ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ได้ทำสัญญาเองก็น่าจะโมฆะนะ รอผู้รู้อีกทีค่ะ จากคุณ : kangkakangka เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:28:36

ความคิดเห็นที่ 2 ใช่ครับ อาจเป็นโมฆะ ได้แต่ เรื่องมันอยู่ที่ว่างเรานั้นจะได้เงินค่ามัดจำจากคนนั้นรึปล่าว จากคุณ : ผมชื่อนอร์ทครับ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:41:24

ความคิดเห็นที่ 3 เคยเจอปัญหานี้กับตัวเองค่ะ เพราะความไว้ใจ...ให้เขาหาคนเช่าบ้านให้  แต่เรามาอยู่ กทม. แรก ๆ  ก็ดี พอสักพักลายออก  พอคนเช่าเดิมออกไปเขาหาคนใหม่มาเช่าเก็บเงินไปหลายเดือนแล้วบอกเราว่าไม่มีคนเช่า  กำลังหาอยู่ แต่พอเรากลับไป ตจว. แว่ะไปดูที่บ้าน(ปกติจะกลับปีละ 1 ครั้ง) ปรากฏว่ามีคนอยู่บ้านของเราเสร็จสรรพเลยแกล้งถามคนที่อยู่บ้านนั้น เขาบอกว่าอยู่มาได้ 4-5 เดือนล่ะ เท่านั้นล่ะค่ะ ปรี๊ดแตกเลย โทหาคนที่เราฝากบ้านไว้ พอมาเจอเราหน้าเสียเลย เราบอกให้คนเช่าออกเดี๋ยวนี้ พาตำรวจไปเลยค่ะ ตอนี้บ้านหลันั้นขายไปแล้วค่ะ ตัดปัญหา เบื่อการเอาจมูกคนอื่นมาหายใจ จากคุณ : alway เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:48:42

ความคิดเห็นที่ 4 คงต้องแจ้งความเอาผิดกับผู้ดูแลบ้านให้คุณก่อนนะคะ (ความคิดส่วนต้วนะคะ) ข้อหายักยอกทรัพย์ส่วนที่เป็นเงินมัดจำกับค่าเช่าที่ผู้เช่าจ่ายไป และก็ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร เพราะไม่มีหนังสือมอบอำนาจจากคุณ เขาไม่สามารถทำเองได้นะ สัญญาก็ต้องเปลี่ยนมาทำใหม่กับคุณ แต่คุณอาจต้องเก็บค่าเช่าเดือนต่อไป โดย ที่เงินมัดจำและค่าเช่าบางส่วนต้องไปตามกับผู้ดูแลบ้านของคุณแทนตามที่คุณแจ้งความไป ยังไงรอผู้รู้ด้านกฎหมายอีกทีนะคะ จากคุณ : An_Angel_one เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:49:26

ความคิดเห็นที่ 5   ฟ้องขับไล่คนที่เช่าอยู่ ให้เขาไปตามไล่บี้คนที่คุณฝากบ้านไว้เอาเอง เพราะคุณไม่รับทราบการเช่าในครั้งนี้ จากคุณ : TLL01 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:54:44

ความคิดเห็นที่ 6   จขกท ตั้งให้เพื่อนคุณไปทำการหาคนมาเช่าเอง เพื่อนคุณคือตัวแทน ส่วน จขกท คือ ตัวการ สัญญาเช่าจึงมีผลผูกพัน จขกท ทุกประการ เพื่อนของ จขกท หนีไป มันก็ไม่ทำให้สัญญาเช่าเป็นโมฆะ เพราะทุกอย่างทำตามขอบเขตอำนาจของตัวแทน แต่ว่าการที่ตัวแทนไม่ส่งเงินให้ จขกท เป็นการทำผิดหน้าที่ตัวแทนเท่านั้น และเงินที่ตัวแทนรับไว้ไม่ส่งคืนให้คุณ จขกท ก็ไปไล่เบี้ยเอาผิดเอง ส่วนคนเช่า ย่อมอยู่ได้โดยสัญญาเช่า จขกท จะไปไล่ออกเพราะคุณเก็บเงินจากตัวแทนคุณไม่ได้นั้น คงทำไม่ได้ครับ เรื่องนี้ผู้เช่าเป็นบุคคลภายนอก ไม่รับรู้เรื่องการทำผิดหน้าที่ของตัวแทนคุณ อีกอย่างการเช่าทรัพย์ กฎหมายไม่บังคับว่าคนให้เช่าต้องเป็นเจ้าของเสมอไป เพราะเป็นการใช้ทรัพย์ ไม่ใช่โอนทรัพย์ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 13:16:36 A:125.25.190.85 X: TicketID:202744

