ความคิดเห็นที่ 1 คงรีบทำเวลามั้งคะ หมอ1คนต่อคนไข้หลายสิบคน/เช้า จากคุณ : อีกฝั่งฟากของเวลา เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 22:52:23

ความคิดเห็นที่ 2 ปรบมือให้ดังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สุดยอดมากครับ เป็นผมจะทำมากกว่านั้นอีก คงได้ไปตกลงกันที่โรงพักอะ เสียเท่าไหร่ก็ยอม จากคุณ : หน้ากากเสือดำ เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 23:12:46

ความคิดเห็นที่ 3   ต้องเปลี่ยนแนวที่ที่ว่า "ขยันเรียนนะลูก โตขึ้นจะได้เป็นเจ้าคน นายคน" มาเป็น "ขยันเรียนนะลูก โตขึ้นจะได้ทำงานรับใช้ประชาชน" หายชัวร์ จากคุณ : เอาดิ เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 23:13:46 A:117.47.81.153 X: TicketID:251127

ความคิดเห็นที่ 4   คำประกาศสิทธิของผู้ป่วย credit to :::: http://www.mccormick.in.th/intro_pt.html    และ http://www.tnc.or.th/knowledge/know04.html เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพกับผู้ป่วย ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจอันดีและเป็นที่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน แพทย์สภา สภาการพยาบาล สภาเภสัชกรรม ทันตแพทย์สภา และคณะกรรมการควบคุมการประกอบโรคศิลป์ จึงได้ช่วยกันออกประกาศรับรองสิทธิของผู้ป่วยไว้ ดังต่อไปนี้ 1. ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะได้รับบริการด้านสุขภาพ ตามที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ 2. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติเนื่องจากความแตกต่างด้านฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม ลัทธิการเมือง เพศ อายุ และลักษณะของการเจ็บป่วย 3. ผู้ป่วยที่ขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วย สามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอมให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่การช่วยเหลือรีบด่วนหรือจำเป็น 4. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต มีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่คำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่ 5. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบ ชื่อสกุลและประเภทของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ที่เป็นผู้ให้บริการแก่ตน 6. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแก่ตน และมีสิทธิในการขอขอเปลี่ยนผู้ให้บริการและสถานบริการได้ 7. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง จากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยเคร่งครัด เว้นแต่จะได้รับความยินยอม จากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย 8. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วน ในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูกทดลอง ในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ 9. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอ ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้อง ไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น 10. บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิตซึ่งไม่สามารถ ใช้สิทธิด้วยตนเองได้ แก้ไขเมื่อ 29 ม.ค. 53 23:43:02 จากคุณ : rodtang7411 (rodtang7411) เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 53 23:39:52

ความคิดเห็นที่ 5   ดิฉันก็เคยเจอค่ะ แต่เป็นเรื่องส่วนตัวด้วย คือดิฉันเข้ารับการรักษาที่โรงบาลเดียวกับคุณนี่แหละ เนื่องจากมีอาการปวดศรีษะรุนแรงมาก หมอจึงต้องมีการฉีดสีแล้วสแกนสมอง เมื่อเสร็จหมอบอกไม่มีปัญหา เป็นไมเกรนขั้นรุนแรง แต่เรื่องมันอยู่ที่ว่า แฟนเก่าของแฟนดิฉันเป็นนางพยาบาลโรงบาลนี้แต่คนละสาขากัน ทราบเรื่อง ได้ไปแอบเปิดข้อมูลประวัติดิฉันทำทีเหมือนเป็นห่วงเหมือนจะเอาใจแฟนเก่าตัวเอง แล้วแฟนดิฉันก็ไม่ได้สงสัยอะไร เมื่อพอนางพยายาลคนนั้นแอบไปค้นข้อมูลประวัติดิฉันแล้ว ก็เอามาบอกแฟนฉันว่า ผลเอ็กซเรย์ของดิฉัน มีอาการสมองบวม ซึ่งเมื่อดิฉันรู้ฉันเครียดและกลัวมาก มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงน่ะ แต่หมอก็บอกว่าเป็นแค่ไมเกรน จนต้องไปถามหมอที่ตรวจอีกรอบ สรุปคือเป็นไมเกรนไม่ได้สมองบวม เราเลยนึก ทำไมต้องมาพูดบอกเราหั้ยเรากลัวแบบนี้นี้ ทั้งที่อยู่คนละสาขากันแต่ก็ยังแอบไปเปิดข้อมูลคนไข้ ซึ่งตามหลักไม่มีสิทธิ์น่ะ ดิฉันก็ไม่ได้เอาเรื่องเอาราวอะไร แต่เสียความรู้สึกกว่า จรรยาบรรของการทำอาชีพนางพยาบาลมันลดลงรึป่าว ? เหมือนกับที่คุณเจอ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดียวกัน อันนี้ดิฉันไม่ได้ว่านางพยาบาลน่ะค่ะ คนที่ดีก็ดีแล้ว แต่คนที่แย่นี่สิ จากคุณ : เข้าใจความรู้สึก เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 00:44:52 A:10.0.1.248 X:124.120.240.60

ความคิดเห็นที่ 6 ดิฉันและครอบครัวเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลนี้ และตัวเองก็เรียนจบจากที่นี่ แม้ว่าจะไม่ได้ทำงานที่นี่มานานหลายสิบปี แต่ก็ยังมีความเชื่อมั่นที่จะกลับมารักษาที่นี่ โดยที่มารักษาแต่ละครั้งไม่เคยใช้สิทธิ์หรือแสดงให้รู้ว่าเคยทำงานที่นี่ โดยส่วนตัวเคยเจอพยาบาลที่พูดจาค่อนข้างสามหาว ดิฉันไม่ได้รู้สึกโกรธหรือคิดว่าเขาดูถูกเหมือนที่คุณคิดเลยค่ะ ดิฉันรู้สึกว่าเขาทำไม่ถูก และสิ่งที่ดิฉันทำก็คือขอพบผู้ตรวจการที่ดุแลแผนกนั้นและแจ้งให้เขาทราบถึงเรื่องราวทั้งหมด หลังจากกลับมาแล้วก็ได้โทรไปที่โรงพยาบาลขอคุยกับผู้บังคับบัญชาของพยาบาลคนนั้นโดยตรง โรงพยาบาลมีกฏระเบียบในการรับเรื่องร้องเรียนค่ะ ถ้าคิดว่าคุณได้รับการบริการที่ไม่ถูกต้องขอให้ร้องเรียนไปตามขั้นตอนเพื่อพัฒนาการบริการต่อไป แต่มีบางสิ่งที่อยากจะแชร์ภาพในมุมมองที่แตกต่างดูบ้าง ดิฉันต้องพาแม่ไปตรวจตามนัด แม่ยังช่วยเหลือตัวเองได้ดีทุกอย่างแต่ดิฉันจะไปพบหมอกับแม่ทุกครั้ง แต่ละครั้งที่รอตรวจนั้นบางที่ต้องรอกันสามสี่ชั่วโมง ที่นั่งหน้าห้องตรวจไม่เคยพอกับจำนวนคน บางทีต้องออกมารอข้างนอก และบอกแม่ไว้ว่าถ้าเขาเรียกให้โทรบอก แล้วก็คอยเวียนไปดูบ่อยๆว่าใกล้จะถึงคิวหรือยัง จำนวนคนไข้ที่นี่หลักพันหลักหมื่น หมอหนึ่งคนตรวจคนไข้ 9-12 ไม่ต่ำกว่าหลักร้อย คนไข้เริ่มมาต่อคิวยื่นบัตรตั้งแต่ตีสี่ สิบโมงเช้าต้องปิดรับบัตรเข้าตรวจเพราะจำนวนมากเกินหมอจะตรวจได้ หมอตรวจคนไข้วันละเป็นร้อย จำไม่ได้หรอกว่าใครป่วยเป็นอะไร เวลาตรวจก็ดูประวัติคนไข้ ผลเลือด ผลเอกซเรย์ แล้วก็วินิจฉัยและให้การักษา เสร็จแล้วก็ไปดูของคนไข้คนต่อไป ห้องตรวจผู้ป่วยนอกที่นี่ หมอนั่งเรียงหน้ากระดาน พื้นที่ต่อหมอหนึ่งคนคือโต๊ะที่นั่งได้คนเดียว  เวลาจะตรวจคนไข้ในห้องตรวจยังต้องรอคิวกัน คุณเคยนึกไหมว่าในเวลาที่คุณไปขอพบหมอเพื่อขอคุยกับหมอนั้น ยังมีคนไข้อีกกี่คนที่รอตรวจ และรอมานานเท่าไหร่แล้ว เขานั่งนับนั่งรอว่าเหลืออีกกี่คนจะถึงเค้า การที่คุณจะพบหมอแม้ว่าจะเสียเวลาคุยกับคุณไม่กี่นาที แต่พยาบาลต้องเข้าไปบอกหมอ หมอต้องเอาประวัติไปดูใหม่ก่อนที่จะคุยกับคุณได้ เผลอกำลังตรวจคนไข้ค้างอยู่ คุยกับคุณเสร็จแล้วต้องไปเริ่มต้นใหม่อีก เข้าใจที่ว่าคุณต้องไปตรวจเหมือนกันถึงได้อยู่รอไม่ได้ แต่ก่อนที่จะขอพบหมอ ทำไมคุณไม่ถามคุณแม่คุณก่อนว่าหมอว่าอย่างไรบ้าง ถ้าแม่คุณตอบคุณไม่ได้ คุณถามพยาบาลตรงนั้นก็ได้เขาอ่านประวัติที่เขียนไว้ได้ว่าอย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้วคนไข้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ควรจะมีญาติอยู่ด้วยตลอดด้วยซ้ำ สิทธิผู้ป่วยที่คุณยกมานั้นมันไม่มีข้อไหนเลยที่เป็นข้ออ้างถึงการที่คุณขอพบหมอเพื่อถามรายละเอียด แต่คนไข้ที่นั่งตาปริบๆรอตรวจเหล่านั้นก็มีสิทธิเหมือนที่คุณยกมานั่นแหละ ถ้าเขาจะขอสิทธิของเขาบ้างโดยที่จะขอได้ตรวจกับหมอก่อนที่พบคุณจะได้ไหม ในเมื่อคนไข้คือแม่คุณได้รับการตรวจการรักษาไปแล้ว แล้วถ้าแต่ละวันมีคนไข้ที่มีญาติเหมือนคุณ ต้องการแบบคุณซักวันละ 10 คน คนไข้ที่เหลือต้องมีหน้าที่รอหรือเปล่า นี่แหละคือส่วนหนึ่งของความไม่พอใจที่เป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ที่เกิดกับคุณ แต่แม้ว่ามันจะเป็นสาเหตุก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นชอบธรรมที่พยาบาลคนนั้นจะมีสิทธิ์แสดงกริยาไม่ดีกับคุณ ถ้าดิฉันให้บริการอยู่ตรงนั้นดิฉันจะให้คุณรอให้คุณหมอตรวจคนไข้ที่รออยู่ให้หมดก่อน แล้วจะให้คุณเข้าไปพบเพราะคนไข้เหล่านั้นเขามารอเหมือนกันและคุณได้ใช้สิทธิ์ในการรับบริการของคุณไปแล้ว จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 01:53:16

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าพยาบาลอธิบายให้ จขกท ฟังเหมือนกับที่ คห 6 อธิบายไว้ในกระทู้นี้ ก็คงไม่เป็นเรื่อง ทุกคนยอมรับ และเข้าใจ สิ่งสำคัญคือ กิริยาท่าที วาจา ที่แสดงต่อคนไข้ หรือญาติคนไข้ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 06:42:26

ความคิดเห็นที่ 8 โดนใจให้สามกิฟท์ "ถ้าดิฉันให้บริการอยู่ตรงนั้นดิฉันจะให้คุณรอให้คุณหมอตรวจคนไข้ที่รออยู่ให้หมดก่อน แล้วจะให้คุณเข้าไปพบเพราะคนไข้เหล่านั้นเขามารอเหมือนกันและคุณได้ใช้สิทธิ์ในการรับบริการของคุณไปแล้ว " แล้วเมื่อหมอตรวจเสร็จ "วันนี้เลิกสองทุ่ม หมอขอใช้สิทธิ์เลิกทำงานบ้างนะครับ เนื่องจากทำงานเกินเวลามาสี่ชั่วโมงโดยไม่ได้ OTแล้ว เดี๋ยวต้องไปราวด์ผู้ป่วยในอีกยี่สิบกว่าเคสอีก หมอจะมาอธิบายให้พรุ่งนี้ในเวลาราชการนะครับ หมอจะอธิบายให้คุณคิวแรกเลย อ้อแต่ต้องมาจองคิวตอนตีสี่ด้วยนะครับ" แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 07:19:49 จากคุณ : Nonfire เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 07:14:14

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นความผิดของ จขกท. ครับ จากคุณ : นางสเตนเลส เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 07:30:50

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับ ความคิดเห็นที่ 6 ค่ะ เราเองก็เป็นคนไข้ของที่ศิริราช ถ้าเจ้าของกระทู้เข้าไปขอพบคุณหมอ คนไข้ที่นั่งรออยู่เป็น 100 ก็ต้องรออีกนาน บางคน ก็มาไกล มาจากต่างจังหวัด มานั่งรอตั้งแต่ ตี 4 ทุกคนก็มีธุระ อยากรีบกลับบ้านกันหมดค่ะ พยาบาลที่ศิริราช น่ารักทุกคนนะค่ะ ถึงบางคนจะหน้าไม่ยิ้มแย้ม แต่ก็บริการดีค่ะ จากคุณ : mamai (mamai47) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 08:34:17

ความคิดเห็นที่ 11   คห6 คะ เข้าใจที่ว่าคุณต้องไปตรวจเหมือนกันถึงได้อยู่รอไม่ได้ แต่ก่อนที่จะขอพบหมอ ทำไมคุณไม่ถามคุณแม่คุณก่อนว่าหมอว่าอย่างไรบ้าง ถ้าแม่คุณตอบคุณไม่ได้ คุณถามพยาบาลตรงนั้นก็ได้เขาอ่านประวัติที่เขียนไว้ได้ว่าอย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้วคนไข้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ควรจะมีญาติอยู่ด้วยตลอดด้วยซ้ำ *******คุณไม่ได้อย่ในเหตุการณ์ อย่านึกเอง เออเอง เหตุการณ์ที่เจอมาคืออย่างที่บอก หมอนัด1เดือนๆๆๆ ไปจ่ายตังรับยาซะ  พูดตะคอกด้วย ดิฉันก็ถามแม่แล้ว แต่แม่ก็ตอบไรไม่ได้ สุดท้ายสักพัก หมอที่ตรวจเคยคุยด้วยแล้วบอกใจเย็น เคสของแม่เปนอย่างนี้ พยาบาลคนนั้น อย่าไปถือสา ตอนนั้นเที่ยงกว่าด้วย เรียกว่าเกือบสุดท้ายแล้วเหมือนกัน   สิทธิผู้ป่วยที่คุณยกมานั้นมันไม่มีข้อไหนเลยที่เป็นข้ออ้างถึงการที่คุณขอพบหมอเพื่อถามรายละเอียด ******อ่านให้เข้าใจแตกระเอียดหน่อยมันมีอยุ่เปนบางข้อ ที่คนไข้ มีสิทธิ์อย่างไร ทวงถามได้ไหม อย่างน้อยหัวข้อหลักๆนั้นมันเปนสิ่งที่พยาบาลทุกท่านควรทราบ แต่คนไข้ที่นั่งตาปริบๆรอตรวจเหล่านั้นก็มีสิทธิเหมือนที่คุณยกมานั่นแหละ ****อ้าวคุณก็ทราบนินา ถ้าเขาจะขอสิทธิของเขาบ้างโดยที่จะขอได้ตรวจกับหมอก่อนที่พบคุณจะได้ไหม ในเมื่อคนไข้คือแม่คุณได้รับการตรวจการรักษาไปแล้ว *****ได้สิคะ การขอพบหมอเปนการถามชั่วระยะเวลาสั้น ไม่ได้ใช้เวลานานอย่างที่คุณคิด ถึงแม้จะรอคิวสุดท้าย  ดิฉันไม่ได้ วันนั้นเปนหมอผู้หญิงพูดจาดีมาก เขายังบอกเลยอย่าถือสา  แต่พยาบาลคนอื่นที่รุมล้อมเข้ามาบอก อย่าคิดมาก คนไข้เยอะ  อ้าว แล้วฉันต้องเปนที่รองรับอารมณ์พยาบาลรึนี่  พูดจาดีๆก็ได้ เพราะดิฉันก็เข้าไปแบบอ่อนน้อมสุดแล้วไม่ได้เข้าไปพูดจาตะคอกเขาก่อน ****** แล้วถ้าแต่ละวันมีคนไข้ที่มีญาติเหมือนคุณ ต้องการแบบคุณซักวันละ 10 คน คนไข้ที่เหลือต้องมีหน้าที่รอหรือเปล่า *****คุณอย่าพูดจา กระแนะ กระแน จขกท. เสียมารยาทค่ะ คุณพูดเหมือนเปนวิชาชีพเดียวเดียวกัน  ใครผิดใครถูก ก็ไม่ควรที่จะใช้วาจาข่มตะคอกแบบนั้น ถ้าคุณเปนแบบดิฉัน คุณจะไม่รู้สึกอะไร  เหรอคะ อันนี้ มันก็ต้องขึ้นอยู่กับความกล้าของผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยด้วย ว่ากล้าที่จะทำอย่างดิฉันไหม  หรือว่าจะคิดว่ามาแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ครั้งอื่นไม่เอาแล้วหรือทนมาสักหน่อย เพราะยังไงก็มาหาหมอให้ตรวจโรค ไม่ได้มาให้พยาบาลตรวจ. หากคุณคิดว่าต้องรอ ก็แล้วแต่หมอ ว่าจะสะดวกไหม ไม่ใช่แล้วแต่พยาบาลจะตะคอกผู้ป่วย หรือญาติผู้ป่วย  อย่าใช้ความคิดของตนเองเปนหลักที่เคยเปนพยาบาล  มองอย่างกลางๆบ้าง จขกท แค่คาดหวังว่า เกิดเคสแค่นี้ ยังท+พูดประชดประชันกันขนาดนี้ เสียวิชาชีพ ที่เรียนมาเปล่า ๆ  เสียถึงหัวหน้าและแผนกอีกด้วย แล้วระหว่างที่รอแอร์เย็นๆ ขนาดนั้น คุณจะไม่รู้สึกปวดฉี่ทำธุระบ้างหรือคะ ในสามสี่ชั่วโมงเนี่ยนะ !!!! แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 10:28:24 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 10:24:25 จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 10:22:03

ความคิดเห็นที่ 12   คห7คะ   ขอบคุณมากค่ะ ที่พยายามเข้าใจดิฉัน *****สิ่งสำคัญคือ กิริยาท่าที วาจา ที่แสดงต่อคนไข้ หรือญาติคนไข้ จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 10:29:57

ความคิดเห็นที่ 13   อ่านความเห็นที่ 11 แล้ว.. แรงง จากคุณ : R_C_A_119 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 10:40:12

