Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
40ต้นๆกับชีวิตลุ่มๆดอนๆ เป็นคนดีแล้วได้อะไร  

หลายวันมานี่ในขณะที่เลี้ยงลูกก็คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยเปื่อย คิดถึงเรื่องราวใน

อดีตที่ผ่านมาว่าชีวิตเราผ่านอะไรมาบ้าง..ชีวิตในวัยเด็ก จำได้แต่ว่าเพียงเพราะว่า
เราเป็นผู้หญิงคนเดียวในบรรดา5พี่น้องเราก็เลยมีหน้าที่ดูแลทุกคน เป็นต้นว่า
ดูแลตายายที่แก่แล้ว จนตาจากไปตอนเรียนอยู่ม.4 ระหว่างนั้นก็ดูแลน้องชาย3คน ทำงานบ้านๆๆ เรียนๆๆ จนจบม.6

ไปเรียนต่อที่รามคำแหงกว่าจะจบได้แทบแย่ เรียนไปทำงานช่วยอาไป พ่อบ่นว่าจะรับปริญญากับองค์ภาเหรอ ตอนที่พ่อพูดนี่ปี 33องค์ภายังเด็กๆอยู่เลย แต่ก็จบนะ พ่อเสียปี34 อุบัติเหตุรถยนต์ประสานงา ฝ่ายตรงข้ามเมาแล้วขับ ชีวิตเราเสียหลักมานับแต่บัดนั้นจนบัดนี้ เรียนจบปี35 ไม่มีรูปถ่ายงานรับปริญญาสักใบ ทำใจไม่ได้พ่อไม่อยู่

จากนั้นก็ไปใช้แรงงานที่ญี่ปุ่น ทำโรงงานพลาสติค
งานเบาๆแต่เงินดี ทำงานปลดภาระให้ทางบ้าน ไปกับน้องชายทั้ง3คนคิดถึง
บ้านใช้หนี้หมดก็กลับบ้านมีเงินนิดหน่อยพอไม่อยากได้อะไรอีก

ก็มีครอบครัว ทำร้านอาหารที่ต่างจังหวัด ทำโรงไม้ ทำท่าทราย ไม่รุ่งสักเรื่องแถมมีปัญหามากมาย... ทำท่าว่าจะได้ไปเมืองนอก ก็มีพี่ๆที่เขารักเราเหมือนน้องพยายามจะช่วย แต่ก็มีพี่ที่เราเคารพปาดหน้าไปซะ ทำให้เราเป็นคนไม่ดี ก็เลยล่ม

จากนั้นก็มาอยู่กรุงเทพ ทำงานที่ถนัดร้านอาหารเหมือนเดิม กำลังจะดี ทำได้ไม่กี่เดือนเพราะสู้ค่าเช่าไม่ไหวเงินทุนหมด เครื่องมือทำมาหากินกระจัดกระจาย กลับไปต่างจังหวัดทำร้านก๋วยเตี๋ยว ขายถูก ตื่นตี5 คนเยอะแต่ทำแล้วไม่เหลือ

เพื่อนชวนไปอินโด ทำไปทำมา น้องสาวเพื่อนที่นั่นบอกให้ช่วยทำให้เพื่อนเลิกกับแฟนเขาที เครียดมาก ไหนจะเพื่อน ไหนจะน้องเพื่อน ก็ต้องเลือกเพื่อนเพราะคบกันมายาวนาน น้องเพื่อนไม่ปลื้ม อยู่จนวีซ่าจวนหมดก็กลับไทย

มีปัญหากับครอบครัวแฟนมานานปี ครอบครัวเค้าเป็นแม่ค้า ทำอย่างเดียว เราว่าเราทำเต็มที่แล้วก็ไม่เคยถูกใจ ก็เลยไปจากลูกชายเค้าดีกว่าให้เค้าหาใหม่ พอดีช่วงนั้นแม่พาไปขอวีซ่าไปออสเตรเลีย ได้วีซ่าท่องเที่ยวมา ไปขอหย่ากับแฟนเพราะต้องการไปจ้างคนแต่งงานที่ออสเตรเลียเพื่ออยู่อย่างถูกต้องใช้เป็นข้ออ้างแต่หย่าแล้วก็เลิกจริงๆ

ไปถึงออสเตรเลีย คนรู้จักกันที่นู่นพาไปทำงานไร่องุ่น โอ้โห ไม่เคยทำไร่ทำนามาก่อนมือเท้าบวมเป่ง เดินแทบไม่ได้ อดทนทำได้อยู่10วัน ตื่นเต้นกับต.มก็เลยเลิกทำ เพื่อนจะแนะนำหนุ่มให้ สรุปบอกต้องทดลองอยู่ด้วยกันก่อน จะอยู่อย่างไรกัน ไม่ได้รัก อยู่แล้วมันไม่เอามิเปลืองตัวฟรีๆเหรอ ทำใจไม่ได้ก็เลยขอกลับไทยดีกว่า