ความคิดเห็นที่ 7 ผมก็มีความเห็นแบบ ข้างบน  คคห.6 เป็นการยักยอกเงินของคนที่คุณไว้วางใจให้เขาจัดการดูแล   และก็เป็นไปตามนี้มาตลอด   หากวันนี้คุณยังได้รับค่าเช่าอยู่   สัญญาที่ทำไว้โดยผู้ดูแล  คุณก็คงไม่สนใจ  ถูกมั้ยครับ ดังนั้นต้องเล่นงานผู้ดูแล  แล้วผู้เช่ารายปัจจุบันก็ต้องได้อยู่ตามที่เขาจ่ายเงินแล้ว   ครบสัญญาเมื่อไรก็เป็นสิทธิ์ของคุณที่จะต่อสัญญาหรือไม่ต่อ ยังไงก็ให้ยึดหลักเมตตาไว้ด้วยนะครับ  การกระทำป็นเจตนาบ่งบอก จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 14:52:50

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกความเห็นเลยค่ะ แต่คห.6 คะ เราไม่ได้แต่งตั้งเขาเป็นตัวแทนทำสัญญานะคะ เราแค่พูดกันว่าให้เขาช่วยหาคนมาเช่าเท่านั้น เหมือนเขาเป็นนายหน้าอ่ะค่ะ แล้วเขาก็ไปทำสัญญาประหนึ่งเขาเป็นเจ้าของเอง โดยไม่บอกเรา แล้วเราก็ยังเก็บใบสัญญาเช่าของคนก่อนหน้านี้ไว้ด้วย มีเราเซ็นชื่อเป็นผู้ให้เช่า แล้วเขาเซ็นชื่อเป็นพยานเท่านั้น จากคุณ : ม่านมัสลิน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:00:42

ความคิดเห็นที่ 9 คห.7 ไม่ใช่ค่ะ ที่ผ่านมาเวลามีคนมาเช่า เขาต้องบอกให้เราไปทำสัญญาเองทุกครั้ง และบอกให้ผู้เช่าโอนเงินให้เราโดยตรง ไม่เคยให้เขาทำสัญญาให้ ตอนนี้ก็ยังเก็บใบสัญญาเช่าอันเก่ากับคนก่อนไว้อยู่ เราเซ็นชื่อเป็นเจ้าของบ้านให้เช่า แล้วเขาเป็นพยาน แล้วก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเมตตาค่ะ นี่เราก็จะรอเขาจนถึงที่สุด ว่าจะเอายังไง ตอนนี้แค่เสียความรู้สึกเท่านั้น ว่าคนดีๆทำไมเปลี่ยนไป ส่วนคนเช่า เราก็คุยกันว่าถ้าตามตัวเขาไม่เจอจริงๆ เรากับผู้เช่าจะไปแจ้งความด้วยกัน จากคุณ : ม่านมัสลิน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:11:40

ความคิดเห็นที่ 10 คำว่า "ทำสัญญาเช่าเอง" หมายถึง เขาคนนั้น ไปเป็นคู่สัญญาเองหรือเปล่าครับ เพราะหาว่าเป็นตามนั้น คนเช่าก็ไม่สามารถเช่าบ้านหลังนั้นอยู่ได้ แม้จะอ้างว่าเขาคนนั้นเป็นตัวแทน ตาม ที่คห.๖ บอกก็ตาม เพราะว่า ตัวแทนนั้นมีอำนาจจำกัดเพียงการเป็นนาหน้าหาเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงการรับมอบอำนาจดำเนินการอื่นๆที่ไม่ได้รับมอบสิทธิ์ไป สัญญาเช่าที่ทำขึ้น ผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์สิน จึงไม่อาจโอนสิทธิ์นั้นให้กับผู้เช่าครอบครองได้ ดังนั้น ผู้เช่าจึงไม่มีสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นมาตั้งแต่แรก กรณีเหมือนกับที่ดินวัดสวนแก้ว ที่แม้จะซื้อที่ดินมาถูกต้องมีการจดทะเบียนเรียบร้อยที่สนงที่ดิน แต่เมื่อสุดท้ายพิสูจน์ได้ว่า ผู้ขายไม่มีสิทธิ์ในที่ดิน ก็ไม่สามารถส่งต่อกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นให้แก่วัดสวนแก้วได้ จึงทำให้วัดต้องคืนที่ดินแก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงครับ ฉะนั้น ฟันธงว่า ผู้เช่าหากจะเช่าต่อ ต้องมาทำสัญญาใหม่กับผู้ให้เช่า มิฉะนั้นต้องย้ายออกจากบ้านเช่านั้น ทันทีที่เจ้าของบ้านร้องขอ มิเช่นนั้นจะถือได้ว่าบุกรุกครับ ป.ล. น่าสงสารผู้เช่าที่สุดครับ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ยังไง รบกวนจขกท.ผ่อนปรนเงื่อนไขบ้างนะครับ จากคุณ : <<First>> เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:14:05