ความคิดเห็นที่ 14 เจ้าของกระทู้คะ คุณไม่ได้อย่ในเหตุการณ์ อย่านึกเอง เออเอง เหตุการณ์ที่เจอมาคืออย่างที่บอก หมอนัด1เดือนๆๆๆ ไปจ่ายตังรับยาซะ  พูดตะคอกด้วย ดิฉันก็ถามแม่แล้ว แต่แม่ก็ตอบไรไม่ได้ สุดท้ายสักพัก หมอที่ตรวจเคยคุยด้วยแล้วบอกใจเย็น เคสของแม่เปนอย่างนี้ พยาบาลคนนั้น อย่าไปถือสา ตอนนั้นเที่ยงกว่าด้วย เรียกว่าเกือบสุดท้ายแล้วเหมือนกัน ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และก็ไม่ได้นึกเองเออเองอย่าที่คุณว่า ดิฉันแสดงความเห็นตามข้อมูลที่คุณให้มานั่นแหละค่ะ แต่คนไข้ที่นั่งตาปริบๆรอตรวจเหล่านั้นก็มีสิทธิเหมือนที่คุณยกมานั่นแหละ ****อ้าวคุณก็ทราบนินา ค่ะดิฉันทราบและเวลาจะเรียกร้องสิทธิอะไรก็มักจะมีสามัญสำนึกที่จะคิดถึงและเห็นใจสิทธิของคนอื่นและรู้จักหน้าที่ของตัวเองเหมือนกันค่ะ แล้วถ้าแต่ละวันมีคนไข้ที่มีญาติเหมือนคุณ ต้องการแบบคุณซักวันละ 10 คน คนไข้ที่เหลือต้องมีหน้าที่รอหรือเปล่า *****คุณอย่าพูดจา กระแนะ กระแน จขกท. เสียมารยาทค่ะ คุณพูดเหมือนเปนวิชาชีพเดียวเดียวกัน  ใครผิดใครถูก ก็ไม่ควรที่จะใช้วาจาข่มตะคอกแบบนั้น ถ้าคุณเปนแบบดิฉัน คุณจะไม่รู้สึกอะไร  เหรอคะ ที่แสดงความเห็นมานี่เรียกกระแนะกระแนแล้วหรือคะ แล้วเสียมารยาทด้วยหรือคะ แล้วที่คุณเล่ามาว่าคุณทำอะไรบ้างนั่นเสียมารยาทไหมคะ มารยาทขั้นพื้นฐาน จะบอกว่าประโยคที่คุณพูดกับพยาบาลข้างล่างนี้ ดิฉัน*-*   นี่.. คุณพยาบาล ฉันรอมานาน และก็ต้องไปขิ ไปเยยว บ้างสิ (โมโหแล้ว) ไม่ได้อยู่นั่งโต้ะแบบคุณนะ   คุณพูดจาดีๆ กับญาติคนไข้เปนไหม ถ้าไม่เปน ฉันก็ต้องพูดอย่างนี้แล้วแหละ คุณชื่อไร ขอถ่ายรูปหน่อย เผื่อจะขอไปรายงานผอ.สักหน่อย ดูสิว่าคุณจะพูดอย่างเมื่อกี้ไหม ... ต่อให้ดิฉันเจอคนที่มารยาททรามสุดๆ หรือถ่อยๆสุดมากระทำอะไรกับดิฉันก็ตาม ดิฉันไม่สามารถจะแสดงกริยาหรือพูดจาลักษณะนี้ออกไปได้ค่ะ ที่บ้านสอนมาว่าถ้าคิดว่าเขาถ่อย ก็อย่าถ่อยเหมือนเขา สิ่งที่คุณเล่ามาทั้งหมดคำพูดของพยาบาลคนนั้นไม่มีคำไหนที่ไม่สุภาพหรือไม่สมควรเลย ยกเว้นที่คุณอ้างว่าเขาพูดจาตะโกน ตะคอกใส่คุณ แต่สิ่งที่คุณตอบกลับเขาไปมันเรียกว่าอะไรคะ หรือมันเป็นสิทธิผู้ป่วยที่ญาติผู้ป่วยจะกระทำได้ แล้วพยาบาลคนนั้นก็มีสามัญสำนึกและมารยาทพอสมควรที่ไม่ตอบโต้กลับไป ถ้าวันนั้นคุณตอบเขาไปว่าคุณมีนัดตรวจเหมือนกันต้องไปตรวจและพยามรีบกลับมาแล้วแต่ไม่ทัน ที่บ้านไม่มีใครจะมาอยู่เป็นเพื่อนคนไข้ได้มีกันแค่สองคน คุณคงจะได้รับข้อมูลและการช่วยเหลือที่ดีกว่านี้ เป็นใครก็ต้องถามคุณว่าคุณไปไหนมา ทำไมไม่อยู่กับคนไข้ในเมื่อต้องการจะคุยกับหมอ ดิฉันนั่งรอแม่ตรวจและตัวเองก็รอตรวจเป็นประจำและเป็นคนเหมือนกับคุณ คงต้องไปปัสสาวะอั้นไม่ได้เหมือนคุณ รวมทั้งคนไข้และญาติคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน แล้วทำไมเขาไม่ไมีปัญหาเหมือนกับคุณล่ะคะ ความผิดของคนอื่นนั้นใหญ่ปานขุนเขา แต่ความผิดของตัวเรานั้นเบาราวปุยนุ่น การกระทำที่รักษาสิทธิตัวเองและเคารพสิทธิผู้อื่น รู้กาละเทศะต่างหากที่เรียกว่าความกล้า ส่วนที่รู้จักแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่เคารพสนใจสิทธิผู้อื่น ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมเขาไม่เรียกว่ากล้าค่ะ เขาเรียกว่า ถ่อย ระวังจะเจอถ่อยเสมอกันนะคะ รับรองว่าเขาไม่แค่เดินหนีคุณหรอก รู้จักสิทธิผู้ป่วยแล้ว หัดรู้จักหน้าที่ผู้ป่วยด้วย และที่สำคัญมารยาททางสังคม หลายๆกระทู้เลยที่ตั้งใจจะตั้งกระทู้ประจานคนอื่น แต่กลับกลายเป็นว่าตั้งมาประจานตัวเอง จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 11:21:13

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าจะว่าด้วยเรื่องกริยา วาจาที่ใช้ต่อผู้ป่วยนั้น ผู้ให้บริการเองก็มีทั้งประเภทกริยา วาจาสุภาพและไม่สุภาพไม่สมควรกระทำต่อผู้ป่วย ผู้รับบริการเองก็มีทั้งกริยาวาจา สุภาพ อ่อนน้อม แทบจะคลานเขา กราบกรานอยู่นั่นแหละ หรืออีกประเภทก็กร่าง ใหญ่โต ถ่อย อ้างสิทธิแบบตามใจฉัน ไม่สนใจกรอบ ข้อจำกัด กาละ เทศะ มายาทใดๆ แต่น่าแปลกที่คนไข้ดีๆ อ่อนน้อม ยกมือไหว้ไปทุกคน ให้ทำอะไรก็ทำ มักจะไปเจอผู้ให้บริการนิสัยแย่ๆ ถ่อยๆ ส่วนผู้รับบริการถ่อยๆ ก็มักจะโชคดีเจอแต่ผู้ให้บริการดีๆ เมื่อไหร่จะเจอแบบศีลเสมอกัน คือถ่อยกับถ่อยมาเจอกัน รับรองคนไข้ได้ดูละครนอกจอแก้เซ้งที่ต้องรอนาน อย่าลืมว่าคุณก็เปนข้าราชการของรัฐคนหนึ่ง ที่ต้องให้บริการประชาชน อย่าลืมว่าข้าราชการของรัฐต้องให้บริการประชาชนตามขอบเขตและหน้าทีเท่านั้น คำว่าบริการประชาชนไม่ใช่เสมือน ข้าทาส บริวารของประชาชน ที่ต้องทำตามความต้องการทุกอย่างโดยไม่มีขอบเขต ไม่มีกาละเทศะ จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 11:28:11

ความคิดเห็นที่ 16 เห็นด้วยกับ จขกท ครับ และทาง รพ. ก็ควรมีการตรวจสอบภาวะความเครียดของบุคลากรด้วย จากคุณ : สู้ (Hallgood) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 12:13:23

ความคิดเห็นที่ 17   คห14 ,15  คะ คุณไม่ได้อย่ในเหตุการณ์ อย่านึกเอง เออเอง เหตุการณ์ที่เจอมาคืออย่างที่บอก หมอนัด1เดือนๆๆๆ ไปจ่ายตังรับยาซะ  พูดตะคอกด้วย ดิฉันก็ถามแม่แล้ว แต่แม่ก็ตอบไรไม่ได้ สุดท้ายสักพัก หมอที่ตรวจเคยคุยด้วยแล้วบอกใจเย็น เคสของแม่เปนอย่างนี้ พยาบาลคนนั้น อย่าไปถือสา ตอนนั้นเที่ยงกว่าด้วย เรียกว่าเกือบสุดท้ายแล้วเหมือนกัน ใช่ค่ะ ดิฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และก็ไม่ได้นึกเองเออเองอย่าที่คุณว่า ดิฉันแสดงความเห็นตามข้อมูลที่คุณให้มานั่นแหละค่ะ -------ถ้าแบบนี้ไม่ได้คิดเอง เออเอง เปนตัวเองที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็ไม่ใช่ ให้ข้อมูลแค่ไหน อย่าเอาเหตุผลของตัวเองที่เคยอยู่รพ.นี้แล้วมาตอบ   หมอผู้หญิงก็บอกดิฉันว่าอย่าไปสนใจ เปนพยาบาลอายุก็เยอะแล้วมา เย้ยผู้รับบริการ มันเหมาะสมหรือไม่   ดิฉันเข้าไปถามดีๆ  (คราวก่อนที่เคยมามีเคสนี้พยาบาลท่านอื่นบอกให้เข้าไปถามได้เลย แต่ต้องรอแป้ปนึง    ไม่เหนมีปัญหาใดๆ  และก็รอคิวเสมอ ไม่ได้กร่างก่อน แต่คนไข้ที่นั่งตาปริบๆรอตรวจเหล่านั้นก็มีสิทธิเหมือนที่คุณยกมานั่นแหละ ค่ะดิฉันทราบและเวลาจะเรียกร้องสิทธิอะไรก็มักจะมีสามัญสำนึกที่จะคิดถึงและเห็นใจสิทธิของคนอื่นและรู้จักหน้าที่ของตัวเองเหมือนกันค่ะ แล้วถ้าแต่ละวันมีคนไข้ที่มีญาติเหมือนคุณ ต้องการแบบคุณซักวันละ 10 คน คนไข้ที่เหลือต้องมีหน้าที่รอหรือเปล่า -------ดิฉันมีจิตใต้สำนึก ไม่ต้องว่าสามัญหรอกค่ะ   และเหนใจด้วย และมีมารยาทที่จะขอสิทธินั้น  แต่พอเจอพยาบาลแบบที่กล่าวมานี้  จิตใต้สำนึกหายไปชั่วขณะ  แต่วันนั้น มีแต่คนมองพยาบาลคนนั้นเปนตาเดียว ไม่มีใครกล้าให้ความเห็นแบบคุณในเวปบอร์ดเลยนะคะ  แปลกดี....แถมยิ้มซะอีก  ก็ไม่ทราบว่าเขาสะใจ หรืออย่างไรที่เหนพยาบาลคนนั้น  ตะคอกใส่ก่อน. *****คุณอย่าพูดจา กระแนะ กรวะแน จขกท. เสียมารยาทค่ะ คุณพูดเหมือนเปนวิชาชีพเดียวเดียวกัน  ใครผิดใครถูก ก็ไม่ควรที่จะใช้วาจาข่มตะคอกแบบนั้น ถ้าคุณเปนแบบดิฉัน คุณจะไม่รู้สึกอะไร  เหรอคะ ที่แสดงความเห็นมานี่เรียกกระแนะกระแนแล้วหรือคะ แล้วเสียมารยาทด้วยหรือคะ แล้วที่คุณเล่ามาว่าคุณทำอะไรบ้างนั่นเสียมารยาทไหมคะ มารยาทขั้นพื้นฐาน -------ถ้าขั้นพื้นฐานที่ว่าคุณไม่ทราบ  คุณไม่ควรจบพยาบาลมาเปนดีที่สุด   แนะนำว่า กระทู้อื่นดีกว่าค่ะ ถ้า คุณเรียนจบพยาบาลมาจริงๆ นำความรู้ที่ได้ไปเอื้อประโยชน์ให้คนอื่น ดีกว่ามาฉกความเปนพยาบาลแบบที่ว่านี้ให้คนอื่นทราบ  ไม่ดีค่ะ  คุณน่าจะเข้าใจใครก่อความไม่ปกติมาก่อน จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 15:10:02

ความคิดเห็นที่ 18   ต่อให้ดิฉันเจอคนที่มารยาททรามสุดๆ หรือถ่อยๆสุดมากระทำอะไรกับดิฉันก็ตาม ดิฉันไม่สามารถจะแสดงกริยาหรือพูดจาลักษณะนี้ออกไปได้ค่ะ -------มีหลักฐานยืนยันเปล่าคะที่บ้านสอนมาว่าถ้าคิดว่าเขาถ่อย ก็อย่าถ่อยเหมือนเขา  แค่ดิฉันตอบไรคุณไปคุณยังใจเย็นไม่ได้ ยัง  มาเพิ่มคำว่า “ถ่อย” ว่า “ทราม”  และคำพูดอื่นๆอีกที่คุณอ่านจบก็จะตอบฉันอีก  แต่ดิฉันมั่นใจว่าจะไม่ตอบอีกแล้ว ถึงคุณจะหลังไม มาก็ไม่ตอบ เพราะดิฉัน ทน ความถ่อย ไม่พอ. สิ่งทีคุณเล่ามาทั้งหมดคำพูดของพยาบาลคนนั้นไม่มีคำไหนที่ไม่สุภาพหรือไม่สมควรเลย ยกเว้นที่คุณอ้างว่าเขาพูดจาตะโกน ตะคอกใส่คุณ -------น่าจะนัดตรงกันนะคะ วันที่ดิฉันไป รพ. จะได้เหนอะไรดีๆงามๆ พยาบาลทีคุณเอ่ยเนี่ย แต่สิ่งที่คุณตอบกลับเขาไปมันเรียกว่าอะไรคะ หรือมันเป็นสิทธิผู้ป่วยที่ญาติผู้ป่วยจะกระทำได้ แล้วพยาบาลคนนั้นก็มีสามัญสำนึกและมารยาทพอสมควรที่ไม่ตอบโต้กลับไป ------- คุณอยู่ในเหตุการณ์ป่าวคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนี้เรียกว่าอะไรคะ ไม่โต้ตอบเลยค่ะ เข้าห้องไปหลบหยิบโน่นนี่  แถมทำเหมือนอะไร เดินจะไปถ่าย เย้ยให้ถ่าย  เอาดิ๊ๆๆๆ  ถามว่า เหมาะสมหรือไม่ ???? โห มีมรรยาท พอส๊มควร. ถ้าวันนั้นคุณตอบเขาไปว่าคุณมีนัดตรวจเหมือนกันต้องไปตรวจและพยามรีบกลับมาแล้วแต่ไม่ทัน ที่บ้านไม่มีใครจะมาอยู่เป็นเพื่อนคนไข้ได้มีกันแค่สองคน คุณคงจะได้รับข้อมูลและการช่วยเหลือที่ดีกว่านี้ -------มันเปนการแก้ตัวชัดๆ  ค่ะ  ถามนะคะ คุณยังไม่ได้ตอบว่าสามสี่ชั่วโมงจะไม่เข้าห้องน้ำบ้างเหรอ ไม่มีทำธุระส่วนตัวเหรอ (อย่าบอกว่าเข้าก่อนสิ ถึงค่อยมารอ)  แล้วการรอในห้องน้ำ น่าจะทราบว่าคนเยอะ    เพราะฉะนั้น พูดแบบนี้  เข้าข่าย แบบ “คนดีต้องการให้แก้ไข คนจร. ชอบแก้ตัว”. เป็นใครก็ต้องถาม่คุณว่าคุณไปไหนมา ทำไมไม่อยู่กับคนไข้ในเมื่อต้องการจะคุยกับหมอ -------ไม่เสมอไปค่ะ คุณ พยาบาลบางคนถามว่าต้องการพบหมอเรือ่งอะไร ยังไง เขาจะตอบแบบนี้ แต่พอเจอตะคอก มันก้อไม่ไหวเหมือนกัน ดิฉันนั่งรอแม่ตรวจและตัวเองก็รอตรวจเป็นประจำและเป็นคนเหมือนกับคุณ คงต้องไปปัสสาวะอั้นไม่ได้เหมือนคุณ รวมทั้งคนไข้และญาติคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน แล้วทำไมเขาไม่ไมีปัญหาเหมือนกับคุณล่ะคะ   -------คนเราต้องทำงานค่ะ  จะมานั่งบอกคุณในนี้ก็ใช่เรื่อง ฉันให้ลูกน้องเชคกระทู้ที่ตั้งขึ้น  จึงได้มาทราบข้อมูล หากใครเอนเอียงผิดเช่นคุณ   ก็จะไม่ตอบแล้วค่ะ เสียเวลาทำมาหากิน แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 15:26:22 จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 15:11:52

ความคิดเห็นที่ 19   ความผิดของคนอื่นนั้นใหญ่ปานขุนเขา แต่ความผิดของตัวเรานั้นเบาราวปุยนุ่น -------คนเราหน้าตายังไม่เหมือนกัน  ดิฉันไม่ได้บอกอย่างที่คุณคิด เข้ามาเสนอแนะถึงเหตุการณ์ที่เจอ ซึ่งถ้าคุณคิดอย่างนั้น  ก็แล้วแต่สมองคุณจะสั่งแล้วกัน การกระทำที่รักษาสิทธิตัวเองและเคารพสิทธิผู้อื่น รู้กาละเทศะต่างหากที่เรียกว่าความกล้า ส่วนที่รู้จักแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่เคารพสนใจสิทธิ์ผู้อื่น ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมเขาไม่เรียกว่ากล้าค่ะ เขาเรียกว่า ถ่อย -------น่าจะใช้คำว่าหน้าที่ต่างหาก  กล้าไม่กล้านั้น มันไม่น่าเกี่ยวคำที่คุณพูด ตลกดี ค่ะ เหรอคะ ถ้าการไปติดต่อพยาบาลแบบสุภาพก่อน คุณยังหาว่าใช้อภิสิทธิ์ คำที่คุณพูดมาก็แสดงว่า อย่าไปเรียนเลยวิชาชีพนี้ เดวจะถ่อยตาม แปลภาษาไทย เปนภาษาไทยไม่ออก ถ้าถึงวัยทำงานแล้วมีคนไข้เยอะ จะไปถามถึงสิทธิ์อันใด มันก็ดูถ่อยไปหมด ขอบคุณค่ะ (ใช้สำหรับเคสคำติของคุณเท่านั้น ดิฉันให้สิทธิ์เดวนี้) ระวังจะเจอถ่อยเสมอกันนะคะ รับรองว่าเขาไม่แค่เดินหนีคุณหรอก รู้จักสิทธิผู้ป่วยแล้ว หัดรู้จักหน่าาที่ผู้ป่วยด้วย และที่สำคัญมารยาททางสังคม -------ขนาดพิมพ์ คำว่า หน้าที่ ยังผิดเลย ฉะนั้นก็อ่านสิทธิ์ให้ดี ว่าการซักถามถึงอาการ มันมีข้อกำหนดในสิทธิไหม หรือเพิ่งมาอ่านในนี้ เลยเพิ่งรู้  ดิฉันขอเรียนว่าได้เข้าไปติดต่อ อย่างสุภาพ แล้ว พอเจอเสียงตะคอกที่คุณ ว่าไม่ถ่อย นั้น มันได้อารมณ์ แบบไหนจึ่งอยากให้เจอบ้างหมือนกัน  จะได้รู้ว่าคนที่เปนพยาบาลบางคน มัน”ถ่อย” อย่างที่คุณว่า หลายๆกระทู้เลยที่ตั้งใจจะตั้งกระทู้ประจานคนอื่น แต่กลับกลายเป็นว่าตั้งมาประจานตัวเอง ---- ไม่ถือสาค่ะ ไม่ได้เอ่ยชื่อใคร  ใครอยากรับว่าตัวเอง ถ่อย อย่างไร เพราะดิฉันก็มิได้จบพยาบาล แบบ ถ่อยๆๆๆๆ  นะคะ   และขอเรียนว่า ไม่ตอบคห. แบบนี้อีกแล้วค่ะ  เพราะดูเข้าข่ายความถ่อยไปด้วย   ส่วน คห.อื่น เชิญค่ะ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 11:21:13 ด้วยเรื่องกริยา วาจาที่ใช้ต่อผู้ป่วยนั้น ผู้ให้บริการเองก็มีทั้งประเภทกริยา วาจาสุภาพและไม่สุภาพไม่สมควรกระทำต่อผู้ป่วย อย่าลืมว่าคุณก็เปนข้าราชการของรัฐคนหนึ่ง ที่ต้องให้บริการประชาชน อย่าลืมว่าข้าราชการของรัฐต้องให้บริการประชาชนตามขอบเขตและหน้าทีเท่านั้น คำว่าบริการประชาชนไม่ใช่เสมือน ข้าทาส บริวารของประชาชน ที่ต้องทำตามความต้องการทุกอย่างโดยไม่มีขอบเขต ไม่มีกาละเทศะ อนาน -------ก็ไม่ได้ว่าๆให้เปนทาส  แต่พอเจอคำตะคอกถ่อยๆที่คุณอ้างแบบนั้น ดิฉันก็ไม่ใช่ทาสใครเหมือนกัน มารับบริการด้วยความนิ่มนวลก่อน แต่พอเจอ..เอ่อ.. มันก็ต้องไปอ่านข้างบนค่ะ เบื่อพิมละ ... ขอโทษล่วงหน้านะคะที่ทำให้เสียอารมณ์ พยาบาลบางคนด้วยกัน เฉพาะที่ฉันเจอเท่านั้นค่ะ ส่วนที่เหนมาทั้งแผนก ดี๊ดี ดีจริงๆ ไม่งั้นจะไปรับบริการทำไมละค๊า""" แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 15:22:05 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 15:18:15 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 15:15:12 จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 15:12:18