ถึงกรุงเทพหาเงินค่าตั๋วไปอินโด เพื่อนบอกว่าทำร้านอาหารเล็กๆเผื่อว่าหาลู่ทางทำมาหากินได้ ไป5-6เดือน วีซ่าจะหมดก็เลยกลับไทย กลับไทยไม่อยากกลับบ้านเพราะกลัวแฟนเก่ารังควาน แต่ก็ได้ยินข่าวว่ามีครอบครัวไปแล้ว แต่ก็ไม่อยากเจออีก ก็ไปอยู่ลาวกับลูกพี่ลูกน้อง ไปแบบเรฟูจีมั้ง ลำบากสุดๆทำร้านอาหาร แต่อาศัยว่าใกล้แม่เลยทำอยู่ตั้งปีกว่าเชียวนะ

ทีนี้ก็มาอยู่บ้าน เวลาก็ผ่านไปจำได้บ้างไม่ได้บ้าง สุดท้ายพีชายให้มาช่วยงานร้านอาหารที่กรุงเทพ มาเป็นผู้จัดการได้4ปี หุ้นส่วนพี่ชายเลือกที่รักมักที่ชังก็เลยลาออกพร้อมแฟน แฟนที่เจอกันตอนทำงานที่ร้านพี่ชายนี่แหละ ออกมาโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองท้องด้วย

มาหุ้นทำร้านกาแฟ แฟนมีเพื่อนลงหุ้น ปรากฎว่าเพื่อนที่หุ้นจะมาเป็นหุ้นส่วนชีวิตซะนี่.....ญาติแฟนที่อยู่ด้วยกันก็เลือกเขาเพราะเขารวย แต่ไม่เลือกเราทั้งๆที่เราท้องหลานของเขาแท้ๆ แตกหักกันย้ายมาอยู่กับพี่ชายที่จะเปิดร้านใหม่ แฟนทำงานคนเดียว เราก็ท้องโตขึ้นๆ พี่ก็ล้มหมอนนอนเสื่อ คลอดหลานได้8เดือนพี่ก็เสีย

ชีวิตย่ำแย่เพราะแฟนพี่ชายไม่จ่ายเงินเดือนให้สามีเรา กดบัตรจนหนี้ท่วม จนต้องออกจากงานมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ นับ1ใหม่ แฟนก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เราก็เลี้ยงลูกอยู่บ้าน เพราะไม่กล้าให้คนอื่นเลี้ยง กลัวไปหมด เพราะข่าวมันออกมาเยอะ เกิดมาเพิ่งมีลูกเป็นคนแรกด้วย

วันนี้.....คุยโทรศัพท์กับอาที่เป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อ เราก็พูดถึงเพื่อนที่เขาไปได้ดี ดีใจกับเขา มันต่างกับชีวิตเราโดยสิ้นเชิง ที่ชีวิตมันขยับอะไรไม่ได้แล้ว อาบอกว่ามันจบแล้วลูก  ตอนนี้ก็ได้แต่พยายามประคับประคองชีวิตให้มันผ่านไปได้เพียงวันๆก็พอแล้ว

เราก็คิดไปย้อนหลังว่าเฮ้ย!!ชีวิตที่ผ่านมาเนี่ย มันประสบความสำเร็จอะไรบ้าง ความรู้ ความสามารถมี สู้แล้วได้อะไร

มองไปมองมาก็คงจะเป็นเรื่องเรียนมั้งที่เรียนสำเร็จ และ เรื่องลูกที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีแล้ว ลูกที่เกิดมาขณะที่ชีวิตเราเข้าวิกฤติ วิกฤติเป็นโอกาสลูกคือกำลังใจที่ดีที่สุดของเราในเวลานี้ มองเห็นรอยยิ้มของลูกแล้วก็ทำให้มีแรงเดินต่อไป

มันก็แปลกดีชีวิตคนเรา เค้าบอกว่าคนเราถ้าสู้แล้วไม่มีวันจน ก็นี่ไงสู้แล้วจนลงๆ เหมือนชีวิตถูกสาป ถูกคนใกล้ตัวทำให้เจ็บช้ำน้ำใจตลอดและเอาเปรียบอยู่ตลอด

ชีวิตเหมือนจะต้องอยู่ระหว่างคนสองคน สองฝ่าย ชีวิตที่ดูเหมือนจะต้องเกิดมาเพื่อดูแลคนอื่น ให้คนอื่น และเสียสละ  

ก็คงต้องนับถอยหลังให้กับชีวิตแล้วล่ะ เพราะก็มองไม่เห็นทางว่าจะมีโอกาสทำอะไรได้อีก เวลาที่เหลืออยู่ก็คงต้องประคบประหงมดอกไม้ที่อยู่กับเราให้เบ่งบานเป็นตัวตายตัวแทนต่อไป  

เราจะสอนให้เค้าเป็นคนดี คนดีในความหมายของเราคือ ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถึงแม้เราจะรู้แล้วว่า การเป็นคนดีเนี่ยมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเราดีไปกว่าเดิมเลยก็ตามที เป็นคนดีแล้วได้อะไร ดูข่าวแมวกัดคนสิ สุดท้ายคนที่ช่วยก็ตาย โทษเวรกรรมสิ ไม่รู้ตำราเล่มไหน ไม่รู้ต้องชดใช้อีกเท่าไหร่กัน พอซะทีเถอะ

แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 53 02:23:29

แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 53 02:19:25

แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 53 02:06:16

แก้ไขเมื่อ 20 มี.ค. 53 01:45:23

จากคุณ : Chantik
เขียนเมื่อ : 20 มี.ค. 53 00:55:16




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com