ความคิดเห็นที่ 11   คุณ จขกท ครับ การตั้งตัวแทนไม่จำเป็นต้องทำเป็นหนังสือหรือทำอะไรให้มันดูเป็นพิธีการหรอกครับ และแม้ในทางกฎหมายจะบอกว่า การตั้งตัวแทนเพื่อกิจการที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าต้องมีหลักฐาน การตั้งตัวแทนก็ต้องมีหลักฐานด้วยก็ตาม แต่ก็ไม่ทำให้การตั้งตัวแทนที่ไม่มีหลักฐานเสียไป เพราะตัวแทนนั้น เค้าทำหน้าที่เชิดคุณ ออกหน้าแทนไปหมดแล้ว และคุณเองก็รู้มาตลอด และก็ปล่อยหใค้จัดการมาตลอด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่คุณถูกเชิดออกหน้าไปเรียบร้อยแล้วครับ ในทางกฎหมายเรื่องนี้การตั้งจริงจังหรือทำสัญญาหรือมอบหมายกันหรือไม่ ไม่มีประเด้นแล้วครับ ประเด็นอยู่ที่คุณต้องรับเอาสัญญาเช่านั้นมาและก็เข้ามาดูแลเองทั้งหมดในฐานะตัวการครับ ผู้เช่าเค้าเป็นบุคคลภายนอก เค้าไม่รู้หรอกว่าคุณสัญญาอะไรกันไว้บ้าง จู่ๆคุณจะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นไม่ได้ แถมจะมาไล่ผู้เช่า หรือเก็บเงินเพิ่มอีก คงไม่ได้ครับ จากคุณ : คห6 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:20:13 A:125.25.190.85 X: TicketID:202744

ความคิดเห็นที่ 12   คุณ คห10 ครับ ผมมองว่าเรื่องนี้เพื่อน จขกท ดันเชิดตัวเองแทน จขกท ไปแล้วครับ ทำให้ผู้เช่าเข้าใจไปว่า เพื่อน จขกท มีอำนาจกระทำได้ อีกอย่างสัญญาเช่าใครๆก็ให้เช่าได้ แม้ว่าไม่ใช่ทรัพย์ของตนเองก็ตาม อย่าลืมนะครับ กฎหมายคุ้มครองบุคคลภายนอกที่สุจริตนะครับ หากเรื่องนี้ จขกท อ้างว่า ไม่รู้ไม่เห็น ไม่เคยมอบหมายอะไรเลย แต่จริงๆอาจรวมหัวกันก็ได้(สมมุติ) คนที่เสียหายคือใครครับ ถ้าไม่ใช่ผู้เช่า ดังนั้นกฎหมายจึงคุ้มครองบุคคลภายนอกไงล่ะครับ ส่วน จขกท ก็ต้องไปว่ากล่าวกับเพื่อนอีกทีว่ากระทำเกินหน้าที่ของตัวแทนในกิจการที่มอบหมายเท่านั้น แต่สำหรับผู้เช่าแล้ว ยังไง จขกท ก็ต้องรับสิทธิและหน้าที่มาทั้งหมดครับ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:25:10 A:125.25.190.85 X: TicketID:202744

ความคิดเห็นที่ 13 อ่านคห.คุณตามนั้น แล้วกลุ้มใจ ที่จริงเขาไม่ใช่เพื่อนเราหรอกค่ะ คือเขาเคยเช่าบ้านเรามาก่อน พอเขาย้ายออกไป ก็อยู่แถวๆนั้นแหละ เราก็เลยขอให้เขาช่วยหาคนมาอยู่แทน เขาก็หาให้มาหลายคนแล้ว เราก็มีค่าตอบแทนให้เขา จะว่ากลายเป็นเพื่อนก็ได้อะเนอะ เราก็เห็นใจคนเช่าเหมือนกัน ก็มีปรึกษากันว่าจะทำยังไง ถ้าทำสัญญากันใหม่ แล้วให้โอนเงินค่าเช่าให้เราโดยตรง แต่ติดที่เงินมัดจำที่คนเช่าจ่ายให้คนนั้นไปแล้วนี่สิ ที่มีปัญหา ตอนนี้ทั้งเรากะคนเช่าก็ได้แต่ช่วยกันตามหาคนก่อเรื่องให้มาเคลียร์ จากคุณ : ม่านมัสลิน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:48:54

