้นและจับจึงชอบด้วยกฎหมาย โถ.............จะโชว์เหนือ จากคุณ : เชิญถลุง (Akira-deang) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:57:04

ความคิดเห็นที่ 22 คุณเชิญถลุง ผมขอถามคุณสัก 1 ข้อนะคับ ตำรวจมีสิทธิตรวจค้นร้านอินเทอร์เน็ตและเกมส์ เพราะร้านเป็นที่สาธารณะ ใครเข้าออกก็ได้ ตามที่คุณว่ามานะคับ แต่ตำรวจมีสิทธิตรวจค้น คอมพิวเตอร์ หรือไม่ถ้าไม่มีหมายค้น แล้วที่คุณยกตัวอย่างมาใน คห.21 มันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ต่างกรรม ต่างวาระ จากคุณ : ค.คนไทย เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 16:33:56

ความคิดเห็นที่ 23 พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ มาตรา ๖๗ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา และให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปนี้ (๑) เข้าไปในอาคาร สถานที่ทำการ สถานที่ผลิต หรือสถานที่เก็บสินค้าของ บุคคลใดในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการของสถานที่นั้น หรือเข้าไปในยานพาหนะ เพื่อตรวจค้นสินค้า หรือตรวจสอบเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ (๒) ยึดหรืออายัดเอกสารหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เพื่อ ประโยชน์ในการดำเนินคดีในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ (๓) สั่งให้บุคคลใดๆ มาให้ถ้อยคำหรือให้ส่งบัญชี เอกสาร หรือหลักฐานอื่นในกรณีมีเหตุอันควรเชื่อว่าถ้อยคำ สมุดบัญชี เอกสาร หรือหลักฐานดังกล่าวมีประโยชน์แก่การค้นพบหรือใช้เป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้ผู้ซึ่งเกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควร กระผมไม่แน่ใจว่าคุณ ค.คนไทย  อ้างอิงกฎหมายฉบับใดด้วยซ้ำที่การค้นคอมพิวเตอร์ต้องมีหมายค้น ???  ทั้งๆ ที่เจ้าพนักงานมีอำนาจยึดคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบตามมาตรา ๖๗ (๒)   การจะต่อสู้ ต้องต่อสู้ด้วยข้อเท็จจริงว่า ไม่ได้เป็นคนนำงานอันมีลิขสิทธิ์มาโหลดลงคอม  การจะต่อสูเรื่องข้อกฎหมายว่าเจ้าพนักงานไม่มีอำนาจต่อสู้ได้ยากนัก จากคุณ : เชิญถลุง (Akira-deang) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 12:02:07

ความคิดเห็นที่ 24 เอ่อเอายังงี้ ขอถามใหม่ ถ้าสมมุติว่า ผมเปิดร้านอินเทอร์เน็ตและเกมส์อยู่ แล้วมีตำรวจเข้ามาตรวจค้นร้าน เขาสามารถยกเครื่องคอมพ์ ผมไปได้เลยหรือ อำนาจเขามีขนาดนั้นเลยหรือ ไม่ต้องมีเอกสาร ไม่ต้องมีหมายค้น เขาทำได้โดยชอบหรือ แค่เดินเข้าไปในร้านคอมพ์ แล้วบอกคุณมีเพลงอยู่ในเครื่อง ผมขอยกคอมพ์คุณไปตรวจสอบ ทำได้จริงๆหรือ ปล.ผมไม่มีความรู้ทางด้านกฎหมาย หรอกคับ แต่ผมแค่สงสัยว่า คนที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายแต่ อธิบายข้อกฎหมายแบบไม่ครบถ้วน ขาดส่วนที่เป็นประโยชน์ สำหรับผู้ที่ถาม แล้วพอมีคนท้วง ก็อ้างกฎหมายอีกข้อมามาบิดเบือนประเด็น คุณทำเพื่ออะไร จากคุณ : ค.คนไทย (ค.คนไทย) เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 19:31:09