ความคิดเห็นที่ 20   ยืนยันตรงนี้ ว่าจะไม่ตอบความเห็นของคุณข้างบนแล้วนะคะ ขอสิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ค่ะ อย่างที่บอกไปข้างบน. จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 15:20:35

ความคิดเห็นที่ 21 ถ่อย, ทราม เป็นคำสุภาพ ไม่ใช่คำหยาบ ส่วนความหมายไม่ต้องบอกก็คงจะทราบกันทุกคน ตรงไหนในคำตอบของดิฉันหรือคะที่ใช้อารมณ์ ช่วยยกมาหน่อยสิคะ สามัญสำนึก (common sense ) หมายถึง ความรู้สึกขั้นพื้นฐานที่ควรจะมีในมนุษย์ จิตใต้สำนึก( subconscious) หมายถึง ภาวะของจิตที่ไม่อาจรู้สึกได้ เพราะอยู่ในส่วนลึกของจิตใจ ดิฉันใช้คำถูกต้องทั้งความหมายภาษาไทยและภาษาอังกฤษค่ะ ขอบคุณที่แนะนำ ถ้าขั้นพื้นฐานที่ว่าคุณไม่ทราบ  คุณไม่ควรจบพยาบาลมาเปนดีที่สุด   แนะนำว่า กระทู้อื่นดีกว่าค่ะ ถ้า คุณเรียนจบพยาบาลมาจริงๆ นำความรู้ที่ได้ไปเอื้อประโยชน์ให้คนอื่น ดีกว่ามาฉกความเปนพยาบาลแบบที่ว่านี้ให้คนอื่นทราบ  ไม่ดีค่ะ  คุณน่าจะเข้าใจใครก่อความไม่ปกติมาก่อน ดิฉันอ่านภาษาไทยแตกฉานนะคะ แต่อ่านประโยคข้างบนแล้วไม่รู้เรื่องค่ะ กลับไปสงบสติอารมณ์ให้ดีก่อนแล้วค่อยเขียนใหม่ดีไหมคะ ไม่ต้องกังวลแทนดิฉันนะคะ ดิฉันมีสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานสูงมากพอที่จะรู้จักขอบเขตสิทธิและหน้าที่ของตัวเองและของผู้อื่นค่ะ ความเป็นมืออาชีพหรือวิชาชีพไม่ได้อยู่ปากคนค่ะ อยู่ที่การกระทำ  โดยเฉพาะปากของคนที่สามัญสำนึกบกพร่องเอามาเป็นตัวชี้วัดอะไรไม่ได้ค่ะ คน... เท่านั้นที่มองเห็นตัวเองดีแต่คนทั้งโลกเลว มองเห็นตัวเองถูก แต่ถ้าใครคิดไม่เหมือนนี่หาความดีไม่ได้เลย มันเปนการแก้ตัวชัดๆ  ค่ะ  ถามนะคะ คุณยังไม่ได้ตอบว่าสามสี่ชั่วโมงจะไม่เข้าห้องน้ำบ้างเหรอ ไม่มีทำธุระส่วนตัวเหรอ (อย่าบอกว่าเข้าก่อนสิ ถึงค่อยมารอ)  แล้วการรอในห้องน้ำ น่าจะทราบว่าคนเยอะ    เพราะฉะนั้น พูดแบบนี้  เข้าข่าย แบบ “คนดีต้องการให้แก้ไข คนจร. ชอบแก้ตัว”. คุณอ่านภาษาไทยไม่แตกหรือคะ ก็ดิฉันตอบไปแล้วยกมาให้ดูอีกก็ได้ ดิฉันนั่งรอแม่ตรวจและตัวเองก็รอตรวจเป็นประจำและเป็นคนเหมือนกับคุณ คงต้องไปปัสสาวะอั้นไม่ได้เหมือนคุณ รวมทั้งคนไข้และญาติคนอื่นๆด้วยเหมือนกัน แล้วทำไมเขาไม่ไมีปัญหาเหมือนกับคุณล่ะคะ เพราะฉะนั้น พูดแบบนี้  เข้าข่าย แบบ “คนดีต้องการให้แก้ไข คนจร. ชอบแก้ตัว”. ประโยคข้างบนนี้บอกดิฉันหรือบอกตัวเองคะ ทำไมดิฉันจะต้องแก้ตัวด้วยล่ะในเมื่อไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องของคุณเลย แก้ทำไม แก้แบบไหน แก้ให้ใคร รู้ไหมคะ เวลาเราชี้หน้าว่าใคร เราชี้เขานิ้วเดียวแต่อีกสี่นิ้วมันชี้กลับมาหาตัวเองค่ะ ตอนเขียนประโยคข้างบนนั่น ตัวคุณนั่นแหละค่ะที่ได้ยิน แต่ดิฉันมั่นใจว่าจะไม่ตอบอีกแล้ว ถึงคุณจะหลังไม มาก็ไม่ตอบ เพราะดิฉัน ทน ความถ่อย ไม่พอ. คนเราต้องทำงานค่ะ  จะมานั่งบอกคุณในนี้ก็ใช่เรื่อง ฉันให้ลูกน้องเชคกระทู้ที่ตั้งขึ้น  จึงได้มาทราบข้อมูล หากใครเอนเอียงผิดเช่นคุณ   ก็จะไม่ตอบแล้วค่ะ เสียเวลาทำมาหากิน แล้วใครเรียกร้องให้คุณตอบหรือคะ ดิฉันไม่เคยเสียมารยาทห-ลั-งไ-มค์ ไปหาใครโดยไม่มีเหตุต้องติดต่อกันหรอกค่ะ แล้วกับคุณซึ่งเป็นแค่คนแลกเปลี่ยนความเห็นในบอร์ดสาธาณะคงไม่มีเหตุผลใดต้องคุยกันเป็นส่วนตัวแบบนั้น ชอบคุยกันซึ่งๆหน้ามากกว่า ใครเป็นอย่างไรมันจะได้เห็นชัดๆดี เผื่อให้คนอื่นเขาเห็นด้วย ถ้าจะแสดงความเห็นในเวปบอร์ดสาธารณะก็ควรจะรู้มารยาทด้วย นั่งคือการยอมรับที่จะมีความเห้นต่าง ว่ากันด้วยข้อเท็จจริง ด้วยเหตุและด้วยผล ไม่ใช้ใครเห็นต่างกลายเป็นไม่ดีไปหมด เข้าข้างบ้างล่ะ ลำเอียงบ้างล่ะ ต้องเห็นด้วยเท่านั้นหรือถึงจะเป็นคนดีคนถูก ออกจากะลามาดูท้องฟ้าสวยๆที่กว้างใหญ่บ้างเป็นไรว่าโลกนี้เขาไปไกลกันถึงไหนแล้ว นี่เป็นการแสดงความเห็นนะคะ ไม่ได้มาเรียกร้องให้คุณตอบ เดี๋ยวจะอ่านภาษาไทยไม่แตกเข้าไปอีก อ่านไม่เข้าใจให้ลูกน้องแปลไทยเป็นไทยให้ฟังก็ได้ ว่าแต่ให้ลูกน้องคอยเช็คกระทู้ไม่กลัวลูกน้องแอบบเอาไปหัวเราะบ้างหรือคะ วุฒิภาวะของเจ้านายนี่เยี่ยมยอดจริงๆเลย ฝากคำพังเพยนะคะ คนดีชอบแก้ไข คนจังอารายมักชอบแก้ตัว สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล อารมณ์ส่อวุฒิภาวะ ใช้อะไรคิดคะ มีหลักฐานยืนยันไหมว่าที่บ้านสอนมาว่าคิดว่าเขาถ่อย ก็อย่างถ่อยเหมือนเขา การตอบกระทู้นี้แหละค่ะยืนยันได้ ดิฉันตอบคุณด้วยข้อมูลเหตุผล คำสุภาพ และอารมณ์ปกติ สติสัมปัญชัญญะสมบูรณ์ หัวใจยังเต้นปกติ 85 ครั้ง/นาที ไม่มีอารมณ์ซั๊กนิ๊ดเดียว ตอบไปหัวเราะไปด้วย 555 ไม่ได้ตั้งให้มาตอบนะคะ แต่ถ้าอ่านแล้วมือสั่นปากสั่นทนไม่ได้จะมาตอบอีกล่ะก็ แนะนำให้สงบสติอารมณ์ให้ดีก่อนนะคะ แล้วเขียนเสร็จแล้วลองอ่านเองดูก่อนว่าอ่านรู้เรื่องหรือเปล่า เขียนแบบวกวนลนลานอ่านไม่รู้เรื่องค่า แล้วที่พร่างพรูออกมาทั้งหมดนั่น มันก็กลับไปหาคนที่เป็นอย่างที่ว่ามาแหละค่ะ 555 ขอบคุณนะคะที่ช่วยให้ดิฉันมีเรื่องตลกขบขันในวันหยุดนี้ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 15:55:50 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 15:50:14 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 15:49:26 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 15:45:45

ความคิดเห็นที่ 22 ต่ออีกหน่อยกำลังสนุก 555 ขนาดพิมพ์ คำว่า หน้าที่ ยังผิดเลย ฉะนั้นก็อ่านสิทธิ์ให้ดี ว่าการซักถามถึงอาการ มันมีข้อกำหนดในสิทธิไหม หรือเพิ่งมาอ่านในนี้ เลยเพิ่งรู้  ดิฉันขอเรียนว่าได้เข้าไปติดต่อ อย่างสุภาพ แล้ว พอเจอเสียงตะคอกที่คุณ ว่าไม่ถ่อย นั้น มันได้อารมณ์ แบบไหนจึ่งอยากให้เจอบ้างหมือนกัน  จะได้รู้ว่าคนที่เปนพยาบาลบางคน มัน”ถ่อย” อย่างที่คุณว่า ดิฉันพิมพ์คำว่าหน้าที่ตรงไหนผิดคะ ถ้ามันตกหล่นก็ขออภัยด้วยเพราะพิมพ์สัมผัสและแป้นพิมพ์มันเล็ก แต่ถ้าคุณหมายถึงประโยคข้างล่างนี้ การกระทำที่รักษาสิทธิตัวเองและเคารพสิทธิผู้อื่น รู้กาละเทศะต่างหากที่เรียกว่าความกล้า ส่วนที่รู้จักแต่ความต้องการของตัวเอง ไม่เคารพสนใจสิทธิ์ผู้อื่น ไม่สนใจสิ่งแวดล้อมเขาไม่เรียกว่ากล้าค่ะ เขาเรียกว่า ถ่อย ดิฉันไม่ได้พิมพ์ผิดแต่ประการใด ดิฉันต้องการพิมพ์คำว่าสิทธิจริงๆค่ะ คนทุกคนเขาก็มีสิทธิของเขา จะเป็นข้าราชการ ผู้ให้บริการเขาก็มีสิทธิของเขาที่คนอื่นต้องเคารพและมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามสิทธิของเขา อารมณ์มันพลุ่งจนอ่านไม่แตก หรือไม่เคยรู้มาก่อนคะว่า คนอื่นเขาก็มีสิทธิเหมือนกันเขาไม่ได้มีหน้าที่ต้องกระทำต่อเราอย่างเดียว ที่บ้านดิฉันก็สอนมาอีกค่ะ บอกให้จำไว้เสมอนะว่า ถ้าเราไม่พูดไม่แสดงอะไรออกไป ไม่มีใครรู้หรอกว่าเราโง่หรือฉลาด   แต่เมื่อไหร่ที่เราแสดงความคิดความเห็นหรือการกระทำออกไป นั่นแหละเขาจะรู้ทันทีว่าเรานั้นโง่หรือฉลาด นอกจากจะรุ้ว่าเราโง่หรือฉลาดแล้ว และมันยังทำให้คนอื่นเขารู้ด้วยว่าเราเห็นแก่ตัว เอาเปรียบ คิดถึงแต่ตัวเอง ไม่เคยเคารพสิทธิของผู้อื่นและอื่นๆอีกมากมาย จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:10:42

ความคิดเห็นที่ 23 ขำ ขำ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:16:27 จากคุณ : ผู้หญิงคนนั้น...คือฉัน เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:13:06

ความคิดเห็นที่ 24 อ้าวไหนว่าไม่ตอบไง 55555 เวปบอร์ดที่นี่เขามีกฏห้ามตอบกระทู้ด้วยหรือคะ หรือมีกฏว่าตั้งแล้วมีสิทธิ์แจ้งด้วยว่าให้ตอบแต่เฉพาะคนที่เห็นด้วย หรือมีกฏอีกว่าตั้งแล้วเจ้าของกระทู้มีสิทธิ์จะให้ใครตอบไม่ให้ใครตอบก็ได้ ไม่แปลกใจเลยที่มารยาทในที่สาธาณะแบบนี้ยังไม่มี 5555 มือสั่นจนลืมเปลี่ยนล๊อกอินหรือเปล่าคะ แล้วอย่าย้ำคิดย้ำทำค่ะ บอกไปแล้วว่าไม่เคยห-ลั-งไมค์ อ่านภาษาไทยไม่แตกหรือคะ หรือโมโหจนตาลายอ่านไม่หมด จายเย็นค่ะ สงบสติอารมณ์ซะก่อน พ่นออกมาแล้วมาเอาคืนไม่ได้นะคะ ให้เวลาได้ค่ะ ไปออกกำลังกายก่อนนะคะ แล้วจะกลับมาสนุกสนานใหม่ ตอบกระทู้คุณนี่สนุกกว่าดูตลกค่าเฟ่อีกค่ะ 55555 ป.ล. ไม่คิดว่าจะมีการเขียนด้วยมือแล้วลบด้วย..... เปลี่ยนล๊อกอินแล้วกลับมาเขียนไว้อย่างเดิมก็ได้นะคะ คงมีคนอ่านทันไม่กี่คน เขาไม่รู้หรอกค่ะว่าแปลงกายได้ 55555 โอ๊ยหัวเราะจนเจ็บท้องไปหมดแล้ว จะประจานเขายังไม่กล้าใช้ล๊อกอินต้องแปลงกาย นอกจากประจานเขาไม่สำเร็จยังกลายเป็นประจานตัวเองไปซะจริงๆ ตลกดี 555 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:25:00 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:22:34 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:20:22

ความคิดเห็นที่ 25   ลูกน้องอิฉัน มันทนความ ถ่อย แบบสุภาพที่คุณว่าไม่ได้ค่รา เลยให้มาแจมอีกรอบ!!!! เอ้อ....ถ้าเธอไม่ได้เปนอย่างที่ดิฉันว่า ก็อย่าร้อน อย่าตอบ กรุณาอย่าตอบ อย่าหลังไม อย่าเข้ามาตอบอีก เสียวิชาชีพพยาบาลแบบคุณ อย่างที่บอก ไม่ต้องถามซ้ำ ว่าดิฉัน ตอบใคร ถ้าคุณย้อน แสดงว่าร้อนตัว กับคำที่ฉันบอกมาทั้งหมด  ต้องการคำเสนอแนะ ไม่ได้ให้ใครเอาวิชาชีพ มาอวด   ไม่ได้เหนว่าใครหัวเราะในนี้ ไม่ได้ถามว่าหัวใจเต้นอย่างไร  (แต่ดันเสนอมาเอง) รู้แต่ว่า ตอนนี้ คุณกำลังอ่านข้อความที่ดิฉันพิมพ์ อยู่ เสียใจนะคะ ที่เดาถูก  แต่ไม่เปนไรค่ะ เมื่อไล่แล้ว ยังจะเข้ามาอีก (เขาเรียกกันอย่างไร ใครๆก็เปนคนไทย ก็เข้าใจถูก)  อย่างว่าแต่ต้น อ้าวอยากพังเพยก็เอาไปเลย จัดให้  กินปูนร้อนท้อง      เองค่า ท่านผู้อ่าน... กร๊ากกกกกกกก.   ขอเชิญท่านผู้อ่านที่เคยเจอแบบดิฉัน เข้ามาตอบหน่อยนะคะ คนที่ดิฉันไล่แล้ว เดวมากร่างจนกระทู้บานเลยอ่ะ  ช่วยด้วยคร่า!!!!! เอ่อ ที่คอมพิวเตอร์ของคุณพิมพ์ด้วยมือแต่ลบด้วย.. จริงเหรอคะ  ยิ่งพูดมามันก็บ่งบอกว่าคุณเปนคนเช่นไร  ว่างมาก ไม่ได้ทำงาน เสียดายที่เกิดมาเปนคน.....แบบนี้ บอกแล้วไงคะ ว่าไม่ได้มาตอบเอง ให้ลูกน้องตอบให้ส่วนจะเปลี่ยนล้อกอินหรืออย่างไร มันก็เรื่องของเขา   เดวจะไม่ทิ้งกระทู้แน่คะ เพราะต้องทำมาหากิน ไม่ได้ว่าง กระแนะ กระแหน ใคร   คุณก็อายุเยอะแล้ว 40 กว่า น่าจะทำประโยชน์อื่นๆ ไม่เคยดูรายการวีไอพีเหรอคะ หมามันยังช่วยพระถือบาตร ถือย่ามเลย แต่อย่างคุณนี่ไม่น่า เสียดายที่เกิดเปนคน ....ก่อกวนกระทู้นี้ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:39:44 แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:32:52 จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:29:16

ความคิดเห็นที่ 26 มาเร็วดีแฮะ เปลี่ยนล๊อกอินแทบไม่ทันเลย คอมบ้านดิฉันไม่เป็นหรอกค่ะ แต่เห็นมันเกิดกับคนบางคนนะ ลบไปแทบไม่ทัน ดิฉันเป็นคนอย่างไรหรือคะ ช่วยวิจารณ์หน่อยสิ อยากรู้อ่ะ 5555 ไม่ว่างหรอกค่ะแต่ตอบกระทู้คุณนี่คลายเครียดดีมาก ท้องแข็งไปหมดแล้ว ใครคะที่เสียดายที่เกิดมาเป็นคน....แบบนี้  คุณหรือคะเกิดเป็นคนแบบคุณนี้หายากนะคะ ร้อยปีน่าจะมีมาเกิดคนเดียว ออกมาดูท้องฟ้าเยอะๆนะคะ บอกแล้วไง สำเนียงมาส่อภาษา กริยามันส่อสกุล พ่นออกมาเลยค่ะ อยากพ่นอะไรพ่นออกมา ต้องไปจริงๆแล้วค่ะเดี๋ยวกลับมาดูน้องหมีสุดโปรดไม่ทัน อยากตอบๆไว้เลยนะคะ กลืนน้ำลายตัวเองไม่มีเชื้อโรคหรอกค่ะ 5555 ดิฉันเหรอคะกร่าง อูยอุตส่าห์ทำตัวลีบ พิมพ์อย่างสงบเสงื่ยมแล้วนะเนี่ยะ วาจาสามหาว หยาบคายซักนิดก็ไม่มี ยังเรียบร้อยไม่พออีกหรือคะ 555 มาตอบคราวหน้าจะลองคลานเข่าพิมพ์ดูค่ะ จะได้ไม่กร่างไง 55555 ไม้ได้หัวเราะดังๆไปทั้งตัวแบบนี้มานานแล้ว สนุกจริงๆ พับเผื่อยสิ ล่าสุดเป็นมื่อเกรียนติดอันดับแถวๆห้องบลูยังไม่มันส์เท่านั้นเลย เพราะขานั้นควบคุมอารมณ์ได้พอสมควรเลย แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:38:34 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:37:47