ความคิดเห็นที่ 14 ถือซะว่าให้เพื่อน จขกท. เป็นค่าดำเนินการแทนเป็นเวลา 10 ปีละกันนะค่ะ  ก็เอาสัญญาฉบับใหม่ไปให้คนเช่าเซ็นต์แบบไม่ต้องเก็บเงินย้อนหลัง เก็บค่ามัดจำเพิ่ม 1 เดือนก็พอ เดือนต่อ ๆ ไปก็ให้เขาจ่ายโดยตรงกับ จขกท ถ้าเพื่อน จขกท. ไปเก็บบอกเขาไปว่าไม่ต้องจ่ายกับคนนั้น ถ้ามีปัญหาให้เพื่อน จขกท. โทรฯ เคลียร์กะ จขกท. เอง แต่แหม เห็นใจคนเช่าเหมือนกันนนะ แล้วเวลาเขาย้ายออกจะได้เงินค่ามัดจำคืนยังไงละเนี่ย เพราะเขาเองก็ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นว่าเพื่อน จขกท. จะโกง จากคุณ : คนกาฬสินธุ์ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:54:14

ความคิดเห็นที่ 15   ยิ่ง จขกท อธิบายใน คห13 ยิ่งชัดใหญ่ว่า คุณให้เพื่อน(เรียกเพื่อนแล้วกัน) หาคนมาเช่าบ้านให้หน่อย แน่นอน เพื่อนคุณย่อมต้องออกไปเป่าประกาศว่ามีบ้านให้เช่า จะเช่ามั้ย ถ้าเช่าก็มาเช่าได้เลย และยิ่งทำแบบนี้มาตลอด 10 ปี คนเช่าก่อนๆหรือคนเช่ารายใหม่ ก็อาจจะเข้าใจผิดไปว่า เพื่อนคุณนี่แหละเป็นเจ้าของ หรือไม่ก็มีอำนาจกระทำการให้เช่าเองได้ทั้งหมด เรื่องนี้ จขกท ถูกเชิดไปโดยปริยายแล้วครับ ยังไงก็ต้องให้ผู้เช่า ๆ ต่อไปจนครบสัญญาครับ ส่วนเรื่องค่ามัดจำ ค่าเช่าล่วงหน้า ต้องคืนหากผู้เช่าไม่ผิดสัญญา จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:21:43 A:125.25.190.85 X: TicketID:202744

ความคิดเห็นที่ 16 มาอธิบายเพิ่ม เพื่อคุณตามนั้น กับ จขกท. จะได้ไม่เถียงกัน -คือว่า ประเด็นหลักที่น่าพิจารณาคือว่า ผู้เช่ารู้มาก่อนหรือไม่ว่า บ้านหลังนี้เป็นของใคร หรือว่า เขาคนนั้นจัดการรับสมอ้างเองตั้งแต่แรกว่าเป็นของเขาเอง ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว แสดงว่า ผู้เช่าไม่ได้ทำสัญญาโดยความสำคัญผิดว่าเขาคนนั้นเป็นผู้รับมอบอำนาจจาก จขกท. หรือไม่ได้เจตนาเอา จขกท. เป็นคู่สัญญาตั้งแต่แรก หากเป็นอย่างนี้ สัญญานั้นย่อมไม่มีผลตั้งแต่แรก เป็นไปตามที่ผมฟันธง แต่หากว่า เขาคนนั้นอ้างว่าเป็นตัวแทนของ จขกท. และ ผู้เช่าก็ทราบมาตั้งแต่ต้นว่าบ้านนี้เป็นของ จขกท. อย่างนี้ จึงต้องไปพิจารณาอีกทีหนึ่งว่า เขาคนนั้นกระทำการในลักษณะใด และการที่กฎหมายคุ้มครองคนนอกที่สุจริตนั้น มิได้หมายถึงคุ้มครองคนนอกแล้วให้ เจ้าของบ้านต้องเสียผลประโยชน์แทน เช่นกรณีนี้ จะคุ้มครองเพียงเฉพาะ เจ้าของบ้านจะไปเรียกค่าเช่าย้อนหลัง ๒ งวดที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ไม่ได้ผูกมัดให้เจ้าของบ้านต้องตกเป็นคู่สัญญา หากไม่แล้ว ใครๆ ก็คงสามารถไปประกาศให้เช่าบ้านคนอื่นๆได้ โดยที่เจ้าของบ้านไม่รู้ แต่ต้องมาตกอยู่ในเงื่อนไขสัญญาภายหลัง อย่างนั้นหรือครับ จากคุณ : <<First>> เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 19:00:38

