ความคิดเห็นที่ 1 เรื่องนี้    จะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม  เป็นเรื่องการเมืองนะเนี่ยะ  !!!!! ดังนั้น  การจะให้ความเห็นในกระทู้นี้   ขอความกรุณาท่านเจ้าของกระทู้  โปรดตอบให้กระจ่างช้ดก่อนได้ไหม  ว่า ......... ปัจจุบัน  เขาพระวิหารเป็นของใคร ? ? ? หากท่านตอบตรงนี้ได้ชัด  ชีด  ในความเป็นจริง  อันจริงแท้   บนพื้นฐานของการเคารพในสากลสัมพันธ์  ไม่เข้าข้างใคร  ไม่เอา nationalism มาบดบัง คำตอบที่ท่านต้องการในกระทู้นี้ก็จะเป็นที่แจ่มชัด  และใสสด  มีประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติเป็นที่สุด ผู้อื่นที่จะเข้ามาตอบ  ก็จะตอบด้วยสติ  และสัมปชัญญะ ด้วยความเคารพในความคิดเห็นของท่านเจ้าของกระทู้ จากคุณ : นักการทูตฝึกหัดปี 1 (Detente) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 00:51:43

ความคิดเห็นที่ 2 คุณ นักการทูตฝึกหัดปี 1 รู้สึกว่าโดยตัวของปราสาทเขาพระวิหารจะเป็นของกัมพูชา แต่ทางขึ้นและที่ดินข้างใต้เป็นของไทยนะครับ กรณีนี้ ถ้าปราสาทได้รับขึ้นเป็นมรดกโลก แล้วจะรวมถึงพื้นที่ในส่วนของไทยด้วยหรือป่าวครับ ปล. ถ้าผิดห้องก็ขออภัยด้วยครับ จากคุณ : filmee39 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 01:44:25

ความคิดเห็นที่ 3 ตามที่ #2 ว่าครับ ตัวปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา   แต่ทางขึ้นด้านฝั่งไทย ซึ่งขึ้นตามขั้นบันไดไปสูงพอสมควร (ตอนไปเที่ยวเห็นรั้วลวดหนามปักชัดเจน) รวมทั้งที่ดินจากรั้วลวดหนามลงมาข้างล่างเป็นของไทยครับ ผมไม่ทราบว่าการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเขามีเงื่อนไขกันยังไง  จึงออกความเห็นไม่ถูกครับ จากคุณ : บุญถิ่น เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 09:24:48

ความคิดเห็นที่ 4 นั่นสิ ผมสงสัยคนที่คัดค้านเนี่ย เขาเข้าใจอะไรผิดกันหรือเปล่า เขาพระวิหาร ศาลโลกตัดสินให้เป็นของไทยเป็นปีมะโว้แล้ว แต่ทำไมคนเอามาด่าว่ารัฐบาลยุดไทยรักไทย (ขออ้างนิดนึงนะ) ขายชาติให้เขมร ส่วนไอ้ที่มีเรื่องกันนี่ เรื่องกินแดน เลยเขต อะไรยังไง ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีใครออกมาให้ข้อมุล ทำไมเงียบๆ กันก็ไม่รุ จากคุณ : ทหารไทยดูบอลไทย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 09:50:44

ความคิดเห็นที่ 5 #4 ที่ผมได้ข้อมูล... ตอนทำแผนที่ไทย - กัมพูชา ฝรั่งเศสใช้แบ่งตามสันไปน้ำ แต่ตรงนี้ดันตัดชแง่นหินให้กัมพูชา ศาลโลกเขาตัดสินให้เป็นของกัมพูชา เพราะไทยไปทำนิ่งตอนทำแผนที่เสร็จ เลยใช้หลักกฎหมายปิดปาก ไทยขึ้นศาลโลกก็แพ้ ก็เลยใช้หลักไม่ยอมรับคำตัดสิน ที่ส่วนปราสาทก็ไม่ได้ยอมรับว่าเป็นของกัมพูชา ที่นี้ยุคไทยรักไทย จะเอาขึ้นทะเบียนเป็มมรดกโลก ไปออกแถลงว่าปราสาทมีส่วนเป็นของกัมพูชา เท่ากับที่เราทำไม่ยอมรับมาตั้งนาน ไปยอมรับตรงนี้แล้ว ก็เลยเป็นเรื่อง จากคุณ : gagigunggai เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 10:53:06