ความคิดเห็นที่ 27   คห 26 ทุกบรรทัด มันก็ส่อแวว อยู่แล้ว ว่าคุณเปนประเภทไหน  ไม่น่าถาม!!!!! แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 16:55:42 จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 16:53:55

ความคิดเห็นที่ 28   เท่าที่อ่านดู พยาบาล  ผิด ที่พูดจาด้วยน้ำเสียงตะคอก แต่  เนื้อความที่พยาบาลพูด เราว่า ถูกต้องเลยค่ะ คุณจะขอพบอีกรอบ ก็คงต้องรอคิวใหม่ กลับไปต่อคิวอีกรอบ ไม่ใช่จะพบหมอ โดยอ้างว่า พบมาแล้ว ก็จริงอย่างที่พยาบาลว่า  ว่าคุณไปไหนมา คุณจะอ้างว่า  รอนาน ต้องไปนั่นนี่บ้าง เป็นการไม่แสดงความรับผิดชอบน่ะค่ะ   นัดก็ต้องว่าไปตามนั้น คุณแม่คุณใช้สิทธิ์นั่นแล้ว   จะพบหมออีกรอบ เพราะคุณไม่อยู่ระหว่างหมอตรวจและแม่คุณหูไม่ดีหรอคะ ?? แล้วคนไข้คนอื่นล่ะคะ และพฤติกรรมของคุณ รวมถึงคำพูด  ยังไม่รวมกิริยาสีหน้าของคุณ ที่พูดทำนองนี้ออกมา  เราว่าก็คงพอกันนั่นล่ะค่ะ กับ พฤติกรรมของพยาบาล ยิ่งการตอบกระทู้ของคุณ ในประโยคที่ว่า คุณไม่ได้อย่ในเหตุการณ์ อย่านึกเอง เออเอง รู้สึกว่าคุณกำลังพาลค่ะ เพราะมีคนที่เห็นต่างจากคุณ ไม่วิจารณ์แย่ๆด่าพยาบาล อย่างที่คุณได้เขียนให้เข้าใจอย่างนั้น ก็เป็นเพราะ คนอ่านต้อง วิเคราะห็เหตุและผลไปพร้อมๆกัน เราเข้าใจว่า คุณกำลังโกรธ โมโห และก่อนอื่น   ที่คุณจะเรียกร้องสิทธิ์ของคุณ  คุณก็ควรคำนึงถึงสิทธิ์ผู้อื่นด้วยเช่นกัน ยังไม่นับถึง พฤติกรรมที่คุณหยิบมือถือจะถ่ายรูปเค้า และ คำพูดที่ออกจะรุนแรง กลายๆว่า อยากโต้ตอบ  นั่นยิ่งแสดงถึง วุฒิภาวะทางอารมณ์ของคุณเช่นกัน   ต่อให้เราโกรธขนาดไหน  คงไม่ทำอย่างคุณแน่  พฤติกรรมแบบนี้ เปรียบคล้ายๆ  อึ่งอ่างพองลม  ดีแล้วค่ะ  ที่หมอมาห้ามไว้ ใน #6  นั้น ได้อธิบายอย่างชัดเจน ไม่ได้หยาบคาย หรือ อคติใดๆเลย และ เราไม่เข้าใจว่า ทำไมคุณได้ตอบกลับใน #11 แบบนั้น ซึ่งได้แสดงออกถึงการขาดเหตุผลของคุณ ว่าคุณไม่เปิดใจยอมรับคำอธิบาย คงไม่แปลกนะคะ  ถ้าหลายคนรวมถึงเราจะคาดคะเนความเข้าใจได้ว่า พฤติกรรม สีหน้าและ การกระทำของคุณ ที่ไม่ได้บอกไว้ คงมีส่วนต่อการพูดจาของพยาบาล เพราะจากการตอบ ความเห็นของคุณ  ดูเหมือนว่า ต้องการแค่ให้คนมาต่อว่า พยาบาล เพื่อให้คุณรู้สึกว่า ตนชนะ  ยิ่งใหญ่ เหนือกว่า เท่านั้น คุณรู้สึกว่า คุณไม่ได้เป็นทาส  พยาบาลคือผู้ให้บริการ   คุณ บอกว่า ไม่ว่า จนหรือ รวย ก็เท่าเทียม เราอยากทราบว่า  คุณมีอคติในใจ เกี่ยวกับการให้บริการ ว่า ดูคนที่จน รวย อยู่ก่อนแล้วหรือเปล่าคะ  พอโดนว่าเข้า  เลยเป็นจุดที่ทำให้คุณรู้สึกว่าโดนดูถูก   เราเข้าใจความรู้สึกของการถูกตะคอกนะคะ  แต่เราก็อยากให้คุณมองกลับมาที่ตัวเองด้วย  ว่า ทำถูกแล้วหรือ  ?? หรือเพียงแค่แก้ต่าง ให้ดูว่าถูกเท่านั้น  เรียกอีกอย่าง ว่า  แถ  ค่ะ   การแสดงความเห็น เราไม่เห็นหน้ากัน  อย่างน้อย ความเห็นต่าง จะช่วยเปิดมุมมองกันและกันมากขึ้น  ลดอคติลง และเปิดใจให้มากขึ้น ก็จะเข้าใจมากขึ้นค่ะ จากคุณ : เส้นไหมสีรุ้ง เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 17:36:46

ความคิดเห็นที่ 29 เห็นด้วยกับคุณ Alone with out lonely  มากกว่า จขกท ค่ะ จากคุณ : ขี้เหงา...เอาแต่ใจ เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 17:42:27

ความคิดเห็นที่ 30 ความคิดเห็นที่ 27 ทุกบรรทัด มันก็ส่อแวว อยู่แล้ว ว่าคุณเปนประเภทไหน  ไม่น่าถาม!!!!! บรรทัดไหนหรือคะ แล้วมันส่อแววอย่างไร คุณรู้ไหมคะว่าคุณพ่นอะไรออกมาบ้างในกระทู้นี้ ใครเข้ามาอ่านกระทุ้คุณข้างบนในความเห็นคุณแรกๆก็คงจะเห็นใจคุณนะคะ แต่ถ้าได้อ่านความเห็นต่อมาของคุณทั้งหมด ก็คงจะพิจารณาได้เองว่ามันน่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง สิ่งที่คุณแสดงออกมาในกระทุ้มันบอกตัวตนของคุณได้ดีว่าเป็นอย่างไร ถ้าคิดว่าวิจารณ์ได้ลองกลับไปดูพฤติกรรมของตัวเองดูบ้างว่าเป็นอย่างไร มารยาทเป็นอย่างไร ที่คุณด่าๆมาทั้งหมด ไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ มันกลับไปอยู่กับตัวคุณนั่นแหละค่ะ เตือนไว้ตั้งแต่ข้างบนแล้วว่าจะแสดงความเห็นอะไรให้คิดไตร่ตรองซะก่อน นอกจากคิดว่าเขาถ่อย ต้องไม่ถ่อยเหมือนเขาแล้ว ที่บ้านดิฉันยังสอนอีกว่าอย่าใส่ใจกับคำพูดที่ไม่ควรใส่ใจ หรือคำพูดจากคนที่ไม่ควรใส่ใจ เพราะงาช้างไม่เคยงอกจากปากสุนัขฉันใด .........ที่เหลือไปหาดูเอาเองนะคะ แก้ไขเมื่อ 30 ม.ค. 53 18:31:09 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 18:28:55

ความคิดเห็นที่ 31 ให้กำลังใจ จขกท นะคะ คุณได้ต่อสู้ในสิทธิของคุณแล้ว จากคุณ : pohja เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 21:13:46

ความคิดเห็นที่ 33   คห30 ทุกบรรทัด มันก็ส่อแวว อยู่แล้ว ว่าคุณเปนประเภทไหน  ไม่น่าถาม!!!!! ให้ใครมาอ่านก็น่าจะทราบว่าเปนเช่นไร อ้อ ไม่ได้ด่าใครนะค้า อย่าเข้าใจแบบนั้น ร้อนตัว ร้อนใจจนไข้ขึ้นค่ะ ส่วนวันนี้ดีใจลูกค้าเยอะมาก เงินเข้าเยอะดี โอนมาแต่วันเชียวละ สบายใจที่สุดเลยค่ะ เพิ่งพาคุณแม่ไปทานข้าวข้างนอกมา อิ่มด้วย สนุกด้วย 5555555 ขอบคุณท่านอื่นๆนะค่ะ ที่เข้ามาแชร์ความเห็น ยกเว้นบางคห ที่ต่อต้านค่ะ ไล่ก็ไม่ไป หน้าทนจริง รึสีทนได้ ห๊า 55555555 กร๊ากกกกกก.... จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 21:56:49

ความคิดเห็นที่ 34 คห.32 แรงไปมั้ย ชักจะดราม่าแล้วสิกระทู้นี้ จากคุณ : kabkaem เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 22:16:47

ความคิดเห็นที่ 35   #29 ตามนั้นค่ะ..... จากคุณ : สายน้ำแห่งความหวัง (nAHMLeMoN) เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 22:22:24

ความคิดเห็นที่ 36 ตอนแรกก็เห็นใจ จขกท แต่พออ่านลงมาแล้ว เลยต้องคิดใหม่ แอบสารภาพว่า อดคิดไม่ได้ว่าบัตรผ่านนั้นมาจากไหน ... เพราะปกติ ถ้าเป็นบัตรผ่านทั่วไปก็ไม่ได้หยาบคายมากมายขนาดนี้ แทบจะไม่เคยเห็นบัตรผ่านหยาบคายเลย อดคิดไม่ได้ว่าคนในแถวนี้ไปสมัครบัตรผ่านมารึเปล่า แต่ตอนนี้ อยากคอมเมนท์จริงๆ เรื่องเดียวคือ ได้โปรดพิมพ์ภาษาไทยให้ถูกได้ไหมคะ? อย่างน้อยก็ทำให้แลดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมานิดนึง ส่วนเรื่องพยาบาลปากร้ายแบบนี้ เราเจอเป็นประจำเลยค่ะ ไม่ใช่แค่พยาบาล แต่ตอนที่พาพ่อไปรักษาแล้วแม่เรามาฟังอาจารย์หมอบอกวิธีการรักษาของพ่อคร่าวๆ ไม่ทัน ก็โดนอาจารย์หมอบอกกลับประมาณนี้แหละค่ะ แม่เราหน้าเสียไปเลย แต่เราก็...อืม...รอจังหวะดีๆ ค่อยไปถามอีกรอบ งานท่านคงจะยุ่ ส่วนพยาบาล ก็สวดมนต์ให้อภัยกันไป ... หลังๆ ก็ไม่ไปยุ่งกับคนที่รู้ว่าแรงอีก ก็ไม่เป็นไรค่ะ เราถือคติว่า คนเราทุกคนไม่เหมือนกัน และทุกอย่างหยุดที่ตัวเอง แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 00:05:01 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 00:01:13 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 00:00:06 จากคุณ : พิณณ์อวี เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 23:53:18

ความคิดเห็นที่ 37 กรุณาอย่าลบคหที่ 32 นะคะ คงไว้อย่างนี้แหละค่ะ IP มันฟ้องตามได้ว่าใคร ห้องกล้องยังโดนหมายเรียกกันหลายคนแค่โพสกระทู้นี่แหละค่ะ แต่สำหรับดิฉันไม่น่าสนใจค่ะ บอกแล้วไงว่า งาช้างไม่เคยงอกจากปากสุนัข ปล่อยไว้ให้ประจานตัวเองแบบนี้แหละค่ะ ถึงจะไม่มีใครรู้ว่าใคร ตัวเองก้รู้อยู่แก่ใจเอง สำหรับเจ้าของกระทู้ ขออนุโมทนาในความสุขด้วยนะคะ เพราะว่าคุณจะสุขจริงไม่ คุณเท่านั้นแหละที่รู้อยู่แก่ใจ กระทู้นี้มันจบที่นี่ แต่คนที่เกี่ยวข้องมันไม่จบแค่กระทู้หรอกค่ะ ถ้าพยาบาลปากไม่ดีแล้วยังไม่สำนึก อีกไม่นานเขาก็จะเจอผลจากการกระทำของเขา แต่ถ้าเจ้าของกระทู้ขาดสามัญสำนึก อีกไม่นานถ้าเจอคนศีลเสมอกันเด๊๋ยวก็ได้บทเรียนในไม่ช้า คนเราทำอะไรได้อย่างนั้น มันแอบไม่ได้ แปลงกายไม่ได้ หรือปิดหน้าปิดตามาไม่ได้หรอกค่ะ ตัวตนใครเป็นอย่างไรก็ดูได้จากคำพูดการกระทำ วิสัยทัศน์ที่แสดงออกมา สมาชิกที่เข้ามาอ่านเขามีวิจารณญาณตัดสินกันได้ค่ะ ต่อให้สร้างภาพว่าเป็นอย่างไร สุดท้ายก็มันก็แผดเผาใจตัวเองเท่านั้นเอง มันทำร้ายคนอื่นไม่ได้หรอกค่ะ บางทีกรณีที่เกิดขึ้นนี้มันอาจเป็นประสบการณ์ที่ดีกับการบริหารจัดการขององค์กรก็ได้ค่ะ ต่อไปอาจมีกฏใหม่ว่า ผู้ป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หรือไม่สามารถรับรู้สื่อสารกับแพทย์ได้จะไม่ได้รับการตรวจจนกว่าจะมีญาติมาพร้อมคนไข้ แค่นี้มันก็หมดปัญหาที่จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนไข้คนอื่นๆแล้ว เมื่อต้องการใช้สิทธิ์ก็รอใช้สิทธิ์ซะรอบเดียว คนอื่นไม่ต้องเดือดร้อน ดิฉันว่าคำตอบดิฉันมันเป็นเหตุผลนะ และก็ไม่ได้แตกต่างจากความเห็นอื่นๆ แต่ทำไมการแสดงตอบกลับมันต่างกัน อาการแบบนี้ไม่ต้องแปลกใจไปนะคะ ดิฉันเจอมาบ่อยค่ะ ประเภทตั้งใจมาประจาน แต่พอโดนตีแสกหน้าเข้าไปแล้วไปต่อไม่เป็น กลไกทางจิตมันสั่งให้ป้องกันตัวเอง ก็จะออกมาแถแก้เก้อ เผอิญดิฉันเป็นคนตรง คำตอบมันก็เลยเหมือนตีแสกหน้า ก็จะเจออาการแบบนี้เสมอๆจนมันเป็นเรื่องปกติที่เดาได้ค่ะ ทำไมต้องพุ้งเป้าไปคนเดียวนั้นเพราะถ้าเล่นทุกคนที่ไม่เห็นด้วยหรือเกินกว่าหนึ่งคน มันจะกลายเป็นพวกพาลแล้วจะแถต่อไปจะดูหน้าเกลียดมากกว่านี้ แบบที่คนเวปบอร์ดนี้ตั้งชื่อให้ว่า เกรียน ค่ะ ความเห็นต่อมาๆถึงได้เป็นอย่างที่เห็น ช่วยลากอารมณ์ให้พรุ่งปรี๊ดจนขาดสติ ตัวตนมีแค่ไหนก็เลยหลุดออกมาหมด จนลืมเปลี่ยนล๊อกอินขนาดอุตสาห์ไม่เอาล๊อกอินมาโพสแล้ว หลักฐานชัดเจนยังแถไปได้ว่าให้ลูกน้องช่วยโพส นับถือความสามารถในการแถจริงๆ กลับไปอ่านคห ตัวเองที่หลังจะมีความละอายบ้างไหมหนอ เจออีกก็จะทำแบบนี้แหละ อย่างน้อยๆต่อไปใครคิดจะประจานใครจะได้ทบทวนตัวเองซะก่อน ก่อนที่จะโดนตีแสกหน้าจนไปต่อไม่เป็น คนแสดงเขายังแถได้ไม่อาย ก็ช่วยดูเขาแถหน่อยแล้วกัน อย่าน้อยๆ เจ้าของกระทู้ก็ได้สร้างความสนุกให้ดิฉันวันนี้ และให้ตัวอย่างประเภทของคนให้ได้รู้ว่า คนนี่มีหลายประเภทแบบที่นึกไม่ถีงจริงๆ แก้ไขพิมพ์ผิด ตก หล่น และเพิ่มเติมข้อความ เพราะไม่ต้องการเพิ่มความเห็นโดยไม่จำเป็น แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 00:40:57 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 00:37:33 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 00:32:03

ความคิดเห็นที่ 38 คนที่ไปใช้บริการที่รพ. ทุกคน ก็อยากได้รับบริการที่ดี เห็นใจอยู่....   คนที่ให้บริการตรงนั้น งานหนัก ก็เข้าใจอยู่.....  ถ้าคนแต่ละคน ยอมถอย กันคนละก้าว.....เรื่องคงไม่เกิด  ถ้าพยาบาล คนนั้น ทำแบบที่ จขกท. กล่าวมา ก็เป็นการกระทำ ที่ผิดเต็มประตู เพราะว่า คนไข้มาก ไม่ได้จำเป็น ต้อง ตะคอก หรือ ทำกิริยาแบบนั้น  ตามกระบวนการ ของ รพ. คุณมีสิทธิที่จะร้องเรียนค่ะ.... การเอาเรื่อง มาบ่นในที่นี้ ไม่ได้เกิดประโยชน์ที่จะทำให้ พยาบาล คนนั้น แก้ไข....   นอกจาก มีเรื่องให้แก้ตัวกันไป            แนะนำให้ร้องเรียนค่ะ......เพื่อการแก้ไข ไม่ใช่การเอาเรื่อง และคิดว่า ทาง รพ.มีความพยายามที่จะแก้ไข การบริการอยู่แล้ว  เป็นการติเพื่อก่อไงคะ    ส่วนคนที่ทำไม่ดี โดยเฉพาะอยู่ระหว่าง การปฏิบัติหน้าที่  ก็ต้องได้รับโทษ  ตักเตือนกันไป  แต่จะเปลี่ยนได้หรือเปล่า ก็ขึ้นกับกรรม ของเค้าค่ะ  เอามาคิด ก็เสีย อารมณ์เปล่าๆ......เค้าอาจจะเป็นแบบนั้น แค่วันนั้นที่อารมณ์ ไม่ดีก็ปล่อยเค้าเถอะค่ะ  หรือไม่ เค้าอาจจะเป็นแบบนั้น มาตลอดชีวิตของเค้า ก็ปล่อยอีกเหมือนกันค่ะ  เพราะ ตลอดชีวิต ของเค้า เราคงไปเปลี่ยน อะไรไม่ได้ค่ะ  ............แต่เรื่องนี้ ต้องได้รับการแก้ไขค่ะ   เพราะเป็นเรื่องคุณภาพการให้บริการ             ศิริราช เป็นองค์กรที่ใหญ่ คนทำงานเยอะมาก  เพราะฉะนั้น การคุมคนให้อยู่ในคุณภาพการบริการ เป็นเรื่องยากค่ะ.......  และหวังว่า เรื่องนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้ คนที่ทำงานในสายงานบริการสาธารณสุข  โดยเฉพาะ คนในศิริราช ให้ทุกคนช่วยกัน ทำให้รพ.ดีขึ้นเพื่อความสมศักดิ์ศรีของการเป็น โรงพยาบาลของแผ่นดินค่ะ จากคุณ : Vodka-tonic เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 00:40:08

