ความคิดเห็นที่ 1 ผมว่าไม่ควรจำกัดสิทธิ แต่ควรรณรงค์ขอความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัยต่อทรัพย์สินของประชาชนเองมากกว่า ก็เหมือนกับ เมาไม่ขับ  / ง่วงไม่ขับ แต่กรณีนี้เป็น กด ATM ไม่โทร ผมเห็นด้วย ถ้าจะประชาสัมพันธ์ให้รู้กระบวนการหลอกลวง แต่สังคมไทยต้องการอะไรง่ายๆ ฟังสั้นๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าก่อน แต่ยังไงก็ควรทำคู่กันไปทั้งการให้ความรู้ กับการให้คำเตือนแบบเข้าใจง่ายๆ เพราะแค่กด ATM โดยไม่โทร ก็ลดความเสี่ยงไปได้เยอะแล้วนะ อีกอย่าง BANK น่าจะให้ความร่วมมือด้วย โดยขึ้น pop up เตือน หรืออะไีรก็แล้วแต่ที่ระบบเอื้ออำนวยต่อการป้องกันการหลอกลวงแบบนี้ จากคุณ : wealthyman เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 12:01:29

ความคิดเห็นที่ 2 มันไม่จบแค่นี้หรอกครับ วิธีการของมิจฉาชีพไม่เคยหยุด  คนที่จะหยุดได้ในท้ายที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตัวเราเอง ผมไม่เถียงว่าดี  ที่หลายท่านใส่ใจและหาทางแก้ปัญหาให้ครับ เช่นกรณีนี้ แต่ถ้าเราไม่หาทางที่จะทำให้เรารอดจากอันตรายด้วยตัวเองแล้ว  พอวิธีการเปลี่ยนไป  แล้วเราต้องไปเจอ  หลายๆท่านที่เป็นห่วงและใส่ใจ  จะไปอยู่ข้างคุณตลอดเวลาหรือป่าว สิ่งที่ควรทำคือ ระลึกอยู่เสมอว่าต้องให้เวลากับความคิด และให้มั่นใจก่อนจะทำ ถ้าเห็นว่าเป็นโอกาสแล้วรีบทำ  มันก็อาจกลายเป็นหายนะได้  ถ้าเห็นว่ามันเป็นเรื่องเร่งด่วนต้องรีบแก้ไข  แล้วลองคิดว่าถ้าแก้ไขไปแบบไม่ถูกจุด  ปัญหามันจะเพิ่มขึ้น ยุ่งขึ้นอีก ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าจะยังไง เราควรรับฟังข้อเสนอต่างๆ ทวนให้เข้าใจไว้ก่อน แล้วก็ลองคิด ปรึกษา และหาความรู้เพิ่มเติมก่อนว่ามันคืออะไร  มีการยืนยันได้ยังไง  แล้วมีผลดีผลเสียยังไง  แล้วค่อยประมวลผล และตัดสินใจทำ  เท่านี้ก็จะไม่โดนหลอก  แต่แค่ตัดสินใจผิดเท่านั้นครับ นี่แค่มิจฉาชีพรูปแบบนี้นะครับ จากคุณ : I_am_y (I_am_y) เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 12:52:54

ความคิดเห็นที่ 3 เขาไม่ได้ห้าม ไม่ใช่เหรอ แค่ขอความร่วมมือ แต่ก็อย่างว่าแหละ มันอยู่ที่คนโลภ มาแก่เรื่องโทรศัพท์ มันไม่ตรงจุด จากคุณ : ผีเสื้อสมุทรประเภท2 เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 13:29:59

ความคิดเห็นที่ 4 ได้แค่ขอความร่วมมือแหละ เพราะเวลาเร่งรีบ จะโทรไปถามบัญชีตอนกำลังโอน/ คนแก่ไม่รู้วิธีการโอนโทรถามลูกหลาน/ ฯลฯ มันก็ต้องโทรตอนทำธุรกรรมฯผ่านATMเยอะแยะไป จากคุณ : DramaLover เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 14:57:31

ความคิดเห็นที่ 5   เห็นด้วย..ว่าเวลาใช้บริการตู้..อย่าคุยโทรศัพท์ ไปด้วย เพราะคนที่ยืนต่อแถว..จะรอนาน เพราะคุณ..จะใช้เวลาในการบริการ..นานกว่าคนปกติ..เพราะไม่สามารถแยกโสตประสาท ไปอีกทางได้..จนไม่เคยเหลียวแลคนข้างหลังว่ามีคนต่อแถวใช้ตู้อีกเป็นสิบ..เซ็งมาก..กับพวกประเภทนี้..เจอมาเยอะ.. แต่ก็ไม่น่าจะต้องเป็น คำว่าห้าม..เลยดูมันจำกัดสิทธิไป จากคุณ : เมื่อ..เรา..ไร้รัก เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 15:28:45

ความคิดเห็นที่ 6 มันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาเรื่องการหลอกโอนเิงินครับ จากคุณ : Knight เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 15:32:31

ความคิดเห็นที่ 7 ทั้งๆที่ไม่เห้นด้วย แต่เพื่อไม่อยากให้อีกหลายๆคนตกเป็นเหยื่อ ก็ต้อง เห็นด้วย  เราเองก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร จากคุณ : samr เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 15:40:47

ความคิดเห็นที่ 8 บางครั้งต้องเข้าใจการทำธุรกรรม ในขณะเร่งรีบด้วย เช่น คนที่บ้าน หรือญาติต้องการให้ช่วยเหลือเดี๋ยวนั้น อาจจะมี การโทรยืนยันเบอร์ บัญชี ในการโอน- ถอน โดยด่วน (ทั้งนี้ทั้งนั้น เกรงใจผู้ใช้บริการต่อไปด้วย ) ส่วนเรื่อง ที่รัฐขอความร่วมมือ มันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ คิดว่า ประชาสัมพันธ์ การข่าว ของรัฐ น่าจะดีกว่านี้ ในการเตือนผู้บริโภค จากคุณ : onlycat เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 19:53:35

ความคิดเห็นที่ 9 คิดถึงเรื่องใช้มือถือขณะขับรถ ขึ้นลงรถเมล์ ในโรงหนัง ในโรงพยาบาล ในปั้มน้ำมัน ในห้องเรียน ในห้องประชุม ในส้วมสาธารณะมากกว่าค่ะ น้องเคน จากคุณ : *PHINGKAN* เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 22:13:50

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่เห็นเกี่ยวอะไรกัน นี่ครับ ถ้าห้าม ก็ควรห้าม รีดผ้าไป ดูทีวีไป เพราะ อาจรีดผ้าไม่เรียบ และดูทีวีไม่ค่อยรู้เรื่อง คือไม่ได้ดีทั้ง 2 อย่างแถมเปลืองไฟ ทั้ง 2 อย่างด้วย จากคุณ : rusifer เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 53 23:18:36