ความคิดเห็นที่ 6 แถบนี้มันก็ตีกันไปตีกันมา มั่วไปหมด จะไปตัดสินยังไงอ่ะ จะให้ดีก็แบ่งตามภูเขา-แม่น้ำก็น่าจะดี #4 เป็นของกัมพูชารึเปล่าครับ จากคุณ : RyanUtd เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 11:05:11

ความคิดเห็นที่ 7 ตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ถ้าขึ้นเป็นมรดกโลกก็เห็นควรด้วย เพราะจะได้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ไทยและกัมพูชาได้ประโยชน์ร่วมกัน ทางขึ้นเขาพระวิหารที่สะดวกก็อยู่ฝั่งไทย ส่วนกรณีพื้นที่ทับซ้อน(ปัญหาแบบนี้ประเทศใหญ่ๆก็มีทั้งนั้น) พื้นที่ที่ยังตกลงกันไม่ได้ว่าเป็นของใครกันแน่ถ้าจะปล่อยเอาไว้อย่างนั้น มันก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรจะปล่อยไว้เป็นร้อยปีก็ยังได้ แต่เพราะพวกนักการเมืองเล่นเกมการเมืองซะเลยเถิด ทำให้พื้นที่ตรงนี้กลายเป็นข้อพิพากตึงเคลียดขึ้นมา ก่อนหน้านี้ชาวบ้านในพื้นที่ทั้งคนไทย-กัมพูชาก็เดินทางไปมาหาสู่กัน ลูกหลานหมู่บ้านนี้(ฝั่งไทย)ก็ไปแต่งงานกับลูกหลานหมู่บ้านโน้น(ฝั่งกัมพูชา)เรียกว่ามีความสัมพันธ์เป็นเคลื่อญาติกัน งานบุญหมู่บ้านทั้งคนไทย-กัมพูชาก็เขามาช่วยงานบุญร่วมกัน พอเป็นประเด็นข้อพิพากขึ้นมา ก็ถูกปิดเขตแดน ญาติพี่น้องจะเดินทางข้ามฝั่งไปหากันก็ไม่ได้ คนที่เดือนร้อนคือชาวบ้านในพื้นที่ กลุ่มคนที่นั่งรถจากกรุงเทพไปเรียกร้องดินแดนคืนที่เคยเป็นข่าว พวกนี้ไม่ได้ลำบากหรือเดือดร้อนอะไรด้วยเลยพอเสร็จก็นั่งรถกลับ จากคุณ : ZHEZA_N1 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 11:48:38

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นบอกว่าถ้าขึ้นทะเบียนสำเร็จ ประเทศจีน(มั้ง) จะสร้างกระเช้าขึ้นที่ฝั่งของกัมพูชานะ จากคุณ : filmee39 เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 21:51:54

ความคิดเห็นที่ 9 เป็นที่ๆเคยมีไว้ให้ไปบูชา จู่ๆก็มาแย่งกัน ศิลปะของไทยมั้ย ไม่ใช่ อยู่ฝั่งไทยมั้ย ใช่ และ ไม่ใช่ ตอนสร้างเป็นของเขมร ตอนสร้างตรงนั้นไม่ใช่ชายแดน ไทยยึดมาได้เป็นสินสงคราม แต่ก็ไปแพ้ด้านกม. แต่ทุกอย่างเหมือนถูกกำหนดไว้แล้วให้เป็นแบบนี้ ถ้าไม่คบกันช่วยกันดูแล ก็ตีกันแย่งที่ท่องเที่ยว มันไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ที่ต้องสาปจะถูกกว่า สร้างเพื่อเป็นแหล่งธรรมะ แต่กลับเป็นแหล่งอธรรมมันฆ่ากัน จากคุณ : rotoyo (rotoyo) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 04:14:14

ความคิดเห็นที่ 10 ต้องไปถาม รมต.ต่างประเทศคนเก่ง กะพันธมิตร ที่พูดไว้เยอะก่อนหน้านี้ ว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว หรือว่าไอ้ที่พูดไว้ก่อนหน้าคือการระบายลมออก ........... จากคุณ : ซุ้มเฟื่องฟ้า เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 08:47:06