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณค่ะคุณfirst เราก็คิดเหมือนคุณ ผู้เช่าไม่ทราบค่ะว่าบ้านนี้เป็นของใคร เพิ่งจะทราบเมื่อเราไปแสดงตัว เราก็ไม่เรียกค่าเช่าย้อนหลัง 2 เดือนจากผู้เช่าอยู่แล้ว ตอนนี้เรากับผู้เช่าช่วยกันตามทวงเงินมัดจำแต่ยังไม่มีวี่แววเลย จากคุณ : ม่านมัสลิน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 21:17:39

ความคิดเห็นที่ 18 ยังไงเดือนต่อไปก็ให้ผู้เช่าจ่ายกับคุณก็พอแล้วล่ะครับ เรื่องเงินมัดจำอะไรที่มันผ่านไปแล้ว ก็ไล่เบี้ยเอากับคนผิดดีกว่าครับ จากคุณ : basicguy เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 02:17:01

ความคิดเห็นที่ 19   และการที่กฎหมายคุ้มครองคนนอกที่สุจริตนั้น มิได้หมายถึงคุ้มครองคนนอกแล้วให้ เจ้าของบ้านต้องเสียผลประโยชน์แทน เช่นกรณีนี้ จะคุ้มครองเพียงเฉพาะ เจ้าของบ้านจะไปเรียกค่าเช่าย้อนหลัง ๒ งวดที่ผ่านมาไม่ได้ แต่ไม่ได้ผูกมัดให้เจ้าของบ้านต้องตกเป็นคู่สัญญา หากไม่แล้ว ใครๆ ก็คงสามารถไปประกาศให้เช่าบ้านคนอื่นๆได้ โดยที่เจ้าของบ้านไม่รู้ แต่ต้องมาตกอยู่ในเงื่อนไขสัญญาภายหลัง อย่างนั้นหรือครับ จากคุณ : <<First>> เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 19:00:38 ถูกใจ มันคงไม่ง่ายอย่างที่พูดหรอกนะครับว่า ใครๆก็เอาบ้านคนอื่นไปให้เช่าก็ได้ โดยเจ้าของไม่รู้ เพราะในทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากต้องส่งมอบทรัพย์ที่เช่า ถ้าคนให้เช่าไม่ใช่ตัวแทนเจ้าของ หรือได้รับมอบอำนาจจากเจ้าของ จะส่งมอบทรัพย์กันอย่างไร อีกอย่างกรณีนี้ จขกท ก็ให้เค้าทำหน้าที่นี้มานานเป็นสิบปี จึงเป็นเหตุผลที่คนเช่าแถวนั้นย่อมเข้าใจไปแล้วว่า คนนี้มีอำนาจให้เช่าได้ ส่วน จขกท นั้น ผมไม่ตำหนิครับ เพราะย่อมเอาความเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองมาพิจารณาอยู่แล้ว ย่อมเป็นของธรรมดา แต่หารู้ไม่ในการต่อสู้ทางกฎหมาย หรือคุณจะบังคับขับไล่เค้าเนี้ย มันไม่ง่ายหรอกครับ อย่าคิดเอาง่ายเข้าว่า หรือไปเชื่อใครต่อใครที่เค้าเห็นด้วยกับคุณ จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 07:16:00 A:113.53.188.45 X: TicketID:202744

ความคิดเห็นที่ 20 คุณเจ้าของกระทู้คะ หากตามเอาเงินมัดจำล่วงหน้า 3 เดือนคืนไม่ได้ยังไงก็ต้องจ่าย เงินมัดจำคืนผู้เช่านะคะ เห็นใจคนมาเช่าจัง เราว่าหากไม่จ่ายคืนเป็นเงิน ก็ตกลงกัน แบบว่าขอจ่ายแบบเช่าบ้านเดือนท้ายๆ (ก่อนย้ายออก)อยู่ฟรีไปก็ได้ บ้านคงไม่ สึกหรออะไร คนเช่าจ่ายแต่ค่าน้ำ-ไฟ คนเช่าคงเข้าใจคุณและหยวนๆ ให้นะคะ จากคุณ : noyne เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 53 00:58:15