|
ความคิดเห็นที่ 30 |
ผม 43 เคยมีแฟน สวยระดับนางงาม ประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นผมทำงานที่โรงงาน แล้วลงทุนทำหอพักด้วย พอแต่งงาน แฟนผมอยากทำร้านเช่าหนังสือ ผมก็ให้แฟนผมทำอยู่ชั้นล่างของหอพัก และให้เธอเก็บค่าเช่าหอด้วย ค่าใช้จ่าย การลงทุนในร้านทั้งหมด ผมเป็นคนจ่าย เธอจ้างลูกจ้างด้วย 2 คน ผมก็เป็นคนจ่าย ผมซื้อรถให้เธอขับ สอนเธอขับรถ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถเดือนละประมาณ 3,000 บาท ผมก็เป็นคนจ่าย แถมให้เงินเดือนเธออีกเดือนละ 50,000 บาท กับบัตรเสริมเครดิตการ์ดของผมอีก ผมไม่ได้เป็นฝ่ายไปจีบเธอก่อนนะครับ เราเจอกันขณะไปเที่ยวที่ภูเก็ต เธอบอกรักผมหลังจากนั้น 2 เดือน ตอนนั้นก็รู้สึกชอบเธอเหมือนกัน ประกอบกับคิดว่า น่าจะมีครอบครัวได้แล้ว อยากมีหุ้นส่วนชีวิตเหมือนกัน
หลังแต่งงาน 6 เดือน เธอก็ทิ้งผมไป ทิ้งร้านไปเฉยๆ ลูกค้าจะมาเช่า คืนหนังสือก็ไม่ได้ ผมต้องลงไปทำเอง จนร้านปิดกิจการ ผมลองไม่ให้เงินเดือน ยกเลิกบัตรเครดิต เธอก็ไม่สนครับ เพราะแฟนใหม่เธอรวยกว่าผม (เพื่อนผมเอง) งานนี้ ผมหมดเงินไป 5 ล้านกว่าบาท ทั้งค่าสินสอดทองหมั้น ค่างานแต่ง ค่ารถ ค่าใช้จ่ายเธอแต่ละเดือนนี่มากกว่าผมซะอีก แต่ผมเป็นคนจ่าย จากที่แค่ชอบ กลายเป็นหลงรัก เมื่อเวลาผ่านไป ยอมรับเลยนะ ว่างานบ้านเธอดีมาก การพูดจา น้ำเสียง รูปร่างหน้าตาดี เซ็กซ์จัดอีกต่างหาก พอเธอจากไป ผมเกิดอาการเสพติด ชีวิตนี้เหมือนขาดเธอไม่ได้ จนต้องไปคุยกับหมอทางจิตเวช เวลาผ่านไป 2-3 ปี ด้วยความที่ว่างมาก ไม่มีอะไรทำ หมอแนะนำให้มีสังคม เลยไปเรียนภาษาอังกฤษที่สถาบันแห่งหนึ่ง เรียนไปได้ 5-6 เดือน มีน้องผู้หญิงคนนึง หน้าตาดี(อีกแล้ว) ขอมาอยู่กับผม ในฐานะที่เป็นพี่น้องกัน ก่อนหน้านั้น เธอเป็นพรีเซนเตอร์ของมือถือยี่ห้อนึง ต่อมา ก็ทำงานเป็นพริตตี้ตามงานต่างๆ ครั้งนี้ ผมไม่ให้อะไรครับ นับถือกันแบบพี่น้อง เธอมาอยู่กับผม ก็ช่วยงานบ้านบ้าง ไม่ช่วยบ้าง ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะผมจ้างแม่บ้านได้ แต่ประสบการณ์ที่ได้มานี่สิ ไม่มีวันลืม ในสังคมน้องๆ พริตตี้พวกนี้ จะมีผู้ชายมาจีบเยอะ ตอนแรกน้องแกก็ให้ผมไปช่วยไล่ อ้างว่าเป็นพี่ชายแท้ๆ ตอนหลังเพื่อนๆ เธอให้ผมไปช่วยไล่มั่ง มีอยู่คนนึง ให้ผมอ้างไปเลยว่าเป็นแฟนกับเธอ คราวนี้ผู้ชายมันไม่เชื่อ เธอเลยมานอนค้างบ้านผม ผู้ชายคนนั้นมันก็ตามมาอีก เธอบอกให้ผมไปไล่ ผมก็เบื่อเรื่องแบบนี้ ก็บอกเธอไปว่า ช่างหัวมัน มันอยากเฝ้าอยู่หน้าบ้านก็เรื่องของมัน เดี๋ยวมันเบื่อก็กลับไปเอง