ความคิดเห็นที่ 39 บางที คนไข้ก็กวนพยาบาลนะ เราเองเคยเป็นผู้ป่วยหนักที่นี่มาก่อน บอกตามตรงถึงพยาบาลไม่ยิ้ม แต่เราก็ดูว่า เค้าดูแลเราอย่างเต็มความสามารถ เท่าที่เวลาเค้าจะอำนวยให้ ยิ่งพยาบาลเก่าๆจะฉีดยาไม่เจ็บเลย เวลากินข้าว ก็ชอบมาดูว่ากินมากน้อยแค่ไหน บางทีก็ชอบ ให้ของที่คิดว่าชอบมากๆ เราคิดว่าถ้าเกิด พยาบาล เค้าบ้าจี้ให้คุณไปหาหมอจริงๆ ก้อยากรู้เหมือนกันว่า หมอจะเป็นคนตะคอกพยาบาลหรือเปล่า ถึงหมอไม่ทำต่อหน้า เค้าก็อาจจะไป ต่อว่าพยาบาลทีหลัง เราเองเห็นใจนะ ไปกดดันเค้า อย่างนั้น เค้าก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง พยาบาล เป็นทีมเวิร์กนึง ไว้ช่วยเหลือคนไข้  ก็ถือว่าเป็นบุคลากร ที่ สำคัญเที่ยบเท่าหมอ คนไข้ ทุกคนต้องพักฟื้นใช่มั้ยคะ คนที่ทำให้เรา ดีขึ้นก็คุณพยาบาลเป็นส่วนสำคัญ แล้วถ้าหมอไม่มีพยาบาลหมอเองก็ แย่เหมือนกัน แล้วถ้า คุณ ไม่มีพยาบาลคอยจัดคิวให้ คุณ คงไม่ต้องไปเข้าห้องน้ำหรอกค่ะ เพราะว่าต้องแย่งกันเข้าไปหาหมอ บางทีที่เราพิมพ์นี่เพราะว่าเราเห็นใจพยาบาล เรื่องพยาบาลดุๆ เราเองก็เคยโดน แต่เรา ก็คิดว่า เค้าทำงานหนัก ขณะที่เราป่วยเดี๋ยวเราหาย เราก็ไม่ต้องอยู่ในโรงพยาบาล โรงพยาบาลเป็นสถานที่ชวนให้สุขภาพจิตไม่ดีเอาซะเลยบอกตามตรง แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 01:25:05 จากคุณ : Ashina เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 01:22:40

ความคิดเห็นที่ 40   ดึกแล้ว ...อ้าว.... ยังมาตอบอีกเหรอเนี่ย ไล่ก็ไม่ไป  เอ้อ ฟังภาษาไทย ไม่แตกฉานอีก โปรดอย่าเข้ามานะค๊า พื้นที่นี้สงวนสิทธิ์และปลอด...ไม่นึกเหมือนกันว่าคห.32 จะมีคนมีอารมณ์เสียมากกว่าแทนดิฉัน   55555555  แหม่ ...ปรับคำพูดมาทันทีทันควัน ไม่เปนไรอยากรู้ว่าเปนใครตามไปเคลียร์กันเองละกันเน้อ หากคุณดูจะเจ็บใจดำนักละก้อ อยากเรียกไอพีของเขาก็ไม่ลองไปหลังไม ถามเขาหน่อยหรือคะ ว่าอนุญาตรึไม่       เผื่อเปนมารยาททางสังคมที่ควรกระทำ  ดิฉันให้สิทธิ์คุณไม่ได้ค่ะ คงต้องถามเขาเอง  อืม....แปลกน๊ะ คุณจ้องแต่มาตอบกระทู้ที่ดิฉันพิมพ์จัง  มีมนต์ขลังหรือไร  แต่ต้องกล้าทำอย่างที่เสนอบอกมานะค๊า.   ----คำว่า สำหรับเจ้าของกระทู้ ขออนุโมทนาในความสุขด้วยนะคะ   (ถามจริงจากใจจริงหรือเปล่า ไม่ให้ดีกว่าค่ะ กลัวๆจัง)   เห็นคำนึงก็ว่า แถ  ลงท้ายก็ แถ โทษทีนะคะ ที่ทำให้ต้องเสียเวลาลอบอ่านกระทู้ดิฉัน  ที่ใจคุณคอยตอบรังควานดิฉันอีก       แม้จะบอกไล่แล้ว ก็ยังพย๊ามพยายามจะเอาเรื่องว่าดิฉันให้ได้  บอกดีๆนะคะ  ไปทำงานทำการบ้างจะได้ไม่ว่างมาตอบกระทู้ว่าใครเขา   อ้างตัวว่า ที่บ้านสอนมาว่าถ้าคิดว่าเขาถ่อย ก็อย่าถ่อยเหมือนเขา แบบคห14 ที่คุณอ้าง ดังนั้น คุณ ก็ยังตามมาว่า ตอบตาม  คห เปนสิบๆ ไม่มีใครตอบกระทู้แบบคุณทำหรอก นอกจากว่างงานจริงๆ  บอกจริงๆ รำคาญอาค่ะ   ไปที่ชอบที่ชอบเถิด... ถัดก็มาเจอ คำว่าแถ อีก คล้ายคลึงกับคห อื่นๆ ยังกะคนๆเดียวกัน  อายุคุณ ก็ปาเข้าไป40กว่าแล้ว    ทำประโยชน์บ้างค่ะ  ขอแนะนำอีกครั้ง  ดิฉันไม่ได้ตามให้คุณมาตอบ   ไล่ก็ยังไม่ไป เฮ้อ.. แล้วอีกอย่างไม่มีใครแสดงในนี้ มีแต่ความเห็นล้วนๆ ที่เล่ามาทั้งหมด  เผอิญ ไม่เข้าใจศัพท์และ ความหมายอย่างที่บอกเหรอ   ไล่น่ะค่ะ ชิ่วๆ ไปเถอะ   ชัดแล้วนะเนี่ย  มายก้อด 555555555 ดีเดย์ เช้าวันนี้ต้องพาแม่ไปกายภาพอีก  และทำธุระอื่นๆ ที่ไม่ว่าง  ขอสิทธิ์ทำหน้าที่พาแม่ไปก่อนนะคะ    ถ้ากลับมาเมื่อไหร่ว่าง (ย้ำว่าว๊างว่างๆๆๆๆๆๆๆว่างงาน) จะเข้ามาอ่าน  หวังว่าคงไม่มีคนที่โดนไล่ แล้วยังเข้ามาตอบอีกน่ะคะ อุ๊บส์!!!!!!! รับเฉพาะท่านอื่นๆค่ะ ที่เข้ามาตอบ  ... และขอบคุณล่วงหน้าค่ะ. จากคุณ : rodtang7411 เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 02:22:10

ความคิดเห็นที่ 41 ไล่ๆกระทู้ลงมาเรื่อยๆ เจอคนทะเลาะกันอีกเเละ - -'' >>>>>>>> ถ้าจะแสดงความเห็นในเวปบอร์ดสาธารณะก็ควรจะรู้มารยาท ด้วย นั่นคือการยอมรับที่จะมีความเห้นต่าง ว่ากันด้วยข้อเท็จจริง ด้วยเหตุและด้วยผล   ความเห็นนี้ของคุณ Alone with out lonely ผมเห็นด้วยนะครับ หลักๆ คือ คุณ จขกท.ต้องการจะตำหนิ พยาบาลท่านนั้นที่ไม่สุภาพ เท่านั้นเอง ผมเข้าใจอารมณ์คนทำงาน เหนื่อย มันอาจจะมีหลุด มีพลั้งกันบ้าง ทำผิดพลาดไป โดนตำหนิ เป็นเรื่องที่สมควร เเละต้องยอมรับให้ได้ครับ จขกท. ออกมาตำหนิในข้อนี้ เเละผมก็ว่าเห็นสมควรครับ เเต่การจะมานั่งเถียงกันว่า จขกท.ทำถูกหรือเปล่าที่ไปขอเเบบนั้น หรือว่าไปตอบโต้เเบบ ถ่อยเจอถ่อย เเบบนั้นเเบบนี้ สุดท้ายชักจะบานปลาย ผมว่าไม่สมควรจะเถียงกันอย่างยิ่งครับ  เพราะว่ามันไม่เกิดอะไรขึ้นมาเลย ไม่ได้ช่วยให้ิอะไรมันดีขึ้นมา หวังว่าคุณพยาบาลคนนั้นจะได้ปรับ ทัศนคติในการทำงานไปบ้างหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ เเละหวังว่าสมาชิกบอร์ดบางท่านจะได้ทัศนคตินั้นไปด้วยนะครับ   นั่นคือเมตตาเเละการให้อภัย นะครับ จากคุณ : พายุคลั่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 02:41:27

ความคิดเห็นที่ 42 อ่านไปอ่านมารู้สึกว่า จขกท. กับ พยาบาลคนนั้น ดูไม่ต่างกันเลยแฮะ ~_~ แนะนำนะครับว่าถ้าไม่อยากตั้งกระทู้แล้วมีคนมาขัดใจบอกไว้ล่วงหน้าด้วยครับว่า "ไม่เห็นด้วยไม่ต้องตอบ" จากคุณ : Iamgrey เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 03:08:20

ความคิดเห็นที่ 43 เจ้าของกระทู้กลับไปอ่านกฏ กติกา มารยาทในการตั้งและตอบกระทู้ของเวปบอร์ดนี้ก่อนดีไหมคะ ก่อนจะออกมาบอกว่าจะไล่ใคร อนุญาตให้ใครมาตอบกระทู้คุณ แล้ว IP น่ะไปต้องขอหรอกค่ะมันโชว์หราให้เห็นอยู่แล้ว ทั้งคนมีล๊อกอินไม่มีล๊อกอิน เห็นการแสดงความเห็นของคุณแล้วนึกถึงคำว่า บัวเต่าtuiจริงๆค่ะ แสดงออกมาเรื่อยๆนะคะ เพื่อนร่วมเวปบอร์ดจะได้รู้ตัวตนทั้งสองล๊อกอินของคุณได้ดีขึ้น คนหยาบคายเหมือนกันเท่านั้นถึงจะถูกใจเห็นด้วยกับการใช้ความหยาบคาย จะออกความเห็นอะไรไตร่ตรองดีๆก่อนนะ เดี่ยวตัวตนที่เก็บไว้มันจะเปิดเผยในที่สาธารณะซะหมด แก้ไขเพราะติดคำต้องห้าม แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 08:23:07 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 07:42:10 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 07:41:02 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 07:39:30 จากคุณ : Alone with out lonely เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 07:38:30

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ จขกท คะ รู้ตัวรึเปล่าว่า พาล มากมาย  ไม่ถูกใจ เพราะเค้าไม่ด่าพยาบาลคนนั้นเหรอ  เหอๆ รับฟังความคิดเห็นคนอื่นบ้างก็ดีนะ   ส่วน คห ที่ 32 บัตรผ่าน ขอบอกว่าหยาบมากกกกกกก จะมาด่าคุณ Alone with out lonelyเค้าทำไม โทษทีนะ ทำไมเราคิดว่าเป็นคนแถวๆนี้หละ พิมพ์ตกๆหล่นๆ เหมือนกันเลยอ่ะ ห่ะๆ ปล ไม่ต้องตอบกลับความเห็นเรานะ กลัวคนพาล จากคุณ : Piggy_Jiggy เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 09:23:44

ความคิดเห็นที่ 45 1 ในหลายๆสาเหตุที่ไม่ชอบไปโรงพยาบาลรัฐ เพราะคนเยอะ...และเสี่ยงต่อการเจอบุคลากรที่กำลังหงุดหงิดได้ที่ =w=;; โดยส่วนตัวไม่เคยไปศิริราชนะคะ นานๆทีมีพาปู่กับย่าไปจุฬาฯบ้าง แต่เคยเจอพยาบาลน็อตหลุดทีเดียวเอง จากหลายๆครั้งที่ไป... เราว่าพยาบาลเ็ป็นอาชีพที่ต้องอดทนมากนะ เหมือนงานบริการทั่วไปนั่นแหละ เค้าไม่ได้บริการเราคนเดียว แต่เค้าก็ไม่ควรหยาบคายกับเรา แต่เราก็ต้องคิดด้วยว่า เค้าเหนื่อยกับการพยายามทำให้คนจำนวนมาพอใจนะคะ จากคุณ : fern-eva เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:06:14

ความคิดเห็นที่ 46 จำชื่อนามสกุลแล้วไปร้องเรียนกับทางโรงพยาบาลเถอะค่ะ เห็นด้วยว่านางพยาบาลทำไม่ถูกที่ขึ้นเสียงใส่จขกท. ซึ่งเป็นประเด็นหลักของกระทู้นี้ ก็ไม่ขอออกความเห็นเรื่องอื่นแล้วกันนะคะ คนเรามีหน้าที่บริการก็ควรทำอย่างเต็มความสามารถ ยิ่งเป็นงานที่ได้ค่าจ้างหรือเขาจ้างมาทำยิ่งแล้วใหญ่ ควรร้องเรียนเพื่อเป็นตัวอย่างแก่คนอื่นๆค่ะ จากคุณ : bluemoonwolf เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:13:21

ความคิดเห็นที่ 47 ในความคิดผมฝ่ายสีเขียวเป็นต่อนะครับ ฝ่ายน้ำเงินพอเถอะครับ ยิ่งอ่านไปความน่าเชื่อถือของเรื่องเล่าของคุณยิ่งน้อยลง ผมชักสงสารพยาบาลแล้วสิ ถ้าไม่อยากให้มีคนตอบเชิญแจ้งลบครับ ก่อนแจ้งลบเซฟกระทู้ไว้ แล้วเดือนหน้ามาอ่านใหม่นะครับ จะได้รู้ว่า อะไรเป็นยังไง จากคุณ : ผมไม่ได้เป็ด เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:16:05

ความคิดเห็นที่ 48 ที่ว่าขอไปพบหมออีกครั้งเนี่ย จะขอแบบลิดคิวรึป่าวถ้าเป็นแบบลัดคิวก็สมควรที่พยาบาลจะไม่พอใจแล้วละ เพราะเหมือนคุณไปแซงคิวชาวบ้านเขา พิทักษ์สิทธิ์ตนเองแต่ไม่ควรไปริดรอนสิทธิคนอื่นนะ แต่ถ้าไปต่อคิวใหม่อีกรอบก็ไม่เป็นไร ส่วนเรื่องพยาบาลตะคอกเสียงมันก็อีกประเด็นนึง ปล... คนไทยนิสัยเสียอย่างนึง ชอบนึกแต่สิทธิตัวเอง ไม่ค่อยคิดถึงคนอื่น จากคุณ : depend ayu เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:32:18

ความคิดเห็นที่ 49 ออกทะเลแล้วละพี่น้อง พอ พอ ใจเย็นๆ เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกันแน่ๆ เพราะฉะนั้นโปรดให้ความเคารพ ที่ๆคนส่วนใหญ่ต้องการใช้สำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดีกว่านะครับ ไม่ใช่แลกเปลี่ยนอารมณ์ ไม่ว่าใครฝ่ายใดจะยังไงก็ตาม โตโตกันแล้วนะ จากคุณ : สู้ (Hallgood) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:36:22

ความคิดเห็นที่ 50   วันวันนึง ศิริราชคนมารอตรวจอย่างเยอะอ่ะครับ ผมไปตรวจผู้ป่วยนอกต้องไปตั้งแต่ 7 โมง เริ่มตรวจ 8 โมง กว่าจะได้เรียกก็นู่น 9-10 โมง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพื่ออะไร ผมเป็นคุณผมคงโมโหเหมือนกันอ่ะ แต่คิดกลับกันลองคิดกลับกัน ถ้าผมเป็นพยาบาล วันนึงเจอคนงี่เง่าๆมาตรวจ เอาแค่ซัก 5 คนเป็นผม ผมลาออกดีกว่า อย่าลืมนะครับ ศิริราช คนมารับการตรวจ-รักษาโรค วันๆโคตรเยอะ ไมไ่ด้ตรวจแค่ใครคนเดียว แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 14:47:22 จากคุณ : pipopipi (pipopipi) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:45:47

ความคิดเห็นที่ 51 พยาบาลผิด เป็นคนก่อให้เกิดเรื่องทั้งหมด ส่วนอโลน อะไรที่เข้ามาตอบข้างบน ก็เถียงข้างๆคูๆ เหมือนคนไม่มีวุฒิภาวะดีพอ เจ้าของกระทู้ ผิด ที่ไม่น่าไปต่อล้อต่อเถียงมากมาย จากคุณ : เ ป้ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:49:44

ความคิดเห็นที่ 52   ถ่อย กับ ทราม บ้านป๋าคุณเมิงบอกว่า สุภาพ เหรอไงวะ. สมองเสียชิปหาย จากคุณ : SAY_iMba_PLZ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 14:50:02 A:124.121.232.148 X:

ความคิดเห็นที่ 53 ผมเห็นด้วยกับ จขกท.นะ ไม่ควรพูดจาไมดีกับผู้รับบริการ ถ้าไม่รักในอาชีพบริการ ก็ควรไปทำอย่างอื่น ถ้าเจอคนไข้แล้วปวดหัว ก็ย้ายไปอยู่แผนกอื่นที่ไม่ต้องดูแลคนไข้ซิ จะห้องผ่าตัด ห้องเก็บศพ หรือ ห้องน้ำก็แล้วแต่ เดี่ยวนี้คนที่เรียนพยาบาลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้อยากเป็นหรอ ถ้าเรียนเก่งคงไปเรียนแพทย์แล้ว ผมก็เคยเจอพวกพยาบาลที่นึกว่าตัวเองเจ๋ง ตอนแรกก็ชอบตะคอตาของผม แต่พอรู้ว่าแม่ผมก็เป็นพยาบาล แล้วหัวหน้าพยาบาลแผนกของแม่ผมมาเยี่ยม พูดด้วยน้ำเสียงฉอเลาะขึ้นเยอะ จากคุณ : บายนา เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 15:01:48

ความคิดเห็นที่ 54 จขกท. อ่ะนะ เขาร้อนมาก็ร้อนกลับ อยากจะบอกว่า ร.พ.นั้นมันคนเยอะมาก ถ้าทุกคนเป็นแบบคุณ ก็คงไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว แล้วไอ้ที่เถียงคนที่ไม่เห็นด้วยแบบนี้น่ะ ...อืม แน่ใจนะว่าโตแล้ว คุณก็คนเขาก็คน คุณเมื่อย คุณเหนื่อย คุณหิว คุณปวดปัสสาวะ เป็นคนเดียวหรือไง จากคุณ : ทิวาตรี (ทิวาตรี) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 15:02:47

