PANTIP.COM : U9681959 >>เป็นไปได้ไหมที่รัฐบาลชุดนี้จะปราบปรามผู้มีอิทธิพล และยาเสพติดได้<< [สังคม]

ความคิดเห็นที่ 10

ขออนุญาตเอาข้อเขียนตัวเองมาลงนะครับ

--------------------------

Outsider Make Some Noise : จาก Lord of War สู่ปัญหาเด็กแวนซ์เมืองไทย

โดย : TonyMao_NK51
E – Mail : tonymao_nk51@hotmail.com

อาจจะงงกัน Lord of War เป็นชื่อภาพยนตร์ว่าด้วยชีวิตและเส้นทางของพ่อค้าอาวุธสงคราม ขณะที่เด็กแวนซ์เป็นปัญหาเด็กซิ่งมอเตอร์ไซค์กันบนท้องถนน มันเกี่ยวอะไรกัน? ความจริงแล้ว เรื่องเหล่านี้ หากจะโยงให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

เบื่อกันไหม เมื่อมีปัญหาแก๊งค์ซิ่งกวนเมือง ทั้งแข่งรถบนถนนหลวง และตั้งตัวเป็นผู้มีอิทธิพล จากนั้นเมื่อข่าวนำเสนอ ก็ตามมาด้วยการเสวนาทางวิชาการ แล้วก็จบลงด้วยวาทกรรม “ ครอบครัวไม่อบอุ่น โรงเรียนพึ่งพาไม่ได้ เด็กพวกนี้จึงเป็นปัญหาสังคม “ ราวกับแผ่นเสียงตกร่องครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งที่ในความเป็นจริง วงจรของ “ พวกเหลือขอ “ ที่สังคมประณามเหล่านี้ มันมีอะไรที่มากกว่าเด็กมีปัญหามารวมตัวกัน แล้วไม่คิดกันต่อในหลายๆ เรื่อง ว่าทำไมพวกนี้ถึงได้มีอำนาจต่อรองกับสังคมมากมาย ขนาดในบางพื้นที่สามารถท้ารบกับตำรวจได้โดยไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด

คำตอบง่ายๆ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานแล้วคิดตาม วงจรชีวิตเด็กพวกนี้ เริ่มต้นด้วยการมีรถมอเตอร์ไซค์ไปขับขี่เล่นๆ ในตอนกลางคืน ( โดยเฉพาะคืนวันศุกร์และเสาร์ เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นไม่ต้องไปเรียน ) ในจุดนี้ ผมจะขอแยกประเภทของ “ คนขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวเล่นในตอนกลางคืน “ ออกเป็น 2 ส่วนดังนี้นะครับ

- ส่วนแรก เป็นพวกที่ตั้งใจมา “ แข่งรถ “ จริงๆ พวกนี้ทำรถกับร้านแต่งต่างๆ ถ้าใครมีฝีมือดีจริงๆ ร้านนั้นจะสนับสนุนเรื่องอะไหล่เต็มที่ เด็กพวกนี้ชื่นชอบความเร็ว ในจำนวนเหล่านี้ หากใครฝีมือดีบวกกับมีโชค ก็อาจจะไม่ต้องแข่งกันบนถนนอีกต่อไป เพราะสำนักแต่งใหญ่ๆ ที่มีทุนหนาพอ จะส่งแข่งในสนามแข่ง กลายเป็นจากใต้ดิน ขึ้นมาบนดินในบัดดล

- ส่วนที่สอง เป็นพวก “ นักเที่ยว “ มากกว่าจะมาแข่งรถ บางพวกแข่งบ้างไม่แข่งบ้าง บางพวกมาดูอย่างเดียว บางพวกมากับเพื่อน อยากมีเพื่อนมีกลุ่ม พวกนี้จะมีหลายประเภท แล้วจะได้กล่าวต่อไป