เราก็ไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ ซักหน่อย น้องเธอบอกผมว่า งั้นเราก็มาเป็นแฟนกันจริงๆ สิ เดี๋ยวคืนนี้... นอนห้องพี่ล่ะกัน ... เกลียดไอ้... จริงๆ เป็นแฟนกับพี่ดีกว่า คืนนั้นผมไม่ได้นอนกับเพื่อนน้องสาวผมหรอก ผมให้เธอนอนกับน้องสาวผม ไอ้ผู้ชายคนนี้นี่ มันรักจริงแล้วไม่ถอย น้องที่เป็นเพื่อนกับน้องสาวผม เอาเป็นว่า ชื่อ อ ล่ะกัน ไปเป็นพริตตี้งานไหน มันตามไปถึงนั่น มันบอกว่า ผมไม่ได้เป็นแฟนกับ อ จริงๆ หรอก เห็นผมแกล้งไปขู่ ไปไล่คนโน้นคนนี้ อ้างว่าเป็นพี่ชาย แต่มีคนมาบอกมันว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่ กลายเป็นว่า พอตอนเช้า น้องสาวผมไปทำงาน ผมต้องตามไปด้วย พอพักกลางวัน น้องสาวผม ตัวผม แล้วก็ อ ต้องไปกินข้าวด้วยกัน ไอ้ผู้ชายบ้าคนนั้นก็ตามมาดู เลิกงานก็กลับด้วยกัน จริงๆ ตอนแรก อ เช่าหอพักอยู่ แต่ตอนหลังกลับมาอยู่บ้านผม ตอนนั้น ชีวิต 3 คน พี่ชาย น้องสาว เพื่อนน้องสาว รู้สึกมีความสุขจริงๆ ผมชอบไปเที่ยว ตจว. เวลานอนโรงแรม ผมนอนคนเดียว ให้น้องสองคนนอนอีกห้อง มีคนชอบว่าผมควงทีเดียวสองคน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงผมไม่เคยมีเซ็กซ์กับน้องสองคนนี้เลย เกือบลืมผู้ชายคนนั้น สุดท้ายมันก็เลิกตามตื้อ อ เพราะคิดว่าผมกับ อ เป็นแฟนกันจริงๆ ผ่านไป 2-3 ปี น้องสาวผมและ อ เริ่มตกงาน รายได้ไม่พอรายจ่าย ผมก็ต้องให้เงินเดือนน้องสาวผม และ ผมจะให้เงินเดือน อ ด้วย แต่ อ มาคุยกับผมว่า จะให้เธอในฐานะอะไรล่ะ แค่นี้ก็เป็นบุญคุณเหลือล้นแล้ว ยกเว้นว่า ผมจะเป็นแฟนกับเธอ จะได้ไม่น่าเกลียด ไม่งั้นเธอก็ต้องออกไปจากบ้านนี้ กะว่าจะหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขนมจีนแบบบุฟเฟห์ ตอนนั้น ผมรู้สึกใจหาย แต่ก็ขอคิดดูก่อน คิดไม่นานครับ ตกลงว่า เป็นแฟนเธอ พอผมเป็นแฟนกับ อ แฟนน้องสาวผมก็ขอให้น้องสาวผมไปอยู่ด้วย น้องสาวผมก็มาบอกผม ผมรู้สึกใจหายอีก พอน้องสาวผมไป ผมก็อยู่กับ อ ได้ซักพัก มีผู้ชายคนนึง มาจีบ อ โดยที่ อ ไม่ได้บอกว่ามีแฟนอยู่แล้ว ผู้ชายคนนี้ ผมดูออกตั้งแต่แรกว่า มาหลอก อ ผมก็เตือนเธอบ่อยๆ แต่ อ ไม่สนใจ ตอนนั้นผมพูดอะไรผิดหมด สุดท้ายเธอก็ไปจากผม 6 เดือนต่อมา อ พยายามกลับมาหาผม ทั้งโทรศัพท์ ส่ง sms มาหาผมที่บ้าน ขอโทษผม ขอให้ผมให้โอกาสเธออีกครั้ง แต่ผมไม่ยอม เพราะคิดว่า มีครั้งนี้ก็ต้องมีครั้งหน้า ตอนนั้นผมพูดจาบอกเธอดีๆ เธอกลับดูถูกผม หลายครั้งคิดถึงอดีตที่ผ่านมา มีทั้งสุขและทุกข์ ผมคิดว่าอยู่คนเดียวสบายใจกว่า มีเรื่องที่ผมเคยตั้งกระทู้ในโต๊ะสวนลุม เมื่อประมาณหกเดือนที่ผ่านมา