ความคิดเห็นที่ 1 ปรึกษาคุณพ่อคุณแม่นั่นแหล่ะดีที่สุดครับ ถ้าเราไม่ได้ทำจริงอย่ากลัวฟ้องก้ฟ้องครับกลัวอะไร ศาลท่านจะพิจารณาตามความเป็นจริงครับ จากคุณ : กระจอกจัง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:46:20

ความคิดเห็นที่ 2 เมื่อสักครู่ได้ปรึกษากับเพื่อนค่ะ เพื่อนข้องใจตรงที่ในจดหมายบอกว่าจะส่งฟ้องศาลวันที่ 1 มีนาคม แต่เราเพิ่งได้จดหมายในวันนี้ และเพิ่งโทรฯติดต่อไปวันนี้ ซึ่งเพื่อนเราคิดว่า ทางร้านไม่น่าจะให้ไปชำระเงินได้แล้วนะคะ เพราะส่งฟ้องศาลไปแล้ว น่าจะเป็นหน้าที่ของศาลมากกว่า เพื่อนดิฉันกลัวว่าทางร้านจะหลอกเอาเงินน่ะค่ะ เพราะใบสมัครมันเป็นบัตรประชาชนดิฉัน แต่ถ้าทางร้านจะทำหลักฐาน ปลอมๆขึ้นมาในคอมพิวเตอร์ว่าค้างคืนหนังก็ย่อมทำได้ จากคุณ : roSemarii_Snow เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:56:19

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องที่ว่ายักยอกนั้นถ้าได้ความว่ามีคนอื่นเอาบัตรคุณไปเช่า แล้วทางร้านกลับอ้างว่า คุณเป็นเจ้าของบัตรต้องรับผิดชอบ แสดงว่าทางร้านก็ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อมูลของผู้เช่าเท่าที่ควรจะทำเลย เพราะปล่อยให้คนอื่นมาเช่าได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เจ้าของบัตร ข้ออ้างที่จะให้คุณรับผิด ผมว่ามันดูไม่สมเหตุ สมผลเท่าไร เพราะทางร้านยังไม่รู้เลยว่าคุณได้มาเช่า และ ยักยอกไปจริง ๆ หรือป่าว แต่ไม่ว่าอย่างไรความผิดฐานยักยอกทรัยพ์นี้เป็นความผิดอันยอมความได้ ลองเจรจาดูก่อนครับ แต่ถ้าไม่สำเร็จค่อยดูว่าความผิดมันขาดอายุความไปหรือยัง เพราะมันตั้ง 3 ปี มาแล้ว อย่างไรรอความเห็นท่านต่อไปครับ จากคุณ : นิสิตสุรา (ซาโนสุเกะ) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 17:51:00

ความคิดเห็นที่ 4   ต้องถามกลับเลยคะ  ว่าหนังบ้าอะไร 4 เรื่อง  36,000 บาท  แล้วค่าปรับเ่ขาคิดยังไงคุณก็ให้เขาคิดให้ดูด้วยคะ  ค่าปรับตามกฎหมายที่ราชการปรับ ยังไม่มากเท่านี้เลย  สงสัยเขาจะรู้ข้อมูลว่าคุณเป็นนักศึกษาไม่รู้ไรเลย  กะจะหลอกเอาตังค์หรือเปล่า  ปรึกษาพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ดีแล้วคะ  ถ้าเราไม่ผิดจริงให้เขาไปฟ้องศาลเอาเลย ถ้าเขาฟ้องก็ไปปรึกษาที่สภาทนายความดูก่อนคะ อย่าคิดเอง ตัดสินใจเอง ไม่อยากบอกพ่อแม่  เดี๋ยวเรื่องบานปลาย คุณนั้นละจะซวยมากกว่านี้  คนเราถ้าไม่ผิดจริง  ไม่มีอะไรที่น่ากลัวหรอกคะ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 18:49:03 จากคุณ : annefly เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 18:48:41

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกความเห็นนะคะ ตอนนี้สบายใจแล้วค่ะ แต่ยังไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ ได้ไปคุยกับตำรวจท่านนึงที่รู้จักกันมาน่ะค่ะ ท่าอธิบายว่า เรื่องที่จะฟ้องศาลนั้นข้อหายักยอกทรัพย์นั้น ต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจก่อน จากนั้นพนักงานสอบสวนก็จะเรียก คู่กรณีมาฟังข้อหาที่แจ้งความไว้ เพราะคดีแบบนี้ตัดสินยอมความกันได้ ถ้าทั้งคู่ได้มาตกลงกันเองเป็นที่พอใจ เพราะไม่อยากให้ถึงศาลอยู่แล้ว ยิ่งเรื่องเล็กๆแบบนี้ด้วย แต่ที่ทางร้านส่งมาเป็นแค่ ไปรษณียบัตร ค่ะ ไม่ใช่จดหมายเลย ขออภัยที่ให้ข้อมูลผิดด้วย ทางตำรวจบอกว่า ยิ่งส่งศาลไปแล้ว ทางร้านไม่มีสิทธิที่จะทวงเงินหรือให้ไปชำระเงินอีก เพราะเรื่องถึงศาลไปแล้ว แต่อย่างไรก็ดี ควรเป็นหมายศาลมากกว่า ท่านคิดว่าน่าจะเป็นกลลวงให้ลูกค้าที่หลงเชื่อไปชำระเงินมากกว่า ในกรณีที่บางคนไม่รู้ เพราะกรณีของดิฉันคือเชื่อ 100% ว่าไม่ได้ค้างแน่นอน จากคุณ : roSemarii_Snow เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 19:05:57

ความคิดเห็นที่ 6 ถ้าฟ้องจริงอีกซักไม่น่าจะเกินครึ่งเดือนก็คงมีหมายศาลมาล่ะครับ แต่แนวนี้มันอกแนวๆขู่กรรโชกคนขี้กลัวมากกว่า จากคุณ : bigcy เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 20:47:14

ความคิดเห็นที่ 7   ความคิดเห็นเหมือนข้างบนเลยจร้า ตามนั้น แต่หากเป็นเรานะ หากเราบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำอ้ะ แล้วเรื่องความผิดฐานยักยอกทรัพย์ก็เป็นความผิดอันยอมความได้ เราว่าทางร้านฯเขาคงไม่น่าจะฟ้อง เพราะฟ้องไปก็ไม่คุ้ม และพิสูจน์ยาก เราจะปล่อยให้มันคาราคาซังอย่างงั้นแหละ เหอะๆๆ จากคุณ : beautymai เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:24:58