ความคิดเห็นที่ 25 ขั้น ตอนการตรวจจับกันสักนิดเพื่อจะได้เข้าใจในขั้นตอนปฏิบัติจะได้ทราบ ว่าเป็นการตรวจจับจากเจ้าพนักงานที่ได้รับมอบหมายจริง การตรวจจับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์จะมีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้ ขั้น ตอนการตรวจจับกันสักนิดเพื่อจะได้เข้าใจในขั้นตอนปฏิบัติจะได้ทราบ ว่าเป็นการตรวจจับจากเจ้าพนักงานที่ได้รับมอบหมายจริง การตรวจจับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์จะมีขั้นตอนคร่าวๆ ดังนี้   1. ผู้เสียหาย (บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์) หรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ แจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ   2. เจ้าพนักงานจะตรวจสอบข้อมูลและร้องขอหมายศาล กับศาล เพื่อขอตรวจค้น   3. เจ้าพนักงานและผู้เสียหายหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจ แสดงเอกสารดังนี้ เพื่อขอตรวจค้น         1. แสดงหมายค้น         2. แสดงบัตรประจำตัวเจ้าพนักงานและแสดงตัวของผู้เสียหายว่ามีรายใดบ้าง เช่น Microsoft, Adobe, Thai Software Enterprise, Cyber Link ฯลฯ   4. หน่วยงานหรือองค์กรที่ตกเป็นผู้ต้องหาจะต้องมีตัวแทน เพื่อนำทีมตรวจค้นในแต่ละจุด   5. เจ้าพนักงานทำแผนที่ตั้งของเครื่องคอมพิวเตอร์และติดตั้งซอฟต์แวร์ Agent เพื่อตรวจสอบการติดตั้งซอฟต์แวร์ในทุกๆ เครื่อง และทำรายงานซอฟต์แวร์ที่มีการละเมิดที่มีข้อมูลอย่างน้อยดังนี้         1. ชื่อซอฟต์แวร์         2. รหัสสินค้า         3. หมายเลขผลิตภัณฑ์         4. วันที่ลงโปรแกรม         5. ชื่อแฟ้มปลายทางที่พบ         6. วันเวลาปัจจุบันของคอมพิวเตอร์ที่เข้าตรวจสอบ         7. ผู้นำตรวจ, ผู้เสียหาย/ผู้รับมอบ, ช่างเทคนิค, ผู้ตรวจยึดจะต้องลงชื่อในรายงานการตรวจสอบทุกหน้า อันนี้เป็นตัวอย่างของการตรวจจับลิขสิทธิ ซอฟต์แวร์ จากคุณ : ค.คนไทย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 19:51:03

ความคิดเห็นที่ 26 ร้านอินเตอร์เน็ต หรือร้ายเกมส์ เป็นสถานที่สาธารณะ ที่บุคคลใด ๆ ก็เข้าไปได้ ตำรวจจึงมีสิทธิเข้าไปค้นได้โดยไม่ต้องมีหมายค้น แต่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่มีอำนาจค้นเพราะไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่และสถานที่ตรวจค้นจำกัดเฉพาะบริเวณที่ลูกค้ามีสิทธิใช้ได้เท่านั้นไม่รวมถึงสถานที่เฉพาะของเจ้าของร้านที่เป็นเขตส่วนตัว เช่นที่พักหลับนอน เพราะถือว่าเป็นที่รโหฐาน ซึ่งการค้นต้องมีหมายค้นจากศาลด้วย การตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องมีหมายศาลจึงจะทำได้ มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดและหาตัวผู้กระทำความผิด (๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้ (๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง (๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ (๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่ (๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ (๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้ (๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกล่าว (๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็ว เมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ อันนี้เป็นการตรวจสอบโดยเจ้าพนักงาน  แต่ไม่มีข้อใหนที่บอกว่า สามารถยึดเครื่องคอมพ์ ได้โดยอาศัย อำนาจของเจ้าพนักงานเองเลย มีแต่มาตรา19 ข้างล่างนี้ลองอ่านดูเอานะคับ มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็ว จากคุณ : ค.คนไทย เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 53 19:59:24