ผมไปเรียนภาษาจีนที่สถาบันแห่งนึง เจอน้องผู้หญิงคนนึง ทั้งฐานะ ความรู้ ความสามารถ ดีกว่าผม กำลังจะจบโทเกษตรศาสตร์ บริหาร (ไม่ยักกะรู้ว่าเกษตรศาสตร์ มีคณะบริหาร) มาขอให้ผมช่วยไปโกหกคนที่บ้านให้หน่อย ว่าเราเป็นแฟนกัน เพราะทางบ้านอยากให้มีแฟนคนไทยเชื้อสายจีน ก่อนเธอจะไปเรียนเมืองนอก ถ้าผมไม่ช่วย พ่อแม่เธอจะผิดหวัง เธอบอกผมว่า ให้คบกันแบบเพื่อน แบบพี่น้อง (เอาอีกแล้ว เหมือนกงล้อประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม) ผมจะเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่อย่าบอกความจริงพ่อแม่เธอ ผมไม่ได้ชอบอะไรเธอเลย แต่คิดว่าผู้หญิงคนนี้ใจถึง รูปร่างหน้าตาก็ดี คล้ายๆ ดาราเกาหลีที่ใครๆ เรียกยัยตัวร้ายอะไรนั่นแหละ (สงสัยเธอหรือเพื่อนๆ เธอจะอ่านเจอรึเปล่าเนี่ย) ผมถามเธอว่า ไว้ใจผมเหรอเนี่ย เธอบอกว่า รู้จักผมมาจากเพื่อน (เพื่อนคนไหนว่ะ) ก่อนจะมาเจอผมซะอีก รู้ว่าผมเป็นคนดี รักษาคำพูด ฐานะดีใช้ได้ จึงคุยกับผมตรงๆ ได้ ผมคิดแล้ว ไม่น่ามีปัญหา เพราะเธอก็ไม่ได้อยู่กับผม ความผูกพันก็ไม่เกิด เดี๋ยวเธอก็ไปเรียนต่อแล้ว เลยตกลงรับปากว่า เป็นแฟนตัวปลอมเธอไปก่อนล่ะกัน เมื่อวาน ผมเพิ่งไปคุยกับพ่อแม่เธอ กลับถึงกรุงเทพเมื่อเช้า คำถามก็เหมือนที่คาด ทำงานอะไร พ่อแม่ทำอะไร แซ่อะไร เจอลูกสาวเค้าได้ยังไง มีแผนอนาคตยังไง มีคำพูดที่ผมฟังแล้วไม่สบายใจ ตรงที่พ่อแม่เธอบอกว่า ให้ผมช่วยดูแลเธอด้วย เธอคนนี้เป็นคนตรง กลัวจะไปมีเรื่องกับใคร ถ้ามีปัญหาอะไร ให้ใช้หัวใจ อย่าใช้เหตุผลเอาชนะคะคานกัน ลูกสาวเธอคนนี้ ไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลยในชีวิต ทั้งๆ ที่มีคนมาจีบเธอมากมาย ผมเป็นคนแรกของเธอ และอายุมากกว่า จนเป็นพ่อเธอได้เลย เพราะฉะนั้น อย่าทำให้เธอเสียใจ เพราะเธอจะรับไม่ได้ เรื่องเงินทองไม่ใช่ปัญหา ขอให้รักเธอให้มาก
แล้วนี่ ถ้าในอนาคต เราบอกเลิกกันล่ะ จะบอกพ่อแม่เธอยังไง ตอนขากลับกรุงเทพ นั่งมามึนๆ งงๆ บอกไม่ถูก นึกด่าตัวเองอยู่ในใจ แก่จนป่านนี้แล้ว ทำอะไรไม่คิดให้ดีก่อน ผมรีบคุยกับน้องแกว่า ให้บอกความจริงพ่อแม่ไปเถอะ ตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าให้แกมาเสียใจทีหลัง เธอไม่ยอม เธอบอกว่า ถ้าจะบอกให้ผมบอกเอง แต่ผมก็จะผิดคำพูดนะ เวรกรรม แล้วเธอว่าผมด้วยว่า รังเกียจเธอหรืองัย ทำไมทำกับเธอแบบนี้ ทำเสียงเหมือนกับจะร้องไห้ ผมว่า เรื่องนี้ แล้วแต่บุญพาวาสนาแล้วกัน เดือนหน้าต้องไปกระบี่กับน้องเค้าอีก ขี้เกียจคิด
จากคุณ |
:
เปล่า
|
เขียนเมื่อ |
:
28 มิ.ย. 53 18:41:02
|
|
|
|
|