ความคิดเห็นที่ 11 ถึงความเห็นที่ 5 -ในคำพิพากษาของศาลโลกระบุว่า ตัวปราสาท"อยู่ในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชา"แปลว่า ตัวปราสาทและพื้นที่เหนือปราสาทสูงขึ้นไปเท่าที่ขึ้นได้ และด้านล่างใต้ดินลงไปเท่าที่ไปได้ เป็นของกัมพูชาทั้งหมด กัมพูชาจะทำอะไรก็ได้ -หลังมีคำพิพากษา ไทยได้ขอใช้สิทธิโต้แย้งคำพิพากษาไว้ ว่าหากมีข้อเท็จจริงอื่นใดสามารถนำคดีมาพิจารณาใหม่ได้อีก แต่ท้ายคำพิพากษาก็ได้ระบุเช่นกันว่า สิทธิโต้แย้งคำพิพากษาต้องใช้ภายใน10ปีนับตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษานั้น ซึ่งขณะนี้ล่วงเลยมานับสิบๆปี -ในคำพิพากษาศาลโลกไม่ได้พิพาษาว่าพื้นที่ทับซ้อนเป็นของใคร -รมต นพดล ได้ทำความเห็นร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาว่า ให้นำเฉพาะตัวปราสาทขอขึ้นทะเบียน โดยไม่มีการรวมพื้นที่ทับซ้อนไปด้วย มีการกำหนดพื้นที่ไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เพราะเป็นการเมืองหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ความเห็นร่วมของ รมต ซึ่งเป็นการกระทำของฝ่ายบริหาร(ต้องถูกตรวจสอบโดยสภา) กลับถูกศาลปกครอง ซึ่งมีเพียงอำนาจพิจารณาคดีปกครอง พิพากษาให้เป็นโมฆะ  กัมพูชาจึงไม่มีข้อตกลงร่วมใดๆกับไทยเรื่องพื้นที่ทับซ้อน จึงขอขึ้นทะเบียนทั้งหมด จากคุณ : ทีทีเจเจ เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 21:38:30

ความคิดเห็นที่ 12 ได้แสดงความเห็นตามกระทู้นี้ไปแล้วตั้งนาน  ย้อนกลับมาดูใหม่  มีสิ่งที่น่าสังเกตุจากความเห็นที่  2  ของท่านเจ้าของกระทู้เอง  คุณ  filmee 39  บอกว่า รู้สึกว่า..............รู้สึกว่า  ................โดยตัวปราสาทเขาพระวิหาร...... ใคร่ขอเรียนว่า   ไม่ว่าจะเป็นความเห็นทางการเมือง รัฐศาสตร์  หรือกฎหมาย  โดยเฉพาะความเห็นคอขาดบาดตายในเรื่องเขตดินแดนของบ้านเมือง  นั้น  สำคัญมาก  ดังนั้น   " ดังนั้น  ท่านไม่อาจเอาคำขึ้นต้นว่า  " รู้สึกว่า........ "   " รู้สึกว่า......" มาใช้ในกรณีสำคัญเช่นนี้ได้ นะ เพราะเรื่องของการทูต  หรือกฎหมาย  หรือเขตแดนบ้านเมือง เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง   มิใช่จะเอาความ  " รู้สึก " มาเป็นเกณฑ์กำหนด เราจะเสียบ้าน  เสียเมือง  เสียดินแดน  ก็เพราะไอ้ความไม่แน่ใจ  แต่ใช่ความ  " รู้สึก"  นี่แหละมาตัดสิน ขอเรียนว่า " ความรู้สึก "  นี่นะ  เหมาะสมที่สุดที่จะใช้เฉพาะกับในเรื่องเพศ SEX เท่านั้น สุดท้าย  ขอเรียนท่านเจ้าของกระทู้  โปรดสังเกตุ  นักกฎหมายที่แท้จริงที่มาตอบกระทู้ในห้องสำคัญ  "ศาลาประชาคม "แห่งนี้ ไม่มีผู้ใดใช้คำว่า  " รู้สึกว่า ..... " ด้วยความเคารพ จากคุณ : นักการทูตฝึกหัดปี 1 (Detente) เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 15:53:54