ความคิดเห็นที่ 55 ยาวๆ กันอีกแล้วไม่รู้ไปกินรังแตนอาไรกันมานะชาว pantip เอะ.! นี้มันกระทู้สงครามเหรอไง --> พยาบาล "ผิด" หรือเปล่าวไม่รู้แต่ผมเรียกว่า "ทำไม่ถูก ไม่ควรทำ" พูดกันดีๆก็ได้จ้าาาา อย่าตะคอกคนไข้เลยนะจ๊ะ --> จขทก. มาประจานก็ ตามสบายเราก็อ่านกันไป แต่คุณใช้คำที่รุนแีรงในการตอบ มันเลยทำให้ดึงคนรู้สึกหมั้นไส้คุณไปด้วย ผมว่าน่าตอบแบบแอ๊บแบ๊วเป็นนางเอกโดนกลั้นแกล้ง คุณก็จะได้การอวยจากชาว Pantip --> ความเห็นที่ 6 ก็พูดถูกเรื่องที่ว่า "คุณได้ใช้สิทธิตรวจไปแล้วถ้าจะขอพบเป็นการส่วนตัวกับหมอใหม่ให้ขอคิวใหม่" ผมว่าอาตจะได้คิวรัดก็ได้แค่คุยหน่อยเดียว คงอาจไม่ต้องรอต่อจากหางแถว --> คุณต้องยอมรับว่า คนในที่นี้หรืออาจจะทีอื่นๆ เห็นด้วยกับการที่คุณควรจะไปต่อคิวใหม่ เพราะมันอาจเป็นมารยาท เหมือนคุณต่อแถวซื้อน้ำ คุณเกิดปวดท้องเข้าห้องน้ำออกไป กลับมาก็ต้องต่อใหม่    อ้างไม่ได้หลอกครับว่า ต้องยังงี้ยังงั้น เลยไม่ได้อยู่เพราะจำเป็นแต่จะขอเข้าพบใหม่ตอนนี้ ไม่ได้หลอกครับ ต้องทำเรื่องขอพบใหม่คุณต้องยอมรับในตรงนี้นะครับ(ผมว่ามันเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ก็เข้าใจ)ว่าอาจต้องต่อใหม่ เข้าใจ๋นะครับ สรุป  --> พยาบาลทำไม่ถูก       --> คุณต้องทำเรื่องใหม่นะครับ ปล.มาจากดราม่าครับมีไรไปเครียร์กับ แอดมิน จากคุณ : babycat_smooth เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 15:46:28

ความคิดเห็นที่ 56   อิพยาบาลนั่นติ่งหูว่ะ แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 15:48:18 จากคุณ : Dark_Grayfox (Dark_Grayfox) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 15:47:46

ความคิดเห็นที่ 57   เข้ามาเสพdramaด้วยคน จากคุณ : ขาแมลงสาบ (ขาแมลงสาบ) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 16:01:49

ความคิดเห็นที่ 58 ผมว่า พยาบาลผิด ที่ไปตะคอกใส่ก่อน จขกท ก่ผิด ที่ตอบโต้รุนแรงไปหน่อย ผมว่าญาติผู้ป่วยมีสิทธิ ที่จะถามอาการได้อีกครั้งและไม่จำเปนต้องรอคิวใหม่ ซึ่งอาจจะรอแค่ ให้หมอตรวจคนไข้เส็ดก่อนแล้วค่อยเข้าไปถาม ซึ่งใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 3-5 นาที เวลาผ่านแปบเดียว หมอยังไม่น่าจะลืมว่าตรวจอะไรไป จนต้องเอาแฟ้มมาดูใหม่ ถ้าขี้ลืมขนาดนี้ ก่ไม่น่าเป็นหมอได้มั้ง ถ้าให้ไปเข้าคิวใหม่ หมอก่ลืมหมดสิ ว่าตรวจอะไรไป ก่เริ่มตรวจใหม่ จากคุณ : ลูกหมอ (bornza) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 16:33:08

ความคิดเห็นที่ 59   เห็นด้วยกับเจ้่าของกระทู้ค่ะ พยาบาลไม่ควรพูดจาไม่สุภาพ หรือปฏิบัติกิริยาไม่สุภาพต่อผู้รับบริการ แต่สำหรับผู้รับบริการเอง ก็ควรมีมารยาทเช่นกัน กับทั้งพยาบาล คุณหมอ หรือแม้แต่ผู้รับบริการด้วยกันเอง ก็ไม่แน่ใจว่ากระทู้นี้ตั้งด้วยจุดประสงค์ใด อาจจะอยากประจาน เรียกร้องสิทธิ ระบายอารมณ์ หรือเหตุผลใด ๆ ก็ตามไม่อาจทราบได้ การที่จะขอพบหมออีกครั้งด้วยเหตุผลที่ว่า"ไปเข้าห้องน้ำ" หนูว่านั่นนับเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตามเราควรนึกถึงคนอื่น เวลาหนูไปเข้าค่ายไกล ๆ เดินทางเจ็ดแปดชั่วโมง รถทัวร์ที่หนูนั่งมักจะไม่ให้เข้าห้องน้ำเพราะคนที่ไปต่อคันเยอะพอสมควร ต้องนั่งข้างล่่าง เวลาหนูจะเข้าห้องน้ำกันก็จำเป็นที่จะต้องเข้าก่อนเตรียมตัวขึ้นรถ และเข้าตอนที่คนขับจอดพักรถ และจำเป็นต้องรีบเข้าด้วยเช่นกัน และไม่สมควรอย่างยิ่งถ้าเกิดมาปวดกลางทาง เพราะหากต้องให้คณะเดินทางทั้งคณะมารอหนู ไม่ดีเท่าไหร่... เวลาพยาบาลทำงานแค่ตลอดช่วงที่เข้าเวร หนูว่าก็เหนื่อยจะแย่ ใครทำงานทั้งวันก็เหนื่อยกันทั้งนั้น ถ้ามีอะไรไปกระตุ้นเข้าก็จะหงุดหงิิดเอาได้ง่ายๆ หนูเชื่อว่าพยาบาลคนนั้นคงไม่ได้ทำงานแค่สามสี่ชั่วโมงแน่ ๆ ล่ะ ถ้าจะบอกว่าคนอื่นที่นั่งรออยู่ก็มีสิทธิ์ที่จะขอพบหมออีกครั้งเหมือนเจ้าของกระทู้ หนูว่าคงไม่มีใครอยากใช้สิทธินี้สักเท่าไหร่หรอกค่ะ มันดูเสียมารยาทเอามาก ๆ กับการที่ปล่อยให้แม่ที่หูไม่ีดีเข้าไปหาหมอคนเดียว ละเลยหรือเปล่านะ??? หรือเหตุสุดวิสัย????? ถ้าเป็นหนูหนูคงไปต่อคิวอีกรอบนะคะ หนูไม่ได้กะเข้ามาสั่งสอนหรืออะไร แค่อยากแสดงความเห็น หนูอายุน้อยกว่าเจ้าของกระทู้แน่นอน ไม่ได้มีเจตนา่จะก้าวร้าว แต่หนูอยากให้เจ้าของกระทู้มองคนอื่นบ้าง และที่หนูไม่ได้ล็อกอินเพราะหนูไม่ได้เป็นสมาชิก จากคุณ : เด็กหญิงอายุสิบห้า เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 17:21:45 A:113.53.208.55 X:

ความคิดเห็นที่ 60 อยากเป็นพระเจ้าได้รับการปรนนิบัติ ไปเอกชน "อย่างน้อยคุณควรรู้จักอดกลั้นสักหน่อย ในความมีเมตตาอารี นอกเหนือจากที่หน้าที่ที่คุณทำอยู่"  อันนี้พิมพ์บอกตัวเอง? จากคุณ : อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกนะ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 17:23:50

ความคิดเห็นที่ 61 อ๋อ ถ้าพื้นฐานพยาบาลคนนั้นเป็นคนพุดเสียงแข็งๆอยู่แล้ว เท่าที่อ่านดู คุณล่ะเริ่มก่อน 555 แล้วอ่านที่จขกทพิมพ์ ตรงไหนที่่าพยาบาลพูดไม่สุภาพ? เห็นแต่มีเจ้าขอกระทู้ใช้คำ ขี้บ้าง เยี่ยวบ้าง สุภาพสุดๆ สุภาพผู้ดีขี้ครอกเลยทีเดียว เพิ่มอีกรอบ "พยาบาล*-*อ่อ ใช่ เอาแฟ้มนี้ไปหาหมอเลย หมอนัด1เดือน" พยาบลศิริราชไม่มีคนไหนพูดประโยคนี้หรอก จะเอาแฟ้มไปหาหมอเลยเพื่อ? ไหนว่าตรวจเสร็จแล้ว ... เมาอย่างนี้จะเชื่อคำพูดได้แค่ไหนกัน แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 17:31:11 แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 17:26:13 จากคุณ : อย่าให้ต้องพูดซ้ำอีกนะ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 17:24:52

ความคิดเห็นที่ 62 เท่าที่อ่านเราว่า จขกท.ทำไม่ถูกค่ะ จากคุณ : -->+:+โชยุ&วาซาบิจัง+:+<-- เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 17:44:46

ความคิดเห็นที่ 63 จขกท ไปตรวจ โรงบาลเอกชนดีกว่ามั้ยครับ ถามหมอสิว่าเค้าทำเอกชนวันไหน ที่ไหน อะ จะได้ไม่ต้องเกิดเเบบนี้อีก ได้เจอหมอคนเดิมด้วย การบริการก้อดีกว่า พยาบาลก้อค่อนข้างเอาใจคุนมากกว่า เพราะจะเอาไรมากกะโรงบาลรัฐอะครับคนไข้เยอะนะครับ สงสารคนที่เค้ารอบ้างเหอะ อย่าเอาเเต่ได้ครับ ถ้าอยากเจออีกก้อต่อคิวครับไม่ควรเเซงคนอื่นที่เค้าก็รอมานานคุณนะครับ จากคุณ : อาท (Arkkara) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 18:13:05

ความคิดเห็นที่ 64 ผมว่าพยาบาลผิด ที่ไปตะคอกใส่ ส่วนคนไข้ไม่ผิด ตอบโต้ได้สมน้ำสมเนื้อ ถ้าพูดดีดีกัน ก็ไม่ต้องแสดงอภินิหารกันหรอก จากคุณ : perspeceviT เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 18:26:07

ความคิดเห็นที่ 65 คิดแบบง่ายๆนะ คนธรรมดาไม่รับรู้หรอกครับ ว่าพวกคุณเหนื่อยยังไง ระบบยังไง หน้าที่พยาบาลตอนนั้นน่ะ แค่เบี่ยง บอกว่าขอไปค้นบันทึก ว่าหมอว่าตรวจ ผลเป็นยังไง มีข้อระวังตรงไหน ก็จบ มันต้องมีบันทึกหนิ ใช่มั้ย  ถ้าไม่ได้อยู่ตรงนั้น ก็บอกซิบอก ว่ามันไปอยู่ตรงไหน ขอดูไง นี่ไปซัดเค้าก่อน มันก็ซัดกันไปซัดกันมา เหมือนจขกท. ซัด คห.6 นี่แหละ 555 จากคุณ : perspeceviT เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 18:51:45

ความคิดเห็นที่ 66 คนไข้ถูกเสมอ ??? หึหึ... ตามมาจาก ดราม่า อีกคนครับ หึหึ จากคุณ : Nanoดะ เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 18:57:59

ความคิดเห็นที่ 67 เหมือนฟังความข้างเดียวอยู่นะ พยาบาลก็ไม่ได้ออกมาแก้ต่างด้วย เราฟังเรื่องราวจากที่ จขกท เล่ามาข้างเดียว หลายคนในที่นี้ก็เชื่อว่า พยาบาลตะคอกใส่คนไข้จริงๆ ที่นี้เราลองนึกย้อนกลับไปที่เหตุการณ์ ลองสมมติว่าเราเป็นพยาบาลดู ก่อนที่จะเข้าพบหมอ พยาบาลต้องเรียกชื่อคนไข้ ผมไม่รู้หรอกนะครับว่าแม่ จขกท นั่งรถเข็นหรือไม่ แต่ จขกท บอกว่าแม่หูไม่ค่อยดี ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงเกิดได้สองกรณี - กรณีแรกคือ แม่ จขกท ได้ยินพยาบาลเรียกชื่อ แล้วเข้าไปพบหมอ ถ้าเป็นกรณีนี้ การที่ จขกท บอกว่าแม่หูไม่ค่อยดี พยาบาลอาจคิดได้ว่าเมื่อกี้เรียกชื่อคนไข้ก็ยังได้ยิน จึงไม่มีความจำเป็นให้ จขกท เข้าไปพบหมออีกครั้ง เพราะจะทำให้คนไข้คนอื่นต้องเสียเวลาเพิ่มขึ้น -กรณีที่สองคือ แม่ จขกท ไม่ได้ยินพยาบาลเรียกชื่อ พยาบาลจึงต้องเรียกหลายครั้ง และต้องเดินหาในที่สุด แล้วพอ จขกท ซึ่งไม่ได้อยู่กับแม่ที่หูไม่ดี มาพูดเซ้าซี้ขอเข้าพบหมอหลายครั้งจึงถูกพยาบาลต่อว่าไป ในมุมมองของผม ผมคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นกรณีแรก เพราะถ้าแม่ จขกท ไม่ได้ยินจริงๆ ผมว่าพยาบาลจะเรียกชื่ออื่นแทน ไม่เสียเวลาไปเดินหาคนไข้ แล้วค่อยเรียกใหม่อีกครั้ง จากคุณ : Fumine เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 19:32:17

ความคิดเห็นที่ 68 เมื่อวานเพิ่งแสดงความคิดเห็นไป วันนี้มี drama ซะแล้ว จากคุณ : Nonfire เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 19:52:59

ความคิดเห็นที่ 69 สำหรับการแก้ไขปัญหาของหมอ ผมมองว่าเป็นการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเพื่อให้คุณใจเย็นลง สำหรับสายตาคนอื่นที่มองมาเหตุการณ์ ถ้าผมนั่งอยู่ในเหตุการณ์ ผมคงคิดว่า จขกท ทำเกินกว่าเหตุก็เป็นได้ อาจไม่ได้มองว่าพยาบาลผิด จขกท พูดถึงเรื่องรวย จน ผมบอกตามตรง ไม่ว่าจะรวย จะจน จะมีฐานะหรือไม่มีฐานะ ก็ได้รับการรักษาเหมือนกัน คนทุกคนเท่าเทียมกัน เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย จะยกมาพูดถึงทำไม รพ.ศิริราชไม่ได้เป็นโรงพยาบาลสำหรับคนรวยนะครับ แต่เป็นโรงพยาบาลสำหรับทุกคน สำหรับเรื่องที่ จขกท บอกว่าพยาบาลตัดสิทธิการพบหมอ ในความเป็นจริง แม่ จขกท ก็ได้พบหมอแล้ว เรื่องการกินยา เภสัชกรก็สามารถอธิบายให้คุณได้เหมือนกัน สุดท้ายนี้ สิ่งหนึ่งที่ทุกคนควรจะคิดเอาไว้เสมอ คือ การเอาใจเข้ามาใส่ใจเรา การรักษาสิทธิของเราเป็นเรื่องถูกต้อง แต่เราต้องดูด้วยว่ามันไปกระทบต่อสิทธิของผู้อื่นหรือไม่ ไม่เฉพาะสิทธิของพยาบาล แต่ยังรวมไปถึงสิทธิของผู้ป่วยคนอื่นด้วย แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 20:11:35 จากคุณ : Fumine เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 20:11:01

ความคิดเห็นที่ 70 เฮ้อ..อ่านแล้วก็เศร้าใจ พยาบาลมีหลากหลายแบบ บางคนก็มีขันติและมีเมตตา บางคนก็อัตตาสูง ลุแก่อารมณ์เป็นที่ตั้ง เวลาคุณแม่ไปหาหมอบางทีก็ยิ้มแย้มกลับมาเล่าให้ฟัง บางทีกลับมาน้ำตาตกเพราะเคยโดนตวาดก็ถมไป แต่ท่านก็ให้อภัย สวดมนต์แผ่เมตตาให้กับเค้าไป จากคุณ : ซิ้มซิ่ง เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 21:15:19

ความคิดเห็นที่ 71 มีลูกน้องเราคนนึง ประสบอุบัติเหตุต้องไปโรงพยาบาลราชวิถีก่อนค่ะ บอกตรงๆค่ะว่า พยาบาลที่นั่นแย่มากๆเลย แค่ถามอาการนิดเดียว ถึงกับตะคอกใส่ ทำตาถลึงใส่อีก น่าเกลียดมากมายเลยค่ะ คนที่ไปกับเราด้วยก็เริ่มโมโหเหมือนกัน ก็เลยเปิดมือถืออัดเสียงไว้ พอพยาบาลมันตะคอกเสร็จ คนที่ไปด้วย ก็พูดในมือถือว่า พยาบาลคนนี้ชื่อ ...... แต่ไม่รู้ว่า ป่านนี้เอาไปให้ผู้อำนวยการฟังหรือยังนะ ตอนนี้ลูกน้องเราย้ายไปอีกโรงพยาบาลนึงแล้วแหละ ขอบอกว่า หมอพยาบาลที่นี่ หน้าตาสะอาดสะอ้าน กิริยามารยาทก็ดีนะ คือดูแล้วบ่งบอกว่า มาจากครอบครัวที่ดี น่ะค่ะ เราก็เลยบอกคนที่ไปด้วยว่า พยาบาลที่ราชวิถีเค้าคงนอนน้อยละมั้ง เลยแสดง กิริยามารยาททรามๆอย่างที่เห็น แต่เราคิดว่า จขกท.อย่าไปอะไรมากมายเลยค่ะ คิดซะว่า พยาบาลที่ศิริราช ถ้าได้รับการอบรมมารยาทดี คงไม่เป็นอย่างที่เห็นหรอกค่ะ อีกอย่างนะคะ พยาบาลดังกล่าว กินเงินภาษีประชาชนค่ะ จากคุณ : ลิเซิ่ล เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 21:36:11

ความคิดเห็นที่ 72 ไม่ต้องกดลบคห.32กันนะคะ ปล่อยไว้งั้นแหละ ให้มันประจานตัวเอง จากคุณ : Pon Pon Pata Pon! เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 22:26:46

ความคิดเห็นที่ 73   อ้าว...ลบซะแหล่ะ จากคุณ : สายน้ำแห่งความหวัง (nAHMLeMoN) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 22:50:24

ความคิดเห็นที่ 74 ตามความเห็นผม พยาบาลผิดครับ เพราะถ้าคุณแม่คุณเป็นงั้นจริง การที่พยาบาลไม่ให้คุณไปพบหมออีกรอบถือว่าผิดจรรยาบรรณครับ เพราะการละเลยทำให้การรักษาอาจไม่ได้ผลรวมทั้งแม่คุณอาจได้รับผลข้างเคียงจากยา  ส่วนการที่คุณไปเถียงพยาบาลตามความเห็นผมก็ถูกตรงที่คุณทำเพื่อแม่แต่ผิดในเรื่องของการรบกวนผู้ป่วยท่านอื่น ถ้าคุณอยากพบใหม่จริงคงต้องต่อคิวใหม่ครับ เพราะคุณไม่รู้จักวางแผนครับ แทนที่จะรู้จักเข้าห้องน้ำแต่เนิ่นๆ เพราะคิวก็พอคาดเดาได้บวกลบ 1/2 ชั่วโมง     แต่จะว่าไปการแนะนำเรื่องยาก็กินเวลาไม่นานครับหยวนๆได้ก็หยวนๆเถอะครับ  ส่วนความเห็น negative ที่ว่าเกิดหยวนๆกันหมดไม่รากงอกหรือ...การสมมติเช่นนี้มันไม่เกิดจริงครับ ถ้าคิดเช่นนั้นโรงพยาบาลต้องทุ่มงบมากกว่านี้ครับในการรองรับจำนวนผู้ป่วยแบบ worse case จากคุณ : poltanapol (poltanapol) เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 53 23:12:59

ความคิดเห็นที่ 75 เป็นกำลังใจให้ จขกท. ครับ ผมคนนึงที่ทำงานด้านการบริการ จะเหนื่อย จะอารมณ์เสียแค่ไหน ก็ต้องยิ้มไว้ครับ คุณไม่มีสิทธิ ที่จะไปด่า หรือโต้เถียงกับลูกค้า ในยามที่คุณอยู่ในเครื่องแบบ พึงสังวรเอาไว้นะครับ เพราะลูกค้าคือคนที่ให้เงินเรา ถ้าเราไม่มีเขาเราก็อยู่ไม่ได้ แต่จากที่อ่านมา ผมว่าพยาบาลคนนั้นควรจะต้องปรับปรุงเรื่องการบริการซะใหม่นะครับ ทำงานบริการ ทุกสาขาอาชีพ คุณต้องมีคำ่ว่า Service Mind ครับ ถ้าผมเป็นหัวหน้า แล้วมีลูกน้องแบบนี้ ผมก็คงไม่เก็บเอาไว้ให้เสื่อมเสียสถาบันหรอกครับ จากคุณ : karakuk (karakuk) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 00:10:01