ผมจะขอเน้นเด็กในกลุ่มที่สอง ถามว่าคนที่มีโอกาสพูดผ่านสื่อกระแสหลัก มีใครเคยตั้งคำถามให้สังคมรับรู้ไหม? เด็กกลุ่มนี้หาเงินมาจากไหน? ซื้อปืนจากไหน? ทำไมกล้ากร่างแม้แต่กับตำรวจ? หลายครั้งที่คนทั่วไปจะสรุปกันง่ายๆ ว่า “ พ่อแม่มันสนับสนุน “ ซึ่งก็ถูกแต่ไม่น่าจะทั้งหมด ในเมื่อข้อเท็จจริงอีกส่วนก็บอกว่า พ่อแม่เด็กแวนซ์ไม่น้อยที่มีฐานะออกไปทางรากหญ้า หรืออย่างมากก็แค่ชนชั้นกลาง ดังนั้นการที่จะมาสนับสนุนได้ทั้งตัวรถ ได้ทั้งอุปกรณ์แต่งจึงเป็นไปได้ยากหากไม่ได้มีฝีมือจริงๆ ร้านแต่งก็คงไม่สนับสนุนแต่อย่างใด จึงจะต้องสันนิษฐานไว้ก่อน หากใครมีโอกาสก็ให้ลองลงพื้นที่เก็บข้อมูลเชิงลึก จะพบว่าเด็กพวกนี้ บางคนส่งยาเสพติด เป็นเอเย่นต์รายย่อย ( บางคนในกลุ่มนี้ ก็ให้แฟนตัวเอง หรือที่เรียกว่า “ สก๊อย “ ไปทำงานพิเศษแถวๆ สนามหลวงหรือสวนลุมก็มี ) แน่นอนสิ่งเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ Lord of War แน่นอน นอกจากนี้แล้ว เด็กพวกนี้ยังเป็น “ ทหารรับจ้างราคาถูก “ ให้กับกลุ่มอิทธิพลต่างๆ โดยเฉพาะในระดับท้องถิ่น

ก็ลองสังเกตกันดูเถิด เอาแต่มองกันว่า บางคนเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพล แล้วถามว่ามันลูกหลานกันเป็นส่วนใหญ่เลยหรือ? ไม่มีทางหรอกครับ มันเป็นเรื่องของ “ เด็กนาย “ มากกว่า คนมีอิทธิพลทั้งหลายในท้องถิ่น ก็เลี้ยงคนพวกนี้ไว้ใช้งานทั้งนั้น เพราะระดับนี้ ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงพวก “ มืออาชีพ “ ให้เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ( บุคลากรแต่ละประเภท ใช้งานต่างกัน งานระดับแค่ทวงหนี้ หรือข่มขู่เรียกค่าคุ้มครอง ใช้เด็กแวนซ์พวกนี้ ราคาถูกกว่าการใช้พวกมืออาชีพครับ ) อนึ่ง เมื่อเราเป็นวัยรุ่น ก็น่าจะรู้สึก “ อยากเท่ “ ตามพวกนี้กันบ้างไม่มากก็น้อย เวลามีวีรกรรมไปตี ไปมีเรื่องกับคนอื่นกลุ่มอื่นมา จะถูกเล่าขานเป็นตำนาน จากรุ่นสู่รุ่น ไม่แพ้เรื่องของสายอาชีวะที่ผ่านรุ่นพี่สู่รุ่นน้องเลยทีเดียว ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจครับ พอมีเรื่อง “ นาย “ ของพวกเขาจะเคลียร์กับท้องที่ให้เอง ไม่ต่างอะไรกับพวกบ่อน หวยเถื่อน ตู้ม้า ฯลฯ ที่เปิดในท้องที่จนชาวบ้านเอือมระอา เหมือนกันละครับ อย่าบอกว่าท้องที่ไม่รู้เรื่อง ( แน่นอนมีคนกระซิบข้างหูผมว่า พวกนี้ก็แค่มาเฟียท้องถิ่น คุยกันได้กับท้องที่ สุดท้ายก็ถูกกองปราบฯ ถล่ม เพราะพวกนี้ไม่มีปัญญา “ ซื้อ “ ในสิ่งที่มันสูงกว่าระดับตน เว้นแต่บางกลุ่มที่อาจจะสนิทกับ “ กลุ่มคนเบื้องหลัง “ นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง )

เหมือนไหมครับกับภาพยนตร์ที่ผมว่ามา ตอนจบที่ตำรวจจับพ่อค้าอาวุธได้แล้ว แต่ก็มี “ ใบสั่งที่มองไม่เห็น “ บอกให้ปล่อยตัวไป พ่อค้าอาวุธหันมายิ้มเยาะนายตำรวจที่ตามล่าเขาแทบพลิกแผ่นดิน ( เป็นตอนจบที่ตลกร้าย แต่ในสังคมอเมริกัน นั่นคือเรื่องจริง เพราะโลกการเมือง การใช้คนใต้ดิน ไปทำงานใต้ดิน เป็นเรื่องปกติ นักอุดมคติคงรับไม่ได้ ) เด็กแวนซ์ก็คงไม่ต่างกันหรอกครับ ปืนหามาจากไหน? ถามชาวบ้านในพื้นที่ เขารู้กัน แต่เขาไม่อยากเข้าไปยุ่ง แต่ละคนมีภาระ มีครอบครัวทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ตำรวจชั้นผู้น้อย ถ้าซ่ามาก ไฟแรงแล้วไปเจอ “ เด็กนาย “ หน้าที่การงานคงจะไม่ราบรื่น นี่ยังไม่นับไปถึงระบบยุติธรรมบ้านเรา เชื่อเถอะครับ ถ้าไม่ออกสื่อ สื่อไม่กระตุ้น บางทีไม่รับแจ้งความเสียด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะตามต่างจังหวัด ( จึงมีปรากฏการณ์ “ ศาลพระราม 4 “ เกิดขึ้น ตรงนี้ผมเปรียบเทียบเหมือนยุคเปาบุ้นจิ้น ที่ใครมีอะไร ก็ยอมเดินทางไกลเป็นพันๆ ลี้ มาฟ้องที่ศาลไคฟง เมืองหลวงที่ท่านเปาทำงานอยู่ เหมือนตอนนี้ที่ใครมีอะไร ก็มาร้องเรียนกับสรยุทธ์ ณ ช่อง 3 แล้วคดีจะคืบหน้าโดยไว )

ก่อนจะจากกันไปอาทิตย์นี้ บอกเลยว่าต่อให้ ผบช.น. จะลงมากำกับเอง ผมว่าก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะบ้านเรามันเป็น “ รัฐซ้อนรัฐ “ อยู่แล้ว แต่ละที่ ก็มีเจ้าถิ่น และเจ้าถิ่น ก็เลี้ยงลูกน้องในสังกัด และเด็กในพื้นที่ ก็อยาก “ เกิด “ ในวงการ ด้วยการเข้าร่วมในสังกัดต่างๆ เหล่านี้อยู่แล้ว และอย่าไปหวังพึ่งท้องที่ เพราะท้องที่กับเจ้าถิ่น ผมว่าเขาก็พวกเดียวกันนั่นล่ะครับ

เอาเป็นว่าใครมีเงินพอ ไปหา Lord of War ใกล้บ้านท่าน ซื้อปืนเถื่อนมาพกพาเสียดีกว่า เวลาที่ต้องไปทำธุระกลางคืน ใครจะว่าผมยุให้คนทำผิดกฎหมายก็เอาเถอะครับ ผมยุจริงๆ เพราะสังคมเด็กนายแบบนี้ ผมไม่เชื่อในกระบวนการยุติธรรมเท่าไร ป้องกันตัวเองดีกว่าครับ หรือถ้าใครไม่ไหว จะรวมกลุ่มกันไป “ ล่าหัว “ พวกนี้ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละคน แต่เตือนไว้ก่อน อย่าไปแหย่ “ เด็กนาย “ ทั้งหลายเชียว

บ้านนี้เมืองนี้ ยังมีอะไรอึมครึมมีเยอะ เยอะจนพูดไม่ได้ก็มีเหมือนกัน จะทำอะไร ก็ดูศักยภาพตัวเองด้วยนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
ไม่งั้น ก็ทำใจเถอะครับ สังคมนี้ เขามี “ คนจับจอง “ กันไว้แล้ว คนทั่วไป ก็ทำมาหากินกันไปละกัน ท่องไว้ครับ เรามีหน้าที่ก้มหัวให้เด็กนายด้วย จำไว้ครับ ท่องไว้

พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ

..........................................................

-----------------------

อ่านข้อเขียนผมแล้วเข้าใจประเทศนี้ " ชัด " ขึ้นไหมครับ?

เป็นแค่คนตัวเล็ก ก้มหน้าก้มตาใช้ชีวิตไปเถอะ

จากคุณ : TonyMao_NK51 (TonyMao_NK51)

เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 53 23:25:19