ความคิดเห็นที่ 76 แหม คุณ จขกท. ก็แรงนะ...     "ขอเชิญท่านผู้อ่านที่เคยเจอแบบดิฉัน เข้ามาตอบหน่อยนะคะ คนที่ดิฉันไล่แล้ว เดวมากร่างจนกระทู้บานเลยอ่ะ  ช่วยด้วยคร่า!!!!!"     "ยกเว้นบางคห ที่ต่อต้านค่ะ ไล่ก็ไม่ไป หน้าทนจริง รึสีทนได้ ห๊า 55555555 กร๊ากกกกกก.... "     "ฟังภาษาไทย ไม่แตกฉานอีก โปรดอย่าเข้ามานะค๊า พื้นที่นี้สงวนสิทธิ์และปลอด..." เอิ่ม คุณ จขกท. คะ มีการไล่ผู้แสดงความคิดเห็นออกจากกระทู้ที่ตัวเองขอพื้นที่ฟรีในการตั้งกระทู้ด้วย มากไปหรือเปล่าคะ?? เว็บบอร์ดสาธารณะนะคะ คุณควรจะเคารพผู้อื่นบ้าง ไม่ใช่ใครตอบอะไรไม่พอใจ ก็ไล่ให้พ้นๆ ไปซะ!! สำหรับเรื่องคุณกับพยาบาลท่านนั้น คุณก็ได้รักษาสิทธิ์ตัวเองแล้ว หากพยาบาลปฎิบัติต่อคุณไม่สมควร คุณก็ได้ปฎิบัติกับเธอให้เธอรู็้้้ว่า นั่น..ไม่ดีต่อผู้รับบริการ ซึ่งเธอก็น่าจะเอาไปคิดต่อเพื่อปรับปรุงตัวเองได้ ก็น่าจะพอแล้วล่ะค่ะ อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย เพราะคุณเองยังอ้างได้เลยว่า "แต่พอเจอพยาบาลแบบที่กล่าวมานี้  จิตใต้สำนึกหายไปชั่วขณะ"   พยาบาลท่านนั้นอาจจะคิดเหมือนคุณก็ได้มั้งคะ...      "แต่พอเจอญาติคนไข้แบบที่กล่าวมานี้  จิตใต้สำนึกหายไปชั่วขณะ"   ปล.ถ้าไม่พอใจความเห็นดิฉัน อย่าไล่ออกจากกระทู้เลยนะคะ พิจารณาตัวเองเถิดค่ะ ^^    เพราะรู้สึกว่าความเห็นไหนที่ไม่เข้าข้าง ดูคุณไม่พอใจเลยซักความเห็นเดียว!!! จากคุณ : บีซ่าบ้าที่สุด เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 00:12:31

ความคิดเห็นที่ 77 อ่านทีแรกก็เข้าข้างเจ้าของกระทู้ อ่านความเห็นที่ 6 ก็เออ จริง เข้าใจล่ะว่าทำไมพยาบาลไม่ยอมให้เข้าไปเจอหมออีกรอบ แต่ก็ยังรู้สึกว่าพยาบาลทำไม่ถูกที่ไปตวาดขึ้นเสียงกับเจ้าของกระทู้อยู่ดี อ่านไปอ่านมา ชักสงสัยว่าพยาบาลขึ้นเสียงหรือพูดไม่ดีกับเจ้าของกระทู้จริงรึเปล่า เพราะก็ฟังความข้างเดียวจากคนที่ดูๆแล้วเป็นคนอคติถืออัตตาสูงซะด้วยสิ จากคุณ : NAJ เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 00:32:37

ความคิดเห็นที่ 78 คนพันทิพย์นี่ ใจเเคบเยอะเนอะ จากคุณ : PK (patkung) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 00:33:48

ความคิดเห็นที่ 79 ผมเห็นว่า Alone เบี่ยงประเด็นครับ เรื่องมีอยู่นิดเดียว คือ พยาบาลตะคอก เสียงดัง ถ้ามีจริงก็ไม่เหมาะ จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 00:39:27

ความคิดเห็นที่ 80 พยาบาล มารยาทไม่ดี จขกท ทำเกินกว่าเหตุไปนิด  โทสะมีได้ทุกคน ยกเว้น ผู้ที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี คนไม่ได้เจอสถานการณ์นั้นๆ อาจไม่รู้ "ไม่ได้อยู่ตรงนั้นไม่เข้าใจ ความรู้สึกหรอกครับ" จากคุณ : patkung เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 00:40:50

ความคิดเห็นที่ 81   มาจากห้องอื่น มาเสพดราม่าค่ะ ?? จากคุณ : กุ๊กไก่ไม่ขันมาหาฉันจะกระต๊าก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 00:45:47 A:114.128.127.1 X: TicketID:191399

ความคิดเห็นที่ 82 ของแบบนี้ ไม่เจอกับตัวเองคงไม่รู้หรอก แต่ผมเชื่อว่า พยาบาลผิดครับ เป็นผมก็คงโกรธแน่ๆ จากคุณ : Nou Wongs เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 01:33:18

ความคิดเห็นที่ 83 คุณ Alone ไม่ได้เบี่ยงประเด็นค่ะ เท่าที่อ่านมาเข้าใจว่าพยายามชี้เเจงให้จขกท เเต่จขกท ไม่พอใจเพราะไม่เห็นด้วย  เท่าที่อ่านมานะคะ เเต่ว่าคคหที่32 ว่าอะไรเหรอค่ะ จากคุณ : doong เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 02:49:01

ความคิดเห็นที่ 84   ไม่มีใครผิดหรอก แก๊สโซฮอลน่ะแหละที่ผิดต้องโทษแก๊ส จากคุณ : CRIMSON เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 04:00:47 A:119.42.123.25 X:

ความคิดเห็นที่ 85 คคห. ที่ 53 พยาบาลเรียนเก่งกว่าหมอ มีเยอะแยะไปค่ะ อย่าเหมารวมสิคะ เราเห็นเด็ก pre-med บางคนเกรดต่ำกว่าเด็ก pre-nursing เสียอีก แถมเข้าคณะแพทย์ไปแล้ว ไปไม่รอดก็มี ที่บางคนเค้าไม่เรียนหมอกันเพราะ 1. ค่าใช้จ่ายสูงมาก พ่อแม่บางคนถึงกับต้องขายบ้านให้ลูกเรียนเลยทีเดียว 2. ทำอะไรผิดนิดก็โดนฟ้องหมดทั้งตัว ทั้งวิชาชีพ เนื่องจากเป็นผู้ตัดสินใจ อ้อ เราพูดถึงโดยรวมนะคะ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย แล้วจขกท. อย่าว่ากันนะคะ เราว่า จขกท. เหมือนแม่ค้า (ห้ามพูดต่อนะ) ส่วนคุณ alone เหมือนนักการทูตปากกล้า ไม่ก็นักการเมือง lol เท่าที่อ่านดูก็พอจะเห็นนิสัยใจคอเจ้าของกระทู้อยู่ค่ะ คนพูดจาแบบนี้คิดว่าไปไหนก็มีแนวโน้มที่จะทะเลาะกับเค้าไปทั่ว พยาบาลเป็นคนจัดคิว คนรักษาก็ตั้งมากมาย อันนี้เราก็เห็นด้วยกับคุณ alone นะคะ แล้วคำพูดที่คุณพยาบาลพูด ก็ไม่ได้มีคำอะไรหยาบคาย จริงอยู่ อาจเสียงแข็ง หรือตวาดคนไข้ อันนี้คุณพยาบาลก็ทำไม่ถูกค่ะ พยาบาลบางคนที่ทำงานนานจนคิดว่าตัวเองเป็นซุปฯแล้ว ก็เป็นแบบนี้ได้ค่ะ แต่ยังไง เราว่าคุณเจ้าของกระทู้เริ่มก่อนนะ ถ้าไม่พูดคำว่า ขิ เยยว ออกไป เราว่าคุณจะเรียกคะแนนได้ดีกว่านี้เยอะเลยค่ะ คุณหมอที่ออกมาแก้สถานการณ์ก็ต้องทำตามหน้าที่ค่ะ ต่อหน้าอาจต้องแกล้งทำเป็นเข้าข้างคนไข้ ใช้จิตวิทยาเพื่อให้คนไข้ใจเย็นลง จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับคนไข้ อันนี้ก็สุดแล้วแต่คุณหมอค่ะ ลับหลังอาจเข้าไปคุยกับคุณพยาบาลจนเข้าใจกันดี สวีทวิดวิ้วแล้วก็เป็นได้ การที่คุณเจ้าของกระทู้ใช้ไม้แข็งซัดใส่ไปแบบนั้น คนค่ะ ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จะคาดหวังให้คนที่จิตใจขุ่นซะแล้วมาให้บริการอย่างเต็มใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสมันก็ค่อนข้างยากนะคะ คุณเจ้าของกระทู้เองยังไม่ชอบที่โดนคุณพยาบาลตวาดเลย จริงมั้ยคะ เป็นเราถ้าไม่พอใจจริงๆ เราไม่โวยต่อหน้าหรอกค่ะ เพราะจะเป็นเรานั่นแหละที่อายเอง คุณพยาบาลเค้าทำงานบริการมา ก็คงเจอมาร้อยแปดพันเก้าแล้วล่ะค่ะ โดนคนไข้วีนใส่ซึ่งๆ หน้านี่ถือว่าธรรมดาๆ ไปแล้ว คนใช้บริการที่ทำตัวเสียงดัง ตะโกนด่าคนนั้น ตะโกนว่าคนนี้ จะเอาให้ได้อย่างใจ คนรอบข้างเค้าก็จะมอง เออ สมควรโดนพยาบาลตวาดแล้ว เพราะร้ายไม่ใช่เล่น เค้าไม่มาสนใจเนื้อหาที่คุณกับคุณพยาบาลพูดกันหรอกค่ะ ทีนี้คุณพยาบาลจากคนผิดก็จะกลายเป็นคนที่โดนเห็นใจ กลับกัน ถ้าคุณพยาบาลเป็นฝ่ายวีนใส่คนใช้บริการ ตวาดใส่ ทำกระแทกปึงปัง แต่คนไข้กลับนั่งเงียบ ค่ะ ค่ะ ขอโทษค่ะ อย่างเดียว คนภายนอกมอง หรือจะเป็นคุณหมอ หรือซุปฯ มองเหตุการณ์ ก็จะมองว่าเออพยาบาลนี่ร้ายนะ ไปทำกริยาแบบนั้นใส่คนไข้ได้ยังไง แล้วถ้าคุณเจ้าของกระทู้ทำเรื่องร้องเรียนถึงโรงพยาบาล กริยาแบบที่สองจะได้รับการเห็นใจมากกว่า ทีนี้ก็จะมีการพิจารณาโทษคุณพยาบาลกันล่ะ ทุกคนจะเห็นว่าคุณเป็นผู้ถูกรังแกที่ได้แต่นั่งเงียบ ส่วนแบบแรก คุณพยาบาลก็จะมีข้ออ้างว่า "ก็ฉันโดนญาติคนไข้พูดหยาบคายใส่ก่อน ถามคนที่อยู่แถวนั้นดูก็รู้ คุณหมอก็เห็น" แล้วก็จะเดินออกไปทำงานได้อย่างหน้าชื่นตาบานเหมือนเดิม เรื่องที่คนไข้ฟ้องมาก็จะผ่านเลยไป ไม่ได้รับการแยแส แบบไหนดีกว่ากันล่ะคะ เจ้าของกระทู้ก็น่าจะทำงานตำแหน่งใหญ่โต หรือเป็นเจ้าของกิจการ ถึงขนาดมีลูกน้องมานั่งเฝ้ากระทู้ให้ได้แล้วนี่คะ เรื่องจิตวิทยาผู้บริหารแค่นี้น่าจะเข้าใจมั้ง หรืออีกที คุณเจ้าของกระทู้อาจใช้อำนาจในที่ทำงานจนชิน ติดมาเผื่อแผ่คนข้างนอกด้วย เพราะเท่าที่อ่านดู มันมีอะไรในคำพูดแต่ละโพสที่สะกิดให้คิดน่ะค่ะ... อย่าโกรธกันนะคะ จากคุณ : crazyfantasy เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 04:55:23

ความคิดเห็นที่ 86 ..."ส่วนวันนี้ดีใจลูกค้าเยอะมาก เงินเข้าเยอะดี โอนมาแต่วันเชียวละ สบายใจที่สุดเลยค่ะ เพิ่งพาคุณแม่ไปทานข้าวข้างนอกมา อิ่มด้วย สนุกด้วย 5555555 ขอบคุณท่านอื่นๆนะค่ะ ที่เข้ามาแชร์ความเห็น ยกเว้นบางคห ที่ต่อต้านค่ะ ไล่ก็ไม่ไป หน้าทนจริง รึสีทนได้ " ครับผมว่าคุณน่าจะเศรษฐานะเยอะดีน่าจะไปเอกชนให้สมน้ำสมเนื้อดีกว่าเนาะ "เมื่อเกิดมามีอะไรมาด้วยเล่า เจ้าจะเอาแต่สุขสนุกไฉน เมื่อเกิดมาตัวเปล่าจะเอาอะไร เจ้าก็ไปตัวเปล่า....เหมือนเจ้ามา" จากคุณ : T_T (Boom_sure) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 08:37:48

ความคิดเห็นที่ 87 ผมว่า คุณ Alone ..... ตอบได้ "ถ่อย และ ทราม" ดีครับ อิ อิ ขำ ขำ ครับ จากคุณ : มู๋หน้าโหด (มู๋หน้าโหด) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 09:02:29

ความคิดเห็นที่ 88 ไม่มีความเห็นที่เถียงกันอยู่ข้างบน มาแชร์ความรู้สึก ส่วนตัว ที่เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลรัฐ  คือไม่เข้าใจว่า พยาบาลของโรงพยาบาลรัฐบางคน(ส่วนมาก) อารมณ์ไม่ดีมาจากไหนกันคะ พูดจาไม่เพราะ ตะคอกคนไข้ ที่ส่วนใหญ่เป็นคนชรา ดิฉันไปรักษาตัว แต่ไปเจอกิริยาพวกนี้ ทนไม่เคยได้ เผือกอยู่ร่ำไป ต้องไปรับหน้าแทนคนอารมณ์ไม่ดีจำพวกนี้ คุณเหนื่อย คุณเบื่อหน่ายคนไข้ ที่พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ฟังไม่ค่อยเข้าใจ อันนี้ดิฉันทราบดี และก็เห็นใจในหน้าที่ที่คุณได้รับ แต่นิดนึงนะคะ คนไข้ส่วนมากที่เข้ามาโรงพยาบาลรัฐ คือคนไข้ที่ได้รับสิทธิ์บัตรประกันสุขภาพ 30บาท และคนไข้ที่ไม่มีเงินรักษาในโรงพยาบาลเอกชน คนไข้ที่อยู่ต่างจังหวัด และที่สำคัญคนไข้ที่มั่นใจในศักยภาพในตัวหมอผู้รักษา ทุกคนหวังว่าจะทำให้ความเจ็บป่วยบรรเทา ทุเลาลงทั้งนั้น สภาพร่างกาย และจิตใจของคนไข้ทุกคน ไม่ได้ดี100เปอร์เซ็นมาจากบ้านนะคะ ดิฉันสงสารคนแก่ ๆ ที่มาโรงบาลรัฐมาก ท่านมารอตั้งแต่เช้า กว่าจะได้รับการรักษาก็เกือบเที่ยง บางคนมาหลัง8โมงเช้า กว่าจะได้รักษาปาเข้าไปตอนบ่าย สภาพจิตใจก็ย่ำแย่ บางคนไม่มีลูกหลานมาคอยนั่งฟังพยาบาลเรียก ก็จะดูงก ๆเงิ่น ๆ ไปตามประสาคนชราื ดิฉันไม่ได้จบพยาบาล และไม่เคยคิดอยากจะเป็นเลย เพราะคงมีความอดทนไม่สูงนัก ที่จะเจอะคนร้อยพ่อพันแม่ แต่เคยได้ยินมาว่า พยาบาลและหมอ จะมีความเข้าใจ และมีจิตวิทยาที่ดีต่อคนไข้ทุกคน แต่ที่ดิฉันได้สำผัสมากับตัว และได้เห็น ไม่ใช่อย่างที่ได้ยินเลย ดิฉันเคยเจอหมอ ที่วินิจใช่ว่าดิฉันประสาทไม่ดี เพียงเพราะสายตาดิฉันมอง เห็นแสงไฟแว่บ ๆ ตลอดเวลาหลับตา ดิฉันเคยเจอหมอ(คนเดิม)เอาปากกาขีด ๆ รายงานสุขภาพของดิฉันวันนั้นอย่างบ้าคลั่งเหมือนคนบ้าเสียเอง จนดิฉันต้องไปรักษาโรงพยาบาลที่ดิฉันมั่นใจว่าที่นั่นรักษาดิฉันได้ คุณหมอวินิจฉัยดิฉันว่า ดิฉันเป็นขั้วประสาทตาอักเสบ ปัจจุบันหายดีแล้วแต่ยังต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลนี้เป็นประจำเพราะดิฉันมั่นใจหมอว่า ท่านเป็นหมอที่รักษาดิฉันได้  โรงพยาบาลนี้คือ..............  โรงพยาบาลศิริราชค่ะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 09:56:01 จากคุณ : nanblabla เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 09:52:43

ความคิดเห็นที่ 89 อ่านจนเหนื่อย จากคุณ : ฝ้ายผู้น่ารัก เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 10:34:07

ความคิดเห็นที่ 90 ประเด็นคือ มีพยาบาล ได้แสดง กิริยา วาจา ท่าทาง สำเนียง ภาษากาย อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ หลายอย่างร่วมกัน เป็นการไม่สุภาพ หรือไม่เหมาะ แก่วิชาชีพ ณ วันที่ได้ กล่าวปฎิญานตน เมื่อครั้ง เข้ามายึดอาชีพนี้หรือไม่ ถ้ามี ก็ไม่เหมาะสม ถ้าไม่มี จขกท ก็เอาเรื่องเท็จมาว่ากล่าว ส่วนเรื่อง อื่น ที่พูดคุยกันมา แบบ ดราม่านั้น ผมเห็นว่า เป็นการเบี่ยงประเด็น ก็ไม่ทราบว่า ทำไมต้องเบี่ยงไปทางอื่น ทั้งๆ ที่ประเด็นมีเพียงเรื่องที่ว่าเรื่องเดียว จากคุณ : น้าพร เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 10:51:48

ความคิดเห็นที่ 91 ตามมาอ่านครับ แบบงงๆ จากคุณ : janista เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 11:37:23

ความคิดเห็นที่ 92 พยาบาล ผิด ที่พูดจาไม่มีหางเสียงและแสดงกิริยาท้าทาย  ทำให้เจ้าของกระทู้ไม่พอใจ พยาบาลถูก ที่ทำตามกฎ แต่อธิบายให้ญาติฟังไม่ชัดเจน เจ้าของกระทู้เอาแต่ใจ ยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง   ชอบคุณ Alone แสดงความคิดเห็นได้เป็นกลาง มีเหตุผล ทำให้เรารับรู้ว่า คุณมีภาวะความฉลาดทางอารมณ์ จากคุณ : Take me home เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 12:57:09

ความคิดเห็นที่ 93 ยังงงว่า ตกลงที่ จขกท ไม่ได้เข้าไปพบหมอพร้อมคุณแม่เนี่ย เพราะไปทำสิทธิบัตรทอง หรือไปเข้าห้องน้ำกันแน่ จากคุณ : Bowling Bash เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:31:52

ความคิดเห็นที่ 94 จะเฉ่งพยาบาล ต้องหาผู้ตรวจการเวรสั่งการให้ได้ค่ะ ฟาดงวงฟาดงา อย่างนี้ไม่ค่อยดีเลยนะคะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 14:00:40 จากคุณ : KinkyVans เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 13:58:15

ความคิดเห็นที่ 96 ถ้าสงบสติอารมณ์กับสีหน้าไม่ไหวก็อย่าเป็นพยาบาลเลย ดูแล้ว คห ที่ตอบ จขกท นั้นอยากเอาชนะมากว่า โตๆกันแล้วพี่น้อง ปล. เข้าใจคนเคยเจอเหมือนกัน จากคุณ : sapi kung เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 16:46:58

ความคิดเห็นที่ 97 เบื่อพวกบัตรผ่านปากดีจัง...ด่าคนทั้งทีไม่กล้าด่ายังต้องสมัครบัตรผ่านมาด่าเป็นเอามากนะเธอว์ ความคิดเห็นของผม...พยาบาลคนนั้นไม่ควรจะตะคอกใส่แบบนั้นนะ เป็นผมคงจะตอบกลับหนักกว่าเจ้าของกระทู้เป็นแน่ แต่อยากจะบอกเจ้าของกระทู้นิดนึงว่า ในกระทู้มันมีทั้งคนเห็นด้วย และไม่เห็นด้วยขอให้ใจเย็นๆอ่านแล้วคิดตามไป แต่ก็งงที่ว่า เจ้าของกระทู้ไปทำสิทธิบัตรทอง หรือไปเข้าห้องน้ำ งงตรงนี้ล่ะ จากคุณ : ตาบ๊องกะยัยโก๊ะ~~* เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 17:09:08

ความคิดเห็นที่ 98 สรุปแล้วก็ทะเลาะเอาชนะกันหน้าคอม ไม่มีสาระอะไรเลย พยาบาลก็ปากไว จขกท ก็อวดดี Alone ก็ใจแคบ สรุป กุชนะคนเดียว -พยาบาลอดกลั้น -จขกทใช้เหตุของผลตอบ -Aloneหัดมีความเป็นธรรม เรื่องนี้ก็ไม่เกิด สรุปไทยมุงชนะอีก จากคุณ : คนไทย (Psurachai) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 17:22:04

ความคิดเห็นที่ 99   เข้าไปเจอเวบดราม่าโดยบังเอิญเพราะเข้าไปอ่านเรื่องนาธานกับเจ้ชิ แต่พลัดมานี่ ไปมาๆอ่านเลยมา ขอเล่าเรื่องสักหน่อยนะคะ ดิฉันมีคุณน้าทำงานพยาบาลโรงพยาบาลรัฐค่ะ อายุราชการก็ใกล้เกษียณแล้ว เป็นพยาบาลมานาน ย้ายไปมาหลายที่ และเคยทำงานในรพ.ศิริราชด้วย ปัจจุบัน ประจำอยู่ รพ.สงขลาค่ะ จริงอยู่ว่า พยาบาลไม่ควรตะคอกคนไข้ แต่พวกคุณเคยรู้มั้ย ว่าพยาบาลรัฐทำงานหนักแค่ไหน เหมือนจะสบายนะคะ บางคนตีสอง ตีสามต้องมาเข้าวอร์ด (เฝ้าคนไข้นี่ละคะ) เจอคนไข้เจ้าอารมณ์ แล้วยังต้องมาเจอญาติคนไข้เจ้าอารมณ์อีก นอกจากต้องดูแลหนองเลือดและสิ่งปฏิกูล ยังต้องมารองรับอารมณ์อีก สุดๆค่ะ คนนะคะ ขนาดคอมใส่ข้อมูลมากๆมันยังเอ๋อเหรอเลยค่ะ ใช่ค่ะ พยาบาลรัฐกินเงินภาษี คิดว่าเขาได้กันมากมายหรือคะ เงินเดือนน้าดิฉัน อายุราชการ เกือบสี่สิบปี (เหมือนว่าจะได้แค่หมื่นกว่าๆ ผิดพลาดขออภัยนะคะ เคยถามท่านนานมาแล้ว) ต้องมาทำงานเช็ดอึเช็ดฉี่ ป้อนน้ำป้อนข้าวคนอื่นอะค่ะ อะ ทีนี้เล่าเรื่องในมุมคนไข้บ้าง เป็นคุณพ่อดิฉันเอง นิสัยส่วนตัวแกขี้วีน ปากจัด โวยวายโมโหร้าย ยิ่งวันไหนเหล้าไม่เข้าปากจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ ตอนนั้นแกเป็นไข้เลือดออก แต่แกมีนิสัยว่า ถ้าไม่ใกล้ตายจะไม่โทรกลับบ้าน ต้องเดือดร้อนถึงโทร ต้องไปนอนโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง แถวๆถ.เพชรบุรี ทีแรกไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่เห็นพ่อตัวเองแล้วตกใจ พ่อดิฉัน นอนจมกองเลือด (เหมือนจม แต่แค่ผ้าปูเปียกชุ่ม) หมอนผ้า เปื้อนเลือด เนื้อตัวมอมแมม ยังกับไม่ได้นอนโรงพยาบาล หนวดเครารุงรัง ถามแกบอกว่า ไม่ได้เปลี่ยนชุดคนไข้มาสี่วันแล้ว แกเลยโทรให้ดิฉันไปหา (พ่อออกจากครอบครัวดิฉันไปตั้งแต่ดิฉันเก้าขวบ แต่ติดต่อเจอกันเป็นพักๆค่ะ) ดิฉัน เห็นพ่อเป็นแบบนี้ พูดไม่ออกค่ะ คำด่ายังโหลดไม่ทัน แต่ก็เดินไปหาคุณพยาบาล ดิฉัน: ดิฉันเป็นญาติ คุณ... ค่ะ พยบ. : ออ ก็ว่าอยู่ มีญาติด้วยเหรอ เป็นอะไรกับหนูคะ ดิฉัน: พ่อค่ะ พยบ. : เหรอคะ (มองหัวจรดเท้า) จะบอกให้นะ พ่อหนูน่ะ ร้ายมาก พี่ไม่เคยเจอคนไข้พรรค์นี้มาก่อนเลย แถมบัตรสามสิบบาทอีก ดิฉัน : (งงๆกับอาการ ของพยบ.) อ่า.. คุณพ่อหนูไปทำอะไรให้พี่ค่ะ (ก็เห็นแกป่วยพังพาบ ไข้จะชอคตายอยู่แล้วน่ะนะ) พยบ. : แกกดกริ่งเรียกจนพยาบาลวิ่งวุ่นทั้งวอร์ด คนไข้ไม่ได้มีพ่อหนู คนเดียวนะคะ พอพยาบาลวิ่งไปไม่ทัน ก็ตะโกนด่าใส่ ทำยังกับมาอยู่ห้องวีไอพี ใช้แค่บัตรสามสิบบาท รักษาก็ฟรี (แบะปากดูถูก) ดิฉัน : .... พี่เลยปล่อยให้พ่อหนูตายเหรอคะ พยบ. : แหม แค่นี้ไม่ตายหรอกค่ะ พี่เป็นพยาบาลนะคะ โคม่าหมอเค้าก็ดูค่ะ เค้าไม่ปล่อยให้ตายหรอก ดิฉัน : ถึงหนูไม่ใช่พยาบาล แต่หนูไม่โง่นะคะ อย่างน้อยการดูแลสุขอนามัยขั้นพื้นฐานก้อย่ำแย่ค่ะ พ่อหนูฉี่คากางเกงมาสองวันไม่ได้เปลี่ยน เป็นไข้ลุกไม่ไหว เป็นพี่ๆทนได้หรอคะ แล้วถ้าพ่อหนูไข้ขึ้นจนชอค พี่จะรู้มั้ย นั่งดูละครอยู่เนี่ย หนูมาเรียกตั้งนานไม่ได้ยิน จนเดินเปิดประตูเข้ามาเรียกในห้องกระจกเองเนี่ย แล้วพี่ถอดกริ่งออก เค้าจะเรียกพี่ได้ไง สงสัยต้องรอคนไข้เตียงข้างๆเรียกเหรอคะ พยบ. : (มองหางตา ไม่สนใจ ไม่พูด หันไปดูทีวีต่อ) ... ดิฉันเลยจดชื่อ ลงไปถามหาหัวหน้าพยาบาล ถามราคาค่าห้องพิเศษคืนละเท่าไร และให้ย้ายคุณพ่อดิฉันออกมาจากห้องคนไข้อนาถา (ที่เขาเรียกกัน) ออกมาเดี๋ยวนั้น ดิฉันถ่ายรูปห้อง เตียงที่พ่อนอนไว้ จำได้ว่า ห้อง ใกล้ทางรถไฟมาก พอรถไฟวิ่งที ดังมากๆ ห้องแอร์แต่ปิด เปิดพัดลม พอดิฉัน ต้องลงไปเปิดหน้าต่าง มุ้งลวดขาดๆเอง คืนที่ดิฉันไป แกไม่มีแรงจะลงไปปิด ก็นอนตากยุงอยู่จนดิฉันมา ระหว่างนั้น ยุงที่กัดแก ไปกัดคนไข้คนอื่นหรือเปล่าไม่รู้ เสื้อพ่อ เตียงพอ เลอะคราบเลือดที่ออกจากหู จมูกรูขุมขน อาหารที่ให้พ่อกิน เขาบอกว่า พ่อต้องงดอาหารรสจัด ด้วยการให้พ่อกินข้าวต้มเปล่าๆชามเดียว กับน้ำหนึ่งแก้ว พ่อปวดฉี่ ไม่มีแรงลงไปเข้าห้องน้ำ จนฉี่แห้งคากางเกง แห้งแล้วแห้งอีก จนเหม็นอับ คนไข้เตียงข้างๆเลยดึงม่านปิด ดิฉันบอกว่า.. ดิฉันจะเอารูปทั้งหมด ไปลงหนังสือพิมพ์ ฟ้องกระทรวงสาธารณสุข (เสียดายไม่ได้อัดเทปตอนคุยพยาบาล) ไม่ได้ด่า ไม่ได้วีนอะไร ก็พูดเฉยๆ เอารูปให้ดู (ขู่ฟ่อๆ) พวกเขาเลยดูแลพ่อดฺฉันอย่างดีหลังจากนั้น (มีกระเช้าเยี่ยมมาให้พ่อด้วย แถมเวลาเสิร์ฟข้าวคนไข้ มีให้คนเฝ้าอย่างดิฉันอีก) พยาบาลคนนั้นก็มาขอโทษแบบกัดฟัน (เพราะดิฉันเขียนโนติซยื่น ผอ. โรงพยาบาล) แต่ดิฉันก็ยอมรับว่า พ่อเป็นคนไข้ที่แย่มาก (ดิฉันเฝ้าไข้แก ยังแทบกรี๊ดหลายๆรอบ) ด่าพยาบาลไม่ไว้หน้า :-)น้ำลายลงในถาดข้าว ตอนที่ยังมีแรงก็ตะเบ็งด่า หมดแรงก็นอนด่าต่อ ยังกับเขาเป็น( ^o^ )แก (แกบอกว่า ตูจ่ายสามสิบบาทนะเว้ย ไม่ฟรี) เข้าเรื่อง จากเรื่องคุณจขกท. คุณจขกท. ตามความเห็นอิฉัน ผิดทั้งคู่ ถึงคุณจะโดนขึ้นเสียงก่อนก็เถอะ แต่ด่ากันไปก็โล้งเล้ง ไม่ได้อะไร ดิฉันเห็นใจคุณนะคะ ที่โดนตะคอกใส่ เอาเป็นว่าคราวหน้า เปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาใหม่นะคะ ส่วนพยาบาลคนนั้น ก็ปล่อยตามยถากรรมค่ะ ถ้าเจออีก คุณก็ไม่ต้องด่าเธอแล้ว ให้หัวหน้าเธอคุยแล้วกันเนอะ ^^ ถามใครผิด ดิฉันมองว่า รัฐผิด ไม่บริหารสวัสดิการพยาบาลให้ถูกต้อง จนพยาบาลหงุดหงิดเหวี่ยงคนไข้แบบนี้แหละค่ะ งานเยอะ เงินเดือนน้อย ลองถามคนเป็นพยาบาลดูเถอะ ไม่ค่อยมีใครอยากเป็นพยาบาลรัฐหรอกค่ะ ส่วนมากก็เป็นแค่พอเก็บประสบการณ์ แล้วก็ย้ายไปอยู่เอกชนหมด เพราะบางคนอาจได้รับจ๊อบนอกรอบ เช่น ดูแลคนป่วยรวยๆที่พักที่บ้าน ยังไงก็ ขอให้คุณแม่จขกท.สุขภาพแข็งแรงนะคะ :-) ปล. ไม่ได้ลอกอิน เพราะสมาชิกยังไม่อนุมัติเลยจ้ะ T^T จากคุณ : คนไกลผ่านมา เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 17:52:58 A:90.184.97.208 X:

ความคิดเห็นที่ 100 ถ่อย+ทราม จากคุณ : Resonate เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 17:56:57

ความคิดเห็นที่ 101 เราว่า จขกท แรงไป ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ความอดทนต่ำมาก จากคุณ : เทพบุตรหมัดดาวหาง เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 19:14:42

ความคิดเห็นที่ 102   จขกท แรงไปม้างคะ ใ่ช่ว่าคนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับคุณ แล้วคนทุกคนจะเ็ป็นคนไม่ดีไปซะหมดนะคะ ที่นี่เวบสาธารณะนะคะ กรุณาใช้ถ่อยคำที่สุภาพ ให้เกียรติตนเอง และผู้อื่นด้วยค่ะ อย่าโกรธกันนะคะ ^^ คนไทยรักกันๆ จากคุณ : สายน้ำแห่งความหวัง (nAHMLeMoN) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 22:09:30

ความคิดเห็นที่ 103 ที่จริงพยาบาลก็ไม่มี Service Mind ไม่มีใจบริการ และไม่สมควรตะคอกลูกค้าแบบนั้น ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยเพราะคนไข้เยอะ แต่ก็ควรอดกลั้นและอดทนให้มากกว่านี้หน่อย แต่คุณ จขกท.เข้าใจว่าโมโห แต่ก่อนที่จะตั้งกระทู้ก็น่าจะใจเย็น ใช้สติก่อนพิมพ์อะไรออกไป ใช้คำพูดให้สุภาพและมีเหตุผลกว่านี้หน่อยค่ะ แรกๆ ก็เห็นใจแต่อ่าน คห.หลังๆ รู้สึกว่าคุณใช้คำพูดบางคำค่อนข้างแรงมาก และถ้าเป็นไปได้รบกวนเขียนภาษาไทยให้ถูกต้องกว่านี้นะคะ อ่านยากมากเลย ปล.ขอให้คุณแม่ของคุณอาการดีขึ้น หายไวๆ นะคะ แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 53 23:53:22 จากคุณ : เด็กศิลป์ (Artiste) เขียนเมื่อ : 1 ก.พ. 53 23:47:50

ความคิดเห็นที่ 104 ขอตอบแค่ว่า คนที่เป็นพยาบาลน่าจะเป็น "พยาบาลอาชีพ มากว่าอาชีพพยาบาล" นอกนั้นก็เหมือน คห.51 กับ 53 ครับ จากคุณ : Retrojazz60s เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 03:46:39

ความคิดเห็นที่ 105 ผมก็เคยได้รับบริการที่แย่ครับ แต่ของแบบนี้เค้าแรงมา เราเย็นกลับ เราจะเป็นผู้ชนะครับ จากคุณ : คุณใหม่ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 09:42:49

ความคิดเห็นที่ 106 อืมมมม เพิ่งรู้เหมือนกันว่า ถ่อย กับ ทราม เป็นคำสุภาพ อื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม จากคุณ : Riding Spirit เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 12:58:12

ความคิดเห็นที่ 107 พยาบาลผิดค่ะ สั้นๆ เลย   ไม่มีจรรยาเลย   และพึ่งรู้ว่า  "ถ่อย" กับ "ทราม" มันสุภาพ จากคุณ : mawantha เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 14:36:21

ความคิดเห็นที่ 108 Lost Lost จากคุณ : เข้ามาดู (SpiraR) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 16:16:19

ความคิดเห็นที่ 109 พยาบาลที่ตึกผู้ป่วยนอก จะมีสองส่วนคือ ผู้ช่วยพยาบาล และ พยาบาลวิชาชีพ ดูได้จากขีดสีดำ บนหมวก ( ยกเว้น สภากาชาดไทย)  มีหัวหน้ากำกับดูแลทุกชั้น จากเจ้าของกระทู้ "คุณพูดจาดีๆ กับญาติคนไข้เป็นไหม ถ้าไม่เป็น ฉันก็ต้องพูด อย่างนี้แล้วแหละ คุณชื่อไร ขอถ่ายรูปหน่อย เผื่อจะขอไป รายงานผอ.สักหน่อย ดูสิว่าคุณจะพูดอย่างเมื่อกี้ไหม ... ระหว่างที่เริ่มหยิบมือถือขึ้นมา เธอรีบเดินหนีเข้าห้อง เคาเตอ22 ทันที เบี่ยงหน้าที่ไปทำอย่างอื่น ดิฉันเดินเข้าไป บอกเธอว่าไหน ขอถ่ายหน่อย เธอเดินหนีไปหาหมอด้านใน การที่มีการโต้เถียงกัน แล้วตามเข้าไปในห้อง เพื่อถ่ายรูป น่าจะเป็นการบุกรุก และละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล สถานที่นี้ เป็นสถานที่ราชการ ทางที่ดี ควรทำเรื่องชี้แจง ต่อผู้บังคับบัญชา เป็นลายลักษณ์อักษร ทางโรงพยาบาล จะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ให้ค่ะ จากคุณ : nupvs เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 16:44:57

ความคิดเห็นที่ 110   ผมว่าถ้าอยากได้บริการแบบเอกชนก็จ่ายค่าบริการค่ายาแบบเอกชนให้เหมือนกันหมดซิ ไม่ใช่จะเอาราคารัฐบาลแต่บริการเอกชน อยากได้บริการดีๆแต่งก จะจ่ายน้อยแต่จะเอาค่าตอบแทนมากๆ หมอพยาบาลก็คน จากคุณ : อนาถคนงกว่ะ เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 17:23:54 A:202.12.97.118 X: TicketID:239448

ความคิดเห็นที่ 111 จขกท ค่ะ จากที่ได้อ่านการ เขียนโต้ตอบของคุณกับผู้อื่นแล้ว ขอแนะนำว่า คุณพาแม่ไปโรงพยาบาลเอกชนเถอะนะคะ จากที่คุณตอบมา งานเยอะ เงินแยะ อย่าไปรบกวน โรงพยาบาลรัฐ เลยคะ คุณพยาบาลที่นิสัยเสีย คนนั้นก็จะได้ไม่แย่ไปกว่าที่เป็นอยู่ คือดิฉันเคยนอนป่วยที่ศิริราชอยู่ 2 อาทิตย์ จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังไปพบหมอเป็นระยะ พ่อ+น้อง ก็เป็นคนไข้ของที่นี่หมด ไม่เห็นมี ใครบ่น ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอ แต่ไม่มีใครเอามาเป็น สาระ เพราะ ไ ด้ เ ห็ น แ ล้ ว ว่าเจ้าหน้าที่ ทุกคนทำงานอย่างหนักหนาอย่างไร พ่อดิฉันเอง ตอนนั่งรอตรวจ ยังพูดออกมาเองว่าเป็นอาชีพ ที่ทารุณ พ่อดิฉันเดินทางมาจากต่างจังหวัด นั่งรถมา 2 ชั่วโมงนั่งรออีก 3 ชั่วโมง อายุก็ 70 แล้ว ยังรู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกคน การอยู่ร่วมกันในสังคมต้องมีเมตตานะคะ เขาแรงมา คุณแรงกลับ = พังทั้งคู่ ...ความเห็นไม่ถูกใจคุณแน่ๆ... ขออย่าให้คุณเจอกับเหตุการนี้อีก จะเป็นผลดีกับตัวคุณเอง และผู้อื่น จากคุณ : _ (สมหนิง) เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 19:23:45